นครรัฐเชลียง
ศรีสัชนาลัย | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ก่อน พ.ศ. 1967 ไทยสากล–พ.ศ. 2004/2005 ไทยสากล | |||||||||
สถานะ |
| ||||||||
เมืองหลวง | ศรีสัชนาลัย | ||||||||
การปกครอง | ราชาธิปไตย | ||||||||
กษัตริย์ | |||||||||
• พ.ศ. 1967 ไทยสากล | พระยาศรียศราช | ||||||||
• ก่อน พ.ศ. 2003 | เจ้าแสน | ||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||
• แยกตัวออกจากอาณาจักรสุโขทัย | ก่อน พ.ศ. 1967 ไทยสากล | ||||||||
• เหตุการณ์ในจารึกพระยาศรียศราช | พ.ศ. 1967 ไทยสากล | ||||||||
• สงครามตีเมืองไตรตรึงษ์และน่าน | พ.ศ. 1977/1978 ไทยสากล | ||||||||
• สงครามตีเมืองเชียงใหม่ | พ.ศ. 1985/1986 ไทยสากล | ||||||||
• พระเจ้าติโลกราชตีเมืองเหนือ | พ.ศ. 1995 ไทยสากล | ||||||||
• สวามิภักดิ์ต่ออาณาจักรล้านนา | พ.ศ. 2003/2004 ไทยสากล | ||||||||
• ถูกผนวกเข้าสู่อาณาจักรล้านนา | พ.ศ. 2004/2005 ไทยสากล | ||||||||
| |||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | ประเทศไทย |
ประวัติศาสตร์ไทย |
---|
![]() |
ตัวเลขในวงเล็บ หมายถึง ปีพุทธศักราช |
นครรัฐเชลียง เป็นประเทศราชของอาณาจักรอยุธยา โดยมีศูนย์กลางที่เมืองศรีสัชนาลัย นครรัฐเชลียงได้รับการสันนิษฐานว่าถูกอาณาจักรอยุธยาแยกออกจากอาณาจักรสุโขทัยตามนโยบายแบ่งแยกแล้วปกครองเพื่อผนวกอาณาจักรสุโขทัย[1] ภายหลังถูกผนวกเข้าสู่อาณาจักรล้านนาระหว่างสงครามอยุธยา–ล้านนา (พ.ศ. 1984–2017)
ประวัติศาสตร์
[แก้]การปกครองเมืองเหนือของอาณาจักรอยุธยา
[แก้]อาณาจักรสุโขทัยตกอยู่ภายใต้อำนาจของอาณาจักรอยุธยาในรัชสมัยของสมเด็จพระอินทราชาและสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 แห่งอาณาจักรอยุธยา พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณและตำนานมูลศาสนาระบุว่า สุโขทัยและดินแดนโดยรอบ ซึ่งถูกเรียกโดยรวมว่า เมืองเหนือ ถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ สองแคว สุโขทัย เชลียง และกำแพงเพชร[2] พระราชพงศาวดารไทยที่ชำระในสมัยรัตนโกสินทร์ระบุทั้ง 4 เมืองให้เป็น 4 ใน 16 ประเทศราชของอาณาจักรอยุธยาในรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 แต่เนื่องจากข้อมูลประเทศราชเหล่านี้ขัดแย้งกับหลักฐานอื่น ทำให้ได้รับการสันนิษฐานว่า ถูกเพิ่มเติมเข้ามาในพงศาวดารในภายหลัง อาจตั้งแต่รัชกาลสมเด็จพระอินทราชา[3][4]
พระยาศรียศราช
[แก้]จารึกพระยาศรียศราช วัดหงส์รัตนารามฯ[5]กล่าวถึงกษัตริย์[6]แห่งเชลียงในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 1967 ไทยสากล[note 1][7] พระนามว่า พระยาศรียศราช โดยพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณออกพระนามว่า พระยาเชลียง และมีพระโอรสองค์หนึ่งพระนามว่า เจ้าราชศรียศ[8]
พระยาเชลียงถูกกล่าวถึงในเหตุการณ์สถาปนาพระยาบาลเมืองแห่งสองแควขึ้นเป็นพระมหาธรรมราชาที่ 4 ซึ่งเกิดขึ้นในปีใดปีหนึ่งก่อนปี พ.ศ. 1969 ไทยสากล[9][7][3] ทำให้มีการจัดมหรสพเฉลิมฉลองที่เมืองสองแคว ซึ่งพระยาเชลียงทรงได้มาช่วยงานด้วย เมืองเชลียงถูกกล่าวถึงอีกครั้งในสงครามตีเมืองตายทองโดยกองกำลังผสมจากเมืองเหนือและอาณาจักรอยุธยา
พระยาศรียศราชยังปรากฏในตำนานมูลศาสนาฝ่ายวัดสวนดอกในพระนาม ท้าวไสยศรียศ โดยระบุว่า เมื่อคณะสงฆ์วัดป่าแดงนำพุทธศาสนานิกายใหม่เข้ามาเผยแผ่ที่เชลียงในปี พ.ศ. 1973/1974 ไทยสากล (จ.ศ. 792) พระยาเชลียงทรงไม่อนุญาตให้คณะสงฆ์วัดป่าแดงบวชประชาชน[10]
ต่อมาในปี พ.ศ. 1976/1977 ไทยสากล (จ.ศ. 795) พญาอินทแก่นท้าวกษัตริย์แห่งนครรัฐน่านทรงถูกพระอนุชาชิงเมือง จึงเสด็จหนีไปยังเมืองเชลียง[11] พระยาเชลียงทรงรับอุปถัมภ์พญาอินทแก่นท้าวไว้และพาลงไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ณ กรุงศรีอยุธยา[8] ในปีต่อมา สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 โปรดให้เมืองเหนือทั้งสี่ นำโดยพระยาเชลียงรวมกำลังเข้าตีเมืองน่านเพื่อสนับสนุนพญาอินทแก่นท้าวขึ้นเป็นกษัตริย์ภายใต้อำนาจของอยุธยา ในระหว่างการเกณฑ์ไพร่พลนั้นเมืองไตรตรึงษ์ขัดขืนคำสั่งของพระยาเชลียง นครรัฐกำแพงเพชรรับหน้าที่เข้าตีเมืองไตรตรึงษ์แต่ไม่สำเร็จ ทำให้พระยาเชลียงทรงยกทัพมาช่วยจนได้เมืองไตรตรึงษ์[8] จากนั้นพระยาเชลียงและพญาอินทแก่นท้าวทรงนำกองทัพเมืองเหนือรบชนะกองทัพน่าน ทำให้พญาอินทแก่นท้าวทรงได้ครองเมืองน่านอีกครั้ง[12][11] พระยาเชลียงมีพระชนม์ถึง พ.ศ. 1991/1992 ไทยสากล (จ.ศ. 810) เป็นอย่างน้อย จากเหตุการณ์พระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนาทรงตีเมืองน่านแตก พื้นเมืองน่านระบุว่า พญาอินทแก่นท้าวได้เสด็จหนี "ไปหาพระญาแช่เลียงสหายตนเล่าแล"[11]
การสิ้นสุดของนครรัฐเชลียง
[แก้]ในต้นรัชกาลพระเจ้าติโลกราช เกิดความขัดแย้งระหว่างพระองค์และพระอนุชา เจ้าเมืองเทิงจึงลอบส่งหนังสือไปชักชวนสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ขึ้นมายึดล้านนา จนนำไปสู่สงครามตีเมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 1985/1986 ไทยสากล (จ.ศ. 804)[3] นครรัฐเชลียงและเมืองเหนืออื่นๆ มีส่วนร่วมในการตีเมืองเชียงใหม่ครั้งนี้ หนึ่งในพระยาผู้ปกครองได้เข้าชนช้างกับแม่ทัพเมืองพะเยา[note 2] แต่ไม่สามารถเอาชนะได้ ทำให้พระยายุทธิษเฐียรแห่งสองแควต้องเข้าช่วยเหลือ[13][14]
หลังสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถขึ้นครองราชย์ พระยายุทธิษเฐียรไม่พอพระทัยในตำแหน่งพระยาสองแคว[15]จึงทรงเข้าสวามิภักดิ์ต่ออาณาจักรล้านนาในปี พ.ศ. 1995 ไทยสากล ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ระบุว่า พระยายุทธิษเฐียรทรงชักชวนให้พระเจ้าติโลกราชให้ไปตีเมืองเชลียง แต่เมืองเชลียงป้องกันไว้ได้[13] ในขณะที่พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐระบุว่าเป็นเมืองสุโขทัย[3]
อาณาจักรอยุธยาและอาณาจักรล้านนาทำสงครามแย่งชิงเมืองเหนือหลายครั้งในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ในขณะเดียวกันสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้ทรงผนวกเมืองเหนือเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยา สองแคว สุโขทัย และกำแพงเพชรถูกลดสถานะจากประเทศราช โดยปรากฏตำแหน่งขุนนางเข้าปกครองแทน ได้แก่ ราชวังเมืองแห่งสองแควหลังปี พ.ศ. 1995 ไทยสากล[16][17] ขุนราชอาสาแห่งสุโขทัยและขุนเพชรรัตน์แห่งกำแพงเพชรในปี พ.ศ. 2000 ไทยสากล[14] ทว่าเมืองเชลียงยังคงปรากฏพระยาเชลียงเป็นผู้ปกครองในปี พ.ศ. 2004 ไทยสากล ซึ่งอาจมีพระนามว่า เจ้าแสน จากการตีความโคลงยวนพ่าย[18][19]
ในปี พ.ศ. 2003/2004 ไทยสากล (จ.ศ. 822) พระเจ้าติโลกราชทรงยกทัพมายังเมืองเชลียง พระยาเชลียงทรงยอมอ่อนน้อมต่ออาณาจักรล้านนา พระเจ้าติโลกราชจึงโปรดให้ครองเมืองเชลียงดังเดิม นครรัฐเชลียงในช่วงเวลานี้ได้รับการสันนิษฐานว่า อาจได้ปกครองเมืองสุโขทัยด้วย จากการที่ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่เรียกพระยาเชลียงว่า พระยาเชลียงสุโขทัย[3] อย่างไรก็ตาม อาณาจักรอยุธยาได้ยึดเมืองสุโขทัยคืนในปีถัดมา ในปีเดียวกันนั้น พระยาเชลียงทรงคิดไม่ซื่อต่อพระเจ้าติโลกราชจึงถูกจับตัวไปยังเชียงใหม่ จากนั้นถูกส่งตัวไปยังเมืองหางและสิ้นพระชนม์ที่นั่น นครรัฐเชลียงถูกผนวกเข้าสู่อาณาจักรล้านนาโดยพระเจ้าติโลกราชโปรดให้เมืองเชลียงอยู่ในการปกครองของหมื่นด้งนคร เจ้าเมืองลำปาง[13][note 3]
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ เทียบตามปฏิทินสุริยคติไทย โดยยึดวันปีใหม่คือ 1 มกราคม
- ↑ ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่แต่ละฉบับให้ความไม่ตรงกัน ฉบับ พ.ศ. 2514 ว่า ขอจูงหูไสเข้ารบพระยาชะเลียงสุโขทัยว่ากำแพงเปก ฉบับ พ.ศ. 2550 ว่า ขอจูงหูไสเข้ารบพระยาชะเลียงสุรเดชา ไทยว่ากำแพงเพชร และฉบับ พ.ศ. 2567 ว่า ถือขอสับช้างไสช้างเข้ารบพระญาชะเลียง สุโขทัย กำแพงเพชร
- ↑ ภายหลัง อยุธยาได้ชิงเมืองเชลียงคืนมาในปี พ.ศ. 2017 เมืองเชลียงจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยา
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ณ นคร, ประเสริฐ, ปาฐกถาชุด "สิรินธร" ครั้งที่ ๔ เรื่อง "ประวัติศาสตร์สุโขทัยจากจารึก" (PDF), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, p. 10, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2024-01-17, สืบค้นเมื่อ 2024-05-14
- ↑ ณ นคร, ประเสริฐ (1984), "ตำนานมูลศาสนา วัดป่าแดง เชียงตุง", สารัตถคดี ประเสริฐ ณ นคร, กรุงเทพฯ: ม.ป.ท., ISBN 974-551-897-2, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-05-31, สืบค้นเมื่อ 2024-05-27
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 หุตางกูร, ตรงใจ (2018), การปรับแก้เทียบศักราช และ การอธิบายความพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ, กรุงเทพฯ: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน), pp. 24, 38, 41, 44, 46, 50–51, 55, 57, 62–64, ISBN 978-616-7154-73-2
- ↑ ศรีสรรเพชญ์ (14 December 2015). "อยุธยาเพิ่งก่อตั้ง เหตุใดจึงมีเมืองประเทศราชถึง 16 เมืองครับ (พงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ) หรือผมเข้าใจผิด". Pantip. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-01-16. สืบค้นเมื่อ 2024-05-28.
- ↑ "จารึกพระยาศรียศราช วัดหงส์รัตนารามฯ". ฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย. 28 April 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-11-21. สืบค้นเมื่อ 2024-05-27.
- ↑ วิพากษ์ประวัติศาสตร์ (18 December 2018). "สถานะของมหาธรรมราชา กษัตริย์พิษณุโลกผู้ครองกรุงศรีอยุทธยา". Facebook. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-05-31. สืบค้นเมื่อ 2024-05-27.^
- ↑ 7.0 7.1 แซ่ลี่, เชิดศักดิ์; ริยาพร้าว, อรพิน; หุตางกูร, ตรงใจ (2024). สอบเทียบวันเดือนปีในจารึกสุโขทัย. เชียงใหม่: หน่วยพิมพ์เอกสาร คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. pp. 110–113. ISBN 978-616-616-720-7. สืบค้นเมื่อ 2025-03-03.
- ↑ 8.0 8.1 8.2 พงศ์ศรีเพียร, วินัย, บ.ก. (1996), "พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับปลีก หมายเลข ๒/ก๑๐๔ ต้นฉบับของหอพระสมุดวชิรญาณ" (PDF), ความยอกย้อนของประวัติศาสตร์, กรุงเทพฯ: คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย สำนักนายกรัฐมนตรี, pp. 205–209, 213–215, 223–228, ISBN 9747771977, สืบค้นเมื่อ 2024-05-27
- ↑ "จารึกรอยพระยุคลบาทวัดบวรฯ". ฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย. 28 April 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-03. สืบค้นเมื่อ 2024-06-02.
- ↑ ณ นคร, ประเสริฐ; ตุ้ยเขียว, ปวงคำ (1994), ตำนานมูลศาสนาเชียงใหม่และเชียงตุง, กรุงเทพฯ: สมาคมประวัติศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี, pp. 5, 19–20, 43, 45–50, ISBN 974-89152-9-8, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-05-31, สืบค้นเมื่อ 2024-05-31
- ↑ 11.0 11.1 11.2 อ๋องสกุล, สรัสวดี (2018). พื้นเมืองน่าน ฉบับวัดพระเกิด (2nd ed.). เชียงใหม่: ศูนย์ล้านนาศึกษา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. pp. 36–38. ISBN 978-616-398-335-0.
- ↑ เกียรติณภัทร, ธนโชติ (2024), "ความสัมพันธ์สุโขทัย-น่าน (และอยุธยา) หลัง พ.ศ. ๑๙๓๕", ใน แจ้งเร็ว, สุพจน์ (บ.ก.), นิตยสาร ศิลปวัฒนธรรม ประจำเดือน มีนาคม พ.ศ. 2567, กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มติชน, สืบค้นเมื่อ 2024-05-28
- ↑ 13.0 13.1 13.2 สำนักนายกรัฐมนตรี, คณะกรรมการจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์, บ.ก. (1971), ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ [Tamnan Phuen Mueang Chiang Mai] (PDF), แปลโดย โชติสุขรัตน์, สงวน, พระนคร: สำนักนายกรัฐมนตรี, pp. 52–54, 56–60, 65, สืบค้นเมื่อ 2024-05-01
- ↑ 14.0 14.1 พระครูโสภณกวีวัฒน์, บ.ก. (2007), ตำนานเมืองเชียงใหม่ สายธาร อารยธรรม ประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ ในล้านนา (PDF), เชียงใหม่: โรงพิมพ์มิ่งเมือง, pp. 64, 66, 69–73, 79, ISBN 978-974-09-1612-3, สืบค้นเมื่อ 2024-05-29
- ↑ เจียจันทร์พงษ์, พิเศษ (2010), การเมืองในประวัติศาสตร์ยุคสุโขทัย-อยุธยา พระมหาธรรมราชากษัตราธิราช (2nd ed.), กรุงเทพฯ: มติชน, pp. 77–78, ISBN 978-974-02-0401-5, สืบค้นเมื่อ 2024-05-15
- ↑ สุขคตะ, เพ็ญสุภา (1 August 2021). "ปริศนาโบราณคดี : 'ยวนพ่ายโคลงดั้น' (4) : 'พระญายุทธิษฐิระ' เลือดขัตติยะผู้พลัดถิ่น ชนวนแห่งสงครามล้านนา-อยุธยา?". มติชนสุดสัปดาห์. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-08-20. สืบค้นเมื่อ 2024-06-02.
- ↑ กระแสสินธุ์, ฉันทิชย์ (1970), ยวนพ่าย โคลงดั้น ฤายอพระเกียรติ พระเจ้าช้างเผือก กรุงเก่า บรรยายปฐมเหตุ อันเปนที่มาของการแต่งโคลงยวนพ่าย และประวัติแห่งรัชสมัยในแผ่นดิน สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ กรุงศรีอยุธยา ซึ่งทำยุทธการกับพระเจ้าติโลกราชแห่งกรุงนพบุรี ศรีพิงคนคร พุทธศักราช 1991-2031 พร้อมด้วยข้อวินิจฉัยทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี ประเพณี วัฒนธรรม, โรงพิมพ์มิตรสยาม, p. 151, OCLC 1281302969, สืบค้นเมื่อ 2024-06-02
- ↑ สุขคตะ, เพ็ญสุภา (15 August 2021). "ปริศนาโบราณคดี : "ยวนพ่ายโคลงดั้น" ตอนที่ 6 : ข้อมูลใหม่ พบร่องรอยใครคือ "หมื่นด้งนคร"?". มติชนสุดสัปดาห์. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-11-06. สืบค้นเมื่อ 2024-06-02.
- ↑ กงกะนันทน์, วิภา (2013). "บทสรุปประมวลผลการวิจัยว่าด้วยการค้นพบประวัติผู้แต่งกวีนิพนธ์เรื่องยวนพ่ายและลิลิตพระลอ" [A Conclusion of the Research on a Discovery of the Poet Who Composed the Ancient Poem, Yuan Phai and Lilit Phra Lo] (PDF). วารสารรามคำแหง ฉบับมนุษยศาสตร์. 32: 109–125. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2024-06-03. สืบค้นเมื่อ 2024-06-02.