อองซก
อองซก (หวาง ซู่) | |
---|---|
王肅 | |
![]() | |
เสนาบดีพิธีการ (太常 ไท่ฉาง) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. ? – ค.ศ. 256 | |
กษัตริย์ | โจฮอง / โจมอ |
เจ้าเมืองโห้หล้ำ (河南尹 เหอหนานอิ่น) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. ? – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | โจฮอง |
เจ้าเมืองกว่างผิง (廣平太守 กว่างผิงไท่โฉ่ว) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 240 – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | โจฮอง |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | ค.ศ. 195 |
เสียชีวิต | ระหว่างวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 256 และ 31 มกราคม ค.ศ. 257[a] (61 ปี) |
คู่สมรส | หยางชื่อ (羊氏)[b] เซี่ยโหวชื่อ (夏侯氏)[c] |
บุตร |
|
บุพการี |
|
อาชีพ | ขุนนาง |
ชื่อรอง | จื่อยง (子雍) |
สมัญญานาม | จิ่งโหว (景侯) |
บรรดาศักดิ์ | หลานหลิงโหว (蘭陵侯) |
อองซก[4] (ค.ศ. 195–256)[5] มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า หวาง ซู่ (จีน: 王肅; พินอิน: Wáng Sù) ชื่อรอง จื่อยง (จีน: 子雍; พินอิน: Zǐyōng) เป็นขุนนางและบัณฑิตลัทธิขงจื๊อของรัฐวุยก๊กในยุคสามก๊กของจีน เป็นบุตรชายของอองลอง เมื่อบู๊ขิวเขียมเริ่มก่อกบฏในฉิวฉุน อองซกแนะนำสุมาสูให้บั่นทอนขวัญกำลังใจของกลุ่มกบฏโดยการปฏิบัติต่อครอบครัวของกลุ่มกบฏอย่างให้เกียรติ ต่อมาออกซกทูลขอโจมอให้สุมาเจียวเป็นผู้สืบทอดอำนาจถัดจากสุมาสูในฐานะผู้สำเร็จราชการแห่งวุยก๊ก[6]
บุตรสาวของอองซกชื่อหวาง ยฺเหวียนจี (王元姬) สมรสกับสุมาเจียวและให้กำเนิดสุมาเอี๋ยน (จักรพรรดิพระองค์แรกของราชวงศ์จิ้น) ในปี ค.ศ. 236 อองซกจึงเป็นตาของสุมาเอี๋ยน อองซกได้สืบทอดตำแหน่งและบรรดาศักดิ์หลานหลิงโหว (蘭陵侯) จากอองลองผู้บิดา[7]
อองซกรวบรวมขงจื่อเจีย-ยฺหวี่ (孔子家語; คำสอนในสำนักของขงจื๊อ) ที่ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งเป็นคำสอนของขงจื๊อที่ไม่ได้รวมอยู่ในหลุน-ยฺหวี่ (論語) นักวิชาการกังขามาเป็นเวลานานว่าอาจเป็นงานปลอมแปลงโดยอองซก[5] แต่ตำราที่ค้นพบในปี ค.ศ. 1977 จากสุสานซฺวางกู่ตุน (雙古堆; ปิดผนึกในปี ค.ศ. 165) ที่มีชื่อว่า หรูเจียเจ่อเหยียน (儒家者言, คำสอนสำนักหรู) มีเนื้อหาที่คล้ายกับในขงจื่อเจีย-ยฺหวี่[8]
ประวัติ[แก้]
อองซกเป็นชาวอำเภอถาน (郯縣 ถานเซี่ยน) เมืองตองไฮ (東海郡 ตงไห่จฺวิ้น) ซึ่งอยู่บริเวณอำเภอถานเฉิง มณฑลชานตงในปัจจุบัน บิดาของอองซกคืออองลองขุนนางและขุนศึกในช่วงปลายยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก อองซกเกิดในปี ค.ศ. 195 ในเมืองห้อยเข (會稽郡 ไคว่จีจฺวิ้น)[9] ขณะนั้นอองลองผู้บิดาดำรงตำแหน่งเจ้าเมือง (太守 ไท่โฉ่ว) ของเมืองห้อยเข
ในปี ค.ศ. 212 อองซกมีอายุ 18 ปี ได้ศึกษาคัมภัร์ไท่เสฺวียนจิง (太玄經) กับซงต๋ง (宋忠 ซ่ง จง)[10]
ในรัชสมัยของโจผีจักรพรรดิผู้ก่อตั้งรัฐวุยก๊ก อองซกได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารม้ามหาดเล็ก (散騎侍郎 ซ่านฉีชื่อหลาง) และเจ้าหน้าที่สำนักประตูเหลือง (黃門侍郎 หฺวางเหมินชื่อหลาง) ในราชสำนักวุยก๊ก[11]
ในปี ค.ศ. 228 อองลองเสียชีวิต อองซกสืบทอดบรรดาศักดิ์หลานหลิงโหว (蘭陵侯) ของบิดา[12]
ในปี ค.ศ. 229 อองซกขึ้นมามีตำแหน่งเป็นนายทหารม้ามหาดเล็ก (散騎常侍 ซ่านฉีฉางชื่อ)[13] ภายหลังได้รับตำแหน่งเพิ่มเติมเป็นหัวหน้าห้องสมุดหลวง (祕書監 มี่ซูเจียน) และขุนนางผู้ประกอบพิธีบวงสรวงและสังเกตวรรณกรรม (崇文觀祭酒 ฉงเหวินกวานจี้จิ่ว)[14]
ในปี ค.ศ. 240 อองซกดำรงตำแหน่งเจ้าเมือง (太守 ไท่โฉ่ว) ของเมืองกว่างผิง (廣平郡 กว่างผิงจฺวิ้น)[15] ภายหลังราชสำนักเรียกตัวอองซกกลับมาด้วยราชการใหญ่ และแต่งตั้งให้อองซกเป็นขุนนางที่ปรึกษา (議郎 อี้หลาง)[16] หลังจากนั้นไม่นานอองซกก็ได้ขึ้นเป็นขุนนางมหาดเล็ก (侍中 ชื่อจง) และเลื่อนขึ้นเป็นเสนาบดีพิธีการ (太常 ไท่ฉาง)[17] เวลานั้นโจซองขึ้นมามีอำนาจในราชสำนัก อองซกมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาด้านพิธีกรรมที่ศาลบรรพชนจึงถูกปลดจากตำแหน่ง[18] ต่อมาไม่นานได้รับราชการในตำแหน่งเจ้าเมือง (尹 อิ่น) ของเมืองโห้หล้ำ (河南郡 เหอหนานจฺวิ้น)[19]
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ดูเพิ่ม[แก้]
หมายเหตุ[แก้]
- ↑ บทชีวประวัติอองซกในจดหมายเหตุสามก๊กบันทึกว่าอองซกเสียชีวิตในศักราชกำลอ (กานลู่; ค.ศ. 256-260) ปีที่ 1 ในรัชสมัยของโจมอ[1] ในบทพระราชประวัติโจมอยังบันทึกว่าจักรพรรดิโจมอทรงเสด็จเยี่ยมสำนักศึกษาไท่เสฺว (太学) ในวันปิ่งเฉิน (丙辰) ของเดือน 4 ในปีนั้น ระหว่างการเสด็จเยือน อองซกได้ทูลตอบข้อซักถามของโจมอ อองซกจึงต้องเสียชีวิตหลังวันที่โจมอเสด็จเยือนซึ่งเทียบได้กับวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 256 ในปฏิทินจูเลียน ศักราชกำลอปีที่ 1 สิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 257 ในปฏิทินจูเลียน
- ↑ หยางชื่อเป็นมารดาของหวาง ยฺเหวียนจี ในปี ค.ศ. 267 หวางชื่อได้รับตำแหน่งหลังมรณกรรมเป็นเซี่ยนจฺวิน (县君) และได้รับสมัญญานามว่า 'จิ้ง" (靖) สมัญญานามเต็มเป็น "ผิงหยางจิ้งจฺวิน" (平阳靖君)[2] ไม่ทราบแน่ชัดว่าหยางชื่อมีความเกี่ยวข้องกับเอียวเก๋า (羊祜 หยาง ฮู่) และหยาง ฮุย-ยฺหวี (羊徽瑜) หรือไม่
- ↑ เซี่ยโหวชื่อเป็นมารดาเลี้ยงของหวาง ยฺเหวียนจี ในปี ค.ศ. 286 เซี่ยโหวชื่อได้รับตำแหน่งหลังมรณกรรมเป็น"เซี่ยงจฺวินแห่งเอ๊งหยง" (荥阳乡君 สิงหยางเซี่ยงจฺวิน)[3]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ (甘露元年薨, ...) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 13.
- ↑ (帝以后母羊氏未崇谥号,泰始三年下诏曰:“...其封夫人为县君,依德纪谥,主者详如旧典。”于是使使持节谒者何融追谥为平阳靖君。) จิ้นชู เล่มที่ 31.
- ↑ (太康七年,追赠继祖母夏侯氏为荥阳乡君。) จิ้นชู เล่มที่ 31
- ↑ "สามก๊ก ตอนที่ ๘๑". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ June 19, 2024.
- ↑ 5.0 5.1 Goldin, Paul Rakita (1999). Rituals of the Way: The Philosophy of Xunzi. Open Court Publishing. p. 135. ISBN 978-0-8126-9400-0.
- ↑ จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 13.
- ↑ จิ้นชู เล่มที่ 31.
- ↑ Shaughnessy, Edward L. (2014). Unearthing the Changes: Recently Discovered Manuscripts of the Yi Jing ( I Ching) and Related Texts. Columbia University Press. p. 190. ISBN 978-0-231-16184-8.
- ↑ (肅父朗與許靖書云:肅生於會稽。) อรรถาธิบายของเผย์ ซงจือในจดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 13.
- ↑ (年十八,從宋忠讀太玄,而更爲之解。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 13.
- ↑ (黃初中,爲散騎黃門侍郎。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 13.
- ↑ (太和二年薨,謚曰成侯。子肅嗣。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 13.
- ↑ (太和三年,拜散騎常侍。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 13.
- ↑ (後肅以常侍領祕書監,兼崇文觀祭酒。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 13.
- ↑ (正始元年,出爲廣平太守。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 13.
- ↑ (公事徵還,拜議郎。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 13.
- ↑ (頃之,爲侍中,遷太常。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 13.
- ↑ (坐宗廟事免。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 13.
- ↑ (徙爲河南尹。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 13.
บรรณานุกรม[แก้]
- ตันซิ่ว (ศตวรรษที่ 3). จดหมายเหตุสามก๊ก (ซานกั๋วจื้อ).
- เผย์ ซงจือ (ศตวรรษที่ 5). อรรถาธิบายจดหมายเหตุสามก๊ก (ซานกั๋วจื้อจู้).
- ฝาน เสฺวียนหลิง (648). พงศาวดารราชวงศ์จิ้น (จิ้นชู).