สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์
สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ | |
---|---|
เจ้าฟ้าชั้นตรี | |
ประสูติ | พ.ศ. 2302 |
สิ้นพระชนม์ | 3 มีนาคม พ.ศ. 2348 |
ราชสกุล | เทพหัสดิน |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | เงิน แซ่ตัน |
พระมารดา | สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ |
สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์[1] (พ.ศ. 2302 - 3 มีนาคม พ.ศ. 2348) เป็นพระภาคิไนยในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีบทบาทในฐานะแม่ทัพในการสงครามครั้งสำคัญต่าง ๆ อยู่หลายครั้ง และทรงเป็นต้นราชสกุล เทพหัสดิน
พระประวัติ
[แก้]ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ | |
---|---|
การทูล | ใต้ฝ่าพระบาท |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ |
สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ มีพระนามเดิมว่า ตัน เอกสารเวียดนามออกพระนามของพระองค์ไว้ว่า "เจียวตัง" (เวียดนาม: Chiêu Tăng, จีน: 昭曾) เป็นพระโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ กับเงิน แซ่ตัน[2] ประสูติในสมัยอาณาจักรอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2302 ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้านายในพระราชวงศ์จักรีเมื่อ พ.ศ. 2325
พระองค์ประชวรสิ้นพระชนม์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อวันจันทร์ เดือน 4 ขึ้น 14 ค่ำ ปีฉลูสัปตศก จุลศักราช 1167[3] ตรงกับวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2348 สิริพระชันษา 47 ปี
พระองค์ทรงเป็นต้น ราชสกุลเทพหัสดิน มีพระโอรสและพระธิดาดังนี้
- หม่อมเจ้าฉิม เทพหัสดิน (ประสูติเมื่อ พ.ศ. 2318)
- หม่อมเจ้ามาก เทพหัสดิน (ประสูติเมื่อ พ.ศ. 2319)
- หม่อมเจ้านิ่ม เทพหัสดิน (ประสูติเมื่อ พ.ศ. 2320)
- หม่อมเจ้าหนู เทพหัสดิน
- หม่อมเจ้าน้อย เทพหัสดิน
- หม่อมเจ้าพิมเสน เทพหัสดิน (พระราชทานเพลิง ณ วัดสระเกศ เมื่อ พ.ศ. 2407)
- หม่อมเจ้าหญิงหนู เทพหัสดิน (ประสูติเมื่อ พ.ศ. 2329 สิ้นชีพิตักษัยเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2408)
การไปราชการสงคราม
[แก้]ในปี พ.ศ. 2326 เหงียน ฟุก อั๊ญ หรือองเชียงสือ เชื้อสายของขุนศึกสกุลเหงียนซึ่งมีอำนาจปกครองภาคใต้ของเวียดนาม (ภายหลังได้ตั้งตัวเป็นจักรพรรดิซา ล็อง สถาปนาราชวงศ์เหงียนปกครองเวียดนาม) ได้เดินทางมายังประเทศสยามเพื่อขอความช่วยเหลือในการกอบกู้เมืองไซ่ง่อนจากกองทัพฝ่ายกบฏเต็ยเซิน ถึงเดือน 5 ปีมะโรง ฉศก จุลศักราช 1146 ตรงกับ พ.ศ. 2327 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้กรมหลวงเทพหริรักษ์นำกองทัพจำนวน 50,000 คน เคลื่อนพลเข้าโจมตีเมืองไซ่ง่อนทางเรือร่วมกับองเชียงสือ และให้พระยาวิชิตณรงค์นำกองทัพเคลื่อนพลมาทางบกตามหัวเมืองเขมรต่าง ๆ เพื่อเกณฑ์ไพร่พลชาวเขมรมาร่วมรบ โดยเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ (แบน)[4] เจ้าเมืองพระตะบอง ได้เกณฑ์ไพร่พลจำนวน 5,000 คน เข้าร่วมสมทบด้วย ทว่า กองทัพของสยามและองเชียงสือกลับปราชัยต่อกองทัพไตเซินภายใต้การนำของเหงียน เหวะ ในการรบที่สักเกิ่มซว่ายมุต ซึ่งพงศาวดารฝ่ายไทยบันทึกไว้ว่ารบกันที่ปากคลองวามะนาว (ภาษาเวียดนามเรียกชื่อคลองนี้ว่า หวั่มนาว Vàm Nao) และต้องเลิกทัพกลับไปทางกัมพูชา เมื่อข่าวการพ่ายศึกเข้าไปถึงที่กรุงเทพ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาททรงพระพิโรธ จึงโปรดเกล้าฯ ให้มีท้องตราเรียกกองทัพกลับเข้ามายังพระนคร แล้วลงพระราชอาญาจำกรมหลวงเทพหริรักษ์และข้าราชการผู้ใหญ่ซึ่งเสียทัพแก่ข้าศึกนั้น ภายหลังสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระเทพสุดาวดีและสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ ได้กราบทูลขอพระราชทานอภัยโทษ จึงทรงพระกรุณาโปรดให้กรมหลวงเทพหริรักษ์กับข้าราชการซึ่งรับพระราชอาชญาอยู่ในเวรจำนั้น พ้นโทษด้วยกันทั้งสิ้น[5][6]
นอกจากนั้น ในปีชวด ฉศก จุลศักราช 1166 ตรงกับ พ.ศ. 2347 กรมหลวงเทพหริรักษ์พร้อมด้วยพระยายมราช นายทัพนายกองไทยและลาว (ทั้งฝ่ายล้านนาและล้านช้าง) ได้ยกทัพขึ้นไปตีเมืองเชียงแสน สามารถขับไล่กองทัพพม่าที่ยึดครองเมืองเชียงแสนไปได้ กองทัพไทยและลาวสามารถกวาดต้อนครอบครัวได้ 23,000 คนเศษ แล้วรื้อกำแพงเผาบ้านเมืองเสีย จากนั้นจึงได้แบ่งปันครอบครัวที่กวาดต้อนได้เป็น 5 ส่วน แบ่งให้เมืองเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองน่าน เมืองเวียงจันทน์ เมืองละ 1 ส่วน (รวม 4 ส่วน) อีก 1 ส่วนถวายลงมา ณ กรุงเทพฯ โปรดให้ตั้งบ้านเรือนอยู่เมืองสระบุรีบ้าง แบ่งไปอยู่เมืองราชบุรีบ้าง แต่ทัพของกรุงเทพฯ นั้นกลับลงมาเปล่าไม่ได้ราชการสิ่งใด พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงขัดเคืองเป็นอันมาก ดำรัสว่าไม่รู้เท่าลาว และโปรดเกล้าฯ ให้ลงพระราชอาชญาจำกรมหลวงเทพหริรักษ์ พระยายมราช ไว้ที่ทิมดาบชั้นนอกตรงหลังศาลาลูกขุนฝ่ายซ้ายไว้ 4 วัน 5 วันก็โปรดให้พ้นโทษ[7][8]
ในวัฒนธรรมสมัยนิยม
[แก้]มีนักแสดงผู้รับบท สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ ได้แก่
- พิพัฒน์พล โกมารทัต จากละครเรื่อง สงครามเก้าทัพ (2531)
พงศาวลี
[แก้]พงศาวลีของสมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "ราชสกุลวงศ์" (PDF). กรมศิลปากร, สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-02-02. สืบค้นเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2557.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ George William Skinner (1957). Chinese Society in Thailand: An Analytical History. Cornell University Press. p. 26.
- ↑ พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) เรียบเรียง; สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงตรวจชำระและทรงพระนิพนธ์อธิบาย ตอนที่ 115. กรมหลวงเทพหริรักษ์สิ้นพระชนม์
- ↑ ในเอกสารเวียดนามเรียกว่า เจียวถุ่ยเบียง (เวียดนาม: Chiêu Thùy Biện, จีน: 昭錘卞)
- ↑ "King Rama The First’s letter to Queen Maria I of Portugal, 1786". huso.tsu.ac.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-07-20. สืบค้นเมื่อ 2018-07-20.
- ↑ พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) เรียบเรียง; สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงตรวจชำระและทรงพระนิพนธ์อธิบาย ตอนที่ 19. ทัพกรมหลวงเทพหริรักษ์ไปตีเมืองไซ่ง่อน.
- ↑ "ฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย : Thai Museums Database". sac.or.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-07-20. สืบค้นเมื่อ 2018-07-20.
- ↑ พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) เรียบเรียง; สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงตรวจชำระและทรงพระนิพนธ์อธิบาย ตอนที่ 109. กองทัพกรมหลวงเทพหริรักษ์กลับจากเมืองเชียงแสน.