สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ | |
---|---|
สุดารัตน์ใน พ.ศ. 2563 | |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | |
ดำรงตำแหน่ง 11 มีนาคม พ.ศ. 2548 – 19 กันยายน พ.ศ. 2549 (1 ปี 192 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ทักษิณ ชินวัตร |
ก่อนหน้า | วันมูหะมัดนอร์ มะทา |
ถัดไป | ธีระ สูตะบุตร |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข | |
ดำรงตำแหน่ง 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 – 11 มีนาคม พ.ศ. 2548 (4 ปี 23 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ทักษิณ ชินวัตร |
ก่อนหน้า | กร ทัพพะรังสี |
ถัดไป | สุชัย เจริญรัตนกุล |
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย | |
ดำรงตำแหน่ง 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 – 14 สิงหาคม พ.ศ. 2539 (1 ปี 27 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | บรรหาร ศิลปอาชา |
รัฐมนตรีว่าการ | บรรหาร ศิลปอาชา |
ก่อนหน้า | สุชาติ ตันเจริญ |
ถัดไป | อาษา เมฆสวรรค์ |
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม | |
ดำรงตำแหน่ง 25 ตุลาคม พ.ศ. 2537 – 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 (0 ปี 206 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ชวน หลีกภัย |
รัฐมนตรีว่าการ | วิชิต สุรพงษ์ชัย |
ก่อนหน้า | จรัส พั้วช่วย |
ถัดไป | สมบัติ อุทัยสาง |
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ | |
ดำรงตำแหน่ง 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 – 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 (0 ปี 58 วัน) | |
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง 9 กันยายน พ.ศ. 2565 (ข้อผิดพลาด: แม่แบบ:อายุปีและวัน รองรับเฉพาะปีพุทธศักราช หากใช้เป็นคริสต์ศักราช กรุณาใช้ แม่แบบ:Age in years and days) | |
ก่อนหน้า | สอิสร์ โบราณ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2504 จังหวัดพระนคร ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | พลังธรรม (2535–2541) ไทยรักไทย (2541–2550) เพื่อไทย (2555–2563) ไทยสร้างไทย (2564–ปัจจุบัน) |
คู่สมรส | สมยศ ลีลาปัญญาเลิศ |
บุตร | |
คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (เกิด 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2504) ชื่อเล่น หน่อย เป็นนักการเมืองชาวไทย ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย[1] และประธานมูลนิธิไทยพึ่งไทย[2] อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย[3] อดีตรัฐมนตรีเคยดำรงตำแหน่งสำคัญทั้งในรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร และ ชวน หลีกภัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 26 และเคยร่วมประท้วงในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
ประวัติ
[แก้]สุดารัตน์เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2504 เป็นบุตรของสมพล เกยุราพันธุ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา และเรณู เกยุราพันธ์ สุดารัตน์สมรสกับสมยศ ลีลาปัญญาเลิศ นักธุรกิจชาวไทย มีบุตรชาย 2 คน และบุตรหญิง 1 คน ดังนี้
- ภูมิภัทร ลีลาปัญญาเลิศ (บอส)
- พีรภัทร ลีลาปัญญาเลิศ (เบสท์)
- ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ (จินนี่)
สุดารัตน์จบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านการตลาด จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Shi 41) และระดับปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ (MBA จาก GIBA) สำเร็จการศึกษาปริญญาเอก พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา จากบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย[4]
สุดารัตน์ ยังได้รับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์เชิดชูเกียรติคุณ) สาขาวิชาพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม จากสภามหาวิทยาลัยนครพนม และปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสาธารณสุขศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น[5]
การเมือง
[แก้]สุดารัตน์เข้าสู่แวดวงการเมืองครั้งแรกในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2535 ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 12 พรรคพลังธรรม (บางเขน, หลักสี่, ดอนเมือง, สายไหม, มีนบุรี, หนองจอก, คลองสามวา) ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งกรุงเทพมหานคร ต่อมาในปลายปีเดียวกันได้มีการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง สุดารัตน์ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขต 7 พรรคพลังธรรม (ลาดพร้าว, วังทองหลาง, บางกะปิ, บึงกุ่ม, คันนายาว, สะพานสูง) และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี[6] ในรัฐบาลของชวน หลีกภัย สมัยที่ 1 หรือ รัฐบาลชวน 1/1
ในปี พ.ศ. 2537 สุดารัตน์ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคพลังธรรม และได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม[7] ในรัฐบาลของชวน หลีกภัย หรือรัฐบาลชวน 1/2 ต่อมาได้จัดให้มีการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2538 สุดารัตน์ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 7 พรรคพลังธรรม (บางกะปิ, บึงกุ่ม, วังทองหลาง, คันนายาว, สะพานสูง) และได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลของนายบรรหาร ศิลปอาชา หรือรัฐบาลบรรหาร 1 จนกระทั่งมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรและมีการเลือกตั้งในปีถัดมา
ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2539 สุดารัตน์ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 7 (บางกะปิ, บึงกุ่ม, วังทองหลาง, คันนายาว, สะพานสูง) โดยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคพลังธรรม เพียงคนเดียวในสภาฯ ต่อมาเธอได้ลาออกจากพรรคพลังธรรม เพื่อไปจัดตั้ง กลุ่มพลังไทย ซึ่งเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและสมาชิกสภาเขต พ.ศ. 2541[8] โดยมี สก. ของกลุ่มพลังไทยได้รับเลือกตั้งทั้งหมด 13 คน[9] หลังสิ้นสุดการเลือกตั้ง สุดารัตน์ก็ได้รับเชิญให้ไปสังกัดพรรคไทยรักไทย ของ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร รวมทั้งได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคในเวลาต่อมา
ใน การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2543 สุดารัตน์ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามของพรรคไทยรักไทย นับเป็นครั้งแรกของพรรคที่ได้ลงสนามการเลือกตั้ง หากไม่นับการเลือกตั้งซ่อม สก. โดยสุดารัตน์ได้คะแนนรวมเป็นลำดับสอง พ่ายแพ้ให้กับ สมัคร สุนทรเวช ซึ่งมีคะแนนเสียงมากกว่าเกือบสองเท่า
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544 สุดารัตน์ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคไทยรักไทย และได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดูแลรับผิดชอบงานนโยบายสำคัญของรัฐบาลพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร (ยศขณะนั้น) คือนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ต่อมาในปี พ.ศ. 2548 ได้รับเลือกตั้งอีกสมัย และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์[10] จนกระทั่งถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี (30 พ.ค. 50 - 30 พ.ค. 55) เนื่องจากเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549
ภายหลังพ้นกำหนดถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง สุดารัตน์ได้เข้ารับตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย[11] โดยในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 สุดารัตน์เป็นบุคคลที่ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย พร้อมกับชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และชัยเกษม นิติสิริ[12] รวมทั้งได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 2[13] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากกว่าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพึงมีตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 สุดารัตน์ลาออกจากพรรคเพื่อไทย โดยระบุเหตุผล 3 ประการ ได้แก่ 1. ความไม่ชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร 2. มีการตั้งกรรมการและอนุกรรมการโดยกีดกันทีมของเธอ และ 3. การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ที่ไม่อนุญาตให้เธอลงพื้นที่ช่วยหาเสียง[14] จากนั้นในปี พ.ศ. 2564 ได้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย และดำรงตำแหน่งประธานพรรค ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2565[15][16] โดยในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2566 สุดารัตน์เป็นบุคคลที่ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคไทยสร้างไทย พร้อมกับสุพันธุ์ มงคลสุธี และศิธา ทิวารี[17] รวมทั้งได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 และได้รับเลือกตั้ง โดยเป็น สส. ระบบบัญชีรายชื่อคนเดียวของพรรคไทยสร้างไทยในสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 26[18] แต่สุดารัตน์ทำหน้าที่ สส. เพียงแค่ 1 ครั้ง คือในการประชุมครั้งแรกเพื่อเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังจากนั้นก็ได้ประกาศลาออกจาก สส. เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นในพรรคได้ขึ้นมาทำหน้าที่แทน[19]
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
[แก้]- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย มีนาคม พ.ศ. 2535 จังหวัดกรุงเทพมหานคร เขต 12 สังกัดพรรคพลังธรรม
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป กันยายน พ.ศ. 2535 จังหวัดกรุงเทพมหานคร เขต 7 สังกัดพรรคพลังธรรม
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2538 จังหวัดกรุงเทพมหานคร เขต 7 สังกัดพรรคพลังธรรม
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2539 จังหวัดกรุงเทพมหานคร เขต 7 สังกัดพรรคพลังธรรม
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544 แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคไทยรักไทย
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคไทยสร้างไทย
บทบาททางสังคม
[แก้]สุดารัตน์ ได้จัดตั้งมูลนิธิผู้หญิงเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มผู้หญิงกับการเมือง เมื่อปี พ.ศ. 2536 ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นสถาบันผู้หญิงกับการเมือง (เพื่อส่งเสริมให้ผู้หญิงได้มีความรู้ความเข้าใจในการเมือง ที่ถูกต้อง และสนใจเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองมากขึ้น) และในปี พ.ศ. 2541 ได้จัดตั้งโครงการ “ไทยพึ่งไทย” เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงที่ตกงานให้สามารถสร้างงานสร้างอาชีพของตนเองได้ในยามที่ประเทศกำลังประสบกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ
ปี พ.ศ. 2554 สุดารัตน์ รับแต่งตั้งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการโครงการ “หนึ่งใจ...ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสู้ภัยพิบัติแห่งชาติ” ของมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ประธานกรรมการมูลนิธิไทยพึ่งไทย ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการสถาบันสร้างไทย
รางวัลเชิดชูเกียรติคุณ
[แก้]- สภามหาวิทยาลัยนครพนมได้อนุมัติปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์เชิดชูเกียรติคุณ) สาขาวิชาพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม มอบให้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- พ.ศ. 2542 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[20]
- พ.ศ. 2539 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[21]
- พ.ศ. 2548 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 1 ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ (ป.ภ.)[22]
- พ.ศ. 2548 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่4 จตุตถจุลจอมเกล้า (จ.จ.)[23]
ลำดับสาแหรก
[แก้]ลำดับสาแหรกของสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "'ไทยสร้างไทย'พร้อมลุยสนามเลือกตั้ง 350 เขต ตั้ง'เจ๊หน่อย'นั่งประธานพรรค". www.naewna.com. 2021-06-07.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ประธานมูลนิธิไทยพึ่งไทย
- ↑ "เพื่อไทยระส่ำ 'สุดารัตน์' นำทีม 'โภคิน-วัฒนา-พงศกร' ลาออกสมาชิกพรรค". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-12-01. สืบค้นเมื่อ 2020-12-01.
- ↑ "เผย'คุณหญิงสุดารัตน์'นั่งนายกนิสิต'มจร'". คมชัดลึกออนไลน์. 2013-08-25.
- ↑ “สุดารัตน์” รับมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จาก ม.เวสเทิร์น
- ↑ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 218/2535 เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (1นายมนตรี ด่านไพบูลย์ 2 นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ 3 นายธำรงค์ ไทยมงคล)
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี และแต่งตั้งรัฐมนตรี
- ↑ "หญิงหน่อย ย้อนรำลึก 25 ปีแห่งชัยชนะเลือกตั้งท้องถิ่น 'พลังไทย' ก่อนก้าวสู่ 'ไทยรักไทย'". matichon.co.th.
- ↑ "สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ชุดที่ ๘ (๒๖ เมษายน ๒๕๔๑ - ๒๕ เมษายน ๒๕๔๕)". BMC.
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี
- ↑ "ด่วน! "สุดารัตน์"ลาออกทิ้งเก้าอี้ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย". www.posttoday.com. 2020-09-25.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "เพื่อไทยเคาะ สุดารัตน์-ชัชชาติ-ชัยเกษม นั่งแคนดิเดตนายกฯ". THE STANDARD. 2019-01-31. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-06-08. สืบค้นเมื่อ 2022-05-23.
- ↑ เปิด 97 บัญชีรายชื่อเพื่อไทย 'บรรยิน'ลุ้นได้เป็นส.ส.
- ↑ "คุณหญิงสุดารัตน์ เปิด 3 เหตุผล ลาออกจากพรรคเพื่อไทยทุกตำแหน่ง". ประชาชาติธุรกิจ. 30 November 2020. สืบค้นเมื่อ 27 May 2022.
- ↑ “สุดารัตน์” ผงาด นั่ง หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย “ศิธา” เป็นเลขาฯ
- ↑ ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคไทยสร้างไทย
- ↑ ""ไทยสร้างไทย" ปรับทัพส่ง "สุดารัตน์-สุพันธุ์-ศิธา" ลงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี". ไทยพีบีเอส. 31 มีนาคม 2023. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2023.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 140 (36 ก): 40. 20 มิถุนายน 2023. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2023.
- ↑ "หญิงหน่อย ลาออก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไทยสร้างไทย 'ฐากร' ขยับขึ้นมาแทน". มติชน. 11 กรกฎาคม 2023. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2023.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2022-10-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๖ ตอนที่ ๒๐ ข หน้า ๘, ๒ ธันวาคม ๒๕๔๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-10-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๓ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๑๗, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ให้แก่บุคคลที่ช่วยเหลือผู้ประสบธรณีพิบัติภัย “สึนามิ” เก็บถาวร 2022-11-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๒ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๒, ๓ ธันวาคม ๒๕๔๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า เก็บถาวร 2022-06-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๒ ตอนที่ ๖ ข หน้า ๓, ๕ พฤษภาคม ๒๕๔๘
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ เก็บถาวร 2023-05-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่เฟซบุ๊ก
- สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่เอกซ์ (ทวิตเตอร์)
ก่อนหน้า | สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
วันมูหะมัดนอร์ มะทา | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ครม.55) (11 มีนาคม พ.ศ. 2548 – 19 กันยายน พ.ศ. 2549) |
ธีระ สูตะบุตร | ||
กร ทัพพะรังสี | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (ครม.54) (17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 – 11 มีนาคม พ.ศ. 2548) |
สุชัย เจริญรัตนกุล | ||
สอิสร์ โบราณ | หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (9 กันยายน พ.ศ. 2565 - ปัจจุบัน) |
ยังดำรงตำแหน่ง |
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2504
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- บุคคลจากจังหวัดพระนคร
- ชาวไทยเชื้อสายแคะ
- พุทธศาสนิกชนชาวไทย
- สกุลเกยุราพันธุ์
- คุณหญิง
- นักการเมืองสตรีชาวไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไทย
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยแบบบัญชีรายชื่อ
- หัวหน้าพรรคการเมืองในประเทศไทย
- บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
- พรรคพลังธรรม
- นักการเมืองพรรคไทยรักไทย
- นักการเมืองพรรคเพื่อไทย
- พรรคไทยสร้างไทย
- นิสิตเก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- บุคคลจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยนครพนม
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น
- ผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ว.ม.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ภ.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จ.จ.