อิสยาห์ 11
อิสยาห์ 11 | |
---|---|
ม้วนหนังสืออิสยาห์ ม้วนคัมภีร์ไบเบิลที่พบที่คุมรานตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาลที่เก็บรักษาอย่างดีที่สุด มีทุกวรรคของบทนี้ | |
หนังสือ | หนังสืออิสยาห์ |
ภาคในคัมภีร์ฮีบรู | เนวีอีม |
ลำดับในภาคของคัมภีร์ฮีบรู | 5 |
หมวดหมู่ | ผู้เผยพระวจนะยุคหลัง |
ภาคในคัมภีร์ไบเบิลคริสต์ | พันธสัญญาเดิม |
ลำดับในภาคของคัมภีร์ไบเบิลคริสต์ | 23 |
อิสยาห์ 11 (อังกฤษ: Isaiah 11) เป็นบทที่ 11 ของหนังสืออิสยาห์ในคัมภีร์ฮีบรูหรือพันธสัญญาเดิมในคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์ หนังสืออิสยาห์ประกอบด้วยเนื้อหาคำเผยพระวจนะซึ่งถือกันว่าเป็นผลงานของผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ และเป็นหนังสือเล่มหนึ่งในหมวดหนังสือผู้เผยพระวจนะ บทที่ 11 ของหนังสืออิสยาห์สามารถแบ่งได้เป็นสองส่วนหลักคือวรรค 1–9 และวรรค 11–16 โดยมีวรรค 10 เป็นข้อความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองส่วน[1] คัมภีร์ไบเบิลฉบับนิวอินเตอร์เนชันแนลเรียกชื่อบทนี้ว่า "กิ่งจากเจสซี" (The Branch from Jesse)
ต้นฉบับ
[แก้]บทนี้เดิมเขียนด้วยภาษาฮีบรู บทแบ่งออกเป็น 16 วรรค
พยานต้นฉบับ
[แก้]บางสำเนาต้นฉบับในยุคต้นที่มีข้อความของบทนี้เป็นภาษาฮีบรูมีลักษณะเป็นต้นฉบับเมโซเรติก (Masoretic Text) ได้แก่ ฉบับไคโร (Codex Cairensis; ค.ศ. 895) หนังสือผู้เผยพระวจนะฉบับปีเตอส์เบิร์ก (Petersburg Codex of the Prophets; ค.ศ. 916) ฉบับอะเลปโป (Aleppo Codex; ศตวรรษที่ 10) และฉบับเลนินกราด (Leningrad Codex; ค.ศ. 1008)[2]
ชิ้นส่วนที่มีข้อความบางส่วนของบทนี้ในภาษาฮีบรูถูกพบในม้วนหนังสือเดดซี (ศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาลหรือหลังจากนั้น) ได้แก่::[3]
- 1QIsaa: สมบูรณ์
- 4QIsaa (4Q55): วรรคที่หลงเหลือ: 12-15
- 4QIsab (4Q56): วรรคที่หลงเหลือ: 7-9
- 4QIsac (4Q57): วรรคที่หลงเหลือ: 4-11
- 4QIsal (4Q65): วรรคที่หลงเหลือ: 14-15
ยังมีฉบับแปลเป็นภาษากรีกคอยนีที่รู้จักในชื่อเซปทัวจินต์ (ทำขึ้นในช่วงไม่กี่ศตวรรษสุดท้ายก่อนคริสตกาล) บางสำเนาต้นฉบับที่หลงเหลือในเซปทัวจินต์ ได้แก่ ฉบับวาติกัน (Codex Vaticanus; B; B; ศตวรรษที่ 4) ฉบับซีนาย (Codex Sinaiticus; S; BHK: S; ศตวรรษที่ 4) ฉบับอะเล็กซานเดรีย (Codex Alexandrinus; A; A; ศตวรรษที่ 5) และฉบับมาร์ชาล (Codex Marchalianus; Q; Q; ศตวรรษที่ 6)[4]
การปกครองอันชอบธรรมของกิ่ง (11:1–9)
[แก้]ส่วนนี้เกี่ยวข้องการความต่อเนื่องอย่างไม่แตกหักระหว่างราชวงศ์ของดาวิดกับกษัตริย์เมสสิยาห์ที่จะเสด็จมา แม้ว่าราชวงศ์ดาวิดจะ 'ถูกตัดจนเหลือเพียงตอไม้' เนื่องจากความเย่อหยิ่งและความไม่ซื่อสัตย์ของราชวงศ์[5]
วรรค 1
[แก้]- จะมีหน่อหนึ่งแตกออกจากตอของเจสซี
- และกิ่งหนึ่งที่งอกจากรากของเขานั้นจะเกิดผล[6]
การอ้างอิงข้าม: อิสยาห์ 11:10
- "หน่อ" (חטר khoṭır; หรือ "ไม้เรียว" ใน สุภาษิต 14:3 ): หรือ "กิ่ง" (צמח tsemach) ใน อิสยาห์ 4:2 คำเหล่านี้่ "เป็นคำที่มุ่งหมายถึงพระเมสสิยาห์"[7]
- "เจสซี": บิดาของกษัตริย์ดาวิด (1 ซามูเอล 16:1-20)[8] การเรียกด้วยชื่อนี้เป็นการยืนยันถึงความต่อเนื่องของเชื้อสายพระเมสสิยาห์ แต่ก็เป็นสิ่งเตือนความจำถึงจุดเริ่มต้นอันต่ำต้อยของดาวิดและการทรงเลือกของพระเจ้า แทนที่จะเป็นการอ้างความเป็นราชวงศ์และความทรนงของมนุษย์ (2 ซามูเอล 7)[5]
- "กิ่ง" (נצר nêtser: "คำที่มุ่งหมายถึงพระเมสสิยาห์"[7] คำนี้ในภาษาฮีบรูปรากฏ 4 ครั้งในคัมภีร์ฮีบรูรวมถึงวรรคนี้[a]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วรรค 3-4
[แก้]- 3 ความชื่นชอบของท่านคือความยำเกรงพระยาห์เวห์
- ท่านจะไม่พิพากษาตามสิ่งที่ตาท่านได้เห็น
- หรือตัดสินตามสิ่งที่หูท่านได้ยิน
- 4 แต่ท่านจะพิพากษาคนจนด้วยความชอบธรรม
- และตัดสินให้กับคนต่ำต้อยของแผ่นดินด้วยความเที่ยงธรรม
- ท่านจะตีแผ่นดินโลกด้วยตะบองจากปากของท่าน
- และท่านจะประหารคนอธรรมด้วยลมจากริมฝีปากท่าน[9]
- "ความชื่นชอบของท่านคือความยำเกรงพระยาห์เวห์" (พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน): หรือ "และเขาผู้นั้นจะปีติยินดีในความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า" (พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย) แปลจากภาษาฮีบรู: והריחו ביראת יהוה, wa-hă-rî-khōw bə-yir-’aṯ Yah-weh[10]
วรรค 6
[แก้]- สุนัขป่ากับลูกแกะจะอาศัยอยู่ด้วยกัน
- เสือดาวจะนอนเคียงข้างแพะ
- ลูกวัวกับสิงโตและลูกอ่อนของสัตว์อื่นๆ จะอยู่ด้วยกัน
- และเด็กเล็กๆ คนหนึ่งจะนำพวกมัน[11]
- การอ้างอิงข้าม: อิสยาห์ 65:25[12]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วรรค 9
[แก้]- พวกมันจะไม่ทำร้ายหรือทำลายกัน ตลอดทั่วภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เพราะแผ่นดินโลกจะเต็มไปด้วยความรู้เรื่ององค์พระผู้เป็นเจ้า ดุจน้ำปกคลุมทะเล[13]
ข้อความในวรรคนี้ได้รับการสะท้อนถึงในบทที่ 65[5]
อิสราเอลได้คืนมาและกลับมารวมกันอีกครั้ง (11:10–16)
[แก้]วรรค 10
[แก้]- (a)"ในวันนั้นรากของเจสซีจะตั้งเด่น
- ดุจธงสำหรับมวลประชาชาติ ชาติต่างๆ
- (b)จะรวมพลกันมาหาเขา
- และที่พำนักของเขาจะสง่างาม"[14]
- การอ้างอิงข้าม: (a) อิสยาห์ 11:1
(b) อิสยาห์ 2:3; อิสยาห์ 43:6; อิสยาห์ 49:22; อิสยาห์ 60:3; อิสยาห์ 66:12 - อ้างถึงโดยเปาโลอัครทูตในโรม 15:12
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วรรค 11–16
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ดูเพิ่ม
[แก้]หมายเหตุ
[แก้]- ↑ อีก 3 วรรคได้แก่ อิสยาห์ 60:21 : 'พวกเขาจะได้ที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์เป็นนิตย์ พวกเขาจะเป็นหน่อที่เราปลูก', อิสยาห์ 14:19 : 'แต่เจ้าถูกเหวี่ยงออกไปจากหลุมศพของเจ้า เป็นเหมือนกิ่งไม้ถูกทิ้ง', ดาเนียล 11:7: 'คนหนึ่งจากเชื้อสายของเธอจะขึ้นมาแทนที่พระราชาแห่งถิ่นใต้'
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Childs 2001, p. 99.
- ↑ Würthwein 1995, pp. 35–37.
- ↑ Ulrich 2010, p. 353-354.
- ↑ Würthwein 1995, pp. 73–74.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 Childs 2001, p. 102.
- ↑ อิสยาห์ 11:1 THSV11
- ↑ 7.0 7.1 The Nelson Study Bible. Thomas Nelson, Inc. 1997. ISBN 9780840715999. pp. 1111-1114.
- ↑ Coogan 2007, pp. 994-996 Hebrew Bible.
- ↑ อิสยาห์ 11:3 -4 THSV11
- ↑ Hebrew Text Analysis: Isaiah 11:3. Biblehub
- ↑ อิสยาห์ 11:6 THSV11
- ↑ Coggins 2007, p. 449.
- ↑ อิสยาห์ 11:9 THSV11
- ↑ อิสยาห์ 11:10 THSV11
บรรณานุกรม
[แก้]- Childs, Brevard S. (2001). Isaiah. The Old Testament library. Westminster John Knox Press. ISBN 9780664221430.
- Coggins, R (2007). "22. Isaiah". ใน Barton, John; Muddiman, John (บ.ก.). The Oxford Bible Commentary (first (paperback) ed.). Oxford University Press. pp. 433–486. ISBN 978-0199277186. สืบค้นเมื่อ February 6, 2019.
- Coogan, Michael David (2007). Coogan, Michael David; Brettler, Marc Zvi; Newsom, Carol Ann; Perkins, Pheme (บ.ก.). The New Oxford Annotated Bible with the Apocryphal/Deuterocanonical Books: New Revised Standard Version, Issue 48 (Augmented 3rd ed.). Oxford University Press. ISBN 9780195288810.
- Ulrich, Eugene, บ.ก. (2010). The Biblical Qumran Scrolls: Transcriptions and Textual Variants. Brill.
- Würthwein, Ernst (1995). The Text of the Old Testament. แปลโดย Rhodes, Erroll F. Grand Rapids, MI: Wm. B. Eerdmans. ISBN 0-8028-0788-7. สืบค้นเมื่อ January 26, 2019.