ข้ามไปเนื้อหา

รายพระนามจักรพรรดิญี่ปุ่น

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ประเทศญี่ปุ่นปกครองโดยจักรพรรดิตั้งแต่สมัยโบราณ ลำดับ ตำแหน่ง และวันที่ของจักรพรรดิในยุคแรกเกือบทั้งหมดอิงตามนิฮงโชกิในคริสต์ศตวรรษที่ 8 ซึ่งมีจุดประสงค์ทำให้ราชวงศ์ถูกต้องตามกฎหมายย้อนหลังด้วยการระบุวันก่อตั้งย้อนหลังไปถึง 660 ปีก่อนคริสตกาล[1][2][3] มีทฤษฎีหลายประการเกี่ยวกับผู้ปกครองญี่ปุ่นคนแรกที่ได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ผู้ที่น่าสังเกตได้แก่ จักรพรรดิยูเรียกุ (ครองราชย์ ค.ศ. 456–479) และจักรพรรดิคิมเม (ครองราชย์ ค.ศ. 539–571) กับพระองค์อื่น ๆ[4][5]

คำว่า เท็นโน ('จักรพรรดิ', 天皇) กับ นิฮง ('ญี่ปุ่น', 日本) ยังไม่ปรากฏใช้จนกระทั่งปลายคริสต์ศตวรรษที่ 7[6][2] ในระบบเน็งโงที่ใช้งานมาตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 7 ปีต่าง ๆ นับโดยใช้ชื่อศักราชญี่ปุ่น และจำนวนปีที่ผ่านไปนับตั้งแต่เริ่มต้น"เน็งโง"ใหม่[7]

จักรพรรดิและจักรพรรดินีญี่ปุ่น

[แก้]
ลำดับ พระบรมสาทิสลักษณ์/
พระบรมฉายาลักษณ์
พระนามส่วนพระองค์ พระปัจฉามรณนาม รัชสมัยและชื่อศักราช[8][9][i] รายละเอียดพระชนม์ชีพ
1 ฮิโกโฮโฮเดมิ
彦火火出見
จักรพรรดิจิมมุ
神武天皇
660–585 ปีก่อน ค.ศ.
(75 ปี)
721 หรือ 711–585 ปีก่อน ค.ศ.
(126 หรือ 136 พรรษา)
พระโอรสในคามิอูงายาฟูกิอาเอซุ อ้างว่าสืบเชื้อสายจากเทพีสุริยะ อามาเตราซุ ทรงเอาชนะนางาซูเนฮิโกะในการสำรวจทางตะวันออกเพื่อขึ้นเป็นจักรพรรดิ สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[11]
2 คามูนูนากาวามิมิ
神渟名川耳
จักรพรรดิซูอิเซ
綏靖天皇
581–549 ปีก่อน ค.ศ.
(32 ปี)
632–549 ปีก่อน ค.ศ.
(83 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิจิมมุ สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[12]
3 ชิกิตสึฮิโกตามาเตมิ
磯城津彦玉手看
จักรพรรดิอันเน
安寧天皇
549–511 ปีก่อน ค.ศ.
(37 ปี)
567–511 ปีก่อน ค.ศ.
(56 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิซูอิเซ สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[13]
4 โอยามาโตฮิโกซูกิโตโมะ
大日本彦耜友
จักรพรรดิอิโตกุ
懿徳天皇
510–477 ปีก่อน ค.ศ.
(33 ปี)
553–477 ปีก่อน ค.ศ.
(76 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิอันเน สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[14]
5 มินัตสึฮิโกกาเอชิเนะ
観松彦香殖稲
จักรพรรดิโคโช
孝昭天皇
475–393 ปีก่อน ค.ศ.
(82 ปี)
506–393 ปีก่อน ค.ศ.
(113 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิอิโตกุ สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[15]
6 ยามาโตตาราชิฮิโกกูนิโอชิฮิโตะ
日本足彦国押人
จักรพรรดิโคอัง
孝安天皇
392–291 ปีก่อน ค.ศ.
(101 ปี)
427–291 ปีก่อน ค.ศ.
(136 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโคโช สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[16]
7 โอยามาโตเนโกฮิโกฟูโตนิ
大日本根子彦太瓊
จักรพรรดิโคเร
孝霊天皇
290–215 ปีก่อน ค.ศ.
(75 ปี)
342–215 ปีก่อน ค.ศ.
(127 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโคอัง สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[17]
8 โอยามาโตเนโกฮิโกกูนิกูรุ
大日本根子彦国牽
จักรพรรดิโคเง็ง
孝元天皇
214–158 ปีก่อน ค.ศ.
(56 ปี)
273–158 ปีก่อน ค.ศ.
(115 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโคเร สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[18]
9 วากายามาโตะ เนโกฮิโกะ โอบิบิ
稚日本根子彦大日日
จักรพรรดิไคกะ
開化天皇
157–98 ปีก่อน ค.ศ.
(59 ปี)
208–98 ปีก่อน ค.ศ.
(110 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโคเง็ง สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[19]
10 มามากิ
御間城
จักรพรรดิซูจิง
崇神天皇
97–30 ปีก่อน ค.ศ.
(67 ปี)
148–30 ปีก่อน ค.ศ.
(118 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิไคกะ จักรพรรดิพระองค์แรกที่มีความเป็นไปได้ว่ามีอยู่จริง[20] ยังคงสันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[21]
11 อิกูเมะ
活目
จักรพรรดิซูอินิง
垂仁天皇
29 ปีก่อน ค.ศ. – ค.ศ. 70
(99 ปี)
69 ปีก่อน ค.ศ. – ค.ศ. 70
(127 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิซูจิง สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[22]
12 โอตาราชิฮิโกะ
大足彦
จักรพรรดิเคโก
景行天皇
ค.ศ. 71–130
(59 ปี)
13 ปีก่อน ค.ศ. – ค.ศ. 130
(143 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิซูอินิง สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[23]
13 วากาตาราชิฮิโกะ
稚足彦
จักรพรรดิเซมุ
成務天皇
ค.ศ. 131–190
(59 ปี)
ค.ศ. 84–190
(106 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเคโก สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[24]
14 ทาราชินากัตสึฮิโกะ
足仲彦
จักรพรรดิชูไอ
仲哀天皇
ค.ศ. 192–200
(8 ปี)
ค.ศ. 149–200
(51 พรรษา)
พระราชนัดดาในจักรพรรดิเคโก พระราชนัดดาในจักรพรรดิเซมุ จักรพรรดิองค์แรกที่ขึ้นครองราชย์โดยไม่ได้เป็นพระราชโอรสของจักรพรรดิองค์ก่อนหน้า สวรรคตขณะทำการทัพต่อเผ่าคูมาโซะ สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[25]
โอกินางาตาราชิ
息長帯比売
จักรพรรดินีจิงงู
神功皇后
ค.ศ. 201–269
(68 ปี)
ค.ศ. 170–269
(99 พรรษา)

พระมเหสีของจักรพรรดิชูไอ; พระราชมารดาและผู้สำเร็จราชการของจักรพรรดิโอจิง ไม่นับรวมในรายพระนามจักรพรรดิที่นับอย่างเป็นทางการ สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[26]
15 โฮมูตาวาเกะ
誉田別
จักรพรรดิโอจิง
応神天皇
ค.ศ. 270–310
(40 ปี)
ค.ศ. 201–310
(109 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิชูไอกับจักรพรรดินีจิงงู เลื่อนสถานะเป็นเทพเจ้าในชินโตและศาสนาพุทธในประเทศญี่ปุ่นในฐานะ ฮาจิมัง สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[27]
16 โอโฮซาซากิ
大鷦鷯
จักรพรรดินินโตกุ
仁徳天皇
ค.ศ. 313–399
(86 ปี)
ค.ศ. 290–399
(108–109 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโอจิง สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[28]
17 โอเอโนอิซาโฮวาเกะ
大兄去来穂別
จักรพรรดิริจู
履中天皇
ค.ศ. 400–405
(5 ปี)
ค.ศ. 336–405
(69 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดินินโตกุ สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[29]
18 มิซูฮาวาเกะ
瑞歯別
จักรพรรดิฮันเซ
反正天皇
ค.ศ. 406–410
(5 ปี)
ค.ศ. 352–411
(59 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดินินโตกุ พระอนุชาในจักรพรรดิริจู สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[30]
19 โออาซัตสึมะ วากูโงะ โนะ ซูกูเนะ
雄朝津間稚子宿禰
จักรพรรดิอิงเงียว
允恭天皇
ค.ศ. 411–453
(42 ปี)
ค.ศ. 376–453
(77 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดินินโตกุ พระอนุชาในจักรพรรดิริจูกับจักรพรรดิฮันเซ สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[31]
20 อานาโฮะ
穴穂
จักรพรรดิอังโก
安康天皇
ค.ศ. 453–456
(3 ปี)
ค.ศ. 401–456
(55 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิอิงเงียว ถูกเจ้าชายมาโยวะลอบปลงพระชนม์ สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[32]
21 โอฮัตสึเซะ โนะ วากาตาเกรุ
大泊瀬稚武
จักรพรรดิยูเรียกุ
雄略天皇
ค.ศ. 456–479
(23 ปี)
ค.ศ. 418–479
(61 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิอิงเงียว พระอนุชาในจักรพรรพดิอังโก สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[33]
22 ชิรากะ
白髪
จักรพรรดิเซเน
清寧天皇
ค.ศ. 480–484
(4 ปี)
ค.ศ. 444–484
(40 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิยูเรียกุ สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[34]
23 โวเกะ
弘計
จักรพรรดิเค็นโซ
顕宗天皇
ค.ศ. 485–487
(2 ปี)
ค.ศ. 450–487
(37 พรรษา)
พระราชนัดดาในจักรพรรดิริจู ลูกพี่ลูกน้องและพระราชโอรสบุญธรรมในจักรพรรดิเซเน สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[35]
24 โอเกะ
億計
จักรพรรดินิงเก็ง
仁賢天皇
ค.ศ. 488–498
(10 ปี)
ค.ศ. 448–498
(50 พรรษา)
พระราชนัดดาในจักรพรรดิริจู ลูกพี่ลูกน้องและพระราชโอรสบุญธรรมในจักรพรรดิเซเน พระเชษฐาในจักรพรรดิเค็นโซ สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[36]
25 โอฮัตสึเซะ โนะ วากาซาซากิ
小泊瀬稚鷦鷯
จักรพรรดิบูเร็ตสึ
武烈天皇
ค.ศ. 499–506
(7 ปี)
ค.ศ. 489–506
(17 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดินิงเก็ง สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[37]
26 โอโฮโดะ[ii]
袁本杼
จักรพรรดิเคไต
継体天皇
ค.ศ. 507–531
(24 ปี)
ค.ศ. 450–531
(81 พรรษา)
พระราชนัดดารุ่นที่ 5 ของจักรพรรดิโอจิง กลายเป็นจักรพรรดิตามคำแนะนำของโอโตโมะ โนะ คานามูระ อาจเป็นผู้ก่อตั้งราชวงศ์ใหม่ สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[38][39]
27 มางาริ
จักรพรรดิอังกัง
安閑天皇
ค.ศ. 534–535
(1 ปี)
ค.ศ. 466–535
(69 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเคไต สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[40]
28 ฮิโนกูมะ-โนะ-ทากาตะ
檜隈高田
จักรพรรดิเซ็งกะ
宣化天皇
ค.ศ. 536–539
(3 ปี)
ค.ศ. 467–539
(72 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเคไต พรอนุชาในจักรพรรดิอังกัง สันนิษฐานว่าเป็นตำนาน[41]
29 อาเมกูนิโอชิฮารากิฮิโรนิวะ
天国排開広庭
จักรพรรดิคิมเม
欽明天皇
ค.ศ. 540–571
(31 ปี)
ค.ศ. 509–571
(62 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเคไต พระอนุชาในจักรพรรดิอังกังกับจักรพรรดิเซ็งกะ จักรพรรดิองค์แรกที่พิสูจน์ประวัติศาสตร์ได้[5][42]
30 นูนากูระ โนะ ฟูโตตามาชิกิ
渟中倉太珠敷
จักรพรรดิบิดัตสึ
敏達天皇
ค.ศ. 572–585
(13 ปี)
ค.ศ. 538–585
(47 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิคิมเม[43]
31 ทาจิบานะ โนะ โทโยฮิ
橘豊日
จักรพรรดิโยเม
用明天皇
ค.ศ. 586–587
(1 ปี)
ค.ศ. 517–587
(70 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิคิมเม พระอนุชาร่วมพระราชบิดาในจักรพรรดิบิดัตสึ[44]
32 ฮัตสึเซเบะ
泊瀬部
จักรพรรดิซูชุง
崇峻天皇
ค.ศ. 588–592
(4 ปี)
ค.ศ. 522–592
(70 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิคิมเม พระอนุชาร่วมพระราชบิดาในจักรพรรดิบิดัตสึกับจักรพรรดิโยเม โซงะ โนะ อูมาโกะแต่งตั้งให้เป็นจักรพรรดิหลังความขัดแย้งโซงะ–โมโนโนเบะ ถูกปลงพระชนม์โดยยามาโตโนอายะ โนะ โคมะ ตามคำสั่งของโซงะ โนะ อูมาโกะ[45]
33 นูกาตาเบะ
額田部
จักรพรรดินีซูอิโกะ
推古天皇
ค.ศ. 593–628
(35 ปี)
ค.ศ. 554–628
(74 พรรษา)
พระราชธิดาในจักรพรดริคิมเม พระกนิษฐภคินีร่วมพระราชบิดาและพระมเหสีในจักรพรรดิบิดัตสึ กษัตริย์หญิงที่ไม่ใช่ตำนานองค์แรก เจ้าชายโชโตกุทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทน[46]
34 ทามูระ
田村
จักรพรรดิโจเม
舒明天皇
ค.ศ. 629–641
(12 ปี)
ค.ศ. 593–641
(48 พรรษา)
พระราชนัดดาในจักรพรรดิบิดัตสึ พระราชนัดดาองค์โตในจักรพรรดินีซูอิโกะ[47]
35 ทาการะ
จักรพรรดินีโคเงียวกุ
皇極天皇
ค.ศ. 642–645
(3 ปี)
ค.ศ. 594–661
(67 พรรษา)
พระราชปนัดดาในจักรพรรดิบิดัตสึ พระมเหสีในจักรพรรดิโจเม ครองราชย์ครั้งแรก สละราชสมบัติตามผลจากอุบัติการณ์อิชชิ[48]
36 คารุ
จักรพรรดิโคโตกุ
孝徳天皇
ค.ศ. 645–654
(9 ปี)
ไทกะ, ฮากูจิ
ค.ศ. 597–654
(57 พรรษา)
พระราชปนัดดาในจักรพรรดิบิดัตสึ พระอนุชาในจักรพรรดิโคเงียวกุ ตั้งชื่อศักราชแรก[49]
37 ทาการะ
จักรพรรดินีไซเม
斉明天皇
ค.ศ. 655–661
(6 ปี)
ค.ศ. 594–661
(67 พรรษา)
พระเชษฐภคินีในจักรพรรดิโคโตกุ ก่อนหน้านั้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีโคเงียวกุ ครองราชย์ครั้งที่ 2[50]
38 คาซูรากิ
葛城
จักรพรรดิเท็นจิ
天智天皇
ค.ศ. 662–672
(10 ปี)
ค.ศ. 626–672
(46 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโจเมกับจักรพรดริโคเงียวกุ[51]
39 โอโตโมะ[iii]
大友
จักรพรรดิโคบุง
弘文天皇
ค.ศ. 672
(8 เดือน)
ค.ศ. 648–672
(24 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรเท้นจิ ถูกถอดถอนและทรงพระราชอัตวินิบาตกรรมในช่วงสงครามจินชิน ไม่ได้รับการรับรองเป็นจักรพรรดิจนกระทั่ง ค.ศ. 1870[52]
40 โออามะ
大海人
จักรพรรดิเท็มมุ
天武天皇
ค.ศ. 673–686
(14 ปี)
ชูโจ
ค.ศ. 622–686
(56 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโจเมกับจักรพรรดินีโคเงียวกุ พระอนุชาในจักรพรรดิเท็นจิ ทรงถอดถอนจักรพรรดิโคบุง พระราชนัดดา ในช่วงสงครามจินชิน[53]
41 อูโนโนซาราระ[iv]
鸕野讚良
จักรพรรดินีจิโต
持統天皇
ค.ศ. 687–697
(10 ปี)[v]
ค.ศ. 646–703
(57 พรรษา)
พระราชธิดาในจักรพรรดิเท็นจิ พระราชนัดดาและพระมเหสีในจักรพรรดิเท็มมุ สละราชสมบัติ[55]
42 คารุ[vi]
珂瑠
จักรพรรดิมมมุ
文武天皇
ค.ศ. 697–707
(10 ปี)
ไทโฮ, เคอุง
ค.ศ. 683–707
(24 พรรษา)
พระราชนัดดาในจักรพรรดิเท็มมุกับจักรพรรดินีจิโต[56]
43 อาเฮะ[vii]
阿閇
จักรพรรดินีเก็มเม
元明天皇
ค.ศ. 707–715
(8 ปี)
เคอุง, วาโด
ค.ศ. 660–721
(61 พรรษา)
พระราชธิดาในจักรพรรดิเท็นจิ พระกนิษฐภคินีร่วมพระราชบิดาในจักรพรรดินีจิโต พระราชมารดาในจักรพรรดิมมมุ สละราชสมบัติ[57]
44 ฮิดากะ[viii]
氷高
จักรพรรดินีเก็นโช
元正天皇
ค.ศ. 715–724
(9 ปี)
เรกิ, โยโร
ค.ศ. 681–748
(67 พรรษา)
พระราชธิดาในจักรพรรดินีเก็มเม พระเชษฐภคินีในจักรพรรดิมมมุ เป็นตัวอย่างจักรพรรดินีผู้ครองราชย์พระองค์เดียวที่สืบราชบัลลังก์จากจักรพรรดินีผู้ครองราชย์อีกพระองค์หนึ่ง สละราชสมบัติ[58]
45 โอบิโตะ
จักรพรรดิโชมุ
聖武天皇
ค.ศ. 724–749
(25 ปี)
จินกิ, เท็มเปียว, เท็มเปียว-คัมโป
ค.ศ. 699–756
(57 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิมมมุ พระราชนัดดาในจักรพรรดินีเก็นโช สละราชสมบัติ[59]
46 อาเบะ
阿倍
จักรพรรดินีโคเก็ง
孝謙天皇
ค.ศ. 749–758
(9 ปี)
เท็มเปียว-คัมโป, เท็มเปียว-โชโฮ, เท็มเปียว-โฮจิ
ค.ศ. 718–770
(52 พรรษา)
พระราชธิดาในจักรพรรดิโชมุ ครองราชย์ครั้งแรก สละราชสมบัติ[60]
47 โออิ
大炊
จักรพรรดิจุนนิง
淳仁天皇
ค.ศ. 758–764
(6 ปี)
เท็มเปียว-โฮจิ
ค.ศ. 733–765
(32 พรรษา)
พระราชนัดดาในจักรพรรดิเท็มมุ ลูกพี่ลูกน้องของจักรพรรดินีโคเก็ง ถูกถอดถอน ได้รับการแต่งตั้งเป็นจักรพรรดิหลังสวรรคตใน ค.ศ. 1870[61]
48 อาเบะ
阿倍
จักรพรรดินีโชโตกุ
称徳天皇
ค.ศ. 764–770
(6 ปี)
เท็มเปียว-โฮจิ, เท็มเปียว-จิงโงะ, จิงโงะ-เคอุง
ค.ศ. 718–770
(52 พรรษา)
ทรงถอดถอนจักรพรรดิจุนนิง ลูกพี่ลูกน้อง เคยครองราชย์ในฐานะจักรพรรดินีโคเก็ง ครองราชย์ครั้งที่ 2[62]
49 ชิรากาเบะ
白壁
จักรพรรดิโคนิง
光仁天皇
ค.ศ. 770–781
(11 ปี)
โฮกิ, เท็นโอ
ค.ศ. 708–782
(73 พรรษา)
พระราชนัดดาในจักรพรรดิเท็นจิ พระเทวันในจักรพรรดินีโชโตกุ สละราชสมบัติ[63]
50 ยามาเบะ
山部
จักรพรรดิคัมมุ
桓武天皇
ค.ศ. 781–806
(25 ปี)
เท็นโอ, เอ็นเรียกุ
ค.ศ. 736–806
(70 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโคนิง[64]
51 อาเตะ
安殿
จักรพรรดิเฮเซ
平城天皇
ค.ศ. 806–809
(3 ปี)
ไดโด
ค.ศ. 773–824
(51 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิคัมมุ สละราชสมบัติ[65]
52 คามิโนะ
神野
จักรพรรดิซางะ
嵯峨天皇
ค.ศ. 809–823
(14 ปี)
ไดโด, โคนิง
ค.ศ. 785–842
(57 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิคัมมุ พระอนุชาในจักรพรรดิเฮเซ สละราชสมบัติ[66]
53 โอโตโมะ
大伴
จักรพรรดิจุนนะ
淳和天皇
ค.ศ. 823–833
(10 ปี)
โคนิง, เท็นโจ
ค.ศ. 786–840
(54 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิคัมมุ พระอนุชาในจักรพรรดิเฮเซและจักรพรรดิซางะ สละราชสมบัติ[67]
54 มาซาระ
正良
จักรพรรดินิมเมียว
仁明天皇
ค.ศ. 833–850
(17 ปี)
เท็นโจ, โจวะ, คาโช
ค.ศ. 808–850
(41 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิซางะ พระราชนัดดาและพระราชโอรสบุญธรรมในจักรพรรดิจุนนะ[68]
55 มิจิยาซุ
道康
จักรพรรดิมนโตกุ
文徳天皇
ค.ศ. 850–858
(8 ปี)
คาโช, นินจุ, ไซโก, เท็นอัง
ค.ศ. 827–858
(31 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดินิมเมียว[69]
56 โคเรฮิโตะ
惟仁
จักรพรรดิเซวะ
清和天皇
ค.ศ. 858–876
(18 ปี)
เท็นอัง, โจงัง
ค.ศ. 850–881
(30 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิมนโตกุ สละราชสมบัติ[70]
57 ซาดาอากิระ
貞明
จักรพรรดิโยเซ
陽成天皇
ค.ศ. 876–884
(8 ปี)
โจงัง, กังเงียว
ค.ศ. 869–949
(80 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเซวะ ถูกถอดถอนโดยฟูจิวาระ โนะ โมตตสึเนะ[71]
58 โทกิยาซุ
時康
จักรพรรดิโคโก
光孝天皇
ค.ศ. 884–887
(3 ปี)
กังเงียว, นินนะ
ค.ศ. 830–887
(57 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดินิมเมียว พระปิตุลาในจักรพรรดิโยเซ กลายเป็นจักรพรรดิตามคำแนะนำของฟูจิวาระ โนะ โมตตสึเนะ[72]
59 ซาดามิ
定省
จักรพรรดิอูดะ
宇多天皇
ค.ศ. 887–897
(10 ปี)
นินนะ, คัมเปียว
ค.ศ. 866–931
(65 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโคโก สละราชสมบัติ[73]
60 อัตสึฮิโตะ[ix]
敦仁
จักรพรรดิไดโงะ
醍醐天皇
ค.ศ. 897–930
(33 ปี)
คัมเปียว, โชไต, เอ็งงิ, เอ็นโจ
ค.ศ. 884–930
(46 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิอูดะ สละราชสมบัติ[74]
61 ยูตาอากิระ[x]
寛明
จักรพรรดิซูซากุ
朱雀天皇
ค.ศ. 930–946
(16 ปี)
เอ็นโจ, โจเฮ, เท็งเงียว
ค.ศ. 921–952
(30 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิไดโงะ สละราชสมบัติ[75]
62 นาริอากิระ
成明
จักรพรรดิมูรากามิ
村上天皇
ค.ศ. 946–967
(21 ปี)
เท็งเงียว, เท็นเรียกุ, เท็นโตกุ, โอวะ, โคโฮ
ค.ศ. 924–967
(42 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิไดโงะ พระอนุชาในจักรพรรดิซูซากุ[76]
63 โนริฮาระ
憲平
จักรพรรดิเรเซ
冷泉天皇
ค.ศ. 967–969
(2 ปี)
โคโฮ, อันนะ
ค.ศ. 949–1011
(62 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิมูรากามิ สละราชสมบัติ[77]
64 โมริฮิระ
守平
จักรพรรดิเอ็นยู
円融天皇
ค.ศ. 969–984
(15 ปี)
อันนะ, เท็นโรกุ, เท็นเอ็ง, โจเง็ง, เท็งเง็ง, เอกัง
ค.ศ. 958–991
(32 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิมูรากามิ พระอนุชาในจักรพรรดิเรเซ สละราชสมบัติ[78]
65 โมโรซาดะ
師貞
จักรพรรดิคาซัง
花山天皇
ค.ศ. 984–986
(2 ปี)
เอกัง, คันนะ
ค.ศ. 968–1008
(39 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเรเซ พระราชนัดดาในจักรพรรดิเอ็นยู สละราชสมบัติ[79]
66 คาเนฮิโตะ
懐仁
จักรพรรดิอิจิโจ
一条天皇
ค.ศ. 986–1011
(25 ปี)
คันนะ, เอเอ็ง, เอโซะ, โชเรียกึ, โชโตกุ, โชโฮ, คันโก
ค.ศ. 980–1011
(31 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเอ็นยู สละราชสมบัติ[80]
67 โอกิซาดะ[xi]
居貞
จักรพรรดิซันโจ
三条天皇
1011–1016
(5 ปี)
คันโก, โชวะ
ค.ศ. 975–1017
(42 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเรเซ พระอนุชาร่วมพระราชบิดาในจักรพรรดิคาซัง ลูกพี่ลูกน้องของจักรพรรดิอิจิโจ สละราชสมบัติ[81]
68 อัตสึฮิระ[xii]
敦成
จักรพรรดิโกะ-อิจิโจ
後一条天皇
ค.ศ. 1016–1036
(20 ปี)
โชวะ, คันนิง, จีอัง, มันจุ, โชเง็ง
ค.ศ. 1008–1036
(27 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิอิจิจโจ ลูกพี่ลูกน้องของจักรพรรดิซันโจ[82]
69 อัตสึนางะ
敦良
จักรพรรดิโกะ-ซูซากุ
後朱雀天皇
ค.ศ. 1036–1045
(9 ปี)
โชเง็ง, โชเรียกุ, โชกีว, คันโตกุ
ค.ศ. 1009–1045
(37 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิอิจิโจ พระอนุชาในจักรพรรดิโกะ-อิจิโจ สละราชสมบัติ[83]
70 ชิกาฮิโตะ
親仁
จักรพรรดิโกะ-เรเซ
後冷泉天皇
ค.ศ. 1045–1068
(23 ปี)
คันโตกุ, เอโช, เท็งงิ, โคเฮ, จิเรียกุ
ค.ศ. 1025–1068
(42 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-ซูซากุ[84]
71 ทากาฮิโตะ
尊仁
จักรพรรดิโกะ-ซันโจ
後三条天皇
ค.ศ. 1068–1073
(5 ปี)
จิเรียก, เอ็นกีว
ค.ศ. 1032–1073
(40 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-ซูซากุ พระอนุชาร่วมพระราชบิดาในจักรพรรดิโกะ-เรเซ สละราชสมบัติ[85]
72 ซาดาฮิโตะ
貞仁
จักรพรรดิชิรากาวะ
白河天皇
ค.ศ. 1073–1087
(14 ปี)
เอ็นกีว, โจโฮ, โจเรียกุ, เอโฮ, โอโตกุ
ค.ศ. 1053–1129
(76 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-ซันโจ สละราชสมบัติ[86]
73 ทารูฮิโตะ[xiii]
善仁
จักรพรรดิโฮริกาวะ
堀河天皇
ค.ศ. 1087–1107
(20 ปี)
คันจิ, คาโฮ, เอโช, โจโตกุ, โควะ, โชจิ, คาโจ
ค.ศ. 1079–1107
(28 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิชิรากาวะ[87]
74 มูเนฮิโตะ
宗仁
จักรพรรดิโทบะ
鳥羽天皇
ค.ศ. 1107–1123
(16 ปี)
คาโจ, เท็นนิง, เท็นเอ, เอกีว, เก็นเอ, โฮอัง
ค.ศ. 1103–1156
(53 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโฮริกาวะ ถูกจักรพรรดิชิรากาวะบังคับให้สละราชสมบัติ[88]
75 อากิฮิโตะ
顕仁
จักรพรรดิซูโตกุ
崇徳天皇
ค.ศ. 1123–1142
(19 ปี)
โฮอัง, เท็นจิ, ไดจิ, เท็นโช, โชโช, โฮเอ็ง, เอจิ
ค.ศ. 1119–1164
(45 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโทบะ สละราชสมบัติ พยายามถอดถอนจักรพรรดิโกะ-ชิรากาวะในช่วงกบฏปีโฮเง็ง[89]
76 นาริฮิโตะ
体仁
จักรพรรดิโคโนเอะ
近衛天皇
ค.ศ. 1142–1155
(13 ปี)
เอจิ, โคจิ, เท็นโย, คีวอัง, นิมเป, คีวจุ
ค.ศ. 1139–1155
(16 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโทบะ พระอนุชาร่วมพระราชบิดาในจักรพรรดิซูโตกุ[90]
77 มาซาฮิโตะ
雅仁
จักรพรรดิโกะ-ชิรากาวะ
後白河天皇
ค.ศ. 1155–1158
(3 ปี)
คีวจุ, โฮเง็ง
ค.ศ. 1127–1192
(64 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโทบะ พระอนุชาในจักรพรรดิซูโตกุ พระเชษฐาร่วมพระราชบิดาในจักรพรรดิโคโนเอะ สละราชสมบัติ[91]
78 โมริฮิโตะ
守仁
จักรพรรดินิโจ
二条天皇
ค.ศ. 1158–1165
(7 ปี)
โฮเง็ง, เฮจิ, เอเรียกุ, โอโฮ, โชกัง
ค.ศ. 1143–1165
(22 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-ชิรากาวะ สละราชสมบัติ[92]
79 โนบูฮิโตะ[xiv]
順仁
จักรพรรดิโรกูโจ
六条天皇
ค.ศ. 1165–1168
(3 ปี)
โชกัง, เอมัง, นินอัง
ค.ศ. 1164–1176
(11 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดินิโจ ถูกถอดถอนโดยจักรพรรดิโกะ-ชิรากาวะ[93]
80 โนริฮิโตะ[xv]
憲仁
จักรพรรดิทากากูระ
高倉天皇
ค.ศ. 1168–1180
(12 ปี)
นินอัง, คาโอ, โจอัง, อังเง็ง, จิโช
ค.ศ. 1161–1181
(19 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-ชิรากาวะ พระอนุชาร่วมพระราชบิดาในจักรพรรดินิโจ พระปิตุลาในจักรพรรดิโรกูโจ ถูกไทระ โนะ คิโยโมริบังคับให้สละราชสมบัติ[94]
81 โทกิฮิโตะ[xvi]
言仁
จักรพรรดิอันโตกุ
安徳天皇
ค.ศ. 1180–1185
(5 ปึ)
จิโช, โยวะ, จูเอ, เก็นเรียกุ
ค.ศ. 1178–1185
(6 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิทากากูระ สวรรคตในยุทธนาวีที่ดันโนะอูระในช่วงสงครามเก็มเป[95]
82 ทากาฮิระ[xvii]
尊成
จักรพรรดิโกะ-โทบะ
後鳥羽天皇
ค.ศ. 1183–1198
(15 ปี)
จูเอ, เก็นเรียกุ, บุนจิ, เค็นกีว
ค.ศ. 1180–1239
(58 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิทากากูระ พระอนุชาร่วมพระราชบิดาในจักรพรรดิอันโตกุ จักรพรรดิโกะ-ชิรากาวะสถาปนาพระองค์เป็นจักรพรรดิในช่วงสงครามเก็มเป รัฐโชกุนคามากูระเปลี่ยนจักรพรรดิเป็นหุ่นเชิด สละราชสมบัติ พยายามโค่นล้มรัฐบาลโชกุนคามากูระในช่วงสงครามปีโจกีว[96]
83 ทาเมฮิโตะ
為仁
จักรพรรดิสึจิมิกาโดะ
土御門天皇
ค.ศ. 1198–1210
(12 ปี)
เค็นกีว, โชจิ, เค็นนิง, เก็นกีว, เค็นเอ, โจเง็ง
ค.ศ. 1196–1231
(35 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-โทบะ ถูกจักรพรรดิโกะ-โทบะโน้มน้าวให้สละราชสมบัติ ถูกเนรเทศหลังสงครามปีโจกีว[97]
84 โมรินาริ
守成
จักรพรรดิจุนโตกุ
順徳天皇
ค.ศ. 1210–1221
(11 ปี)
โจเง็ง, เค็นเรียกุ, เค็มโป, โจกีว
ค.ศ. 1197–1242
(44 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-โทบะ; พระอนุชาร่วมพระราชยิดาในจักรพรรดิสึจิมิกาโดะ ถูกบังคับให้สละราชสมบัติหลังสงครามปีโจกีว[98]
85 คาเนนาริ
懐成
จักรพรรดิชูเกียว
仲恭天皇
ค.ศ. 1221
(2 เดือน)
โจกีว
ค.ศ. 1218–1234
(15 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิจุนโตกุ ถูกถอดถอนและเนรเทศหลังสงครามปีโจกีว ได้รับการรับรองเป็นจักรพรรดิหลังสวรรคตใน ค.ศ. 1870[99]
86 ยูตาฮิโตะ[xviii]
茂仁
จักรพรรดิโกะ-โฮริกาวะ
後堀河天皇
ค.ศ. 1221–1232
(11 ปี)
โจกีว, โจโอ, เก็นนิง, คาโรกุ, อันเต, คังงิ, โจเอ
ค.ศ. 1212–1234
(22 พรรษา)
พระราชนัดดาในจักรพรรดิทากากูระ พระราชโอรสของลูกพี่ลูกน้องของจักรพรรดิชูเกียว สละราชสมบัติ[100]
87 มิตสึฮิโตะ[xix]
秀仁
จักรพรรดิชิโจ
四条天皇
ค.ศ. 1232–1242
(10 ปี)
โจเอ, เท็มปูกุ, บุนเรียกุ, คาเต, เรียกูนิง, เอ็นโอ, นินจิ
ค.ศ. 1231–1242
(10 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-โฮริกาวะ[101]
88 คูนิฮิโตะ
邦仁
จักรพรรดิโกะ-ซางะ
後嵯峨天皇
ค.ศ. 1242–1246
(4 ปี)
นินจิ, คังเง็ง
ค.ศ. 1220–1272
(51 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิสึจิมิกาโดะ พระราชนัดดาของลูกพี่ลูกน้องของจักรพรรดิชิโจ สละราชสมบัติ[102]
89 ฮิซาฮิโตะ
久仁
จักรพรรดิโกะ-ฟูกากูซะ
後深草天皇
ค.ศ. 1246–1260
(14 ปี)
คังเง็ง, โฮจิ, เค็นโจ, โคเง็ง, โชกะ, โชเง็ง
ค.ศ. 1243–1304
(61 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-ซางะ มาจากสายจิเมียวอิง สละราชสมบัติตามคำเรียกร้องของจักรพรรดิโกะ-ซางะ[103]
90 สึเนฮิโตะ
恒仁
จักรพรรดิคาเมยามะ
亀山天皇
ค.ศ. 1260–1274
(14 ปี)
โชเง็ง, บุนโอ, โคโจ, บุนเอ
ค.ศ. 1249–1305
(56 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-ซางะ พระอนุชาในจักรพรรดิโกะ-ฟูกากูซะ จากสายไดกากูจิ สละราชสมบัติ[104]
91 โยฮิโตะ
世仁
จักรพรรดิโกะ-อูดะ
後宇多天皇
1274–1287
(13 ปี)
บุนเอ, เค็นจิ, โคอัง
1267–1324
(56 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิคาเมยามะ จากสายไดกากูจิ ถูกจักรพรรดิโกะ-ฟูกากูซะบังคับให้สละราชสมบัติ[105]
92 ฮิโรฮิโตะ
熈仁
จักรพรรดิฟูชิมิ
伏見天皇
ค.ศ. 1287–1298
(11 ปี)
โคอัง, โชโอ, เอนิง
ค.ศ. 1265–1317
(52 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-ฟูกากูซะ จากสายจิเมียวอิง สละราชสมบัติ[106]
93 ทาเนฮิโตะ
胤仁
จักรพรรดิโกะ-ฟูชิมิ
後伏見天皇
ค.ศ. 1298–1301
(3 ปี)
เอนิง, โชอัง
ค.ศ. 1288–1336
(48 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิฟูชิมิ จากสายจิเมียวอิง ถูกสายไดกากูจิบังคับให้สละราชสมบัติ ใช้งานวันที่แบบดั้งเดิม[107]
94 คูนิฮารุ
邦治
จักรพรรดิโกะ-นิโจ
後二条天皇
ค.ศ. 1301–1308
(7 ปี)
โชอัง, เค็งเง็ง, คาเง็ง, โทกูจิ
ค.ศ. 1285–1308
(23 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-อูดะ จากสายไดกากูจิ[108]
95 โทมิฮิโตะ
富仁
จักรพรรดิฮานาโซโนะ
花園天皇
ค.ศ. 1308–1318
(10 ปี)
เอ็นเกียว, โอโจ, โชวะ, บุมโป
ค.ศ. 1297–1348
(51 years)
พระราชโอรสในจักรพรรดิฟูชิมิ จากสายจิเมียวอิง ยอมรับให้สลับกันครองบัลลังก์ระหว่างสายไดกากูจิและสายจิเมียวอิง[109]
96 ทากาฮารุ
尊治
จักรพรรดิโกะ-ไดโงะ
後醍醐天皇
ค.ศ. 1318–1339
(21 ปี)
บุมโป, เก็นโอ, เก็นโก, โชจู, คาเรียกุ, เก็นโตกุ, เก็นโก, เค็มมุ, เอ็งเง็ง
ค.ศ. 1288–1339
(50 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-อูดะ พระอนุชาในจักรพรรดิโกะ-นิโจ จากสายไดกากูจิ รัฐโชกุนคามากูระสิ้นสุดลงในสงครามปีเก็งโก ราชสำนักมีอำนาจชั่วคราวในช่วงการฟื้นฟูเค็มมุ ต่อต้านรัฐโชกุนอาชิกางะ กลายเป็นจักรพรดริองค์แรกในราชสำนักใต้[110]
97 โนริโยชิ[xx]
義良
จักรพรรดิโกะ-มูรากามิ
後村上天皇
ค.ศ. 1339–1368
(29 ปี)
เอ็งเง็ง, โคโกกุ, โชเฮ
ค.ศ. 1328–1368
(40 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-ไดโงะ จักรพรรดิองค์ที่ 2 ในราชสำนักใต้ ราชสำนักใต้เข้ายึดเกียวโต เมืองหลวงของราชสำนักเหนือเพียงชั่วครู่ในช่วงการก่อความวุ่นวายคันโน[111]
98 ยูตานาริ
寛成
จักรพรรดิโชเก
長慶天皇
ค.ศ. 1368–1383
(15 ปี)
โชเฮ, เค็นโตกุ, บุนจู, เท็นจุ, โควะ
ค.ศ. 1343–1394
(51 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-มูรากามิ จักรพรรดิองค์ที่ 3 ในราชสำนักใต้ สละราชสมบัติ[112]
99 ฮิโรนาริ
熙成
จักรพรรดิโกะ-คาเมยามะ
後亀山天皇
1383–1392
(9 ปี)
โควะ, เก็นจู
ป. 1347–1424
(ป. 77 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-มูรากามิ พระอนุชาในจักรพรรดิโชเก จักรพรรดิองค์ที่ 4 และองค์สุดท้ายในราชสำนักใต้ ตกลงสงบศึกกับราชสำนักเหนือ สละราชสมบัติให้แก่ราชสำนักเหนือ[113]
(1) คาซูฮิโตะ
量仁
จักรพรรดิโคงง
光厳天皇
ค.ศ. 1331–1333
(2 ปี)

เก็นโตกุ, โชเกียว
ค.ศ. 1313–1364
(51 พรรษา)

พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-ฟูชิมิ พระราชนัดดาและพระราชโอรสบุญธรรมในจักรพรรดิฮานาโซโนะ จากสายจิเมียวอิง รัฐโชกุนคามากูระแต่งตั้งให้พระองค์เป็นจักรพรรดิองค์แรกแห่งราชสำนักเหนือในช่วงสงครามปีเก็งโก ถูกจักรพรรดิโกะ-ไดโงะจากสายไดกากูจิถอดถอน ราชสำนักใต้เข้าจับตัวในช่วงการก่อความวุ่นวายคันโน[114]
(2) ยูตาฮิโตะ
豊仁
จักรพรรดิโคเมียว
光明天皇
ค.ศ. 1336–1348
(12 ปี)

เค็มมุ, เรียกูโอ, โคเอ, โจวะ
ค.ศ. 1322–1380
(58 พรรษา)

พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-ฟูชิมิ พระอนุชาในจักรพรรดิโคงง รัฐโชกุนอาชิกางะแต่งตั้งให้พระองค์เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 2 แห่งราชสำนักเหนือ สละราชสมบัติ ถูกราชสำนักใต้เข้าจับตัวในช่วงการก่อความวุ่นวายคันโน[115]
(3) โอกิฮิโตะ[xxi]
興仁
จักรพรรดิซูโก
崇光天皇
ค.ศ. 1348–1351
(3 ปี)

โจวะ, คันโน
ค.ศ. 1334–1398
(64 พรรษา)

พระราชโอรสในจักรพรรดิโคงง พระราชนัดดาในจักรพรรดิโคเมียว จักรพรรดิองค์ที่ 3 แห่งราชสำนักเหนือ สละราชสมบัติ ถูกราชสำนักใต้เข้าจับตัวในช่วงการก่อความวุ่นวายคันโน[116]
(4) อิยาฮิโตะ
彌仁
จักรพรรดิโกะ-โคงง
後光厳天皇
ค.ศ. 1352–1371
(19 ปี)

นุนนะ, โคอัง, โจจิ, โออัง
ค.ศ. 1338–1374
(36 years)

พระราชโอรสในจักรพรรดิโคงง พระอนุชาในจักรพรรดิซูโก กลานเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 4 แห่งราชสำนักเหนือหลังการก่อความวุ่นวายคันโน. สละราชสมบัติ[117]
(5) โอฮิโตะ
緒仁
จักรพรรดิโกะ-เอ็นยู
後円融天皇
ค.ศ. 1371–1382
(11 ปี)

โออัง, เอวะ, โคเรียกุ, เอโตกุ
ค.ศ. 1359–1393
(34 พรรษา)

พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-โคงง จักรพรรดิองค์ที่ 5 แห่งราชสำนักเหนือ สละราชสมบัติให้แก่จักรพรรดิโกะ-โคมัตสึ[118]
(6) โมโตฮิโตะ
幹仁
จักรพรรดิโกะ-โคมัตสึ[xxii]
後小松天皇
ค.ศ. 1382–1392
(10 ปี)

เอโตกุ, ชิโตกุ, คาเก, โคโอ, เมโตกุ
ค.ศ. 1377–1433
(56 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-เอ็นยู จักรพรรดิองค์ที่ 6 และองค์สุดท้ายใยราชสำนักเหนือใน ค.ศ. 1382 ถึง 1392 กลายเป็นจักรพรรดิที่ถูกต้องตามกฎหมายหลังจักรพรรดิโกะ-คาเมยามะสละราชสมบัติ ยอมรับให้ราชสำนักเหนือและใต้สลับกันควบคุมบัลลังก์ จักรพรรดิทั้งหมดหลังจากพระองค์มาจากฝ่ายเหนือ[119][120]
100 ค.ศ. 1392–1412
(20 พรรษา)
เมโตกุ, โอเอ
101 มิฮิโตะ[xxiii]
実仁
จักรพรรดิโชโก
称光天皇
ค.ศ. 1412–1428
(16 ปี)
โอเอ, โชโจ
ค.ศ. 1401–1428
(27 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-โคมัตสึ[121]
102 ฮิโกฮิโตะ
彦仁
จักรพรรดิโกะ-ฮานาโซโนะ
後花園天皇
ค.ศ. 1428–1464
(36 ปี)
โชโจ, เอเกียว, คากิตสึ, บุนอัง, โฮโตกุ, เคียวโตกุ, โคโช, โชโรกุ, คันโช
ค.ศ. 1419–1471
(51 พรรษา)
พระราชปนัดดาในจักรพรรดิฝ่ายเหนือซูโก; พระราชปนัดดาของลูกพี่ลูกน้องของจักรพรรดิโชโก สละราชสมบัติ ใช้งานวันที่แบบดั้งเดิม[122]
103 ฟูซาฮิโตะ
成仁
จักรพรรดิโกะ-สึจิมิกาโดะ
後土御門天皇
ค.ศ. 1464–1500
(36 ปี)
คันโช, บุนโช, โอนิง, บุมเม, โชเกียว, เอ็นโตกุ, เมโอ
ค.ศ. 1442–1500
(58 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-ฮานาโซโนะ สงครามโอนิงนำไปสู่จุดเริ่มต้นยุคเซ็งโงกุ[123]
104 คัตสึฮิโตะ
勝仁
จักรพรรดิโกะ-คาชิวาบาระ[xxiv]
後柏原天皇
ค.ศ. 1500–1526
(26 ปี)
เมโอ, บุนกิ, ไดเอ
ค.ศ. 1462–1526
(64 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-สึจิิกาโดะ พระราชอำนาจในรัฐโชกุนอาชิกางะอยู่ในช่วงต่ำสุด[124]
105 โทโมฮิโตะ
知仁
จักรพรรดิโกะ-นาระ[xxv]
後奈良天皇
ค.ศ. 1526–1557
(31 ปี)
ไดเอ, เคียวโรกุ, เท็มบุง, โคจิ
ค.ศ. 1495–1557
(62 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-คาชิวาบาระ[125]
106 มิจิฮิโตะ
方仁
จักรพรรดิโองิมาจิ
正親町天皇
ค.ศ. 1557–1586
(29 ปี)
โคจิ, เอโรกุ, เก็นกิ, เท็นโช
ค.ศ. 1517–1593
(76 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-นาระ โอดะ โนบูนางะโค่นล้มรัฐโชกุนอาชิกางะ สละราชสมบัติ[126]
107 คาตาฮิโตะ[xxvi]
周仁
จักรพรรดิโกะ-โยเซ
後陽成天皇
ค.ศ. 1586–1611
(25 ปี)
เท็นโช, บุนโรกุ, เคโจ
ค.ศ. 1571–1617
(46 พรรษา)
พระราชนัดดาในจักรพรรดิโองิมาจิ สถาปนารัฐโชกุนโทกูงาวะ ยุคเซ็งโงกุสิ้นสุดลง[127]
108 โคโตฮิโตะ[xxvii]
政仁
จักรพรรดิโกะ-มิซูโน[xxviii]
後水尾天皇
ค.ศ. 1611–1629
(18 ปี)
เคโจ, เก็นนะ, คันเอ
ค.ศ. 1596–1680
(84 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-โยเซ ญี่ปุ่นเริ่มใช้นโยบายโดดเดี่ยว เหตุการณ์เสื้อคลุมม่วงนำไปสู่การสละราชสมบัติ[128]
109 โอกิโกะ
興子
จักรพรรดินีเมโช
明正天皇
ค.ศ. 1629–1643
(14 ปี)
คันเอ
ค.ศ. 1624–1696
(72 พรรษา)
พระราชธิดาในจักรพรรดิโกะ-มิซูโน สละราชสมบัติ[129]
110 สึงูฮิโตะ
紹仁
จักรพรรดิโกะ-โคเมียว
後光明天皇
ค.ศ. 1643–1654
(11 ปี)
คันเอ, โชโฮ, เคอัง, โจโอ
ค.ศ. 1633–1654
(21 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-มิซูโน พระอนุชาในจักรพรรดินีเมโช[130]
111 นางาฮิโตะ[xxix]
良仁
จักรพรรดิโกะ-ไซ[xxx]
後西天皇
ค.ศ. 1655–1663
(8 ปี)
โจโอ, เมเรกิ, มันจิ, คัมบุง
ค.ศ. 1638–1685
(47 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-มิซูโน พระอนุชาร่วมพระราชบิดาในจักรพรรดินีเมโชกับจักรพรรดิโกะ-โคเมียว สละราชสมบัติ[131]
112 ซาโตฮิโตะ
識仁
จักรพรรดิเรเง็ง
霊元天皇
ค.ศ. 1663–1687
(24 ปี)
คัมบุง, เอ็มโป, เท็นนะ, โจเกียว
ค.ศ. 1654–1732
(78 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโกะ-ไซ สละราชสมบัติ[132]
113 อาซาฮิโตะ[xxxi]
朝仁
จักรพรรดิฮิงาชิยามะ
東山天皇
ค.ศ. 1687–1709
(22 ปี)
โจเกียว, เก็นโรกุ, โฮเอ
ค.ศ. 1675–1710
(34 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเรเง็ง สละราชสมบัติ[133]
114 ยาซูฮิโตะ[xxxii]
慶仁
จักรพรรดินากามิกาโดะ
中御門天皇
ค.ศ. 1709–1735
(26 ปี)
โฮเอ, โชโตกุ, เคียวโฮ
ค.ศ. 1702–1737
(35 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิฮิงาชิยามะ สละราชสมบัติ[134]
115 เทรูฮิโตะ
昭仁
จักรพรรดิซากูรามาจิ
桜町天皇
ค.ศ. 1735–1747
(12 ปี)
เคียวโฮ, เก็มบุง, คัมโป, เอ็งเกียว
ค.ศ. 1720–1750
(30 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดินากามิกาโดะ สละราชสมบัติ[135]
116 โทฮิโตะ
遐仁
จักรพรรดิโมโมโซโนะ
桃園天皇
ค.ศ. 1747–1762
(15 ปี)
เอ็งเกียว, คังเอ็ง, โฮเรกิ
ค.ศ. 1741–1762
(20 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิซากูรามาจิ สละราชสมบัติ[136]
117 โทชิโกะ
智子
จักรพรรดินีโกะ-ซากูรามาจิ
後桜町天皇
ค.ศ. 1762–1771
(9 ปี)
โฮเรกิ, เมวะ
ค.ศ. 1740–1813
(73 พรรษา)
พระราชธิดาในจักรพรรดิซากูรามาจิ พระกนิษฐภคินีในจักรพรรดิโมโมโซโนะ[137]
118 ฮิเดฮิโตะ
英仁
จักรพรรดิโกะ-โมโมโซโนะ
後桃園天皇
ค.ศ. 1771–1779
(8 ปี)
เมวะ, อังเอ
ค.ศ. 1758–1779
(21 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโมโมโซโนะ พระราชนัดดาในจักรพรรดินีโกะ-ซากูรามาจิ[138]
119 โมโรฮิโตะ
師仁
จักรพรรดิโคกากุ
光格天皇
ค.ศ. 1780–1817
(37 ปี)
อังเอ, เท็มเม, คันเซ, เคียววะ, บุงกะ
ค.ศ. 1771–1840
(69 พรรษา)
พระราชปนัดดาในจักรพรรดิฮิงาชิยามะ; ลูกพี่ลูกน้องและพระราชโอรสบุญธรรมในจักรพรรดิโกะ-โมโมโซโนะ สละราชสมบัติ[139]
120 อายาฮิโตะ
恵仁
จักรพรรดินินโก
仁孝天皇
ค.ศ. 1817–1846
(29 ปี)
บุงกะ, บุนเซ, เท็มโป, โคกะ
ค.ศ. 1800–1846
(46 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโคกากุ[140]
121 โอซาฮิโตะ
統仁
จักรพรรดิโคเม
孝明天皇
ค.ศ. 1846–1867
(21 ปี)
โคกะ, คาเอ, อันเซ, มังเอ็ง, บุงกีว, เก็นจิ, เคโอ
ค.ศ. 1831–1867
(35 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดินินโก ครองราชย์ในช่วงบากูมัตสึที่ประเทศญี่ปุ่นยกเลิกนโยบายโดดเดี่ยวและเปลี่ยนจากการปกครองของโทกูงาวะไปเป็นการปกครองของจักรพรรดิ จักรพรรดิองค์สุดท้ายที่มีชื่อศักราชหลายชื่อ[141]
122 มุตสึฮิโตะ
睦仁
จักรพรรดิเมจิ
明治天皇
3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1867

30 กรกฎาคม ค.ศ. 1912
(45 ปี 178 วัน)
เคโอ, เมจิ
3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1852

30 กรกฎาคม ค.ศ. 1912
(59 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโคเม รัฐโชกุนโทกูงาวะสิ้นสุดลงด้วยการฟื้นฟูเมจิ (3 มกราคม ค.ศ. 1868) จักรพรรดิองค์แรกในจักรวรรดิญี่ปุ่น[142][143]
123 โยชิฮิโตะ
嘉仁
จักรพรรดิไทโช
大正天皇
30 กรกฎาคม ค.ศ. 1912

25 ธันวาคม ค.ศ. 1926
(14 ปี 148 วัน)
ไทโช
31 สิงหาคม ค.ศ. 1879

25 ธันวาคม ค.ศ. 1926
(47 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเมจิ ประชาธิปไตยไทโชเคลื่อนอำนาจทางการเมืองจากเก็นโรไปยังสภานิติบัญญัติแห่งจักรวรรดิและพรรคการเมือง มกุฎราชกุมารฮิโรฮิโตะ พระราชโอรสองค์โต ครองตำแน่งเซ็ชโช (摂政; "ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์") ใน ค.ศ. 1921 ถึง 1926 เนื่องจากอาการพระประชวรของไทโช[143][144]
124 ฮิโรฮิโตะ
裕仁
จักรพรรดิโชวะ
昭和天皇
25 ธันวาคม ค.ศ. 1926

7 มกราคม ค.ศ. 1989
(62 ปี 13 วัน)
โชวะ
29 เมษายน ค.ศ. 1901

7 กรกฎาคม ค.ศ. 1989
(87 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิไทโช ครองตำแหน่งเซ็ชโชใน ค.ศ. 1921 ถึง 1926 เป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายในจักรวรรดิญี่ปุ่น รัชสมัยของพระองค์พบกับสงครามโลกครั้งที่สองและปาฏิหาริย์ทางเศรษฐกิจหลังสงคราม จักรพรรดิที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเท่าที่ยืนยันได้[143][145]
125 อากิฮิโตะ
明仁
ยังมีพระชนม์ชีพ 7 มกราคม ค.ศ. 1989

30 เมษายน ค.ศ. 2019
(30 ปี 113 วัน)
เฮเซ
พระราชสมภพ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1933
(91 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโชวะ สละราชสมบัติและภายหลังเรียกขานเป็น โจโก (上皇; "สมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวง") จักรพรรดิที่ทรงพระชนม์ชีพยืนยาวที่สุดที่สามารถพิสูจน์ได้[146]
126 นารูฮิโตะ
徳仁
ยังมีพระชนม์ชีพ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2019

ปัจจุบัน
(5 ปี 238 วัน)
เรวะ
พระราชสมภพ 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1960
(64 พรรษา)
พระราชโอรสในอากิฮิโตะ ได้รับการเรียกขานเป็น คินโจเท็นโน (今上天皇; "จักรพรรดิองค์ปัจจุบัน") หรือ เท็นโนเฮกะ (天皇陛下; "สมเด็จพระจักรพรรดิ")[147][148]

บุคคลที่ได้รับการรับรองหลังเสียชีวิต

[แก้]

นี่คือรายการบุคคลที่ไม่ได้ครองราชย์เป็นจักรพรรดิในช่วงที่ยังมีชีวิต แต่ภายหลังรับรองเป็นจักรพรรดิญี่ปุ่นหลังเสียชีวิต

พระบรมสาทิสลักษณ์ ชื่อส่วนพระองค์ สมัญญานาม ปีที่รับรอง รายละเอียดพระชนม์ชีพ
เจ้าชายคูซากาเบะ
草壁皇子
จักรพรรดิโอกะ
岡宮天皇
ค.ศ. 759 ค.ศ. 662–689
(27 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเท็มมุ พระสวามีในจักรพรรดินีเก็มเม พระราชบิดาในจักรพรรดิมมมุกับจักรพรรดินีเก็นโช ได้รับการแต่งตั้งเป็นมกุฎราชกุมารใน ค.ศ. 681 เป็นรัชทายาทในจักรพรรดิเท็มมุ สิ้นพระชนม์ก่อนขึ้นครองบัลลังก์ภายหลังการสวรรคตของจักรพรรดิเท็นมุ[149][150]
เจ้าชายโทเนริ
舎人親王
จักรพรรดิซูโกจินเก
崇道尽敬皇帝
ค.ศ. 759 ค.ศ. 676–735
(59 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเท็มมุ พระอนุชาร่วมพระราชบิดาในเจ้าชายคูซากาเบะ พระราชบิดาในจักรพรรรดิจุนนิง[151][152]
เจ้าชายชิกิ
志貴皇子
จักรพรรดิคาซูงะ
春日宮天皇
ค.ศ. 770 สิ้นพระชนม์ ค.ศ. 716
พระราชโอรสในจักรพรรดิเท็นจิ พระอนุชาร่วมพระราชบิดาในเท็มมุ จักรพรรรดินีจิโต จักรพรรดิเก็มเม และจักรพรรดิโคบุง พระราชบิดาในจักรพรรดิโคนิง; พระปิตุลาร่วมพระราชบิดาในเจ้าชายคูซากาเบะกะบเจ้าชายโทเนริ[153][154]
เจ้าชายซาวาระ
早良親王
จักรพรรดิซูโด
崇道天皇
ค.ศ. 800 ค.ศ. 750–785
(35 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโคนิง พระอนุชาในจักรพรรดิคัมมุ ได้รับการแต่งตั้งเป็นมกุฎราชกุมารใน ค.ศ. 781 มีส่วนพัวพันกับการลอบสังหารฟูจิวาระ โนะ ทาเน็ตสึงุ สิ้นพระชนม์ระหว่างเสด็จเนรเทศ[153][155]
เจ้าชายมาซาฮิโตะ
誠仁親王
โยโกอิง
陽光院
ก่อน ค.ศ. 1611 ค.ศ. 1552–1586
(34 พรรษา)
พระราชโอรสในจักรพรรดิโองิมาจิ พระราชบิดาในจักรพรรดิโกะ-โยเซ หลังสิ้นพระชนม์ได้รับการรับรองเป็นจักรพรรดิโดยจักรพรรดิโกะ-โยเซ[153][156]
ซูเกฮิโตะ คังอิง-โนะ-มิยะ
閑院宮典仁親王
จักรพรรดิเคียวโก
慶光天皇
ค.ศ. 1884 ค.ศ. 1733–1794
(61 พรรษา)
พระราชนัดดาในจักรพรรดิฮิงาชิยามะ พระราชบิดาในจักรพรรดิโคกากุ[157][158]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. วันที่ช่วงต้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้เขียน โดยคำนวณจากระยะเวลาการครองราชย์ที่ให้ไว้ในนิฮงโชกิ (โคจิกิในกรณีที่ไม่มีข้อมูล) กล่าวกันว่าจิมมุสวรรคตเมื่อปีที่ 76 ในรัชสมัยของพระองค์ (พระองค์ครองราชย์ 75 ปี) พระองค์มีพระชนม์พรรษา 127 พรรษาตามการนับอายุแบบเอเชียตะวันออก (126 พรรษาตามการนับอายุแบบตะวันตก)[10] ปีรัชสมัยนับด้วยวิธีการคำนวณแบบรวมจนกระทั่งจักรพรรดินีจิโตที่เป็นรัชสมัยสุดท้ายที่บันทึกในนิฮงโชกิ
  2. มีอีกพระนามว่า ฮิโกฟูโตะ (彦太)
  3. มีอีกพระนามว่า อิงะ (伊賀).
  4. มีอีกพระนามว่า อูโนโนซาซารพ หรือ อูโนะ
  5. วันที่ของพระนางส่วนใหญ่ระบุที่ 686–697 อย่างไรก็ตาม นิฮงโชกิระบุว่าพระนางสวรรคตในปีที่ 11 (พระนางครองราชย์ 10 ปี)[54]
  6. พระนามของพระองค์สามารถเขียนเป็น 軽
  7. พระนามของพระนางสามารถเขียนเป็น 阿部
  8. พระนามของพระนางสามารถเขียนเป็น 日高
  9. เคยมีพระนามว่า มินาโมโตะ โนะ โคเรซาเนะ (源維城).
  10. มีอีกพระนามว่า ฮิโรอากิระ
  11. มีอีกพระนามว่า อิยาซาดะ หรือ ซูเกซาดะ
  12. มีอีกพระนามว่า อัตสึนาริ
  13. มีอีกพระนามว่า โยชิฮิโตะ
  14. มีอีกพระนามว่า โยชิฮิโตะ หรือ โทชิฮิโตะ
  15. มีอีกพระนามว่า โนบูฮิโตะ
  16. มีอีกพระนามว่า โคโตฮิโตะ
  17. มีอีกพระนามว่า ทากานาริ
  18. มีอีกพระนามว่า มตสิฮิโตะ
  19. มีอีกพระนามว่า โทชิฮิโตะ
  20. มีอีกพระนามว่า โนรินางะ
  21. เดิมมีพระนามว่า มาซูฮิโตะ (益仁)
  22. มีอีกพระนามว่า จักรพรรดิโกะ-โคโก
  23. เดิมเขียนเป็น 躬仁
  24. มีอีกพระนามว่า จักรพรรดิโกะ-คัมมุ
  25. มีอีกพระนามว่า จักรพรรดิโกะ-เฮเซ
  26. มีอีกพระนามว่า คาซูฮิโตะ (和仁).
  27. มีอีกพระนามว่า มาาฮิโตะ
  28. มีอีกพระนามว่า จักรพรรดิโกะ-มิโน หรือ จักรพรรดิโกะ-เซวะ
  29. มีอีกพระนามว่า โยชิฮิโตะ
  30. มีอีกพระนามว่า จักรพรรดิโกะ-ไซอิง หรือ จักรพรรดิโกะ-จุนนะ
  31. มีอีกพระนามว่า โทโมฮฺโตะ
  32. มีอีกพระนามว่า โยชิฮิโตะ

อ้างอิง

[แก้]
  1. Smits, Gregory J. (1991). Political Thought in Japanese Historical Writing: From Kojiki (712) to Tokushi Yoron (1712). Wilfrid Laurier University Press. pp. 30–32. ISBN 9780889209978.
  2. 2.0 2.1 Vogel, Ezra F. (2019). China and Japan: Facing History. Harvard University Press. pp. 15–17. ISBN 9780674240766.
  3. Mason, Richard (2011). "Chapter Two". History of Japan: Revised Edition. Tuttle Publishing. ISBN 9781462900978.
  4. Ibaraki, Yoshiyuki (2013). "A Review of the Inscription of the Iron Sword Discovered at Inariyama Old Tomb of the Sakitama Old Tombs' Group". 皇学館論叢. KOGAKKAN RONSO. 46 (5): 1–35.
  5. 5.0 5.1 Hoye, Timothy (1999). Japanese Politics: Fixed and Floating Worlds. Prentice Hall. p. 78. ISBN 9780132712897.
  6. Holcombe, Charles (January 2001). The Genesis of East Asia: 221 B.C. – A.D. 907. University of Hawaii Press. p. 198. ISBN 978-0-8248-2465-5.
  7. Nussbaum, "Nengō", p. 704.
  8. Imperial Household Agency.
  9. Nussbaum, "Traditional Order of Tennō", p. 962.
  10. Titsingh, pp. 1–3; Aston, 1, pp.109–137; Brown, p. 249; Varley, pp. 84–88; Nussbaum, p. 420.
  11. Titsingh, pp. 1–3; Aston, 1, pp.109–137; Brown, p. 249; Varley, pp. 84–88; Nussbaum, p. 420.
  12. Titsingh, pp. 3–4; Aston, 1, pp.138–141; Brown, pp. 250–251; Varley, pp. 88–89.
  13. Titsingh, p. 4; Aston, 1, pp.141–142; Brown, p. 251; Varley, p. 89; Nussbaum, p. 32.
  14. Titsingh, p. 4; Aston, 1, pp.142–143; Brown, p. 251; Varley, p. 89; Nussbaum, p. 405.
  15. Titsingh, pp. 4–5; Aston, 1, pp.144–145; Brown, p. 251; Varley, p. 90; Nussbaum, p. 564.
  16. Titsingh, p. 5; Aston, 1, pp.145–146; Brown, p. 251; Varley, p. 90; Nussbaum, p. 536.
  17. Titsingh, pp. 5–6; Aston, 1, pp.146–147; Brown, p. 252; Varley, pp. 90–92; Nussbaum, p. 561.
  18. Titsingh, p. 6; Aston, 1, pp.147–148; Brown, p. 252; Varley, pp. 92–93; Nussbaum, p. 542.
  19. Titsingh, pp. 6–7; Aston, 1, pp.148–149; Brown, p. 252; Varley, p. 93; Nussbaum, p. 451.
  20. Henshall, Kenneth (2013). Historical Dictionary of Japan to 1945. Scarecrow Press. ISBN 978-0-8108-7872-3.
  21. Titsingh, pp. 7–9; Aston, 1, pp.150–164; Brown, p. 252; Varley, pp. 93–95; Nussbaum, p. 910.
  22. Titsingh, pp. 9–10; Aston, 1, pp.165–187; Brown, pp. 252–254; Varley, pp. 95–96; Nussbaum, p. 910.
  23. Titsingh, pp. 11–14; Aston, 1, pp.188–214; Brown, p. 254; Varley, pp. 96–99; Nussbaum, p. 505.
  24. Titsingh, pp. 14–15; Aston, 1, pp.214–216; Brown, p. 254; Varley, pp. 99–100; Nussbaum, p. 836.
  25. Titsingh, p. 15; Aston, 1, pp.217–223; Brown, pp. 254–255; Varley, pp. 100–101; Nussbaum, p. 125.
  26. Titsingh, pp. 16–19; Aston, 1, pp.224–253; Brown, p. 255; Varley, pp. 101–103.
  27. Titsingh, pp. 19–22; Aston, 1, pp.254–271; Brown, p. 255–256; Varley, pp. 103–110].
  28. Titsingh, pp. 22–24; Aston, 1, pp.272–300; Brown, p. 256–257; Varley, pp. 110–111; Nussbaum, p. 716.
  29. Titsingh, pp. 24–25; Aston, 1, pp.301–310; Brown, p. 257; Varley, p. 111.
  30. Titsingh, p. 25; Aston, 1, pp.310–311; Brown, p. 257; Varley, p. 112; Nussbaum, p. 288.
  31. Titsingh, p. 26; Aston, 1, pp.312–328; Brown, p. 257–258; Varley, p. 112.
  32. Titsingh, p. 26; Aston, 1, pp.328–332; Brown, p. 258; Varley, p. 113; Nussbaum, p. 32.
  33. Titsingh, pp. 27–28; Aston, 1, pp.333–372; Brown, p. 258; Varley, pp. 113–115; Nussbaum, p. 1068.
  34. Titsingh, pp. 28–29; Aston, 1, pp.373–377; Brown, pp. 258–259; Varley, pp. 115–116; Nussbaum, p. 836.
  35. Titsingh, pp. 29–30; Aston, 1, pp.377–393; Brown, p. 259; Varley, p. 116; Nussbaum, p. 510.
  36. Titsingh, p. 30; Aston, 1, pp.393–398; Brown, pp. 259–260; Varley, p. 117; Nussbaum, p. 716.
  37. Titsingh, p. 31; Aston, 1, pp.399–407; Brown, p. 260; Varley, pp. 117–118; Nussbaum, p. 94.
  38. Shillony, Ben-Ami (2008). The Emperors of Modern Japan (ภาษาอังกฤษ). BRILL. p. 15. ISBN 978-90-474-4225-7.
  39. Titsingh, pp. 31–32; Aston, 2, pp. 1–25; Brown, pp. 260–261; Varley, pp. 17–18, 119–120; Nussbaum, p. 506.
  40. Titsingh, p. 33; Aston, 2, pp. 26–32; Brown, p. 261; Varley, pp. 120–121; Nussbaum, p. 31.
  41. Titsingh, pp. 33–34; Aston, 2, pp. 33–35; Brown, p. 261; Varley, p. 121; Nussbaum, p. 842.
  42. Titsingh, pp. 34–36; Aston, 2, pp. 36–89; Brown, pp. 261–262; Varley, pp. 123–124; Nussbaum, p. 519.
  43. Titsingh, pp. 36–37; Aston, 2, pp. 90–105; Brown, pp. 262–263; Varley, pp. 124–125; Nussbaum, p. 77.
  44. Titsingh, pp. 37–38; Aston, 2, pp. 106–111; Brown, p. 263; Varley, pp. 125–126; Nussbaum, p. 1057.
  45. Titsingh, pp. 38–39; Aston, 2, pp. 112–120; Brown, p. 263; Varley, p. 126; Nussbaum, p. 917.
  46. Titsingh, pp. 39–42; Aston, 2, pp. 121–156; Brown, pp. 263–264; Varley, pp. 126–129; Nussbaum, p. 910.
  47. Titsingh, pp. 42–43; Aston, 2, pp. 157–170; Brown, pp. 264–265; Varley, pp. 129–130; Nussbaum, p. 431.
  48. Titsingh, pp. 43–47; Aston, 2, pp. 171–194; Brown, pp. 265–266; Varley, pp. 130–132; Nussbaum, p. 543.
  49. Titsingh, pp. 47–50; Aston, 2, pp. 195–247; Brown, pp. 266–267; Varley, pp. 132–133; Nussbaum, p. 566.
  50. Titsingh, pp. 50–52; Aston, 2, pp. 248–273; Brown, p. 267; Varley, pp. 133–134; Nussbaum, p. 807.
  51. Titsingh, pp. 52–56; Aston, 2, pp. 274–300; Brown, p. 268; Varley, p. 135; Nussbaum, p. 959.
  52. Titsingh, pp. 56–58; Aston, 2, p. 301ff; Brown, pp. 268–269; Varley, pp. 135–136; Nussbaum, p. 538.
  53. Titsingh, pp. 58–59; Aston, 2, pp. 301–381; Brown, pp. 268–269; Varley, pp. 135–136; Nussbaum, p. 957.
  54. Titsingh, pp. 59–60; Aston, 2, pp. 382–423; Brown, pp. 269–270; Varley, pp. 136–137.
  55. Titsingh, pp. 59–60; Aston, 2, pp. 382–423; Brown, pp. 269–270; Varley, pp. 136–137; Nussbaum, p. 426.
  56. Titsingh, pp. 60–63; Brown, pp. 270–271; Varley, pp. 137–140; Nussbaum, p. 655.
  57. Titsingh, pp. 63–65; Brown, p. 271; Varley, p. 140; Nussbaum, p. 235.
  58. Titsingh, pp. 65–67; Brown, pp. 271–272; Varley, pp. 140–141; Nussbaum, p. 240.
  59. Titsingh, pp. 67–73; Brown, pp. 272–273; Varley, pp. 141–143; Nussbaum, p. 884.
  60. Titsingh, pp. 73–75; Brown, pp. 274–275; Varley, p. 143; Nussbaum, p. 547.
  61. Titsingh, pp. 75–78; Brown, p. 275; Varley, pp. 143–144; Nussbaum, p. 437.
  62. Titsingh, pp. 78–81; Brown, p. 276; Varley, pp. 144–147; Nussbaum, p. 888.
  63. Titsingh, pp. 81–85; Brown, pp. 276–277; Varley, pp. 147–148; Nussbaum, p. 557.
  64. Titsingh, pp. 86–95; Brown, pp. 277–279; Varley, pp. 148–150; Nussbaum, p. 464.
  65. Titsingh, pp. 96–97; Brown, pp. 279–280; Varley, p. 151; Nussbaum, p. 305.
  66. Titsingh, pp. 97–102; Brown, pp. 280–282; Varley, pp. 151–164; Nussbaum, p. 804.
  67. Titsingh, pp. 103–106; Brown, pp. 282–283; Varley, p. 164; Nussbaum, p. 437.
  68. Titsingh, pp. 106–112; Brown, pp. 283–284; Varley, pp. 164–165; Nussbaum, p. 714.
  69. Titsingh, pp. 112–115; Brown, pp. 285–286; Varley, p. 165; Nussbaum, p. 658.
  70. Titsingh, pp. 115–121; Brown, pp. 286–288; Varley, pp. 166–170; Nussbaum, p. 837.
  71. Titsingh, pp. 121–124; Brown, pp. 288–289; Varley, pp. 170–171; Nussbaum, p. 1064.
  72. Titsingh, pp. 124–125; Brown, p. 289; Varley, pp. 171–175; Nussbaum, p. 549.
  73. Titsingh, pp. 125–129; Brown, pp. 289–290; Varley, pp. 175–179; Nussbaum, p. 1007.
  74. Titsingh, pp. 129–134; Brown, pp. 290–293; Varley, pp. 179–181; Nussbaum, p. 138.
  75. Titsingh, pp. 134–138; Brown, pp. 294–295; Varley, pp. 181–183.
  76. Titsingh, pp. 139–142; Brown, pp. 295–298; Varley, pp. 183–190; Nussbaum, p. 667.
  77. Titsingh, pp. 142–143; Brown, p. 289; Varley, pp. 190–191; Nussbaum, p. 786.
  78. Titsingh, pp. 144–148; Brown, pp. 299–300; Varley, pp. 191–192; Nussbaum, p. 182.
  79. Titsingh, pp. 148–149; Brown, pp. 300–302; Varley, p. 192; Nussbaum, p. 501.
  80. Titsingh, pp. 150–154; Brown, pp. 302–307; Varley, pp. 192–195; Nussbaum, p. 369.
  81. Titsingh, pp. 154–155; Brown, p. 307; Varley, p. 195; Nussbaum, p. 818.
  82. Titsingh, pp. 156–160; Brown, pp. 307–310; Varley, pp. 195–196; Nussbaum, p. 253.
  83. Titsingh, pp. 160–162; Brown, pp. 310–311; Varley, p. 197; Nussbaum, p. 262.
  84. Titsingh, pp. 162–166; Brown, pp. 311–314; Varley, pp. 197–198; Nussbaum, p. 258.
  85. Titsingh, pp. 166–168; Brown, pp. 314–315; Varley, pp. 198–199; Nussbaum, p. 259.
  86. Titsingh, pp. 169–171; Brown, pp. 315–317; Varley, pp. 199–202; Nussbaum, p. 872.
  87. Titsingh, pp. 172–178; Brown, pp. 317–320; Varley, p. 202; Nussbaum, p. 352.
  88. Titsingh, pp. 178–181; Brown, pp. 320–322; Varley, pp. 203–204; Nussbaum, p. 967.
  89. Titsingh, pp. 181–185; Brown, pp. 322–324; Varley, pp. 204–205; Nussbaum, p. 917.
  90. Titsingh, pp. 186–188; Brown, pp. 324–326; Varley, p. 205; Nussbaum, p. 559.
  91. Titsingh, pp. 188–190; Brown, pp. 326–327; Varley, pp. 205–208; Nussbaum, p. 261.
  92. Titsingh, pp. 191–194; Brown, pp. 327–329; Varley, pp. 208–212; Nussbaum, p. 712.
  93. Titsingh, pp. 194–195; Brown, pp. 329–330; Varley, p. 212; Nussbaum, p. 794.
  94. Titsingh, pp. 194–195; Brown, pp. 329–330; Varley, p. 212; Nussbaum, p. 933.
  95. Titsingh, pp. 200–207; Brown, pp. 333–334; Varley, pp. 214–215; Nussbaum, p. 33.
  96. Titsingh, pp. 207–221; Brown, pp. 334–339; Varley, pp. 215–220; Nussbaum, p. 263.
  97. Titsingh, pp. 221–230; Brown, pp. 339–341; Varley, p. 220; Nussbaum, p. 998.
  98. Titsingh, pp. 230–238; Brown, pp. 341–343; Varley, pp. 221–223.
  99. Titsingh, pp. 236–238; Brown, pp. 343–344; Varley, pp. 223–226; Nussbaum, p. 128.
  100. Titsingh, pp. 238–241; Brown, pp. 344–349; Varley, pp. 226–227; Nussbaum, p. 252.
  101. Titsingh, pp. 242–245; Varley, p. 227; Nussbaum, p. 856.
  102. Titsingh, pp. 245–247; Varley, pp. 228–231; Nussbaum, p. 259.
  103. Titsingh, pp. 248–253; Varley, pp. 231–232; Nussbaum, p. 252.
  104. Titsingh, pp. 232–233; Varley, pp. 253–261; Nussbaum, p. 461.
  105. Titsingh, pp. 233–237; Varley, pp. 262–269; Nussbaum, p. 265.
  106. Titsingh, pp. 237–238; Varley, pp. 269–274; Nussbaum, p. 252.
  107. Titsingh, pp. 274–275; Varley, pp. 238–239; Nussbaum, p. 252.
  108. Titsingh, pp. 275–278; Varley, p. 239; Nussbaum, p. 257.
  109. Titsingh, pp. 281–286, 278–281; Varley, pp. 239–241; Nussbaum, p. 285.
  110. Titsingh, pp. 281–286, 290–294; Varley, pp. 241–269; Nussbaum, p. 251.
  111. Varley, pp. 269–270; Nussbaum, p. 257.
  112. Nussbaum, Chōkei Tennō, p. 120.
  113. Nussbaum, "Go-Kameyama Tennō", pp. 253–255.
  114. Titsingh, pp. 286–289; Nussbaum, p. 344, 543.
  115. Titsingh, pp. 294–298; Nussbaum, p. 555.
  116. Titsingh, pp. 298–301; Nussbaum, p. 911.
  117. Titsingh, pp. 302–309; Nussbaum, p. 255.
  118. Titsingh, pp. 310–316; Nussbaum, p. 251.
  119. Titsingh, pp. 317–327.
  120. Titsingh, pp. 317–327; Nussbaum, p. 555.
  121. Titsingh, pp. 327–331; Nussbaum, p. 883.
  122. Titsingh, pp. 331–351; Nussbaum, p. 252.
  123. Titsingh, pp. 352–364; Nussbaum, p. 265.
  124. Titsingh, pp. 364–372.
  125. Titsingh, pp. 372–382; Nussbaum, p. 257.
  126. Titsingh, pp. 382–402; Nussbaum, p. 739.
  127. Titsingh, pp. 402–409; Nussbaum, p. 265.
  128. Titsingh, pp. 410–411; Nussbaum, p. 256.
  129. Titsingh, pp. 411–412; Nussbaum, p. 625.
  130. Titsingh, pp. 412–413; Nussbaum, p. 256.
  131. Titsingh, p. 413.
  132. Titsingh, pp. 414–415; Nussbaum, p. 785.
  133. Titsingh, pp. 415–416; Nussbaum, p. 310.
  134. Titsingh, pp. 416–417; Nussbaum, p. 690.
  135. Titsingh, pp. 417–418; Nussbaum, p. 814.
  136. Titsingh, pp. 418–419; Nussbaum, p. 656.
  137. Titsingh, p. 419.
  138. Titsingh, pp. 419–420; Nussbaum, p. 257.
  139. Titsingh, pp. 420–421; Nussbaum, p. 546.
  140. Nussbaum, "Ninkō Tennō", p. 716.
  141. Nussbaum, "Kōmei Tennō", p. 553.
  142. Nussbaum, "Meiji Tennō", p. 624.
  143. 143.0 143.1 143.2 Shimamoto, Mayako; Ito, Koji; Sugita, Yoneyuki (2015). Historical Dictionary of Japanese Foreign Policy. Rowman & Littlefield. pp. 70–73. ISBN 9781442250673.
  144. Nussbaum, "Taishō Tennō", p. 929.
  145. Nussbaum, "Hirohito", p. 318.
  146. Nussbaum, "Akihito", p. 19.
  147. "Japan's Emperor thanks country, prays for peace before abdication". Nikkei Asian Review. สืบค้นเมื่อ 30 April 2019.
  148. Nussbaum, "Naruhito", p. 699.
  149. Duthie, Torquil (2014). Man'yoshu and the imperial imagination in early Japan. Leiden. p. 372. ISBN 9789004251717. OCLC 864366334.
  150. 岡宮天皇 デジタル版 日本人名大辞典+Plusの解説. Kotobank.
  151. Brown, p. 272.
  152. 崇道尽敬皇帝 デジタル版 日本人名大辞典+Plusの解説. Kotobank.
  153. 153.0 153.1 153.2 Ponsonby-Fane, Richard (1959). The Imperial House of Japan. pp. 61, 459, 469.
  154. 春日宮天皇 デジタル版 日本人名大辞典+Plusの解説. Kotobank.
  155. 崇道天皇 デジタル版 日本人名大辞典+Plusの解説. Kotobank.
  156. 陽光院 デジタル版 日本人名大辞典+Plusの解説. Kotobank.
  157. Shillony, Ben-Ami (2021). Enigma of the Emperors: Sacred Subservience in Japanese History. BRILL. p. 93. ISBN 9789004213999.
  158. 慶光天皇 デジタル版 日本人名大辞典+Plusの解説. Kotobank.

ข้อมูล

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]