ข้ามไปเนื้อหา

เอแอลเอส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Alsthom AD24C (ALS)
รถจักรเอแอลเอส หมายเลข 4113 ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่
ประเภทและที่มา
ประเภทเครื่องยนต์รถจักรดีเซลไฟฟ้า
ผู้สร้างอัลสตอม, ประเทศฝรั่งเศส
หมายเลขตัวรถ4101 – 4154
โมเดลAD24C
จำนวนผลิต54 คัน
คุณลักษณะ
การกำหนดค่า:
 • AARCo-Co
ช่วงกว้างราง1,000 mm (3 ft 3 38 in)
ความยาว16,258 มิลลิเมตร (640.1 นิ้ว)
ความกว้าง2,800 มิลลิเมตร (110 นิ้ว)
ความสูง3,880 มิลลิเมตร (153 นิ้ว)
น้ำหนักกดเพลา13.75 ตัน ต่อเพลา
น้ำหนักเปล่า77.5 ตัน
น้ำหนักรถจักร82.5 ตัน
ความจุเชื้อเพลิง3500 ลิตร
เครื่องยนต์Pielstick 16PA4V 185VG
MTU 16V4000 R41R
Caterpillar 3516B HD
พิสัยรอบต่อนาที700 - 1500 รอบต่อนาที
ชนิดเครื่องยนต์4 จังหวะ V16 Diesel
Aspirationเทอร์โบชาร์จเจอร์
การกระจัดPielstick: 90 ลิตร
MTU: 65 ลิตร
Caterpillar: 69 ลิตร
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสลับAT 5.41A2
มอเตอร์ลากจูงTA671 A3/D3 x 6
ระบบส่งกำลังAC-DC (Electric transmission)
ระบบเบรครถจักรWabco SA-9 (ลมอัด)
ระบบเบรคทั้งหมดWabco A-9 (ลมอัด, ลมดูด)
AHK: Westinghouse 28-LV1 (ลมอัด, ลมดูด)
เครื่องปั้มลมอัดWestinghouse Compressor
Wabtec รุ่น 2-CB
Knorr รุ่น VV450/150-3
ระบบความปลอดภัยETCS On board
Deadman Vigilance
ค่าประสิทธิภาพ
ความเร็วสูงสุด95–100 km/h (59–62 mph)[1]
กำลังขาออกPielstick: 2,400 แรงม้า
MTU: 2,250 แรงม้า
Caterpillar: 2,800 แรงม้า
แรงฉุด:
 • เริ่มต้น254 kN (57,000 lbf)
 • ต่อเนื่อง169.3 kN (38,100 lbf) ที่ 30 km/h (19 mph)
การบริการ
ผู้ให้บริการการรถไฟแห่งประเทศไทย
ประจำการครั้งแรกพ.ศ.2517

อัลสตอม เอดี24ซี (เอแอลเอส) (อังกฤษ: Alsthom AD24C (ALS)) หรือ เอแอลเอส (ALS) เป็นรถจักรดีเซลไฟฟ้ารุ่นหนึ่งของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่สั่งนำเข้ามาเพื่อใช้ในการทำบวนรถโดยสารและขบวนรถสินค้า โดยสั่งซื้อจากบริษัท อัลสตอม (ฝรั่งเศส: Alsthom) ประเทศฝรั่งเศส (ปัจจุบันคือ Alstom) เมื่อปี พ.ศ. 2517 - 2518 [1]

เอแอลเอส ยังเป็นรถจักรดีเซลไฟฟ้าที่ถูกสั่งซื้อเข้ามาใช้งานมากที่สุด มีจำนวนทั้งสิ้น 54 คัน โดยชื่อเรียกของรถจักรรุ่นนี้ก็มาจากอักษรภาษาอังกฤษ3ตัวแรกของอัลสตอม (ฝรั่งเศส: Alsthom) เอแอลเอส มักจะถูกเรียกรวม ๆ ว่า รถจักรอัลสตอม

ปัจจุบันเอแอลเอสถูกลดบทบาทลงเป็นอย่างมากจากการนำเข้ารถจักรรุ่นใหม่ ๆ โดยปัจจุบันเอแอลเอส มักจะใช้ทำขบวนรถเร็ว ขบวนรถธรรมดา ขบวนรถชานเมือง ขบวนรถท้องถิ่น และขบวนรถสินค้า

รถจักรเอแอลเอส หมายเลข 4150 ขณะเตรียมชุดขบวนรถเร็วระหว่างประเทศที่ 134 ลงเทียบสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด), ประเทศลาว

ประวัติ

[แก้]

ช่วงหลังปี พ.ศ. 2500 การรถไฟแห่งประเทศไทยมีความคิดที่จะเลิกใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงเพื่อเป็นการสงวนป่าไม้ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติ จึงได้มีการทยอยยกเลิกการใช้รถจักรไอน้ำและมีการจัดหารถจักรดีเซลและรถดีเซลรางมาทดแทน โดยนำเข้ามาหลากหลายรุ่น ตั้งแต่ พ.ศ. 2504 -2509

ในปี พ.ศ. 2507 การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้นำเข้ารถจักรดีเซลไฟฟ้าจีอี จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นรถจักรที่มีสมรรถนะสูงมากกว่ารุ่นอื่น ๆ ในเวลานั้น ทั้งกำลังที่สูง การทำความเร็วที่ดี ลากขบวนรถได้มากขึ้น หนักขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งทางรถไฟขึ้นมามากในเวลานั้น

ช่วงหลังปี พ.ศ.2510 - 2514 การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงมีแนวคิดจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าสมรรถนะสูงเข้ามาใช้งานเพิ่ม จนในปี พ.ศ. 2517 ก็ได้นำเข้ารถจักรดีเซลไฟฟ้าอัลสตอม แบบเอดี24ซี หรือ เอแอลเอส จากบริษัท อัลสตอม ประเทศฝรั่งเศส โดยมียอดสั่งซื้อมากถึง 54 คัน นำเข้ามาใช้งานตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2517 - 2518 และมีผลการใช้งานเป็นที่น่าพอใจมาก จนถึงปัจจุบันเอแอลเอส ยังคงเป็นรถจักรรุ่นเดียวที่มียอดสั่งซื้อมากที่สุด

และด้วยสมรรถนะ ประสิทธิภาพและความคุ่มค่าของรถจักรแบบเอดี24ซี การรถไฟแห่งประเทศไทย ก็ยังสั่งซื้อรถจักรอัลสตอม เอดี24ซี แบบเดียวกับเอแอลเอสเข้ามาอีก 3 รุ่นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 - 2528 รวมแล้วกว่า 113 คัน แยกออกเป็นอีก 4 รุ่นย่อย

อัลสตอม เอดี24ซี ถือเป็นแบบรถจักรดีเซลไฟฟ้าที่มีใช้งานมากที่สุดในประเทศไทย และด้วยความที่มีจำนวนมากยังทำให้พบเห็นได้บ่อย จนเป็นอีกหนึ่งภาพจำของรถไฟไทยจนถึงปัจจุบัน

ป้ายเนมเพลท"Alsthom" ปัจจุบันคือบริษัท Alstom

เปลี่ยนเครื่องยนต์

[แก้]

เอแอลเอส มีเครื่องยนต์ดั้งเดิม จากโรงงานคือเครื่องยนต์ Pielstick 16PA4V 185VG มีกำลัง 2400 แรงม้า แต่จากการใช้งานที่ยาวนานและอะไหล่ที่เริ่มหายากและราคาสูงขึ้น การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงจัดหาเครื่องยนต์ใหม่มาทดแทนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มอายุการใช้งาน โดยเริ่มทดลองเปลี่ยนตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ.2550 เป็นต้นมา

ในปัจจุบันรถจักรเหล่านี้ได้ทำการติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่อย่าง Caterpillar 3516B HD และ MTU 16V4000 R41R ไปแล้วหลายคัน และจะมีการทำสีคาดเป็นสัญลักษณ์ว่าใช้เครื่องยนต์ประเภทได

  • สีคาดส้มขาว Pielstick 16PA4V 185VG
  • สีคาดน้ำเงินขาว MTU 16V4000 R41R
  • สีคาดแดงขาว Caterpillar 3516B HD
รถจักรเอแอลเอส หมายเลข 4107 ที่เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์Caterpillar โดยมีสีคาดสีแดงขาว
รถจักรเอแอลเอส หมายเลข 4153 ที่เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์MTU โดยมีสีคาดสีน้ำเงินขาว

เครื่องยนต์ที่ใช้

[แก้]
เครื่องยนต์ หมายเลข
MTU 16V4000R41R
  • ล็อต 1 : 4140 4146 4150
  • ล็อต 2: 4102 4106 4108 4115 4116 4132 4137 4142 4144 4153
  • ล็อต 3 : 4101 4109 4112 4113 4121 4131 4134 4136 4138 4147
CATERPILLAR 3516BHD
  • ล็อต 2 : 4103 4105 4118 4120 4125 4128 4129 4130 4143 4151
  • ล็อต 3 : 4123 4152 4107 4119 4149 4124 4154 4133
Pielstick 16PA4V185VG 4110 4111 4135 4139 4145

รถจักรพิเศษ

[แก้]
  • หมายเลข 4128 4134 4135 4139 4142 4145 4112 4115 4121 เป็นรถจักรที่มีการหุ้มเกราะกันกระสุน
  • หมายเลข 4110 เป็นรถจักรที่ติดตั้งระบบไฟฟ้าใหม่จากประเทศอินเดีย
  • หมายเลข 4144 ทำการติดตั้งไซเรนบริเวณด้านบนห้องขับ

รถจักรที่ตัดบัญชี

[แก้]
หมายเลข ลักษณะอุบัติเหตุ ขบวนที่ทำ วันที่ สถานที่ ความเสียหาย สถานะ
†4104 ตกเหว ขบวนรถเร็วที่ 38 เชียงใหม่ - กรุงเทพ (หัวลําโพง) 26 มิถุนายน พ.ศ. 2541 ระหว่างสถานีรถไฟผาคัน กับสถานีรถไฟบ้านปิน จังหวัดแพร่ ทั้งหมด ตัดบัญชี
†4114 ถูกวางเพลิง - - สถานีรถไฟบ้านพรุกระแซง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โครงประธานงอและบิดเบี้ยว ตัดบัญชี
†4117 ถูกขบวนรถสินค้าปูนซีเมนต์ไหลลงมาชน ขบวนรถเร็วที่ 141 กรุงเทพ - อุบลราชธานี - สถานีรถไฟมาบกะเบา จังหวัดสระบุรี ทั้งหมด ตัดบัญชี
†4122 ถูกวางเพลิง - - ทางรถไฟสายใต้ ? ตัดบัญชี
†4126 ไฟไหม้ ขบวนรถเร็วที่ 141 กรุงเทพ - อุบลราชธานี พ.ศ. 2549 ระหว่างสถานีรถไฟโคกสะอาดกับสถานีรถไฟสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ห้องเครื่องยนต์ ตัดบัญชี
†4127 ถูกก่อวินาศกรรมเหยียบคานเหล็กตกราง ในขณะทำการกู้ ตัดถังน้ำมันออกเกิดระเบิดขึ้น ขบวนรถด่วนที่ 52 เชียงใหม่ - กรุงเทพ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 เหยียบคานเหล็ก ระหว่างสถานีรถไฟพิชัยกับสถานีรถไฟบ้านโคน จังหวัดอุตรดิตถ์
ทั้งหมด ยังเหลือซากอยู่ที่โรงรถจักรอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ตัดบัญชี
†4141 ไฟไหม้ ขบวนรถสินค้า 782 พ.ศ. 2549 ทางรถไฟสายใต้ ห้องเครื่องยนต์ ตัดบัญชี
4147 ชนกับรถบรรทุก ขบวนรถเร็วที่ 111 กรุงเทพ - เด่นชัย 20 มกราคม พ.ศ. 2563 สถานีรถไฟเนินมะกอกจังหวัดนครสวรรค์ ห้องขับได้รับความเสียหาย กลับมาทำการ
4106 ชนกับรถพ่วง ขบวนรถเร็ว 134 หนองคาย - กรุงเทพ 31 มกราคม 2565 จังหวัด อุดรธานี ห้องขับได้รับความเสียหาย กลับมาทำการ
†4148 ชนกับขบวนรถสินค้าพิเศษน้ำตาลที่ 2008 ขบวนรถเร็วที่ 133 กรุงเทพ - หนองคาย 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 ระหว่างสถานีรถไฟโคกคลีกับสถานีรถไฟแผ่นดินทอง จังหวัดลพบุรี ทั้งหมด ตัดบัญชี

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 การรถไฟแห่งประเทศไทย. รถจักรและรถพ่วงประวัติศาสตร์. กรุงเทพฯ : การรถไฟแห่งประเทศไทย. , พ.ศ.2533, หน้า 102.