ซุ้มประตูวชิรสถิตและวชิรธำรง 72 พรรษา
ที่ตั้ง | ถนนเจริญกรุง แขวงบ้านบาตรและแขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และแขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร |
---|---|
ประเภท | ซุ้มประตู |
วัสดุ | เหล็กรูปพรรณ, คอนกรีตเสริมใยแก้ว, หินอ่อนหยกขาว |
ความกว้าง | 16 เมตร (52 ฟุต) (วชิรสถิต) 14 เมตร (46 ฟุต) (วชิรธำรง) |
ความสูง | 23 เมตร (75 ฟุต) |
การเปิด | 25 มกราคม 2568 |
อุทิศแด่ | พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567) |
ซุ้มประตูวชิรสถิต 72 พรรษา และ ซุ้มประตูวชิรธำรง 72 พรรษา หรือ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เป็นซุ้มประตูที่จัดสร้างโดยสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์จีน–ไทย ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง บริเวณจุดแบ่งเขตการปกครองระหว่างเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายและเขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ทั้งหมด 2 จุด คือ ซุ้มประตูวชิรสถิต 72 พรรษา หรือ "ซุ้มหัวมังกร" ตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานดำรงสถิตข้ามคลองรอบกรุง (คลองถม) และ ซุ้มประตูวชิรธำรง 72 พรรษา หรือ "ซุ้มหางมังกร" ตั้งอยู่บริเวณแยกหมอมี โดยพระองค์เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี มาทรงเปิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2568
ประวัติ
[แก้]เมื่อคราวพระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ในปี พ.ศ. 2525 เกียรติ วัธนเวคิน และจรรย์สมร วัธนเวคิน ประธานมูลนิธิเกียรติร่วมมิตรเพื่อการศึกษา ร่วมกับชาวไทยเชื้อสายจีน จัดทำโครงการ "พระบรมโพธิสมภารร่มเย็นเป็นสุข" เพื่อแสดงความกตัญญูที่ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีถวายสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชแห่งราชวงศ์จักรี ณ พลับพลาพิธี บริเวณวงเวียนโอเดียน เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร และทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎรที่เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทอย่างใกล้ชิด[1]
จากโครงการดังกล่าว สหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สสธวท.) และสมาคมสมาชิกของสหพันธ์ทั้ง 23 องค์กร ร่วมกับภาคีเครือข่ายอีก 3 แห่ง คือ สภาองค์การพัฒนาเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, มูลนิธิเกียรติร่วมมิตรเพื่อการศึกษา และสมาคมสตรีสัมพันธ์ จึงจัดงานเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวอีกครั้ง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายใต้โครงการ "สสธวท รวมใจเทิดเอกลักษณ์แห่งปัญจมังกร จารึกความกตัญญูต่อแผ่นดิน"[2] โดยจัดงานกาลาดินเนอร์ในชื่อ "เบญจกตัญญุตา" เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จมาทรงเป็นประธาน[3]
ก่อนการจัดงานกาลาดินเนอร์ดังกล่าว คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธาน สสธวท. ได้ชวนจรรย์สมรผู้เป็นมารดา ไปเข้าพบพระมหาคณาจารย์จีนธรรมวชิราจารย์ (เย็นอี่) เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส เพื่อปรึกษาเรื่องการต่อยอดจากงานกาลาดินเนอร์ พระมหาคณาจารย์จีนธรรมวชิราจารย์ได้ระบุว่า "การนี้คือผู้มีบุญญาบารมีใหญ่ที่สุดของแผ่นดินและครบรอบใหญ่" คุณหญิงณัฐิกาจึงมีแนวคิดจัดสร้างถาวรวัตถุเป็นซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาขึ้น โดยแนวคิดเริ่มแรกนั้นจะจัดสร้างที่แยกหมอมีเพียง 1 จุด[4] แต่พระมหาคณาจารย์จีนธรรมวชิราจารย์แนะนำว่าต้องสร้างที่เชิงสะพานดำรงสถิตอีก 1 จุด เนื่องจากเป็นจุดหัวมังกร ส่วนถนนเจริญกรุงเป็นตัวมังกรตามชื่อเรียก "ถนนสายมังกร" และห้าแยกหมอมีเป็นจุดขามังกรหริอหลังมังกร โดยที่ห้าแยกเปรียบเสมือนห้าเล็บของมังกรที่เป็นสัญลักษณ์เฉพาะฮ่องเต้เท่านั้น[5] โดยหลังการจัดงาน สสธวท. ได้เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายเงินเพื่อพระราชทานเป็นทุนประเดิมในการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติเมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2567[6] โดยซุ้มประตูจัดสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน (ซุ้มที่สะพานดำรงสถิต) และ 30 พฤศจิกายน (ซุ้มที่แยกหมอมี) ตามลำดับ[5]
พิธีเปิด
[แก้]พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานชื่อซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติทั้ง 2 แห่ง โดยส่วนหัวมังกรอยู่ที่สะพานดำรงสถิต พระราชทานนามว่า ซุ้มประตูวชิรสถิต 72 พรรษา หมายถึง ซุ้มประตูนี้เป็นเอกลักษณ์แสดงถึงพระชนมายุ 72 พรรษาของพระองค์ ส่วนที่ห้าแยกหมอมีพระราชทานนามว่า ซุ้มประตูวชิรธำรง 72 พรรษา หมายถึง ซุ้มประตูนี้เป็นเอกลักษณ์จารึกการเทิดทูนของพสกนิกรชาวไทยในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษาของพระองค์[7]
วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2568 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิด ซุ้มประตูวชิรสถิต 72 พรรษา และ ซุ้มประตูวชิรธำรง 72 พรรษา พร้อมทอดพระเนตรการขับร้องเพลง "สดุดีพระทศมราชา" ซึ่งประพันธ์โดยวงดนตรีสุนทราภรณ์ และการแสดงชุด "เบญจกตัญญุตาบารมีแห่งมังกรสยาม" รวมถึงการแสดงของโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายและเขตสัมพันธวงศ์ที่ทำการแสดงริมถนนเจริญกรุง และการแสดงแผนที่ฉาย (Mapping Show) บนซุ้มประตูวชิรธำรง 72 พรรษา[8] โดยในโอกาสนี้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้จัดทำแสตมป์ที่ระลึกซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ออกวันจำหน่ายในวันเดียวกันอีกด้วย โดยเปิดตัวพร้อมกับแสตมป์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567[9]
ลักษณะ
[แก้]การออกแบบ
[แก้]ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ออกแบบโดยใช้แนวคิด "ปัญจมังกร" หรือปรากฏการณ์มังกรทั้ง 5 ได้แก่
- พระมหากษัตริย์ไทยทรงได้รับการสดุดี เป็นมังกรแห่งมวลมนุษย์
- เป็นนักษัตรประจำปีพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (มะโรง)
- พ.ศ. 2567 เป็นนักษัตรปีมังกรตามสุริยคติ
- วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี) เป็นหนึ่งในศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน
- ถนนเจริญกรุง เป็นถนนสายแรกของประเทศไทย ทำให้มีอีกชื่อว่า "ถนนสายมังกร"
โครงสร้าง
[แก้]ซุ้มประตูเป็นซุ้มคร่อมบนถนนเจริญกรุง สร้างโดยใช้โครงสร้างเป็นเหล็กรูปพรรณเชื่อมต่อกันตามรูปทรงที่กำหนด ส่วนภายนอกใช้วัสดุคอนกรีตเสริมใยแก้วเพื่อช่วยลดน้ำหนักของซุ้มประตู แต่มีความคงทน ส่วนขนาดของซุ้มนั้นมีความสูง 23 เมตร ส่วนความกว้างไม่เท่ากัน โดยซุ้มประตูวชิรสถิต 72 พรรษา กว้าง 16 เมตร และซุ้มประตูวชิรธำรง 72 พรรษา กว้าง 14 เมตร ถือเป็นซุ้มประตูศิลปะจีนที่ใหญ่ที่สุดโลก เนื่องจากประเทศจีนเคยสร้างซุ้มประตูใหญ่ที่สุดที่ความกว้าง 8-10 เมตร[4]
สถาปัตยกรรม
[แก้]ซุ้มประตูทั้งสองแห่งมีสถาปัตยกรรมเป็นศิลปะของราชวงศ์จีนตอนเหนือสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับมอบมาจากพระมหาคณาจารย์จีนธรรมวชิราจารย์[5] เสาเป็นสีแดง ฐานอยู่บนทางเท้าทั้งสองฝั่ง เป็นซุ้มเสาคู่เดียว มีหลังคาสีเหลืองด้านบน 3 หลังคา ลดระดับสองชั้นซ้ายขวา กึ่งกลางหลังคาชั้นบนประดิษฐานตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีมังกรคู่เป็นปูนปั้นระบายสีหันหน้าเข้าหาตราสัญลักษณ์ประกอบด้านข้าง และมีลวดลายมังกรห้าเล็บเป็นสัญลักษณ์หลัก โดยตกแต่งด้วยสีทั้งหมด 5 สีตามธาตุ คือ สีแดง (ธาตุไฟ) สีเหลือง (ธาตุดิน) สีดำและสีน้ำเงิน (ธาตุน้ำ) สีเขียว (ธาตุไม้) และสีขาว (ธาตุทอง)[4]
นอกจากนี้ ยังมีประติมากรรมมงคลรูปช้างไทย สิงโตจีน ซึ่งเป็นตัวแทนทั้ง 2 ประเทศ และกลองลายเมฆมงคล ทั้งหมดแกะสลักโดยศิลปินชาวจีนจากหินฮั่นไป๋หวี่ (หินอ่อนหยกสีขาว) ซึ่งเป็นหินชนิดพิเศษของจีน ที่ใช้เฉพาะในพระราชวังต้องห้ามเท่านั้น ประดิษฐานที่ฐานเสาซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้ง 2 จุดอีกด้วย โดยประติมากรรมดังกล่าวนี้ รัฐบาลจีนมอบให้รัฐบาลไทย ผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ในโอกาสครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์จีน–ไทย ในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568[7]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ เหล่าวิวัฒน์, ปริยา (22 มกราคม 2025). "ชมภาพ ในหลวงเสด็จฯ เยาวราช ฉลองสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ครบ 200 ปี". กรุงเทพธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2025.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "สสธวท รวมใจเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ 72 พรรษา จัดแสดงงิ้ว'เบญจกตัญญุตา'จารึกกตัญญูต่อแผ่นดิน". แนวหน้า. 16 สิงหาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2025.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ในหลวง พระราชินี ทรงเป็นประธานงาน กาล่าดินเนอร์เฉลิมพระเกียรติฯ "เบญจกตัญญุตา"". ข่าวสด. 25 สิงหาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2025.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 4.0 4.1 4.2 สุภากร, วลัญช์ (21 มกราคม 2025). "ในหลวง ร.10 พระราชทานชื่อ 2 ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บนถนนเจริญกรุง". กรุงเทพธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2025.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 5.0 5.1 5.2 "ถวายความภักดี ร่วมสร้าง 'ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ' 2 แลนด์มาร์กใหม่ ถ.เจริญกรุง". มติชน. 16 ตุลาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2025.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ในหลวง พระราชทานทุนทรัพย์ เป็นทุนประเดิมสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ฯ". ผู้จัดการออนไลน์. 21 กันยายน 2024. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2025.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 7.0 7.1 ""ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษาฯ" ตระการตา 2 แลนด์มาร์กใหม่ "หัว-ท้ายมังกร" บนถนนเจริญกรุง". ผู้จัดการออนไลน์. 16 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2025.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ เปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 'วชิรสถิต-วชิรธำรง' ถ.เจริญกรุง". มติชน. 25 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2025.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ไปรษณีย์ไทย เปิดจำหน่ายแสตมป์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 72 พรรษา". ประชาชาติธุรกิจ. 23 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2025.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)