ข้ามไปเนื้อหา

ผู้นำฝ่ายสัมพันธมิตรระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ผู้นำฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามแปซิฟิก: เจียง ไคเชก, แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ และวินสตัน เชอร์ชิล ในการประชุมไคโร เมื่อ ค.ศ. 1943
ผู้นำสุดท้ายของฝ่ายสัมพันธมิตร: เคลเมนต์ แอตต์ลี, แฮร์รี เอส. ทรูแมน และโจเซฟ สตาลิน ในการประชุมพ็อทซ์ดัม เมื่อ ค.ศ. 1945

ผู้นำฝ่ายสัมพันธมิตรระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ประกอบไปด้วยบุคคลสำคัญต่าง ๆ จากหลาย ๆ ประเทศ ทั้งนักการเมืองและนักการทหาร บรรดาบุคคลเหล่านี้ได้แก่

ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ และนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร วินสตัน เชอร์ชิล ในการประชุมกาซาบล็องกา ค.ศ. 1943
ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์, นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร วินสตัน เชอร์ชิล, และผู้เข้าร่วมการประชุมในกาซาบล็องกา, ค.ศ. 1943
ผู้นำหลักสุดท้ายของฝ่ายสัมพันธมิตร: เคลเมนต์ แอตต์ลี (สหราชอาณาจักร), แฮร์รี เอส. ทรูแมน (สหรัฐ), โจเซฟ สตาลิน (สหภาพโซเวียต), เจียง ไคเชก (จีน) และชาร์ล เดอ โกล (ฝรั่งเศส)

สหรัฐอเมริกา สหรัฐ

[แก้]
แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์
  • แฟรงคลิน ดี. โรสเวลต์ (Franklin D. Roosevelt) เป็นประธานาธิบดีคนที่ 32 แห่งสหรัฐตั้งแต่ พ.ศ. 2476 แนวคิดของเขาก่อให้เกิดองค์กรระหว่างประเทศ คือ สหประชาชาติ ถึงแม้ว่าเขาจะประสบปัญหาด้านสุขภาพในช่วงวิกฤตของประเทศก็ตาม รูสเวลท์เสียชีวิตขณะยังดำรงตำแหน่งเมื่อ พ.ศ. 2488 สองสัปดาห์ก่อนการยอมแพ้ของเยอรมนี
  • แฮร์รี เอส. ทรูแมน (Harry S. Truman) เป็นประธานาธิบดีคนที่ 33 ของสหรัฐตั้งแต่ พ.ศ. 2488 ถึง พ.ศ. 2494 เป็นผู้อนุมัติให้ทิ้งระเบิดปรมาณูที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้นำในแผนมาร์แชลเพื่อฟื้นฟูทวีปยุโรปหลังสงคราม และเป็นผู้นำในการก่อตั้งสหประชาชาติ
  • จอร์จ มาร์แชลล์ (George Marshall) เป็นจอมพลแห่งกองทัพบกสหรัฐและหัวหน้านายทหาร และ หลังจากสงคราม เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้ริเริ่มแผนการมาร์แชลล์
  • วิลเลียม ดี ลีฮี (William D. Leahy) เป็นหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการของผู้บัญชาการทหารสูงสุด และเจ้าหน้าที่นายทหารเรือชาวอเมริกัน ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่นายทหารอาวุโสที่สุดขององกองทัพสหรัฐที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ลีฮีได้ถูกเรียกตัวกลับมาทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการส่วนตัวของประธานาธิบดี แฟรงคลิน ดี. โรสเวลต์ ใน ค.ศ. 1942 และดำรงตำแหน่งดังกล่าวตลอดช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขาเป็นประธานคณะเสนาธิการ และเป็นผู้ตัดสินใจคนสำคัญในช่วงสงคราม
  • จอร์จ มาร์แชลล์ เป็นจอมพลและเสนาธิการทหารบกในช่วงสงคราม ในฐานะเสนาธิการทหารบก มาร์แชลล์ได้กำกับดูแลการขยายกำลังทหารครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา มาร์แชลล์ได้ประสานงานปฏิบัติการของฝ่ายสัมพันธมิตรในยุโรปและแปซิฟิก ภายหลังสงคราม มาร์แชลล์ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและนำไปสู่ความพยายามในการฟื้นฟูยุโรปในช่วงหลังสงคราม ซึ่งต่อมาได้เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า แผนมาร์แชลล์ เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจากบทบาทหน้าที่ของเขาในการฟื้นฟู
  • เฮนรี เอช อาร์โนลด์ เป็นนายทหารยศพลเอกชาวอเมริกันที่ดำรงตำแหน่งจอมพล และต่อมาเป็นจอมพลอากาศ เขาได้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการแห่งกองทัพอากาศทหารบกสหรัฐในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
  • เออร์เนสต์ คิง เป็นผู้บัญชาการทหารแห่งกองเรือสหรัฐ (ค.ศ. 1941-45) เช่นเดียวกับผู้บัญชาการยุทธนาวี (ค.ศ. 1942-45) และจอมพลเรือ (ตั้งแต่ ค.ศ. 1944)
  • คอร์เดล ฮัลล์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ ค.ศ. 1933 ถึง 1944 ฮัลล์เป็นผู้รับผิดชอบด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศช่วงก่อนการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ เขาได้ส่งจดหมายฮัลล์ไปยังญี่ปุ่นในช่วงก่อนการโจมตี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของสหรัฐที่จะเปิดตลาดจีนต่อสินค้าของสหรัฐเข้ามาแทนที่ผลประโยชน์ของญี่ปุ่นที่นั่น ภายหลังสงคราม เขาเป็นสถาปนิกคนสำคัญในการก่อตั้งองค์กรสหประชาชาติ และได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
  • วิลเลียม เจ โดโนแวน เป็นผู้อำนวยการแห่งสำนักอำนวยการยุทธศาสตร์ (OSS) ตั้งแต่ ค.ศ. 1942 จนกระทั่งถูกยุบใน ค.ศ. 1945 โดโนแวนและโอเอสเอสได้มีหน้าที่รับผิดชอบในการรวบรวมข่าวกรองแก่กองทัพบก กองทัพเรือ และกระทรวงการต่างประเทศ จากการปฏิบัติหน้าที่ของเขา เขาได้รับเหรียญรับใช้ทหารอย่างยอดเยี่ยม (Distinguished Service Medal)
  • เจ. เอ็ดการ์ ฮูเวอร์ เป็นผู้อำนวยการของสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ตั้งแต่ ค.ศ. 1935 ถึง 1972 ฮูเวอร์และเอฟบีไอได้มีหน้าที่รับผิดชอบด้านข่าวกรองในสหรัฐและอเมริกาใต้ในช่วงสงคราม ฮูเวอร์ประสบความสำเร็จในการกวาดล้างเครือข่ายสายลับนาซีในสหรัฐ

แนวรบด้านยุโรปและแอฟริกาเหนือ

[แก้]
ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์
  • ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ (Dwight D. Eisenhower) หรือไอค์ (Ike) เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของฝ่ายสัมพันธมิตรในทวีปยุโรป เขาเป็นผู้รับผิดชอบในการวางแผนและควบคุมดูแลการปลดปล่อยฝรั่งเศสและยุโรปด้วยการรุกรานนาซีเยอรมนี ภายหลังจากที่เยอรมนีได้ยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข ไอเซนฮาวร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการทหารในเขตยึดครองของสหรัฐ เจ็ดปีหลังสงคราม เขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ
  • โอมาร์ แบรดลีย์ (Omar Bradley) เป็นจอมพลแห่งกองทัพบกสหรัฐในแอฟริกาเหนือและยุโรปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขานำกองทัพสหรัฐที่หนึ่งในช่วงปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ดและบุกครองยุโรป เขาได้รับเรียกขานอย่างไม่เป็นทางการว่า "นายพลของทหาร"
  • มาร์ค ดับเบิลยู คลาร์ก (Mark W. Clark) เป็นผู้บัญชาการฝ่ายสัมพันธมิตรในการทัพอิตาลี เขาได้นำกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรในการบุกครองอิตาลี ยุทธการที่อันซีโต และมอนเตกัสซีโน และเข้ายึดครองกรุงโรมในที่สุดใน ค.ศ. 1944 ซึ่งเป็นเมืองสำคัญสามแห่งแรกของฝ่ายอักษะได้ถูกยึดครอง
  • เจคอป แอล เดเวอร์ส (Jacob L. Devers) เป็นผู้บัญชาการทหารแห่งกองทัพกลุ่มที่หกในยุโรป เขาได้ทำหน้าที่ควบคุมการบุกครองทางตอนใต้ของฝรั่งเศสใน ค.ศ. 1944 ด้วยกองกำลังอเมริกันและฝรั่งเศส เดเวอร์สได้เคลียร์ที่อาร์ซัส คลายวงล้อมกอลมาร์พ็อกเกต ข้ามแม่น้ำไรน์ และยอมรับการยอมจำนนของกองกำลังเยอรมันในออสเตรีย ในช่วงแรก เขาเป็นผู้บัญชาการทหารในเขตสงครามเมดิเตอร์เรเนียน ในช่วงปลายฤดูร้อน ค.ศ. 1942 เขาได้"สลับงาน"กับจอมพลไอเซนฮาวร์ กลายเป็นผู้บัญชาการทหารในปฏิบัติการเขตสงครามยุโรป ส่งผลทำให้ไอค์ได้รับมอบหมายทำหน้าที่บัญชาการการบุกครองแฟริกาเหนือในปฏิบัติการคบเพลิง ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1942 ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1943 เขาได้กลับมาทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารในเขตสงครามเมดิเตอร์เรเนียนอีกครั้งเพื่อการบุกครองเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี และฝรั่เศลตอนใต้
  • จอห์น ซี เอช ลี (John C. H. Lee)เป็นผู้บัญชาการกองกำลังส่งกำลังบำรุงและกองลังพลทั้งหมดนปฏิบัติการเขตสงครามยุโรป เริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1942 กองบัญชาการด้านการส่งกำลังบำรุงของเขาได้มีหน้าที่รับผิดชอบในการเพิ่มกำลังคนทั้งชายและหญิงจำนวนกว่าสามล้านคนในปฏิบัติการโบเลโร และยุทธภัณฑ์จำนวน 37 ล้านตันในสหราชอาณาจักร และส่งมอบกำลังบำรุงทั้งหมด 41 ล้านตันแก่กองกำลังรบทั้งหมด เขาได้ดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้บัญชาการเขตสงครามฝ่ายส่งกำลังบำรุงและการบริหารแก่จอมพลไอเซนฮาวร์ และเขาเป็นผู้นำหน่วยเดียวที่ใหญ่ที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สอง เขตการสื่อสาร หรือ Com-Z เป็นที่รู้จักในช่วงหลังดีเดย์ มีทหารจำนวร 435,000 นาย
  • จอร์จ เอส. แพตตัน (George S. Patton) เป็นหัวหน้านายพลระหว่างยุทธนาการในแอฟริกาเหนือ, เกาะซิซิลี, ฝรั่งเศส, เยอรมนีและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
  • คาร์ล แอนดรูว์ สปาตซ์ (Carl Andrew Spaatz) เป็นผู้บัญชาการแห่งกองบัญชาการการรบทางอากาศด้วยยศพลอากาศตรีและอยู่ในกองบัญชาการโดยรวมของกองทัพอากาศทหารบกสหรัฐในปฏิบัติการเขตสงครามยุโรป
  • รอยัล อี อิงเกอร์โซลล์ (Royal E. Ingersoll) เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองเรือแอตแลนติกของสหรัฐ ตั้งแต่ ค.ศ. 1942 จนถึงปลาย ค.ศ. 1944 เขาได้บัญชาการกองกำลังอเมริกันในช่วงยุทธนาวีแอตแลนติก และทำหน้าที่ควบคุมขบวนเรือขนส่งทหาร เสบียง กระสุน และเชื้อเพลิงไปยังสหราชอาณาจักรและเมดิเตอร์เรเนียน

แนวรบด้านแปซิฟิก

[แก้]
ดักลาส แมกอาร์เธอร์

ฟิลิปปินส์ เครือรัฐฟิลิปปินส์

[แก้]
มานูเอล เกซอน

ปวยร์โตรีโก เครือรัฐเปอร์โตริโก

[แก้]

จักรวรรดิบริติช จักรวรรดิอังกฤษและเครือจักรภพ

[แก้]
สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 แห่งสหราชอาณาจักร
วินสตัน เชอร์ชิล
เบอร์นาร์ด มอนต์โกเมอรี
หลุยส์ เมานต์แบ็ตเทน เอิร์ลเมานต์แบ็ตเทนที่ 1 แห่งพม่า

มาเลเซีย บริติชมลายา

[แก้]

นิวฟันด์แลนด์

[แก้]

รัฐปาเลสไตน์ ปาเลสไตน์ในอาณัติของอังกฤษ

[แก้]

เซาเทิร์นโรดีเชีย

[แก้]

ออสเตรเลีย เครือรัฐออสเตรเลีย

[แก้]

แคนาดา แคนาดา

[แก้]

นิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์

[แก้]

สหภาพโซเวียต สหภาพโซเวียต

[แก้]
โจเซฟ สตาลิน
เกออร์กี จูคอฟ
อีวาน โคเนฟ

ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน

[แก้]
เจียง ไคเช็ค
เฉิน เฉิง (ขวาด้านหลัง) ขณะตรวจพลทหารพร้อมจอมทัพเจียง ไคเช็ค (ด้านหน้า)
  • เจียง ไคเช็ค - จอมทัพและผู้นำรัฐบาลชาตินิยม (ก๊กมินตั๋ง) ของ สาธารณรัฐจีน และเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งประเทศจีน
  • ซ่ง เหม่ย์หลิง - สุภาพสตรีหมายเลข 1 และเป็นภรรยาของนายพลเจียง ไคเช็ค เธอได้รวมรวมประชาชนในการต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น
  • หลิน เซิน - เป็นประธาน(หรือประธานาธิบดี) แห่งรัฐบาลชาตินิยม ประมุขแห่งรัฐของจีน
  • เหอ ยิงฉิน เป็นหัวหน้าเสนาธิการทหารของสภาทหารแห่งชาติ
  • เฉิน เฉิง - เป็นนายพลแห่งกองทัพปฏิวัติแห่งชาติจีน และนักการเมืองคนสำคัญในสภาทหารแห่งชาติ
  • ไป่ ฉงซี - เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของขุนศึกจากกวางสีนามว่า หลี่ ซ่งเริน และรองหัวหน้าเสนาธิการทหารของสภาทหารแห่งชาติ
  • หลี่ ซ่งเริน - เป็นอดีตขุนศึกจากกวางสีซึ่งต่อสู้รบร่วมกับเจียง ไคเชกในสงครามต่อต้านจีน
  • หยาน ซีซาน - เป็นอดีตขุนศึกจากชานซีซึ่งต่อสู้รบร่วมกับเจียง ไคเชกในสงครามต่อต้านจีน
  • เหว่ย หลี่ฮวง - เป็นนายพลแห่งกองทัพปฏิวัติแห่งชาติจีนและผู้บัญชาการแห่งกองกำลังรบนอกประเทศของจีน
  • เซฺว เยฺว่ - เป็นนายพลแห่งกองทัพปฏิวัติแห่งชาติจีนและผู้บัญชาการแห่งภูมิภาคทหารที่เก้า
  • แคลร์ ลี เชนโนลต์ - เป็นผู้บัญชาการของหน่วยพยัคฆ์บิน แต่เดิมเป็นที่ปรึกษาทางทหารของเจียงไคเช็ค
  • เหมา เจ๋อตุง - เป็นผู้นำ พรรคคอมมิวนิสต์จีน เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกองทัพรัฐบาลในการต่อต้านทหารญี่ปุ่น
  • จู เต๋อ - เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพสายที่ 8 และเป็นผู้นำทหารระดับสูงภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีน
  • เผิง เต๋อหวย - เป็นผู้บัญชาการทหารในช่วงการรุกร้อยกรมทหาร การรุกของคอมมิวนิสต์ขนาดใหญ่ในช่วงสงคราม

ฝรั่งเศส สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 3 (ถึง พ.ศ. 2483)

[แก้]
อาลแบร์ เลอเบริง

ฝรั่งเศส รัฐบาลชั่วคราวแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส (กองกำลังฝรั่งเศสเสรี ขบวนการฝรั่งเศสเสรี)

[แก้]
ชาร์ล เดอ โกล

เบลเยียม ราชอาณาจักรเบลเยียม

[แก้]

สาธารณรัฐแห่งสหรัฐบราซิล

[แก้]
เฌตูลียู วาร์กัส

เดนมาร์ก ราชอาณาจักรเดนมาร์ก

[แก้]

กรีซ ราชอาณาจักรกรีซ

[แก้]

เม็กซิโก เม็กซิโก

[แก้]
มานูเอล อาวิลา คามาโช

โปแลนด์สาธารณรัฐโปแลนด์ที่ 2 (ถึง พ.ศ. 2482)

[แก้]

รัฐบาลลับของโปแลนด์ (รัฐลับโปแลนด์)

[แก้]

ซาอุดีอาระเบีย ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

[แก้]

ราชอาณาจักรยูโกสลาเวีย

[แก้]
ยอซีป บรอซ ตีโต

เชโกสโลวาเกีย สาธารณรัฐเชโกสโลวาเกียเสรี

[แก้]

แอลเบเนียเสรี

[แก้]

ลักเซมเบิร์ก ราชรัฐลักเซมเบิร์ก

[แก้]

นอร์เวย์ ราชอาณาจักรนอร์เวย์

[แก้]

เนเธอร์แลนด์ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์

[แก้]
สมเด็จพระราชินีนาถวิลเฮลมินาแห่งเนเธอร์แลนด์

เอธิโอเปีย จักรวรรดิเอธิโอเปีย

[แก้]
สมเด็จพระจักรพรรดิเฮลี เซลาสซีที่ 1 แห่งเอธิโอเปีย

อียิปต์ ราชอาณาจักรอียิปต์

[แก้]

อิหร่าน รัฐจักรวรรดิแห่งอิหร่าน

[แก้]
พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี

ไลบีเรีย สาธารณรัฐไลบีเรีย

[แก้]

รัฐบาลชั่วคราวแห่งสาธารณรัฐเกาหลี

[แก้]
คิม กู

หมายเหตุ

[แก้]

ดูเพิ่ม

[แก้]