การโอบล้อม



การโอบล้อม[1] (อังกฤษ: encirclement) คือคำศัพท์ทางทหารสำหรับสถานการณ์ที่กองกำลังหรือเป้าหมายถูกแยกจากกันและถูกโอบล้อมด้วยกองกำลังของศัตรู[2] สถานการณ์นี้อันตรายอย่างยิ่งสำหรับกองกำลังที่ถูกโอบล้อม ในระดับยุทธศาสตร์ คือการที่กองกำลังนั้นไม่สามารถรับการส่งกำลังบำรุงหรือการเสริมกำลังพลได้ ในระดับยุทธวิธี คือการที่หน่วยในกองกำลังอาจถูกโจมตีจากหลายทิศทางได้ สุดท้ายเมื่อกองกำลังนั้นไม่สามารถที่จะถอยได้แล้ว กองกำลังนั้นจะต้องต่อสู้จนตัวตายหรือยอมจำนน นอกจากจะถูกปลดปล่อยหรือตีหักวงล้อมได้
การโอบล้อมแบบพิเศษคือการล้อม (siege) ในกรณีนั้น กองกำลังที่โอบล้อมจะถูกป้องกันอยู่ในตำแหน่งที่มีป้อมสนามที่มีเสบียงที่ใช้ได้อย่างยาวนานและการป้องกันที่แข็งแกร่ง ทำให้กองกำลังเหล่านั้นสามารถต้านทานการโจมตีได้ การล้อมเกิดขึ้นในเกือบทุกยุคสมัยของการทำสงคราม
ประวัติ
[แก้]การโอบล้อมถูกนำมาใช้ตลอดหลายศตวรรษโดยผู้นำทางทหาร รวมไปถึงนายพลต่าง ๆ เช่น สปาร์ตากุส, อเล็กซานเดอร์มหาราช, จูเลียส ซีซาร์, เจงกิส ข่าน, คอลิด อิบน์ อัลวะลีด, แฮนนิบัล, ซุนวู, อี ซุน-ชิน, ชากาซูลู, ฟ็อน วาลเลนสไตน์, ชาห์นาเดอร์, จักรพรรดินโปเลียนที่ 1, ฟ็อน ม็อลท์เคอ, ไฮนทซ์ กูเดรีอัน, ฟ็อน รุนท์ชเต็ท, ฟ็อน มันชไตน์, เกออร์กี จูคอฟ, จอร์จ เอส. แพตตัน และกอเซม โซเลย์มอนี
ซุนวูและนักคิดทางการทหารอื่น ๆ แนะนำว่าไม่ควรโอบล้อมกองทัพอย่างสมบูรณ์ แต่ให้มีเหลือพื้นที่สำหรับการหลบหนีแทน มิฉะนั้นกำลังพลของกองทัพที่ "ถูกโอบล้อม" จะฟื้นขวัญกำลังใจขึ้นมาและต่อสู้จนตัวตาย ควรเปิดช่องทางความเป็นไปได้สำหรับการถอยร่นจะดีกว่า[3] เมื่อศัตรูล่าถอยก็ยังสามารถที่จะติดตามจับกุมหรือโจมตีทำลายแนวถอยได้โดยมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าการต่อสู้กับกองกำลังที่ยอมสู้จนตัวตาย
รูปแบบการโอบล้อม
[แก้]รูปแบบหลักของการโอบล้อมที่เรียกกันว่า "การโอบสองปีก" (double envelopment) เป็นการโจมตีทางปีกของการรบ (battle) ซึ่งใช้กองกำลังเคลื่อนที่ตามยุคสมัย เช่น ทหารราบเบา, ทหารม้า, รถถัง หรือรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ ที่พยายามจะบุกทะลวงโดยใช้ความเร็วให้เป็นประโยชน์เพื่อเข้าปิดจากด้านหลังของกองกำลังศัตรูเพื่อสร้างการปิดล้อมแบบ "วงแหวน" ที่สมบูรณ์ในขณะที่กองกำลังหลักของศัตรูกำลังติดพันกับการถูกโจมตีแบบสุ่มเพื่อหาจุดอ่อน (probing attack) เช่น การโอบล้อมของกองทัพที่ 6 ของเยอรมันในยุทธการที่สตาลินกราดในปี พ.ศ. 2485 ระหว่างสงครามฤดูหนาว ฟินแลนด์ได้ใช้ "ยุทธวิธีหย่อม"[1] (pocket tactics) ในการต่อต้านสหภาพโซเวียต เรียกว่า โมตติ (motti) ในบริบทของสงคราม โมตติคือยุทธวิธีที่ชาวฟินแลนด์ใช้ในการตรึงกำลัง, แบ่งส่วน, ล้อมรอบ และทำลายกองทหารโซเวียตที่มีขนาดใหญ่กว่าพวกเขาหลายเท่า[4]
หากมีสิ่งกีดขวางตามธรรมชาติ เช่น มหาสมุทร หรือภูเขาที่ด้านหนึ่งของสนามรบ จะมีการใช้เพียงปีกเดียวเท่านั้น เนื่องจากการโอบในปีกที่สองถูกกีดขวางโดยสิ่งกีดขวางตามธรรมชาติ[5] เช่น การโจมตีของเยอรมันในที่ราบลุ่มของฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2483
การโอบล้อมแบบที่สามสามารถเกิดขึ้นได้จากการเจาะผ่านในพื้นที่แนวหน้าข้าศึก และใช้ประโยชน์จะการเจาะนั้นด้วยกองกำลังเคลื่อนที่เจาะเข้าไปแล้วแยกเป็นสองทิศทางหรือมากกว่านั้นที่หลังแนวข้าศึก ซึ่งหลังจากการเจาะผ่านแล้วมักจะไม่เกิดการล้อมแบบเต็มวงแหวน แต่จากการโจมตีดังกล่าวจะลดทางเลือกของแนวตั้งรับอย่างหนัก รูปแบบการโจมตีประเภทนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิบัติการแบบสายฟ้าแลบ เนื่องจากความยากสูงสุดของการปฏิบัติการรูปแบบนี้ จึงไม่สามารถที่จะดำเนินได้บ่อย เว้นเสียจากกองกำลังฝ่ายรุกมีความเหนือกว่าในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะด้านเทคโนโลยี การจัดหน่วย หรือจำนวนกองกำลัง เช่น การทัพบาร์บาร็อสซาในปี พ.ศ. 2484
อันตรายต่อกองกำลังที่ถูกโอบล้อมก็คือการที่ตัวมันเองถูกตัดขาดจากฐานการส่งกำลังบำรุง หากกองกำลังที่โอบล้อมสามารถยืดหยัดได้อย่างมั่นคงหรือสามารถรักษาเส้นส่งกำลังบำรุง กองกำลังที่ถูกโอบล้อมอาจถูกดึงเข้าสู่ความสับสน (เช่น "แดสช์ทูเดอะไวเอออ์" ของรอมเมลในปี พ.ศ. 2484 และเดเมียนสค์พ็อกเกตในปี พ.ศ. 2485) หรือการถูกทำลายอย่างกว้างขวาง (เช่น ระหว่างการทัพพม่า พ.ศ. 2487)
ยุทธการโอบล้อมที่โดดเด่น
[แก้]ตัวอย่างบางส่วนของยุทธการโอบล้อมมีดังนี้
- ยุทธการที่เทอร์มอพิลี (พ.ศ. 64)
- ยุทธการที่กันไน (พ.ศ. 328)
- ยุทธการที่เมมโหย่ (พ.ศ. 2311)
- การทัพอุล์ม (พ.ศ. 2348)
- ยุทธการที่ซูโอมุสซัลมี (พ.ศ. 2482–2483)
- ยุทธการที่เคียฟ (พ.ศ. 2484)
- ยุทธการที่สโมเลนสค์ (พ.ศ. 2484)
- ยุทธการที่เบียวิสตอค–มินสค์ (พ.ศ. 2484)
- ยุทธการที่เวลีคีเยลูคี (พ.ศ. 2485)[6]
- ยุทธการที่ฮ่องกง (พ.ศ. 2484)
- ยุทธการที่สตาลินกราด (พ.ศ. 2485–2486)
- การรุกคอร์ซุน-เชฟเชนคอฟสกี (พ.ศ. 2487)[6]
- ปฏิบัติการบากราตีออน (พ.ศ. 2487)
- การล้อมบัสตอญ, เบลเยียม (พ.ศ. 2487)
- ยุทธการรัวร์พ็อตเก็ต (พ.ศ. 2488)
- ยุทธการที่เบอร์ลิน (พ.ศ. 2488)
- สงครามหกวัน (พ.ศ. 2510)
- ยุทธการที่โมกาดิชู (พ.ศ. 2536)
- การล้อมมารีอูปอล (พ.ศ. 2565)
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 คู่มือศัพท์ และ คำย่อทางทหาร (PDF). มณฑลทหารบกที่ 16. 2547. pp. 3–66.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "U.S. Army FM 3-90 Appendix D, Encirclement Operations". globalsecurity.org. สืบค้นเมื่อ 2012-01-23.
Encirclement operations are operations where one force loses its freedom of maneuver because an opposing force is able to isolate it by controlling all ground lines of communication and reinforcement.
- ↑ Sun Tzu, The Art of War, Section VII: Maneuvering, line 36.
- ↑ How Finns used the 'motti' tactic to entrap Soviets in Winter War
- ↑ "U.S. Army FM 3-90 Appendix D-1 OFFENSIVE ENCIRCLEMENT OPERATIONS". globalsecurity.org. สืบค้นเมื่อ 2012-01-23.
However, they can occur in situations where the attacking commander uses a major obstacle, such as a shoreline, as a second encircling force.
- ↑ 6.0 6.1 committee of former German officers (1952). Operations of Encircled Forces: German Experiences in Russia (Pamphlet 20-234). Historical Study. Washington, D.C.: U.S. Department of the Army. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-03-14. สืบค้นเมื่อ 2013-01-23. The German term for an encirclement is Kesselschlacht (cauldron battle).
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- The Great Kitilä Motti (ประวัติศาสตร์สงครามฤดูหนาวจากเว็บไซต์ภาพยนตร์สารคดีที่แสดงเรื่องราวมากมาย)