ข้ามไปเนื้อหา

โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร

พิกัด: 13°45′57″N 100°30′45″E / 13.765876°N 100.512521°E / 13.765876; 100.512521
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร
Matthayom Wat Benchamabophit School
ที่ตั้ง
แผนที่
เลขที่ 69 ถนนศรีอยุธยา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
ข้อมูล
ชื่ออื่นบ.บ. (M.W.B.B.)
ชื่อเดิมโรงเรียนเบญจมบพิตร
โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร
ประเภทโรงเรียนรัฐบาล
คติพจน์บาลี: อุฏฺฐาตา วินฺทเต ธนํ
(ผู้หมั่นย่อมหาทรัพย์ได้)
ศาสนาพุทธ
นิกายมหานิกาย
อุปถัมภกพระธรรมวชิราธิบดี (ฉ่ำ ปุญฺญชโย ป.ธ.๙)
สถาปนา12 เมษายน พ.ศ. 2443 (124 ปี)
ผู้ก่อตั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เขตการศึกษาเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 กลุ่ม 2
ผู้อำนวยการโรงเรียนเขษมชาติ อารีมิตร
เพศชาย
ชั้นเรียนที่เปิดสอนมัธยมศึกษา
พื้นที่5 ไร่ 42 ตารางวา
สี   ชมพู-เหลือง
คำขวัญรุ่นพี่เกรียงไกร รุ่นน้องชายจะช่วยรักษา
เพลงเพลงมาร์ชเบญจมบพิตร
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ศิษย์เก่าสมาคมนักเรียนเก่าเบญจมบพิตร ในพระบรมราชูปถัมภ์
ต้นไม้ประจำโรงเรียนต้นอโศก
เว็บไซต์www.mwbb.ac.th
มัธยมวัดเบญจมบพิตรตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร
มัธยมวัดเบญจมบพิตร
มัธยมวัดเบญจมบพิตร
มัธยมวัดเบญจมบพิตร (กรุงเทพมหานคร)
ภาพถ่ายเก่าอาคารพระพุทธเจ้าหลวง ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน

โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร (อังกฤษ: Matthayom Wat Benchamabophit School; อักษรย่อ: บ.บ. / M.W.B.B.) เป็นโรงเรียนชายล้วน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ก่อตั้งขึ้นโดยพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อสอนศิษย์ซึ่งเป็นคฤหัสถ์ ได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2443 ปัจจุบันตั้งอยู่เลขที่ 69 ถนนศรีอยุธยา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300[1]

ปัจจุบันโรงเรียนได้เปลี่ยนชื่อจาก "โรงเรียนเบญจมบพิตร" เป็น "โรงเรียนมัธยมเบญจมบพิตร" เป็น "โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร" และสุดท้ายได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น "โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร" เป็นโรงเรียนแห่งแรกของประเทศไทยที่มีชื่อขึ้นต้นว่า "เบญจม" และได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า "เบญจมบพิตร" ซึ่งต่างจากโรงเรียนอื่น ๆ ที่ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว[2]

ประวัติ

[แก้]
หน้าบันอาคารพระพุทธเจ้าหลวง

เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหารขึ้น ได้ทรงมีพระราชดำริว่าวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหารตั้งอยู่ห่างไกล บรรดาศิษย์วัดซึ่งต้องอุปัฏฐากรับใช้ภิกษุสามเณรไม่สะดวกที่จะเดินทางไปเล่าเรียนที่ห่างไกล จึงทรงมีพระราชประสงค์ให้สร้างโรงเรียนขึ้นเพื่อสอนศิษย์ซึ่งเป็นคฤหัสถ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานกำเนิดเมื่อ พ.ศ. 2443 ในชั้นต้นที่อาคารชั่วคราวหลังมุงจากใช้เสื่อลำแพนกั้นเป็นประตูและหน้าต่างเพียงหลังเดียว ทรงกำหนดหลักสูตรแนวการสอนด้วยพระองค์เอง และเปิดสอนเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2444 มีนักเรียน 40 คน เป็นโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์โดยตรง ไม่ขึ้นตรงต่อกระทรวงธรรมการสมัยนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์ และเจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล) เป็นกรรมการจัดทำหลักสูตรโรงเรียนตามพระราชประสงค์ ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการก่อสร้างอาคารเรียนถาวร ได้ทรงพระราชทานพระราชกระแสให้ช่างเขียนอย่างวางแผน และวัดที่ปลูกต่อลง ณ ด้านใต้ของแนวกุฏิสงฆ์ ได้เริ่มจัดการก่อสร้างมาตั้งแต่รัตนโกสินทร์ศก 120 (พ.ศ. 2444) แต่การสร้างโรงเรียนซึ่งจะให้เป็นที่มั่นคงถาวรนั้น ต้องกระทำด้วยเวลาช้านานประการหนึ่งจึงทรงพระราชดำริว่า ควรจะสร้างโรงเรียนขึ้นด้วยไม้มุงจาก แต่พอให้พักจัดการเริ่มสอนนักเรียนไปก่อน จนกว่าโรงเรียนอันถาวรจะได้สร้างสำเร็จ ดังที่ทรงพระราชทานพระราชกระแสรับสั่งว่า[3]

   “ขอให้ตระเตรียมหาตัวครู แลเครื่องมือที่สำหรับจะสอน เมื่อโรงเรียนที่จะปลูกใช้ไปพลางแล้วเสร็จเมื่อใดก็ให้ได้จับสอนทีเดียว...การที่คิดนี้เปนคิดส่วนสอนศิษย์ซึ่งเปนฝ่ายคฤหัสถ์”

โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์เป็นผู้ออกแบบอาคารเรียน โดยในขณะที่พระองค์เสด็จประพาสยุโรปนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงควบคุมดำเนินการก่อสร้างแทนพระองค์ และพระราชทานนามโรงเรียนแห่งนี้ว่า "โรงเรียนเบญจมบพิตร" เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2445 อยู่ติดกับวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร[4]

หลักสูตรเบื้องแรก

[แก้]

โรงเรียนเบญจมบพิตรในยุคแรกได้จัดการเรียนการสอนเป็น 3 ชั้น โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ตอน ให้เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียนในแต่ละชั้น เริ่มจากการสอนวิชาง่ายๆ ในชั้นที่ 1 และเพิ่มความซับซ้อนในชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 เมื่อจบการศึกษาชั้นที่ 3 นักเรียนจะได้รับความรู้ครบถ้วนตามหลักสูตร[3]

ในส่วนของการเรียนวิชาหนังสือไทยนั้น หลักสูตรมุ่งเน้นให้นักเรียนมีความสามารถ 3 ด้าน ได้แก่ การอ่าน การเขียน และการเรียบเรียงคำ โดยฝึกให้อ่านหนังสือได้เข้าใจเนื้อหา ฝึกเขียนหนังสือให้ถูกต้อง สวยงาม และสะอาด รวมถึงการเขียนคำพูดลงเป็นลายลักษณ์อักษร และจัดเรียงถ้อยคำตามหลักภาษา วิชาทั้งหมดที่สอนในหลักสูตรนี้มี 11 วิชา แบ่งการสอนเป็นตอนๆ ตามลำดับชั้น เพื่อให้เหมาะสมกับระดับความรู้ของนักเรียน[3]

สัญลักษณ์

[แก้]

สัญลักษณ์ของโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร

  • ตราประจำโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร ประกอบด้วยพระจุลมงกุฎเปล่งรัศมี ภายใต้มีเลข ๕ หมายถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระราชทานกำเนิดโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร มีอักษร “บ.บ.” หมายถึงอักษรย่อของโรงเรียนอยู่ภายใต้เลข ๕ ภายใต้มีแถบระบุข้อความ "อุฏฺฐาตา วินฺทเต ธนํ" ซึ่งสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (ปลด กิตฺติโสภโณ) ทรงประทานให้เป็นคำขวัญของโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร มีแถบระบุชื่ออยู่ภายใต้[5]
  • สีประจำโรงเรียน ชมพู - เหลือง
    •   สีชมพู เป็นสีประจำวันอังคาร ซึ่งเป็นวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระราชทานกำเนิดโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร เป็นสัญลักษณ์เตือนใจครูและนักเรียน ให้น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
    •   สีเหลือง เป็นสีของพระพุทธศาสนา หมายถึงโรงเรียนตั้งอยู่ในวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เป็นสัญลักษณ์เตือนใจครูและนักเรียน ให้กระทำในสิ่งที่ชอบ ไม่ประกอบในสิ่งที่ผิด ฝึกชำระจิตใจให้บริสุทธิ์สะอาด ใช้ความสามารถคุ้มครองตนและเป็นคนมีธรรมะ คุ้มครองทุกเมื่อ[6]

สิ่งเคารพสักการะ

  • พระพุทธชินราช (จำลอง) พระประธานประจำพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
  • พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ศาลาร้อยปี วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
  • พระรูปหล่อสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (ปลด กิตฺติโสภโณ) ณ พิพิธภัณฑ์พระอนุสรณ์ อ.ป.ก. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร[7]

คณะสีของโรงเรียน

โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร เป็นโรงเรียนเดียวของประเทศไทยที่ใช้ชื่อคณะสีจากหน้าบันพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร

  • ██ คณะนารายณ์ทรงครุฑ Naraisongkrut (สีแสด) ก่อตั้งวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2521
  • ██ คณะจักรรถ Jakrot (สีแดง) ก่อตั้งวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2521
  • ██ คณะมหาอุณาโลม Mahaunalom (สีเขียว) ก่อตั้งวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2521
  • ██ คณะไอยราพต Iyarapot (สีฟ้า) ก่อตั้งวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2521
  • ██ คณะจุลมงกุฎ Chula Mongkut (สีเทา) ก่อตั้งวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2531 (ปัจจุบันไม่มีคณะสีนี้แล้ว)[8]

อาคารและสถานที่ภายในบริเวณโรงเรียน

[แก้]
มุมมองอาคารพระพุทธเจ้าหลวงจากอาคารพุทธิศึกษา
มุมมองอาคารพระพุทธเจ้าหลวงจากอาคารรัตนโกสินทร์ 200 ปี
  • อาคาร 1 (อาคารพระพุทธเจ้าหลวง) สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2445 เป็นแบบพิเศษ 2 ชั้น 16 ห้องเรียนทรงยุโรป ราคาก่อสร้าง 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) สร้างด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งเป็นสมบัติของพระราชโอรส พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรณ์ศิริประสาธน์ และเจ้าจอมมารดาหม่อมราชวงศ์เกสร ในรัชกาลที่ 5 อาคารหลังนี้ได้รับการซ่อมแซมหลายครั้ง ครั้งหลังสุดกรมสามัญศึกษาได้ทำการซ่อมแซมเมื่อ พ.ศ. 2525 ใช้งบประมาณ 2.4 ล้านบาท อาคารเรียนหลังนี้ได้รับคัดเลือกให้เป็น อาคารสถานที่ราชการอนุรักษ์ดีเด่นของสถาปนิกสมาคม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานโล่รางวัล และประกาศนียบัตรแก่โรงเรียนเมื่อ พ.ศ. 2528 ปัจจุบันอาคารเรียนหลังนี้ยังมั่นคง แข็งแรง และสง่างาม โรงเรียนใช้เป็นสำนักงานของฝ่ายบริหารโรงเรียน
  • อาคารที่ 2 (อาคารเทพศึกษา) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2507 เป็นอาคารเรียน 3 ชั้น ขนาด 15 ห้องเรียน ราคาก่อสร้าง 1.5 ล้านบาท ใช้เป็นห้องคอมพิวเตอร์ 2 ห้อง ห้องกลุ่มบริหารกิจการนักเรียน 1 ห้อง ห้อง Resource Center 1 ห้อง ห้องสมุด 5 ห้อง ห้องเรียนวิชาภาษาไทย 4 ห้องและห้องพักครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 1 ห้อง
  • อาคารที่ 3 (อาคารพุทธิศึกษา) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2517 เป็นอาคารเรียน 4 ชั้น ขนาด 20 ห้องเรียน ราคาก่อสร้าง 2.4 ล้านบาท ใช้เป็นห้องพักครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 1 ห้อง ห้องกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ 1 ห้อง และห้องกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 1 ห้อง ห้องเรียนเกษตร 1 ห้อง ห้องเรียน ICP 2 ห้อง ห้องร้านค้าสหกรณ์โรงเรียน 1 ห้อง ห้องพระพุทธศาสนา 1 ห้อง
  • อาคารที่ 4 (อาคารธรรมศึกษา) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2520 เป็นอาคารเรียน 4 ชั้น ขนาด 20 ห้องเรียน ราคาก่อสร้าง 3.9 ล้านบาท ใช้เป็นห้องพักครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิศาสตร์ 1 ห้อง ห้องเรียนศิลปะ 3 ห้อง ห้องเรียนคณิตศาสตร์ 4 ห้อง ชั้นล่างเป็นห้องประชุม และห้องพักครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ 1 ห้อง
  • อาคารที่ 5 (อาคารรัตนโกสินทร 200 ปี) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2522 แบบพิเศษ 4 ชั้น ราคาก่อสร้าง 3.3 ล้านบาท ใช้เป็นโรงฝึกงาน โรงอาหาร และห้องปฏิบัติการทางภาษา 1 ห้อง และห้องเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และเทคโนโลยี จำนวน 4 ห้อง
  • อาคารที่ 6 (อาคารพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2528 แบบพิเศษ 3 ชั้น ขนาด 12 ห้องเรียน ราคาก่อสร้าง 5 ล้านบาท พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก สร้างให้ด้วยทุนทรัพย์ส่วนตัว ใช้เป็นห้องเรียนวิทยาศาสตร์ 12 ห้อง และห้องกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 1 ห้อง
  • อาคารที่ 7 (เรือนพยาบาลพลเอก อาทิตย์ กำลังเอก) เป็นอาคารทรงไทย ประกอบไปด้วยเวชภัณฑ์และคุรุภัณฑ์ สร้างด้วยทุนทรัพย์ส่วนตัวของพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก ราคาก่อสร้าง 250,000 บาท[9]

องค์ผู้อุปการะโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร

[แก้]

องค์ผู้อุปการะโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร คือ เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามทุกรูปตั้งแต่เมื่อแรกสถาปนา

ผู้อำนวยการ

[แก้]
ทำเนียบผู้บริหาร[11]
ลำดับ รายนาม วาระการดำรงตำแหน่ง
1 พระยาบรรหารวรอรรถ (ฉัตร ยุกติรัตน) พ.ศ. 2443 - พ.ศ. 2447
2 หลวงประสาสน์อักษรการ (โหมด เทวะผลิน) พ.ศ. 2447 - พ.ศ. 2450
3 พระประกอบวุฒิสาท (ทิพย์ เปรมกมล) พ.ศ. 2450 - พ.ศ. 2452
4 หลวงนิเพทย์นิติสรรค์ (ฮวดหลี หุตะโกวิท) พ.ศ. 2452 - พ.ศ. 2455
5 พระชำนาญอนุสาสน์ (ทองคำ โคปาลสุต) พ.ศ. 2455 - พ.ศ. 2458
6 พระสันธิวิทยาพัฒน์ (ไล่เฮียง สิริสิงห) พ.ศ. 2458 - พ.ศ. 2465
7 พระพณิชยสารวิเทศ (ผาด มนธาตุผลิน) พ.ศ. 2465 - พ.ศ. 2468
8 หลวงสันธานวิทยาสิทธิ์ (กำจาย พลางกูร) พ.ศ. 2468 - พ.ศ. 2472
9 หลวงแจ่มวิชาสอน (แจ่ม นิยมเหตุ) พ.ศ. 2472 - พ.ศ. 2473
10 พระยาประมวญวิชาพูล (วงศ์ บุญ-หลง) พ.ศ. 2473 - พ.ศ. 2475
11 นายนาค เทพหัสดิน ณ อยุธยา พ.ศ. 2475 - พ.ศ. 2476
12 หลวงชุมวิทยากิจ (ชุม โปตรนันท์) พ.ศ. 2476 - พ.ศ. 2476
13 หลวงปราโมทย์ จรรยาวิภาช (ปราโมทย์ จันทวิมล) พ.ศ. 2476 - พ.ศ. 2477
14 หลวงลือล้ำศาสตรี (เลื่อน ศีวรรธนะ) พ.ศ. 2477 - พ.ศ. 2478
15 พระดรุณพยุหรักษ์ (บุญเย็น ธนโกเศศ) พ.ศ. 2478 - พ.ศ. 2479
16 หลวงทรงวิทยาศาสตร์ (ทรง ประนิช) พ.ศ. 2479 - พ.ศ. 2481
17 นายถวิล ดารากร ณ อยุธยา พ.ศ. 2481 - พ.ศ. 2485
18 นายเทือก กุสุมา ณ อยุธยา พ.ศ. 2485 - พ.ศ. 2489
19 นายพร ทองพูนศักดิ์ พ.ศ. 2489 - พ.ศ. 2491
20 ศาสตราจารย์ สุดใจ เหล่าสุนทร พ.ศ. 2491 - พ.ศ. 2493
21 นายเดช เดชกุญชร พ.ศ. 2493 - พ.ศ. 2498
22 ขุนศิลปการพิศิษฏ์ (ประเสริฐ จุลฤกษ์) พ.ศ. 2498 - พ.ศ. 2505
23 นายบุญอวบ บูรณะบุตร พ.ศ. 2505 - พ.ศ. 2507
24 นายทองสุก เกตุโรจน์ พ.ศ. 2507 - พ.ศ. 2511
25 นายแก้ว อุปพงศ์ พ.ศ. 2511 - พ.ศ. 2516
26 นายลพ ชูแข พ.ศ. 2516 - พ.ศ. 2526
27 นายวิสิทธิ์ คำปันศักดิ์ พ.ศ. 2526 - พ.ศ. 2533
28 นายวิกรม ชุมสาย ณ อยุธยา พ.ศ. 2533 - พ.ศ. 2539
29 นายสมชัย เชาว์พานิช พ.ศ. 2539 - พ.ศ. 2544
30 นายสุนทร วิไลลักษณ์ พ.ศ. 2544 - พ.ศ. 2545
31 นายจีระศักดิ์ จันทุดม พ.ศ. 2545 - พ.ศ. 2547
32 นายบุญธรรม พิมพาภรณ์ พ.ศ. 2547 - พ.ศ. 2549
33 นายสุรพล การบุญ พ.ศ. 2549 - พ.ศ. 2550
34 นายนาวี ยั่งยืน พ.ศ. 2550 - พ.ศ. 2551
35 นายวันชัย ทองเกิด พ.ศ. 2551 - พ.ศ. 2554
36 นายชลอ เขียวฉลัว พ.ศ. 2554 - พ.ศ. 2558
37 นายภัทร ผ่องราษี พ.ศ. 2558 - พ.ศ. 2559
38 ดร.มนพมนตรี สกุลศิลป์ศิริ พ.ศ. 2559 - พ.ศ. 2561
39 นางปัณฑารีย์ บุญแรง พ.ศ. 2561 - พ.ศ. 2563
40 ดร.พงศ์ไท คีรีวงศ์วัฒนา พ.ศ. 2563 - พ.ศ. 2566
41 นายภราดอน สังขรัตน์ พ.ศ. 2566 - พ.ศ. 2567
42 นายเขษมชาติ อารีมิตร พ.ศ. 2567 - ปัจจุบัน

หลักสูตรที่เปิดสอน

[แก้]

ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น

[แก้]
  • โครงการห้องเรียนพิเศษ
    • โครงการความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (เพชรเบญจมบพิตร) ระดับชั้นละ 1 ห้อง (30 คน)
  • โครงการห้องเรียนปกติ
    • ห้องเรียนปกติ ระดับชั้นละ 3 ห้อง (120 คน)

ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

[แก้]
  • โครงการห้องเรียนปกติ
    • ห้องเรียนปกติ ระดับชั้นละ 3 ห้อง (90 คน)
      • แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์
      • แผนการเรียนภาษาอังกฤษ - คณิตศาสตร์
      • แผนการเรียนภาษาอังกฤษ - ภาษาจีน (ภาษาจีนเพื่อธุรกิจ)
      • แผนการเรียนภาษาไทย - สังคมศึกษา
      • แผนการเรียนศิลป์ - ธุรกิจ (การจัดการธุรกิจการค้าสมัยใหม่)[12]

องค์กรที่ให้การสนับสนุนโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร

[แก้]

สถานที่สำคัญที่อยู่ใกล้เคียง

[แก้]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร". Dek-D.com (ภาษาอังกฤษ).
  2. "โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร". Dek-D.com (ภาษาอังกฤษ).
  3. 3.0 3.1 3.2 "MWBB : ประวัติโรงเรียน". www.mwbb.ac.th.
  4. admin (2014-01-24). "อาคารพระพุทธเจ้าหลวง ตึกสีชมพู". ของดีประเทศไทย. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-11-02. สืบค้นเมื่อ 2023-10-24.
  5. "MWBB : สัญลักษณ์ประจำโรงเรียน". www.mwbb.ac.th.
  6. "โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร". Dek-D.com (ภาษาอังกฤษ).
  7. "MWBB : สัญลักษณ์ประจำโรงเรียน". www.mwbb.ac.th.
  8. "โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร". Dek-D.com (ภาษาอังกฤษ).
  9. "MWBB : ข้อมูลอาคารเรียน". www.mwbb.ac.th.
  10. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความกระทรวงธรรมการ แผนกกรมสามัญศึกษา เรื่องมีผู้อุปการโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร, เล่ม ๔๕, ตอน ๐ ง , ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๑, หน้า ๒๖๗๓
  11. "MWBB : ทำเนียบผู้บริหารโรงเรียน". www.mwbb.ac.th.
  12. "MWBB : หลักสูตร". www.mwbb.ac.th.
  13. "2566-08-29 มอบทุนการศึกษา จากคุณครูเก่าโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร สมาคมผู้ปกครองและครู". Google Photos.
  14. "2566-08-28 การสนับสนุนทุนการศึกษาจากสมาคมนักเรียนเก่าเบญจมบพิตร". Google Photos.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

13°45′57″N 100°30′45″E / 13.765876°N 100.512521°E / 13.765876; 100.512521