จักรพรรดิเรเง็ง
จักรพรรดิเรเง็ง 霊元天皇 | |||||
---|---|---|---|---|---|
จักรพรรดิญี่ปุ่น | |||||
ครองราชย์ | 5 มีนาคม ค.ศ. 1663 – 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1687 | ||||
ราชาภิเษก | 2 มิถุนายน ค.ศ. 1663 | ||||
ก่อนหน้า | โกะ-ไซ | ||||
ถัดไป | ฮิงาชิยามะ | ||||
โชกุน | ดูรายชื่อ | ||||
ประสูติ | 9 กรกฎาคม ค.ศ. 1654 รัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ (ปัจจุบันคือประเทศญี่ปุ่น) ซาโตฮิโตะ, เจ้าชายอาเตะ | ||||
สวรรคต | 24 กันยายน ค.ศ. 1732 ฮนชู รัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ | (78 ปี)||||
ฝังพระศพ | สึกิ โนะ วะ โนะ มิซาซางิ เกียวโต | ||||
คู่อภิเษก | ทากัตสึกาซะ ฟูซาโกะ (สมรส 1670; เสียชีวิต 1712) | ||||
พระราชบุตร กับพระองค์อื่น ๆ... | จักรพรรดิฮิงาชิยามะ | ||||
| |||||
ราชสกุล | ราชวงศ์ญี่ปุ่น | ||||
พระราชบิดา | จักรพรรดิโกะ-มิซูโน | ||||
พระราชมารดา | โซโนะ คูนิโกะ [ja] |
ซาโตฮิโตะ (ญี่ปุ่น: 識仁; โรมาจิ: Satohito) ได้รับการเลื่อนพระเกียรติหลังสวรรคตเป็น จักรพรรดิเรเง็ง (ญี่ปุ่น: 霊元天皇; โรมาจิ: Reigen-tennō; 9 กรกฎาคม ค.ศ. 1654 – 24 กันยายน ค.ศ. 1732) เป็นจักรพรรดิองค์ที่ 112 แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น[1] ตามที่ได้จัดเรียงไว้ในลำดับการสืบราชบัลลังก์แบบดั้งเดิม[2] ครองสิริราชสมบัติระหว่าง ค.ศ. 1663 — ค.ศ. 1687[3]
พระราชประวัติ
[แก้]หลังจากเจ้าชายซาโตฮิโตะประสูติได้ไม่นาน จักรพรรดิโกะ-โคเมียว จักรพรรดิองค์ที่ 110 ผู้เป็นพระเชษฐาต่างพระราชมารดาได้สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นผู้สืบราชบัลลังก์เมื่อเจ้าชายซะโตะฮิโตะมีพระชนมายุเพียง 4 เดือนจักรพรรดิโกะ-โคเมียวก็ประชวรด้วยไข้ฝีดาษและเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 20 เดือน 9 ปี โจโอ ที่ 3 ตรงกับวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 1654 ขณะมีพระชนมายุเพียง 21 พรรษาราชบัลลังก์จึงตกมาอยู่ที่เจ้าชายนะงะฮิโตะพระเชษฐาต่างพระราชมารดาอีกพระองค์หนึ่งพระชนมายุเพียง 16 พรรษาที่ขึ้นสืบราชบัลลังก์เป็น จักรพรรดิโกะ-ไซ
เจ้าชายซะโตะฮิโตะเสด็จขึ้นสืบราชบัลลังก์ดอกเบญจมาศเมื่อวันที่ 26 เดือน 1 ปี คันบุง ที่ 3 ตรงกับวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1663 ภายหลังจากการสละราชบัลลังก์ของจักรพรรดิโกะ-ไซหลังจากนั้นไม่นานได้มีพิธีราชาภิเษกจักรพรรดิเรเง็งที่ พระราชวังหลวงเคียวโตะ
ในปี เท็นนะ ที่ 2 ตรงกับ ค.ศ. 1682 จักรพรรดิเรเง็งได้สถาปนา เจ้าชายอะซะฮิโตะ (ญี่ปุ่น: 朝仁) พระราชโอรสองค์ที่ 5 พระชนมายุเพียง 7 พรรษาขึ้นเป็นรัชทายาทและผู้สืบราชบัลลังก์และได้มีการจัดพิธีเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่หลังจากมิได้จัดมานานกว่า 300 ปี
จักรพรรดิเรเง็งได้สละราชบัลลังก์ให้กับเจ้าชายอะซะฮิโตะขึ้นเป็น จักรพรรดิฮิงะชิยะมะ เมื่อวันที่ 21 เดือน 3 ปี โจเกียว ที่ 4 ตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1687 หลังจากครองสิริราชสมบัติได้ 24 ปีหลังจากนั้นอีก 4 วันคือวันที่ 25 เดือน 3 ปี โจเกียว ที่ 4 ตรงกับวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1687 ได้มีการจัดพิธีราชาภิเษกจักรพรรดิฮิงะชิยะมะขึ้นที่ พระราชวังหลวงเคียวโตะ
หลังจากอดีตจักรพรรดิเรเง็งสละราชบัลลังก์แล้วได้ย้ายไปประทับที่ พระราชวังหลวงเซนโต ในพระราชสถานะ ไดโจเท็นโน (มหาจักรพรรดิ) และที่พระราชวังแห่งนี้พระองค์ได้กุมพระราชอำนาจอยู่เหนือพระราชโอรสและพระราชนัดดานานถึง 26 ปีจนกระทั่งอดีตจักรพรรดิเรเง็งเสด็จออกผนวชเมื่อ ค.ศ. 1713 โดยได้รับฉายาทางธรรมว่า โซโจ (Sojō)
จนกระทั่งวันที่ 6 เดือน 8 ปี เคียวโฮ ที่ 17 ตรงกับวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 1732 ตรงกับรัชสมัยจักรพรรดิฮิงะชิยะมะจักรพรรดิองค์ที่ 114 ผู้เป็นพระราชนัดดาอดีตจักรพรรดิเรเง็งหรือพระภิกษุโซโจเสด็จสวรรคตขณะมีพระชนมายุ 79 พรรษา
พระราชพงศาวลี
[แก้]พงศาวลีของจักรพรรดิเรเง็ง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Imperial Household Agency (Kunaichō): 霊元天皇 (112)
- ↑ Ponsonby-Fane, Richard. (1959). The Imperial House of Japan, pp. 117.
- ↑ Titsingh, Isaac. (1834). Annales des empereurs du japon, pp. 414–415.
- ↑ "Genealogy". Reichsarchiv (ภาษาญี่ปุ่น). 30 April 2010. สืบค้นเมื่อ 20 January 2018.
ข้อมูล
[แก้]- Meyer, Eva-Maria. (1999). Japans Kaiserhof in der Edo-Zeit: unter besonderer Berücksichtigung der Jahre 1846 bis 1867. Münster: LIT Verlag. ISBN 978-3-8258-3939-0; OCLC 42041594
- Ponsonby-Fane, Richard Arthur Brabazon. (1956). Kyoto: The Old Capital of Japan, 794–1869. Kyoto: Ponsonby Memorial Society. OCLC 182637732
- __________. (1959). The Imperial House of Japan. Kyoto: Ponsonby Memorial Society. OCLC 194887
- Titsingh, Isaac. (1834). Nihon Ōdai Ichiran; ou, Annales des empereurs du Japon. Paris: Royal Asiatic Society, Oriental Translation Fund of Great Britain and Ireland. OCLC 5850691
- Varley, H. Paul. (1980). Jinnō Shōtōki: A Chronicle of Gods and Sovereigns. New York: Columbia University Press. ISBN 978-0-231-04940-5; OCLC 59145842