ศักดา นพสิทธิ์
ศักดา นพสิทธิ์ | |
---|---|
รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ | |
ดำรงตำแหน่ง 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 – 19 มีนาคม พ.ศ. 2564 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 10 ธันวาคม พ.ศ. 2506 อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี |
พรรคการเมือง | ประชาธิปัตย์ (2543–2550) เพื่อไทย (2551–2561) เพื่อชาติ (2561–2566) |
บุตร | วรรณิดา นพสิทธิ์ |
ศักดา นพสิทธิ์ (เกิด 10 ธันวาคม พ.ศ. 2506) เป็นนักการเมืองชาวไทย อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จังหวัดชลบุรี[1] อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย และอดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ
ประวัติ
[แก้]ศักดา เกิดเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2506 เป็นบุตรของนายมานพ นางสมาน นพสิทธิ์ มีบุตรสาว คือวรรณิดา นพสิทธิ์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เขต 2 พรรคประชาชน
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และระดับปริญญาโท หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยบูรพา
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ศักดาถูกนายศุภเดช รัตนะเจริญลาภ ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงที่บริเวณลานจอดรถร้านข้าวต้ม กระสุนเข้าที่บริเวณท้องทะลุหลัง ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยสาเหตุมาจากการทะเลาะวิวาท[2]
การเมือง
[แก้]ศักดา นพสิทธิ์ เคยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์[3] แต่แพ้ให้กับนายวิทยา คุณปลื้ม จากพรรคชาติไทย และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2548 แพ้ให้กับนายอัมรินทร์ ตั้งประกอบ จากพรรคไทยรักไทย ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 เขาได้เข้าร่วมงานและได้รับแต่งตั้งเป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย รวมทั้งเป็นประธาน นปช.จังหวัดชลบุรี
ศักดา นพสิทธิ์ เป็นหนึ่งในสมาชิก นปช. ที่มีบทบาทในการชุมนุมระหว่างการประชุมผู้นำประเทศอาเซียน ที่พัทยาด้วย[4]เขาเคยจำคุกในคดี เหตุการณ์ก่อความไม่สงบของกลุ่ม นปช. เมษายน พ.ศ. 2552 ในศาลชั้นต้น ในวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558 ต่อมาใน วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558 เขาได้รับการประกันตัวในวงเงิน 8 แสนบาท
เขาจำคุกในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560 ตามคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ในคดีดังกล่าว และไม่ได้รับการประกันตัวในวันดังกล่าว
ในปี พ.ศ. 2561 เขาได้ย้ายไปร่วมงานกับพรรคเพื่อชาติ