กองทัพบก (แวร์มัคท์)
กองทัพบกเยอรมัน | |
---|---|
Deutsches Heer | |
Helmet decal used by the German Army in the mid-1940s | |
ประจำการ | 1935 |
ปลดประจำการ | สิงหาคม 1946[a] |
ประเทศ | เยอรมนี |
ขึ้นต่อ | อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ |
รูปแบบ | กองทัพบก |
กำลังรบ | ประจำการ: 13,600,000[3] |
ขึ้นกับ | แวร์มัคท์ |
กองบัญชาการ | ไมบัคที่ 1, วึนส์ดอร์ฟ |
ยุทธภัณฑ์ | List of army equipment |
ปฏิบัติการสำคัญ | สงครามกลางเมืองสเปน (1936–1939) สงครามโลกครั้งที่สอง (1939–1945) |
ผู้บังคับบัญชา | |
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด | อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ |
ผู้บัญชาการทหารบก | ดูรายชื่อ |
เสนาธิการทหารบก | ดูรายชื่อ |
เครื่องหมายสังกัด | |
ธงประจำกองทัพ |
กองทัพบกเยอรมัน (เยอรมัน: Deutsches Heer) อันเป็นกองทัพบกเยอรมันระหว่างปีค.ศ. 1935 ถึง 1946 ในยุคของนาซีเยอรมนี เป็นหนึ่งในสามเหล่าทัพเยอรมันควบคู่กับ ครีคส์มารีเนอ (ทัพเรือ) และลุฟท์วัฟเฟอ (ทัพอากาศ) ซึ่งประกอบกันเป็นกองทัพที่เรียกว่าแวร์มัคท์ ซึ่งมีกำลังพล 13 ล้านนาย เยอรมันบุคลากรของกองทัพส่วนใหญ่มาจากการเกณฑ์
เพียง 17 เดือนหลังจากอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ได้ประกาศต่อทางสาธารณะในแผนการปรับปรุงอาวุธใหม่,กองทัพบกได้บรรลุเป้าหมายที่ได้กำหนดแผนการเอาไว้ของ 36 กองพล.ในระหว่างช่วงฤดูใบไม้ร่วงในปี 1937 อีกสองเหล่ากองทัพน้อยถูกก่อตั้งขึ้น.ในปี 1938, 4 เหล่ากองทัพน้อยที่ถูกเพิ่มเติมได้ถูกก่อตั้งขึ้นด้วยการรวมห้ากองพลของกองทัพออสเตรียภายหลังจากอันชลุสส์ในเดือนมีนาคม.ในระหว่างช่วงของการขยายตัวโดยอดอล์ฟ ฮิตเลอร์,กองทัพบกเยอรมันยังคงได้พัฒนาแนวคิดบุกเบิกในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1,ได้ทำการรวบรวมการรบทางภาคพื้นดิน (แฮร์) และทางอากาศ (ลุฟท์วัฟเฟอ) เข้าไว้ด้วยกันให้เป็นทีมกองกำลังผสม (combined arms).ควบคู่ไปกับปฏิบัติการและกลยุทธ์ทางยุทธวิธี เช่น การโอบล้อม และการสู้รบทำลายล้าง,กองทัพเยอรมันได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็วในช่วงสองปีแรกของสงครามโลกครั้งที่สอง,ได้ถูกกระตุ้นให้มีการใช้คำว่า บลิทซ์ครีก (Blitzkrieg) (เป็นไปตามตัวอักษรของสงครามสายฟ้าแลบ,ความหมายคือสงครามรวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบ) สำหรับเทคนิคที่ใช้.
กองทัพเยอรมันได้เข้าสู่สงครามด้วยกองทหารราบส่วนใหญ่ต้องอาศัยการขนส่งด้วยม้าลาก.กองทหารราบที่เหลืออยู่นั้นทหารต้องเดินทางด้วยเท้าตลอดในช่วงสงคราม ปืนใหญ่ยังต้องเดินทางด้วยการขนส่งด้วยม้าลาก.การก่อตั้งยานยนต์ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในสื่อมวลชนโลกในช่วงการเปิดฉากของสงคราม,และถูกอ้างถึงเหตุผลหลักสำหรับความสำเร็จของการบุกครองโปแลนด์โดยเยอรมัน (กันยายน 1939),นอร์เวย์และเดนมาร์ก (เมษายน 1940),เบลเยียม,ฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ (พฤษภาคม 1940),ยูโกสลาเวีย (เมษายน 1941) และปฏิบัติการบาร์บารอสซา,การรุกรานสหภาพโซเวียต (มิถุนายน 1941).อย่างไรก็ตามการก่อตั้งยานยนต์และรถถังได้นับจากเพียง 20% ของความจุของแฮร์ที่สูงสุดของพวกเขา.กองทัพบกได้เกิดขาดแคลนด้วยรถบรรทุก (และเชื้อเพลิงปิโตรเลียมที่จะทำให้พวกเขาวิ่งได้) คือความเสียเปรียบอย่างรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงระหว่างการบุกครองนอร์ม็องดี เมื่อกองทัพอากาศฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทำลายเครือข่ายทางรถไฟฝรั่งเศลทางตอนเหนือของลัวร์.การเคลื่อนไหวของยานเกราะต้องขึ้นอยู่กับรางรถไฟ:การขับรถถังเกินกว่า 150 กิโลเมตรทำให้ตกออกจากรถไฟ
ยศทหารบกแวร์มัคท์
[แก้]ชั้นนายพล (Generäle)
[แก้]- จอมพล (Generalfeldmarschall)
- พลเอกอาวุโส (Generaloberst)
- พลเอกทหาร... (General der...)
- พลโท (Generalleutnant)
- พลตรี (Generalmajor)
ชั้นสัญญาบัตร (Offiziere)
[แก้]- พันเอก (Oberst)
- พันโท (Oberstleutnant)
- พันตรี (Major)
- ร้อยเอก (Hauptmann)
- ร้อยโท (Oberleutnant)
- ร้อยตรี (Leutnant)
ชั้นประทวนคาดกระบี่ (Unteroffiziere mit Portepee)
[แก้]ชั้นประทวนไม่คาดกระบี่ (Unteroffiziere ohne Portepee)
[แก้]ชั้นกองประจำการ (Mannschaften)
[แก้]- สิบโทกองประจำการ (Stabsgefreiter)
- สิบตรีกองประจำการ (Obergefreiter)
- สิบจัตวากองประจำการ (Gefreiter)
- ชั้นพลทหารชำนาญการ (Obersoldat) ได้แก่ พลปืนชำนาญการ, พลจู่โจมชำนาญการ , พลยานเกราะชำนาญการ ฯลฯ
- ชั้นพลทหาร (Soldat) ได้แก่ พลปืน (Schütze), พลจู่โจม (Grenadier), พลยานเกราะ (Panzerschütze) ฯลฯ
ธงเหล่า
[แก้]-
ธงทหารราบ
-
ธงทหารม้า
-
ธงทหารปืนใหญ่
-
ธงทหารยานเกราะ
-
ธงทหารช่าง
-
ธงทหารสื่อสาร
อ้างอิงและเชิงอรรถ
[แก้]- ↑ Allied Control Authority 1946a, p. 81.
- ↑ Allied Control Authority 1946b, p. 63.
- ↑ Overmans 2000, p. 257.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]
อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref>
สำหรับกลุ่มชื่อ "lower-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="lower-alpha"/>
ที่สอดคล้องกัน