ลำดับเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สอง (1940)
หน้าตา
เรียงลำดับเหตุการณ์ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม จนถึง 31 ธันวาคม 1940
ลำดับเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สอง |
---|
เรียงตามลำดับเวลา |
1939 เหตุการณ์ที่สำคัญ เหตุการณ์ที่สำคัญ เหตุการณ์ที่สำคัญ เหตุการณ์ที่สำคัญ เหตุการณ์ที่สำคัญ เหตุการณ์ที่สำคัญ
|
เพิ่มเติม |
มกราคม
[แก้]- 1: กองทัพญี่ปุ่นโจมตีมณฑลซานซีของจีน
- 2: การรุกของโซเวียตในฟินแลนด์หยุดชะงัก ทหารฟินแลนด์ได้รับชัยชนะติดต่อกันหลายครั้ง รถถังโซเวียตถูกทำลายเป็นจำนวนมาก
- 7: สหราชอาณาจักรเริ่มปันส่วนเครื่องบริโภค
- 10: เครื่องบินเยอรมนีหลงเข้าไปในเบลเยียม และลงจอดที่ Mechelen นายทหารบก 2นายที่โดยสารมากับเครื่องบินถูกสัมพันธมิตรจับ เอกสารลับเกี่ยวกับแผนการบุกของนาซีถูกเปิดเผย ฮิตเลอร์เลื่อนแผนการบุกออกไปเพราะสภาพอากาศไม่เป็นใจ
- 14: นายพลเรือ มิตสุมาสะ โยไน ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น
- 16: เอกสารลับของเยอรมันในการบุกสแกนดิเนเวียและเลื่อนแผนบุกฝรั่งเสสถูกเปิดเผย
- 17: ทหารโซเวียตถูกตีโต้ในฟินแลนด์ และตอบโต้โดยการส่งเครื่องบินโจมตีทางอากาศอย่างหนัก
- 20: เรืออู-44ของเยอรมันจมเรือกลไฟกรีก
- 21: เรือดำน้ำเยอรมันจมเรือ HMS Exmouth ลูกเรือเสียชีวิต 135 นาย
- 24: Richard Heydrich ได้รับการแต่งตั้งจากเกอร์ริง ในการแก้ปัญหาชาวยิว
- 27: เยอรมนีเตรียมแผนการบุกเดนมาร์กและนอร์เวย์ขั้นสุดท้าย
กุมภาพันธ์
[แก้]- 1: เสบียงของกองทัพญี่ปุ้นสูงเป็นครึ่งหนึ่งของกองทัพ
- 5: คณะมนตรีสงครามของสัมพันธมิตรตัดสินใจเข้าร่วมรบในนอร์เวย์และฟินแลนด์ เพื่อตัดเส้นทางลำเลียงแร่เหล็กของสวีเดน อย่างไรก็ตาม แผนนี้พึ่งพาความช่วยเหลือของนอร์เวย์และสวีเดนที่เป็นกลาง
- 9: เอริก ฟอน มันชสไตน์ได้เตรียมกองพลที่ 38 ได้การโจมตีฝรั่งเศส
- 10: สหภาพโซเวียตตกลงที่จะส่งเสบียงและวัตถุดิบให้กับเยอรมนี ตามข้อตกลงทางการค้าฉบับใหม่
- 14: รัฐบาลอังกฤษประกาศหาอาสาสมัครเข้าไปช่วยเหลือฟินแลนด์
- 15: ฮิตเลอร์ประกาศจมเรือแบบไม่เลือกหน้า
- 16: เรือพิฆาตอังกฤษ คอร์แซก ทำลายความเป็นกลางของนอร์เวย์ เพื่อช่วยเหลือลูกเรือพาณิชย์ชาวอังกฤษ 299 นาย บนเรือขนส่งสัญชาติเยอรมัน อัลมาร์ค
- 16: เยอรมนีเร่งความพร้อมในการรุกราน ด้วยเชื่อว่าอังกฤษจะส่งกำลังเข้ามาในนอร์เวย์
- 17: กองทัพฟินแลนด์ถูกบังคับให้ถอยร่นออกจากแนว Mannerheim เข้าสู่แนวป้องกันที่สอง หลังจากการโจมตีของทหารโซเวียต
- 24: แผนการรุกแนวรบตะวันตกถูกวิเคราะห์อีกครั้ง พื้นที่เข้าตีหลักถูกเปลี่ยนเป็น อาร์เดน จะถูกกองพลหุ้มเกราะถูกนำออกมาใช้
มีนาคม
[แก้]- 1: ฮิตเลอร์ได้เตรียมวางแผนบุกเดนมาร์กและนอร์เวย์
- 3: โซเวียตเข้าโจมตีเมือง Viipuri เมืองใหญ่อันดับสองของฟินแลนด์ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเฮลซิงกิ
- 5: ฟินแลนด์ส่งผู้แทนมาเจรจาสนธิสัญญาสันติภาพที่กรุงมอสโก
- 11: สนธิสัญญาสันติภาพระหว่างโซเวียตกับฟินแลนด์ได้รับการรับรองจากทั้งสองฝ่าย หลังจากโซเวียตเอาชนะได้แบบหืดขึ้นคอ ฟินแลนด์ยังคงรักษาเอกราชเอาไว้ได้ แต่ต้องเสีย คาเรเลียและ ฮังโก ให้โซเวียต ซึ่งคิดเป็น 10% ของดินแดน
- 12: ฟินแลนด์ได้สงบศึกกับสหภาพโซเวียตหลังจาก 105 วันหลังจากความขัดแย้งระหว่างโซเวียต-ฟินแลนด์
- 16: เยอรมันได้โจมตีพลเรือนในเกาะอังกฤษครั้งแรก
- 18: ฮิตเลอร์กับมุสโสลินี ได้พบกันที่ชายแดนออสเตรียและมุสโสลินีเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าสู่สงคราม
- 20: นายกรัฐมนตรี Édouard Daladier ของฝรั่งเศสลาออกจากตำแหน่ง หลังถูกโจมตีเรื่องความล้มเหลวในการช่วยเหลือฟินแลนด์แต่เนิ่นๆ อันอาจจะเป็นผลให้ภัยคุกคามไม่คืบคลานเข้ามาสู่ฝรั่งเศส Paul Reynaud ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ
- 28: อังกฤษและฝรั่งเศสเห็นต้องกันที่จะไม่แบ่งแยกสนธิสัญญาสันติภาพกับเยอรมนี
- 28: ญี่ปุ่นได้จัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดของจีนที่เมืองนานกิง
- 30: สหราชอาณาจักรได้เริ่มสอดแนมสหภาพโซเวียต
เมษายน
[แก้]- 8: อังกฤษและฝรั่งเศสวางทุ่นระเบิดในน่านน้ำนอร์เวยเจียน เพื่อป้องกันมิให้เยอรมนีขนแร่เหล็กออกจากสวีเดนสู่ทะเลหลวง ซึ่งล่าช้าไปจากแผนเดิม 3วัน และช้าเกินไปในการยับยั้งแผนการรุกรานของนาซี
- 8: เรือพิฆาตอังกฤษ โกล์ววอร์มเข้าหยุดยั้งกองเรือรุกรานของเยอรมนีบริเวณนอร์เวย์ แต่ถูกยิงจม เรือดำน้ำอังกฤษสามารถจมเรือขนส่ง Rio de Janiero กองเรืออังกฤษที่ถูกส่งขึ้นไปยั้บยั้งกองเรือรุกรานของเยอรมันได้รับข้อมูลไม่เพียงพอและล้มเหลวในภารกิจ
- 9: ปฏิบัติการแวเซอรีบุง การทัพนอร์เวย์: เยอรมนีส่งกำลังเข้ารุกรานเดนมาร์กและนอร์เวย์ ทั้งทางบก, เรือ และอากาศ เดนมาร์กถูกยึดครองอย่างรวดเร็ว ฐานทัพอากาศของนอร์เวย์สองแห่งถูกโจมตี เยอรมนียกพลขึ้นบกได้สำเร็จหกจุด แต่เรือลาดตระเวน Blücher ของเยอรมนีถูกยิงจมด้วยปืนรักษาฝั่ง กะลาสีเสียชีวิต 1,600 นาย กษัตริย์ Haakon เสด็จหนีไปทางเหนือพร้อมกับรัฐบาลของพระองค์ เรือลาดตระเวนประจันบาน รอดนีย์ของอังกฤษได้รับความเสียหายจากการเข้าปะทะกับเรือลาดตระเวนประจันบานของเยอรมนี Scharnborstและ Gneisenau เรือลาดตระเวน Karisrube ถูกเรือดำน้ำอังกฤษยิงจมนอกฝั่ง Kristainsand
- 10-13: เรือพิฆาตอังกฤษ 5 ลำเข้าโจมตีเรือพิฆาต 10 ของเยอรมัน พร้อมป้อมปืนรักษาชายฝั่งอย่างฉับพลัน บริเวณตะวันตกของ Narvik เรือลาดตระเวน Königsberg ของเยอรมนีกลายเป็นเรือลำแรกที่ถูกจมด้วยเทคนิก"ดำทิ้งระเบิด" (Dive Bombing)
- 10-30: เยอรมันรุกคืบขึ้นทางเหนือของนอร์เวย์
- 14-19: กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตร 10,000 นาย ถูกเตรียมพร้อมสำหรับเข้ารบในคาบสมุทรนอร์เวย์
- 20-30: กองทหารเยอรมนีป้องกันทรอดไฮม์ ฝ่ายสัมพันธมิตรล้มเหลวในปฏิบัติการเนื่องจากเตรียมตัวที่ไม่ประสบผล
- 24: กองกำลังสัมพันธมิตรเข้าระดมยิงเมืองท่านาร์วิก จากทางทะเล
- 27: ทหารอังกฤษเริ่มถอนตัวออกจากนอร์เวย์
พฤษภาคม
[แก้]- 1: ฝ่ายสัมพันธมิตรเริ่มต้นการถอนกำลังออกจากนอร์เวย์ตามเมืองท่าต่าง ๆ ซึ่งดำเนินต่อไปจนกระทั่งถึงเดือนมิถุนายน
- 5: รัฐบาลพลัดถิ่นของนอร์เวย์ถูกจัดตั้งขึ้นในกรุงลอนดอน
- 8: นายกรัฐมนตรี เนวิลล์ เชมเบอร์แลนด์ สามารถรอดตัวได้อย่างหวุดหวิดจากการโต้วาทีกรณีนอร์เวย์ ในสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ
- 9: การเกณฑ์ทหารในอังกฤษขยายอายุไปจนถึง 36 ปี
- 10: เยอรมนีรุกรานเบลเยี่ยม ฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์กและเนเธอร์แลนด์;ทหารเยอรมันจำนวนมากถูกระดมมาทางแนวรบด้านตะวันตก; เบลเยี่ยมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
- 10: วินสตัน เชอร์ชิลล์ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และประกาศจัดตั้งรัฐบาลผสมในยามสงคราม
- 11: ลักเซมเบิร์กถูกยึดครอง
- 13: รัฐบาลพลัดถิ่นของเนเธอร์แลนด์ถูกตั้งขึ้นในกรุงลอนดอน
- 14: เนเธอร์แลนด์ยอมจำนน ยกเว้นซีแลนด์
- 14: รัฐบาลผสมในยามสงครามของอังกฤษถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ
- 15: กองทัพเนเธอร์แลนด์ลงนามในสนธิสัญญายอมจำนน
- 24: อังกฤษตัดสินใจหยุดปฏิบัติการในนอร์เวย์
- 25: กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตร ประกอบด้วย ทหารอังกฤษและฝรั่งเศสล่าถอยไปยังดันเคิร์ก ฮิตเลอร์สั่งหยุดกองทัพเยอรมันและให้กองทัพอากาศของเกอริงเข้าโจมตี กองทัพอากาศอังกฤษสามารถป้องกันเมืองไว้ได้
- 25: สหภาพโซเวียตเตรียมพร้อมยึดรัฐเขตบอลติก
- 26: ปฏิบัติการไดนาโม ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรกว่า 340,000 นาย ในดันเคิร์ก อพยพไปยังอังกฤษ ซึ่งกินเวลาไปจนถึงวันที่ 3 มิถุนายน
- 28: เบลเยี่ยมยอมจำนน
- 30: เชอร์ชิลล์สนับสนุนให้อังกฤษทำสงครามต่อไป แม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านจากลอร์ดเฮลิแฟกซ์และเชมเบอร์แลนด์
- 31: กองทัพญี่ปุ่นทิ้งระเบิดกรุงฉงชิ่งอย่างหนัก ทางตอนเหนือของแม่น้ำแยงซี
มิถุนายน
[แก้]- 1: ทหารอังกฤษกองสุดท้ายอพยพออกจากนอร์เวย์
- 3: สิ้นสุดปฏิบัติการไดนาโม ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรได้รับการอพยพไปยังอังกฤษ
- 10: อิตาลีประกาศสงครามกับสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส
- 10: นอร์เวย์ยอมจำนน
- 13: กรุงปารีสถูกยึดครองโดยกองทัพเยอรมัน
- 15: สหภาพโซเวียตยื่นคำขาดให้ลิทัวเนียยอมจำนนในแปดชั่วโมง; กองทัพโซเวียตรุกเข้าลิทัวเนียและโจมตีแนวชายแดนลัตเวีย
- 16: ฟิลิป เปแตงได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งฝรั่งเศส
- 16: สหภาพโซเวียตยื่นคำขาดให้ลัตเวียและเอสโตเนียยอมจำนนภายในแปดชั่วโมง
- 18: ชาร์ลส์ เดอ โกลล์จัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น
- 18: ลิทัวเนีย ลัตเวียและเอสโตเนียถูกยึดครองโดยสหภาพโซเวียต
- 21: การเจรจาหยุดยิงระหว่างฝรั่งเศส-เยอรมนีเริ่มต้นขึ้น; กองทัพอิตาลีข้ามพรมแดนฝรั่งเศส
- 22: ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างฝรั่งเศส-เยอรมนีได้รับการลงนาม
- 24: ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างฝรั่งเศส-อิตาลีได้รับการลงนาม
- 25: ฝรั่งเศสยอมจำนนอย่างเป็นทางการต่อเยอรมนี เมื่อเวลา 0.35 น.
- 26: สหภาพโซเวียตยื่นคำขาดต่อโรมาเนีย โดยต้องการแคว้นเบสเซอราเบียและนอร์เทิร์นบูโควินา
- 28: ชาร์ลส์ เดอ โกลล์ได้รับการยอมรับจากอังกฤษว่าเป็นผู้นำของฝรั่งเศสเสรี
- 28: กองทัพแดงยึดครองแคว้นเบสเซอราเบียและบางส่วนของนอร์เทิร์นบูโควินา หลังจากยื่นคำขาดต่อโรมาเนียไปเมื่อวานนี้
- 30: เยอรมนีรุกรานหมู่เกาะแชแนล
กรกฎาคม
[แก้]- 1: รัฐบาลฝรั่งเศสย้ายไปยังวิชี
- 10: ยุทธการแห่งบริเตนเริ่มต้นขึ้น กองทัพอากาศเยอรมันโจมตีเรือในช่องแคบอังกฤษ
- 14: สหภาพโซเวียตจัดการเลือกตั้งในรัฐบอลติกที่ถูกยึดครอง สมาชิกรัฐสภาอยู่ภายใต้อิทธิพลของสหภาพโซเวียต
- 21: รัฐบาลพลัดถิ่นของเชโกสโลวาเกียมาถึงกรุงลอนดอน
- 21: รัฐบอลติกภายใต้การยึดครองของทหารโซเวียตร้องขอที่จะเข้าผนวกกับสหภาพโซเวียต
- 22: เจ้าชายฟุมิมะโระ โคะโนะเอะเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งญี่ปุ่น
- 23: หน่วยโฮมการ์ดของอังกฤษถูกก่อตั้งขึ้น ส่วนใหญ่ประกอบด้วยทหารชราและทหารที่พิจารณาว่าไม่เหมาะสมต่อกองกำลังปกติ
- 25: สตรีและเด็กทั้งหมดในยิบรอลตาร์ถูกอพยพ
สิงหาคม
[แก้]- 2: สหภาพโซเวียตผนวกเอาแคว้นเบสเซอราเบียและนอร์เทิร์นบูโควินา
- 3: สหภาพโซเวียตผนวกลิทัวเนียอย่างเป็นทางการ
- 4: กองทัพอิตาลีรุกรานโซมาลิแลนด์ของอังกฤษ ระหว่างการทัพแอฟริกาตะวันออก
- 5: เนื่องจากสภาพอากาศอันเลวร้ายเหนือช่องแคบอังกฤษ การโจมตีทางอากาศหยุดชะงัก
- 5: สหภาพโซเวียตผนวกลัตเวีย
- 6: สหภาพโซเวียตผนวกเอสโตเนีย
- 13: เฮอร์มันน์ เกอริงเริ่มการโจมตีสนามบินอังกฤษเป็นเวลาสองสัปดาห์ เป็นการเตรียมการสำหรับแผนการบุกเกาะอังกฤษในเวลาถัดมา
- 14: นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ เซอร์ เฮนรี่ ทิซาร์ด เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาในภารกิจทิซาร์ด เป็นผู้มอบเทคโนโลยีขั้นลับสุดยอดของอังกฤษ รวมไปถึงเมคเนตรอน ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญต่อเรดาร์; การแลกเปลี่ยนเรือดำน้ำกับฐานทัพระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรดำเนินไปด้วยดี
- 15: กองทัพอากาศอังกฤษได้รับชัยชนะหลายครั้ง การผลิตเครื่องบินอังกฤษได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
- 16: แผนการแลกเปลี่ยนเรือรบกับฐานทัพระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ
- 17: ฮิตเลอร์ประกาศปิดเมืองท่าทั่วเกาะอังกฤษ
- 19: กองทัพอิตาลีเข้ายึดเมืองเบอร์บีรา เมืองหลวงของโซมาลิแลนด์ รวมไปถึงเมืองและค่ายทหารหลายแห่งที่ติดกับแนวชายแดนซูดานและเคนยา
- 20: อิตาลีประกาศปิดเมืองท่าอังกฤษในดินแดนเมดิเตอร์เรเนียนทั้งหมด
- 26: เบอร์ลินถูกทิ้งระเบิดทางอากาศ
กันยายน
[แก้]- 7: กองทัพอากาศเยอรมันเปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตีลอนดอน ทำให้กองทัพอากาศอังกฤษฟื้นตัว นับเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของเยอรมนี
- 15: กองทัพอากาศเยอรมันส่วนใหญ่ถูกขับไล่โดยกองทัพอากาศอังกฤษ
- 16: รัฐบัญญัติเลือกเฟ้นและรับราชการทหารแห่งปี 1940 เป็นคำส่งเกณฑ์ทหารในยามสงบฉบับแรกของสหรัฐอเมริกา ชายอเมริกันอายุ 21-35 ปีจะต้องเกณฑ์ทหาร
- 22: ญี่ปุ่นยึดครองเวียดนาม และสร้างฐานทัพหลายแห่งในอินโดจีนของฝรั่งเศส
- 27: สนธิสัญญาไตรภาคีได้รับการลงนามในกรุงเบอร์ลิน ประกอบด้วยผู้แทนจากเยอรมนี อิตาลีและญี่ปุ่น นับเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า "ฝ่ายอักษะ"
ตุลาคม
[แก้]- 1: ทหารจีนชาตินิยมและจีนคอมมิวนิสต์รบกันเองทางภาคใต้ของประเทศ ขณะเดียวกัน กองทัพญี่ปุ่นพ้ายแพ้ที่เมืองฉางชา
- 2: การทิ้งระเบิดกรุงลอนดอนดำเนินต่อไปตลอดทั้งเดือน
- 7: เยอรมนีโจมตีโรมาเนียเพื่อขัดขวางเจตนาของสหภาพโซเวียต เพื่อยึดครองบ่อน้ำมันอันมีค่า
- 9: เนวิลล์ เชมเบอร์แลนด์ลาออกจากสภาผู้แทนราษฎรเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ ส่วนวินสตัน เชอร์ชิลล์ได้รับการเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม
- 23: ฮิตเลอร์พบกับนายพลฟรานซิสโก ฟรังโกในสเปน ในความพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมให้เขาเข้าร่วมกับฝ่ายอักษะ
- 28: อิตาลีโจมตีกรีซจากดินแดนยึดครองอัลเบเนีย ฮิตเลอร์โกรธมากในการเริ่มต้นสงครามครั้งนี้
พฤศจิกายน
[แก้]- 4: แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นสมัยที่สาม อังกฤษรอคอยท่าทีความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา
- 4: กองทัพกรีซโจมตีโต้ครั้งใหญ่ตามแนวชายแดนอัลเบเนีย
- 7: ไอร์แลนด์ปฏิเสธไม่ยอมให้อังกฤษใช้เมืองท่าของตนเป็นฐานทัพเรือ
- 12: โมโลตอฟพบกับฮิตเลอร์และริบเบนทรอพในกรุงเบอร์ลิน เพื่ออภิปรายเกี่ยวกับระเบียบโลกใหม่ โมโลตอฟแจ้งความต้องการของโซเวียตเหนือดินแดนฟินแลนด์ บัลแกเรีย ดาร์เดแนลส์และบอสบอร์ แต่ฮิตเลอร์กล่าวถึงการปักปันดินแดนระหว่างเยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่นและสหภาพโซเวียต
- 13: โมโลตอฟพบกับฮิตเลอร์อีกครั้งหนึ่งเพื่อขอให้ยอมรับในการโจมตีฟินแลนด์ แต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ฮิตเลอร์มีเจตนาขัดขวางการขยายอิทธิพลของสหภาพโซเวียตในทวีปยุโรป เขามองว่าสหราชอาณาจักรว่าเป็นผู้แพ้สงครามแล้ว และเสนอยกอินเดียให้แก่สหภาพโซเวียต
- 15: สหภาพโซเวียตได้รับเชิญให้เข้าร่วมในสนธิสัญญาไตรภาคี และแบ่งปันดินแดนอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษระหว่างกัน
- 16: เชอร์ชิลล์ออกคำสั่งให้ส่งกองกำลังอังกฤษบางส่วนจากแอฟริกาเหนือไปสนับสนุนการรบในกรีซ
- 20: ฮังการีลงนามในสนธิสัญญาไตรภาคี
- 21: รัฐบาลพลัดถิ่นเบลเยี่ยมประกาศสงครามกับอิตาลี
- 23: โรมาเนียลงนามในสนธิสัญญาไตรภาคี
- 24: สาธารณรัฐสโลวัคลงนามในสนธิสัญญาไตรภาคี
- 26: สหภาพโซเวียตยื่นข้อเสนอในการเข้าร่วมในสนธิสัญญาไตรภาคี รวมไปถึงมอบดินแดนเพิ่มเติมให้กับสหภาพโซเวียต
ธันวาคม
[แก้]- 6: ปฏิบัติการเข็มทิศ: ทหารอังกฤษและอินเดียเริ่มการโจมตีกองทัพอิตาลีในอียิปต์ กองทัพอิตาลีถูกบังคับให้ล่าถอยไปยังลิเบีย
- 11: กองทัพอิตาลีล่าถอยจากกรีซไปยังอัลเบเนีย ทหารกรีซเริ่มการโจมตีอัลเบเนีย
- 12: กองทัพอังกฤษเริ่มทำการรบในลิเบีย
- 28: ระหว่างสงครามอิตาลี-กรีซ ทหารกรีซยึดครองอัลเบเนียได้หนึ่งในสี่ของดินแดนทั้งหมด อิตาลีเรียกร้องกำลังสนับสนุนจากเยอรมนี