ข้ามไปเนื้อหา

เพชรา เชาวราษฎร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เพชรา เชาวราษฎร์
เพชรา เชาวราษฎร์
เพชรา เชาวราษฎร์
สารนิเทศภูมิหลัง
ชื่อเกิดเอก เชาวราษฎร์
ชื่ออื่นปัทมา เชาวราษฎร์
เกิด19 มกราคม พ.ศ. 2485 (82 ปี)
จังหวัดระยอง ประเทศไทย
คู่สมรสชรินทร์ นันทนาคร
(2512 – 2567) (55 ปี)
บุตร1 คน (เสียชีวิต)
อาชีพ
  • นักแสดง
  • นักจัดรายการวิทยุ
ปีที่แสดงพ.ศ. 2505 – 2521 (16 ปี)
รางวัล
ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง
(ภาพยนตร์) พ.ศ. 2561
พระสุรัสวดีนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
พ.ศ. 2507 – นกน้อย
ชมรมวิจารณ์บันเทิงรางวัลคู่ขวัญดาราทอง
พ.ศ. 2508 – เงิน เงิน เงิน

เพชรา เชาวราษฎร์ (เกิด 19 มกราคม พ.ศ. 2485)[1] หรือชื่อจริงว่า เอก นันทนาคร ชื่อเล่น อี๊ด เป็นนักแสดง และ นักจัดรายการวิทยุชาวไทย เจ้าของฉายา “นางเอกนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง“ มีผลงานแสดงภาพยนตร์ราว 300 เรื่อง ระหว่าง พ.ศ. 2505 – 2521 บทบาทการแสดงของเธอมีความหลากหลาย ตั้งแต่เป็นเจ้าหญิง เด็กแก่นแก้ว จนกระทั่งแสดงเป็นขอทาน และยังเคยแสดงภาพยนตร์กำลังภายในจีนของประเทศไต้หวัน

เพชรา เชาวราษฎร์ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์) ประจำปี พ.ศ. 2561[2]

ประวัติ

[แก้]

วัยเด็ก

[แก้]

เพชรา เชาวราษฎร์ หรือชื่อจริง เอก นันทนาคร เกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2485 ที่ตำบลน้ำคอก อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เป็นบุตรคนที่ 4 จากพี่น้องทั้งหมด 7 คน บิดามีเชื้อสายจีนด้วยปู่เป็นจีนอพยพ ส่วนมารดาเป็นคนไทย ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขายและทำไร่สวน เบื้องต้นเธอจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนเกาะกลอย[3]

เมื่ออายุ 15 ปี ได้เข้าเรียนกวดวิชาที่กรุงเทพมหานครจนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3[4] โดยพักอาศัยอยู่กับพี่สาวและพี่เขย และช่วยงานที่ร้านเสริมสวยของน้องสาวพี่เขย เธอได้รับการชักชวนให้เข้าประกวดเทพธิดาเมษาฮาวาย ประจำปี พ.ศ. 2504 จัดโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ใช้ชื่อในการประกวดว่า ปัทมา เชาวราษฎร์ ได้ตำแหน่งชนะเลิศ[5]

เข้าสู่วงการ

[แก้]

เธอได้รับการชักชวนจาก ศิริ ศิริจินดา และ ดอกดิน กัญญามาลย์ ให้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต บันทึกรักของพิมพ์ฉวี เมื่อ พ.ศ. 2505 เป็นเรื่องแรกขณะอายุ 19 ปี แสดงคู่กับ มิตร ชัยบัญชา โดย ดอกดิน กัญญามาลย์ เป็นผู้ตั้งชื่อว่า "เพชรา เชาวราษฎร์" โดยให้เหตุผลว่าปัทมาชื่อเก่านั้นเรียบไป[3] ส่วน เจน จำรัสศิลป์ได้ตั้งฉายาให้ว่า "นางเอกสาวนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง"[6]

เพชรา เชาวราษฎร์ แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากภาพยนตร์เรื่องที่สอง เรื่อง ดอกแก้ว ตามด้วย หนึ่งในทรวง, อ้อมอกสวรรค์ และได้แสดงคู่กับ มิตร ชัยบัญชา รับบทคู่รักในภาพยนตร์อีกหลายเรื่องจนเป็นที่ชื่นชอบของแฟนภาพยนตร์เรียกว่า คู่ขวัญ มิตร-เพชรา ที่มีชื่อเสียงสูงสุดช่วงปี พ.ศ. 2506-2513[7] ในยุคที่เธอโด่งดังมากที่สุด แต่ละเดือนมีคิวถ่ายหนังประมาณ 12-18 เรื่อง แต่ละวันต้องถ่ายทำภาพยนตร์วันละ 3-4 เรื่อง ในปี พ.ศ. 2508 เพชราเข้ารับพระราชทานรางวัลตุ๊กตาทอง จากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของเธอ เธอเคยกล่าวไว้ว่า "เป็นความประทับใจ เป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต และจะไม่มีวันลืมตราบที่ยังมีลมหายใจ"[8] จากบทบาทภาพยนตร์เรื่อง นกน้อย

หลังจาก มิตร ชัยบัญชา ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในการถ่ายภาพยนตร์เรื่อง อินทรีทอง เพชรายังรับบทนางเอกภาพยนตร์ต่อเนื่องมาอีกหลายปี คู่กับ สมบัติ เมทะนี, ไชยา สุริยัน, ลือชัย นฤนาท และพระเอกใหม่ ครรชิต ขวัญประชา, นาท ภูวนัย, ยอดชาย เมฆสุวรรณ, กรุง ศรีวิไล.

เพชราเคยต้องเผชิญกับวิกฤตการเงินครั้งใหญ่เมื่อถูกกรมสรรพากรเล่นงานเรื่องภาษีถึงขั้นฟ้องล้มละลาย จนต้องเลหลังขายบ้าน แต่ในตอนนั้น ชรินทร์ นันทนาคร ทำภาพยนตร์ใหม่เรื่อง เพลงรักดอกไม้บาน นำแสดงโดย นันทิดา แก้วบัวสาย เมื่อหนังออกฉายก็พอมีเงินใช้หนี้ และได้เข้าเจรจากับกรมสรรพากรขอส่งตามที่มี แต่บางครั้งเมื่อขาดส่งทีไรหนังสือพิมพ์ก็มักลงข่าวว่า "เพชราโกงภาษี" ทุกที[9]

โลกแห่งความมืด

[แก้]
มิตร ชัยบัญชา กับ เพชรา เชาวราษฎร์ นักแสดงคู่ขวัญภาพยนตร์ไทย

ประมาณ พ.ศ. 2515 เธอเริ่มมีปัญหาเรื่องสายตา เนื่องจากในการถ่ายภาพยนตร์ต้องใช้แสงไฟสว่างจ้า[4] ใช้เวลารักษาอยู่หลายปี จนกระทั่งตาบอดสนิททั้งสองข้าง เมื่อ พ.ศ. 2521[4] ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่เธอแสดงคือเรื่อง ไอ้ขุนทอง ซึ่งเธออำนวยการสร้าง และแสดงเป็นแม่ของพระเอก รับบทโดย สรพงศ์ ชาตรี

สาเหตุของการตาบอดของเพชรา มาจากการไม่ได้พักสายตา ไม่ว่าจะเป็นบทบาทที่ต้องร้องไห้บ่อย การขับรถไปทำงานเอง ประกอบกับสมัยนั้นถ่ายหนังต้องใช้ไฟแรง หรือใช้รีเฟล็กซ์เยอะ ช่วงหลัง ๆ ที่ถ่ายหนังเรื่อง “ไทยใหญ่” เมื่อปี 2513 เริ่มแสบตา แต่เธอก็ยังขับรถไปถ่ายหนังต่างจังหวัดเอง และอดทนแสดงภาพยนตร์จนถึงเรื่องสุดท้ายคือ “ไอ้ขุนทอง” เข้าฉายในปี 2520

เมื่อดวงตาเริ่มมีปัญหาจึงไปหาหมอ แต่ว่าไม่ได้ไปตามนัดโดยสม่ำเสมอ เพราะต้องไปถ่ายหนัง บางวันก็อยู่ต่างจังหวัด พออาการเริ่มหนักขึ้น ถึงขั้นขับรถปีนเกาะกลางถนนหลายครั้ง ช่วงที่อาการหนักมาก ๆ ก็พยายามรักษาทุกวิถีทางครั้นเมื่อแพทย์ให้ยารักษาตามารับประทาน เธอได้แพ้ยาดังกล่าวจนตัวบวม จากเดิมน้ำหนัก 47-48 กิโลกรัม ขึ้นหนัก 60 กว่ากิโลกรัม ต้องซื้อเสื้อผ้าคนท้องมาใส่ ผมร่วงหมดศีรษะ ฝ้าขึ้นดำไปทั้งหน้าทั้งตัว เมื่อตัวบวมมาก ๆ ก็หายใจไม่ออก[10] กลืนน้ำก็ไม่ได้ ต้องเข้าไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล การทำงานของไตหยุด พิษยาจึงคั่งค้างทำให้ตัวบวม ต้องรอให้พิษยาลดลง จากที่เคยสวมแว่นดำและนั่งแท็กซี่ไปไหนมาไหนได้เอง ตอนหลังก็มองไม่เห็น ออกไปไหนคนเดียวไม่ได้[11]

ครั้นเวลาต่อมาเธอจึงเข้าผ่าตัดดวงตาด้วยหวังใจจะรักษาหาย แต่ผลกลับทำให้ตาที่เห็นเลือนรางกลายเป็นบอดสนิทในที่สุด[10] หลังตาบอดสนิทในกลางปี 2524 หลังจากนั้นเธอก็ไม่ปรากฏตัวที่ไหนอีกเลย

คืนวงการ

[แก้]

หลังจากหยุดงานแสดงเพื่อรักษาสุขภาพมาหลายปี เธอทำงานเป็นนักจัดรายการวิทยุคลื่นลูกทุ่งเอฟเอ็ม ตั้งแต่ พ.ศ. 2544-2548 เธอก็ไม่ปรากฏตัวในที่แห่งใดส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในบริเวณบ้าน โดยเธอให้เหตุผลว่า "ไม่ค่อยได้ออกไปไหนไม่อยากเป็นภาระคนอื่นเขาเพราะว่าถ้าไปต้องมีคนช่วยดูแลหน้าตาอะไรต่ออะไรรวมทั้งเครื่องแต่งตัวดูว่าพอใช้ได้ใช่มั้ย ไม่ใช่ออกไป โอ้โห แล้วคนเขาจำได้ด้วยไง ถ้าเราแต่งตัวอยู่ในสภาพไม่พร้อมนี่ อยากมุดแผ่นดินหนี แต่เราอยู่ในสภาพที่ดีแล้วยังคุยกันได้ ยังพอรู้เรื่อง"[10]

ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2552 เธอให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ครั้งแรกในรอบ 30 ปี ในรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย ซึ่งดำเนินรายการโดย วุฒิธร มิลินทจินดา หรือ วู้ดดี้ โดยเข้าไปคุยในบ้านของเธอเองพร้อมพูดเปิดใจและบอกสาเหตุที่เก็บตัวเงียบ ไม่ยอมออกรายการโทรทัศน์ แต่ยังคงไม่เปิดเผยหน้าตา[12]

เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2552 เพชราได้รับงานโฆษณาลิปสติกมิสทีน จากการเข้าติดต่อการเจรจาถึง 9 ครั้ง[13] จนครั้งสุดท้ายที่สำเร็จ โดยรายได้จากงานครั้งนี้เพชราจะบริจาคให้องค์กรการกุศลทั้งหมด ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับมูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย โฆษณาประชาสัมพันธ์ได้แพร่ภาพเมื่อประมาณกลางเดือนกันยายน โดยตัวแรกที่นำเสนอภาพของเพชราในอดีต และตัวที่สองมีพรีเซนเตอร์ของมิสทีนคนก่อน ๆ มาพูดถึงจุดเด่นของโฆษณาตัวนี้ โฆษณาชุดนี้ถ่ายทำเมื่อวันที่ 16-17 กันยายน และเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552 โดยผู้บรรยายโฆษณาคือ นิรุตต์ ศิริจรรยา และผู้ขับร้องเพลง หยาดเพชร เพลงประกอบโฆษณาชิ้นนี้คือ ศุกลวัฒน์ คณารศ นับเป็นโฆษณาทางโทรทัศน์ตัวแรกในรอบกว่า 30 ปีที่เธอยอมให้มีการถ่ายภาพใบหน้าของเธออย่างชัดเจน[14][15][16]

เพชรากลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อมีผู้นำคลิปงานเลี้ยงวันเกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559 ซึ่งชรินทร์ สามี ได้ขับร้องเพลง หยาดเพชร ให้แก่เธอมาเผยแพร่ในสังคมออนไลน์[17] โดยก่อนหน้านี้ในวันเกิดเมื่อปี 2558 ศุภชัย ศรีวิจิตร ได้โพสต์ภาพของเพชราลงในบัญชีผู้ใช้อินสตาแกรมของเขา[18] และในเดือนกันยายน พ.ศ. 2559 เพชราได้รับเป็นพรีเซนเตอร์ของศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคตับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์[19]

ชีวิตส่วนตัว

[แก้]
เพชรา เชาวราษฎร์ (ศิลปินแห่งชาติ) มาประทับรอยมือและรอยเท้าที่ หอภาพยนตร์ องค์การมหาชน เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2563

เพชราเคยมีคู่หมั้นเป็นลูกเศรษฐีเจ้าของอู่ต่อเรือประมงเมื่อตอนอายุ 15 ปี โดยผู้ใหญ่จะตัดสินใจรับหมั้น แต่ด้วยความที่อายุน้อยจึงบ่ายเบี่ยงไปตลอดเกือบ 2 ปี ครั้นเมื่อจวนจะถึงวันสมรสเพชราจึงหนีไปก่อนวันเข้าพิธี 20 วัน[6][20] อันเป็นเหตุที่ทำให้พ่อแม่เธอชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมาก[5] และหลังจากนั้นก็มีชายหนุ่มมากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้าหาเธอเพื่อหวังสานสัมพันธ์แต่เธอปฏิเสธทั้งหมด[6]

เธอมีความสนิทสนมกับมิตร ชัยบัญชา อย่างมาก หลังรู้จักกันครั้งแรกจากการแสดงภาพยนตร์เรื่อง บันทึกรักของพิมพ์ฉวี ซึ่งถ่ายทำนานราว 3-4 เดือนจนสนิทสนมกัน[7] เพชรากล่าวว่าเธอมองมิตรเป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอเพราะเกิดปีเดียวกับพี่ชายคนโตจึงรักและเคารพยิ่ง และมิตรเองได้ทำหน้าที่ปกป้องเพชราหากมีผู้ชายเจ้าชู้เข้ามาใกล้เธอ[6][7] หลังมิตรเสียชีวิต เพชรากล่าวว่าเธอฝันเห็นเขาหลังจากนั้นกว่า 20 ปี[7]

เพชราสมรสกับชรินทร์ นันทนาคร และได้ร่วมแสดงกับชรินทร์ครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง แพนน้อย พ.ศ. 2506 หลังฝ่ายชายได้เลิกรากับสปัน เธียรประสิทธิ์ ไปก่อนหน้านี้[5] ในปี พ.ศ. 2518 เพชราและชรินทร์จึงตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งคู่แต่งงานกันเงียบ ๆ เลี้ยงเพื่อนร่วมวงการเพียงไม่กี่คน[21] เพชราและชรินทร์ไม่มีบุตรด้วยกัน เคยตั้งครรภ์ถึง 3 ครั้ง คนที่ 3 อุ้มท้องนาน 6-7 เดือน แต่อยู่วันหนึ่งต้นโกสนถูกลมพัดล้มลงบนพื้น เพชราจึงก้มไปหยิบต้นไม้ตั้งไว้อย่างเดิม แต่เป็นเหตุทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน ฉีดยาห้ามเลือดอยู่ 1-2 วัน สุดท้ายหมอได้ทำคลอดออกมาเป็นผู้ชายแต่ไม่หายใจแล้ว[22]

เพชรามีหลานสาวเป็นนักแสดง คือ นันทรัตน์ ชาวราษฎร์ (ชื่อเล่น ตรี) ซึ่งเป็นบุตรของจำรัส เชาวราษฎร์ ผู้จัดการออนไลน์ว่าผู้นี้เป็นน้องชายคนหนึ่งของเพชรา[23] ต่อมานันทรัตน์ได้ออกมาระบุว่า ปู่ของเธอเป็นน้องชายของบิดาเพชรา และยืนยันว่าตนเป็นญาติเพชราจริง โดยเพชรามีศักดิ์เป็นป้า[24] ต่อมานันทรัตน์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า "เธอกับเพชราเป็นญาติที่ห่างมาก ๆ จนแทบนับญาติกันไม่ได้"[25]

ผลงานภาพยนตร์

[แก้]
  • บันทึกรักของพิมพ์ฉวี (2505)
  • อ้อมอกสวรรค์ (2505)
  • ดอกแก้ว (2505)
  • หนึ่งในทรวง (2505)
  • ใจเพชร (2506)
  • อวสานอินทรีแดง (2506)
  • เหยี่ยวดำ (2506)
  • แพนน้อย (2506)
  • รวงแก้ว (2506)
  • นกน้อย (2507)
  • พรายดำ (2507)
  • ตำหนักเพชร (2507)
  • พันธุ์ลูกหม้อ (2507)
  • ร้อยป่า (2507)
  • เลิศชาย (2507)
  • สิงห์ล่าสิงห์ (2507)
  • สมิงบ้านไร่ (2507)
  • พนาสวรรค์ (2507)
  • มังกรคนอง (2507)
  • หัวใจเถื่อน (2507)
  • เก้ามหากาฬ (2507)
  • จ้าวพยัคฆ์ (2507)
  • เทพบุตร 12 คม (2507)
  • ลมหวน (2508)
  • 5 พยัคฆ์ร้าย (2508)
  • ชาติเจ้าพระยา (2508)
  • เงิน เงิน เงิน (2508)
  • จอมใจ (2508)
  • ใจฟ้า (2508)
  • นกขมิ้น (2508)
  • หยกแก้ว (2508)
  • วังเสือ (2508)
  • ขวัญชวีต (2508)
  • ฉัตรดาว (2508)
  • ชาติฉกรรจ์ (2508)
  • ชื่นชีวา (2508)
  • เทพบุตรนักเลง (2508)
  • แผ่นดินสวรรค์ (2508)
  • อ้อมอกดิน (2508)
  • มังกรดำ (2508)
  • น้องนุช (2508)
  • น้ำผึ้งป่า (2508)
  • น้ำเพชร (2508)
  • ลูกของแม่ (2508)
  • สุภาพบุรุษนักเลง (2508)
  • วีระบุรุษเมืองใต้ (2508)
  • ถิ่นผู้ดี (2508)
  • ทาสผยอง (2508)
  • เพชรน้ำผึ้ง (2508)
  • ลูกผู้ชายชื่อไอ้แผน (2508)
  • เกิดเป็นหงส์ (2509)
  • หงส์เหิร (2509)
  • ตัวต่อตัว (2509)
  • เพชรตัดเพชร (2509)
  • สามเกลอเจอล่องหน (2509)
  • นกเอี้ยง (2509)
  • แสงเทียน (2509)
  • เพชรสีเลือด (2509)
  • เสือสั่งถ้ำ (2509)
  • เหยี่ยวสังหาร (2509)
  • ชุมทางรัก (2509)
  • เปลวสุริยา (2509)
  • นกแก้ว (2509)
  • นางนกป่า (2509)
  • ลมหนาว (2509)
  • เจ้าแม่สร้อยดอกหมากฯ (2509)
  • นกยูง (2509)
  • พระอภัยมณี (2509)
  • พิษพยศ (2509)
  • มือปืนสิบทิศ (2509)
  • วังไพร (2509)
  • สายเลือดกตัญญู (2509)
  • เสือเหลือง (2509)
  • งูผี (2509)
  • 4 สมิง (2509)
  • จอมประจัญบาน (2509)
  • ชุมทางหาดใหญ่ (2509)
  • ดรุณีสีเลือด (2509)
  • น้ำค้าง (2509)
  • ปีศาจดำ (2509)
  • มือนาง (2509)
  • แม่ยอดชีวิต (2509)
  • ชาติกระทิง (2509)
  • ใกล้รุ่ง (2510)
  • จันทร์เจ้า (2510)
  • ผึ้งหลวง (2510)
  • 7 พระกาฬ (2510)
  • จุฬาตรีคูณ (2510)
  • ปิ่นรัก (2510)
  • ปูจ๋า (2510)
  • มดแดง (2510)
  • นางพรายตานี (2510)
  • โป๊ยเซียน (2510)
  • สิงห์หนุ่ม (2510)
  • ตำหนักแดง (2510)
  • 9 เสือ (2510)
  • โนรี (2510)
  • ฟ้าเพียงดิน (2510)
  • ไฟเสน่หา (2510)
  • 5 พยัคฆ์สาว (2510)
  • แก้วกาหลง (2510)
  • ใจนาง (2510)
  • ใต้เงาปืน (2510)
  • เทพธิดาบ้านไร่ (2510)
  • นางนวล (2510)
  • สายเปล (2510)
  • สาวจ้าวสมิง (2510)
  • แสนรัก (2510)
  • เหนือเกล้า (2510)
  • เทพปืนทอง (2510)
  • มนุษย์ทองคำ (2510)
  • ตั๊กแตน (2510)
  • แมวเหมียว (2510)
  • ภูพานอย่าร้องไห้ (2510)
  • ทะเลเงิน (2510)
  • สุดแผ่นดิน (2510)
  • เหนือนักเลง (2510)
  • ดอกบัว (2511)
  • พรายพิศวาส (2511)
  • จักจั่น (2511)
  • ไอ้หนึ่ง (2511)
  • กบเต้น (2511)
  • แสนงอน (2511)
  • ดอกอ้อ (2511)
  • น้ำอ้อย (2511)
  • พระลอ (2511)
  • ยอดแก่น (2511)
  • รักเอย (2511)
  • ลูกชาติเสือ (2511)
  • เลือดอาชาไนย (2511)
  • เงิน จ๋า เงิน (2511)
  • สิงห์ล้างสิงห์ (2511)
  • ลูกแมว (2511)
  • สกุลกา (2511)
  • สมิงดง (2511)
  • กำพร้า (2511)
  • ขวัญเรือน (2511)
  • แท็กซี่ (2511)
  • เพชรตะวัน (2511)
  • แมวไทย (2511)
  • ยอดชีวิต (2511)
  • สองฟากฟ้า (2511)
  • สัญชาติชาย (2511)
  • แสนสงสาร (2511)
  • เหนือน้ำใจ (2511)
  • เฟื่องฟ้า (2511)
  • 16 ปีแห่งความหลัง (2511)
  • มรกตแดง (2511)
  • ทรามวัยใจเพชร (2511)
  • ไก่แก้ว (2512)
  • เพชรแท้ (2512)
  • เศรษฐีข้างถนน (2512)
  • สมิงจ้าวท่า (2512)
  • รัก-ยม (2512)
  • ปีศาจเสน่หา (2512)
  • ลูกเขย (2512)
  • ไอ้เปีย (2512)
  • ลูกปลา (2512)
  • จอมคน (2512)
  • อภินิหารอาจารย์ทอง (2512)
  • ยอดคนจริง (2512)
  • จอมพล (2512)
  • ปลาไหลทอง (2512)
  • แม่ค้า (2512)
  • วิมานไฟ (2512)
  • ไพรรัก (2512)
  • ขวัญหล้า (2512)
  • ยอดคนจริง (2512)
  • สอยดาวสาวเดือน (2512)
  • ชาติลำชี (2512)
  • ปราสาททราย (2512)
  • กามเทพลวง (2512)
  • ลอยกระทง (2512)
  • เทพบุตรสลาตัน (2512)
  • ความรักเจ้าขา (2512)
  • สวรรค์วันเพ็ญ (2512)
  • รอยพราน (2512)
  • คฤหาสน์รัก (2512)
  • ผีเสื้อ (2512)
  • หลั่งเลือดแดนสิงห์ (2512)
  • เขี้ยวพยัคฆ์ (2512)
  • ไทยน้อย (2512)
  • เด็กวัด (2512)
  • ลูกสาวพระอาทิตย์ (2512)
  • หาดใหญ่ใจสู้ (2512)
  • เพลงรักแม่น้ำแคว (2513)
  • รักนิรันดร์ (2513)
  • ไทยใหญ่ (2513)
  • ขุนทาส (2513)
  • หวานใจ (2513)
  • ไอ้สู้ (2513)
  • ท่าจีน (2513)
  • เงินจางนางจร (2513)
  • มนต์รักลูกทุ่ง (2513)
  • เรือมนุษย์ (2513)
  • ไอ้เบี้ยว (2513)
  • สวรรค์เบี่ยง (2513)
  • วิญญาณดอกประดู่ (2513)
  • ลูกหนี้ทีเด็ด (2513)
  • ม้ามืด (2513)
  • จอมโจรมเหศวร (2513)
  • เจ้าแม่สไบทอง (2513)
  • กำแพงเงินตรา (2513)
  • 7 สิงห์คืนถิ่น (2513)
  • ชุมทางนักเลง (2513)
  • ลำพู (2513)
  • รักเธอเสมอ (2513)
  • อัศวินดาบกายสิทธิ์ (2513)
  • อินทรีทอง (2513)
  • บ้านสาวโสด (2513)
  • เสน่ห์ลูกทุ่ง (2513)
  • ฝนเหนือ (2513)
  • ฝนใต้ (2513)
  • ไอ้หนุ่มบ้านนา (2514)
  • นักบุญทรงกลด (2514)
  • ดวงใจสวรรค์ (2514)
  • ไอ้ทุย (2514)
  • เสือขาว (2514)
  • ดาบคู่สะท้านโลกันต์ (2514)
  • อรุณรุ่งฟ้า (2514)
  • ยั่วรัก (2514)
  • เหนือพญายม (2514)
  • เขยตีนโต (2514)
  • คีรีบูน (2514)
  • มนต์รักป่าซาง (2514)
  • ทโมนไพร (2514)
  • เจ้าจอม (2514)
  • เจ้าสาวขี้คุก (2514)
  • สื่อกามเทพ (2514)
  • วิมานสีทอง (2514)
  • ยมบาลเจ้าขา (2514)
  • ลำดวน (2514)
  • อีรวง (2514)
  • พุดตาล (2514)
  • ธารรักไทรโยค (2514)
  • คนใจบอด (2514)
  • ลานพัยพญ้า (2514)
  • ไก่นา (2514)
  • แม่ศรีไพร (2514)
  • มนต์รักจากใจ (2514)
  • แม่นม (2514)
  • ยอดต่อยอด (2514)
  • ทุ่งเศรษฐี (2514)
  • รักร้อน (2514)
  • ลูกยอด (2514)
  • พิษผยอง (2514)
  • รักจ๋ารัก (2514)
  • เชิงชายชาญ (2514)
  • มดตะนอย (2514)
  • สุดที่รัก (2514)
  • แก้วขนเหล็ก (2514)
  • เลือดแม่ (2515)
  • หัวใจปรารถนา (2515)
  • เชียงตุง (2515)
  • กว๊านพะเยา (2515)
  • ระเริงชล (2515)
  • มนต์กากี (2515)
  • พ่อปลาไหล (2515)
  • กลิ่นร่ำ (2515)
  • น้ำผึ้งพระจันทร์ (2515)
  • ลานสาวกอด (2515)
  • วิวาห์ลูกทุ่ง (2515)
  • จันทร์แรม (2515)
  • มนต์รักดอกคำใต้ (2515)
  • หัวใจป่า (2515)
  • สุดสายป่าน (2515)
  • แสนทนง (2515)
  • รักคืนเรือน (2515)
  • หาดทรายแก้ว (2515)
  • กล้าสิบทิศ (2515)
  • คุ้มนางฟ้า (2515)
  • เจ้าสาวเรือพ่วง (2516)
  • ไอ้แดง (2516)
  • กุหลาบไฟ (2516)
  • สายฝน (2516)
  • ไม้ป่า (2516)
  • พยัคฆ์พันลาย (2516)
  • เตะฝุ่น (2516)
  • ดอนโขมด (2516)
  • เจ้าปลิวสิงห์สุพรรณ (2516)
  • หัวใจหิน (2516)
  • อีสาน (2517)
  • แว่วเสียงลมรัก (2517)
  • กังหันสวาท (2517)
  • ดอกคูนเสียงแคน (2517)
  • แผ่นดินแม่ (2518)
  • ชะตาชีวิต (2519)
  • ฉันไม่อยากเป็นคุณนาย (2519)
  • ลูกเจ้าพระยา (2520)
  • ไอ้ขุนทอง (2521)
  • พ่อปลาไหล (2524)

รางวัล

[แก้]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. วันเกิด เพชรา เชาวราษฎร์[ลิงก์เสีย]
  2. ธนกร วงษ์ปัญญา. "ประกาศยกย่อง 12 บุคคล เป็นศิลปินแห่งชาติปี 2561 เพชรา เชาวราษฎร์, ประภาส ชลศรานนท์, แดนอรัญ แสงทอง". เดอะสแตนดาร์ด.
  3. 3.0 3.1 "เสียงจากเพชรา เชาวราษฏร์ เพชรของภาพยนตร์ไทย". มูลนิธิหนังไทย. 9 กรกฎาคม 2547. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-27. สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  4. 4.0 4.1 4.2 30ปีแห่งความหลัง"เพชรา เชาวราษฎร์" เก็บถาวร 2009-09-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน komchadluek.net
  5. 5.0 5.1 5.2 ""เพชรา" ในความทรงจำ (ตอนที่ 1)". ผู้จัดการ. 28 กันยายน 2552. สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  6. 6.0 6.1 6.2 6.3 "เส้นทางรัก...เพชรามาถึงวันนี้ที่มีแต่ "ชรินทร์"". คมชัดลึก. 6 ตุลาคม 2552. สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. 7.0 7.1 7.2 7.3 "'ถ้ามีเขาเราคงไม่อ้างว้างอย่างนี้...' เพชรา ถึง มิตร ชัยบัญชา พี่ชายที่แสนดี". ไทยรัฐออนไลน์. 2 มกราคม 2554. สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  8. ย้อนฉากชีวิต 'เพชรา' 'เอก เชาวราษฎร์' dailynews.co.th
  9. พิสุทธินี, "ชรินทร์ นันทนาคร", นิตยสารลิปส์ ฉบับปักษ์หลังมกราคม 2553 หน้า 178-185
  10. 10.0 10.1 10.2 ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง (7 มกราคม 2559). "สิ่งดี ๆ ในโลกมืด จากปาก "เพชรา เชาวราษฎร์"". มติชนออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  11. ชีวิตในโลกมืด ของอดีตนางเอกนัยน์ตา หยาดน้ำผึ้งเพชรา เชาวราษฎร์ 14 พ.ค. 49 - 04:24 ไทยรัฐ
  12. "วู้ดดี้เกิดมาคุย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-03-26. สืบค้นเมื่อ 2009-03-23.
  13. 30 ปีแห่งความหวังกับวันที่รอคอย[ลิงก์เสีย] dailynews.co.th
  14. ฮือฮา!! เพชรา เชาวราษฎร์ รับเป็นพรีเซ็นเตอร์เครื่องสำอางชื่อดัง
  15. อดีตดาราดัง เพชรา เชาวราษฎร์ รับพรีเซ็นเตอร์มิสทีน!!
  16. เพชรา เชาวราษฎร์ ปัจจุบัน เพชรา เชาวราษฎร์ ถ่ายโฆษณา
  17. หวานซึ้ง! ชรินทร์ ครวญเพลง"หยาดเพชร"ในวันเกิด เพชรา
  18. "ยลโฉม "เพชรา เชาวราษฎร์" ในวัย 72 ปี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-01-22. สืบค้นเมื่อ 2016-01-22.
  19. เผยโฉมนางเอกตลอดกาล เพชรา เชาวราษฎร์ ปัจจุบันยังสวยเซี้ยะ!
  20. "เพชรา เชาวราษฎร์ กับ 30 ปี ที่แฟน ๆ คิดถึง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-09-28. สืบค้นเมื่อ 2009-10-04.
  21. "เพชรา" ในความทรงจำ (ตอนที่ 1) เก็บถาวร 2017-07-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ASTVผู้จัดการออนไลน์
  22. พิสุทธินี, "ชรินทร์ นันทนาคร", นิตยสารลิปส์ ฉบับปักษ์หลังมกราคม 2553 หน้า 178-185
  23. "ทายาท "เพชรา" มาแล้วจ้า ..."ตรี-นันทรัตน์ ชาวราษฎร์"". ผู้จัดการรายวัน. 16 เมษายน 2553. สืบค้นเมื่อ 22 มกราคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  24. "ตรี ท้าพิสูจน์บัตรประชาชนแอบอ้างเป็นหลาน เพชรา". อาร์วายทีไนน์. 27 กรกฎาคม 2553. สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  25. "'ตรี' สาวเซ็กซี่ไซส์มินิ คบแฟนแก่กว่า 1 รอบ พอใจอึ๋มเล็กพริกขี้หน". บ้านเมือง. 29 กันยายน 2556. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-01. สืบค้นเมื่อ 22 มกราคม 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  26. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๖๓ เก็บถาวร 2022-05-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒ ข หน้า ๒๔๑, ๒๙ มกราคม ๒๕๖๔

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]