ข้ามไปเนื้อหา

เอเสเคียล 1

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เอเสเคียล 1
หนังสือหนังสือเอเสเคียล
ภาคในคัมภีร์ฮีบรูเนวีอีม
ลำดับในภาคของคัมภีร์ฮีบรู7
หมวดหมู่ผู้เผยพระวจนะยุคหลัง
ภาคในคัมภีร์ไบเบิลคริสต์พันธสัญญาเดิม
ลำดับในภาคของคัมภีร์ไบเบิลคริสต์26

เอเสเคียล 1 (อังกฤษ: Ezekiel 1) เป็นบทแรกของหนังสือเอเสเคียลในคัมภีร์ฮีบรูหรือพันธสัญญาเดิมในคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์ หนังสือเอเสเคียลประกอบด้วยคำเผยพระวจนะที่ถือว่าเป็นของผู้เผยพระวจนะ/ปุโรหิตเอเสเคียล เป็นหนึ่งในหนังสือหมวดผู้เผยพระวจนะ ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน บทที่ 1 นี้มีชื่อบทว่า "นิมิตเกี่ยวกับพระสิริของพระเจ้า"[1] ส่วนในพระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย มีชื่อบทว่า "สิ่งมีชีวิตทั้งสี่และพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้า"[2] ในวรรคแรกของบทกล่าวถึง "นิมิต" (คำในภาษาฮีบรูเป็นพหูพจน์)[3]

ต้นฉบับ

[แก้]
หนังสือเอเสเคียลในฉบับเลนินกราด (Leningrad Codex; ค.ศ. 1008) จากฉบับสำเนาเก่า
ส่วนต้นของหนังสือเอเสคียลในภาษาละตินจากฉบับกีกัส (Codex Gigas) สำเนาต้นฉบับในยุคกลางที่หลงเหลืออยู่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (จากต้นคริสต์ศตวรรษที่ 13)

บทนี้เดิมเขียนด้วยภาษาฮีบรู บทแบ่งออกเป็น 28 วรรค

พยานต้นฉบับ

[แก้]

บางสำเนาต้นฉบับในยุคต้นที่มีข้อความของบทนี้เป็นภาษาฮีบรูมีลักษณะเป็นต้นฉบับเมโซเรติก (Masoretic Text) ได้แก่ ฉบับไคโร (Codex Cairensis; ค.ศ. 895) หนังสือผู้เผยพระวจนะฉบับปีเตอส์เบิร์ก (Petersburg Codex of the Prophets; ค.ศ. 916) ฉบับอะเลปโป (Aleppo Codex; ศตวรรษที่ 10) และฉบับเลนินกราด (Leningrad Codex; ค.ศ. 1008)[4] ชิ้นส่วนที่มีข้อความบางส่วนของบทนี้ในภาษาฮีบรูถูกพบในม้วนหนังสือเดดซี ได้แก่ 4Q74 (4QEzekb; 50 ปีก่อนคริสตกาล– ค.ศ. 50) โดยมีวรรคที่หลงเหลือคือ 10–13, 16–17, 19–24;[5][6][7][8][9] และ 11Q4 (11QEzek; 50 ปีก่อนคริสตกาล– ค.ศ. 50) โดยมีวรรคที่หลงเหลือคือ 8–10[6][10][11][12]

ยังมีฉบับแปลเป็นภาษากรีกคอยนีที่รู้จักในชื่อเซปทัวจินต์ (ทำขึ้นในช่วงไม่กี่ศตวรรษสุดท้ายก่อนคริสตกาล) บางสำเนาต้นฉบับที่หลงเหลือในเซปทัวจินต์ ได้แก่ ฉบับวาติกัน (Codex Vaticanus; B; B; ศตวรรษที่ 4) ฉบับอะเล็กซานเดรีย (Codex Alexandrinus; A; A; ศตวรรษที่ 5) และฉบับมาร์ชาล (Codex Marchalianus; Q; Q; ศตวรรษที่ 6)[13][13][a]

คำนำ (1:1–3)

[แก้]
Bifolium จากคัมภีร์ไบเบิลที่สร้างในปี ค.ศ. 1285 อักษร E ขึ้นต้นตัวใหญ่ในหน้าซ้าย (E[t factum est]) เป็นการเริ่มหนังสือเอเสเคียล

สามวรรคแรกทำหน้าที่เป็นคำนำของหนังสือ ประกอบด้วยตัวตนของผู้เผยพระวจนะ รวมถึงเวลาและสถานที่ที่ได้รับพระวจนะ[15] มีการแนะนำที่แตกต่างกัน 2 แบบ ได้แก่ การแนะนำในฐานะบุรุษที่หนึ่ง (วรรค 1) และการแนะนำในฐานะบุรุษที่สาม (วรรค 2-3; เป็นเพียง 2 วรรคในหนังสือที่เขียนในฐานะบุรุษที่สาม)[15]

วรรค 1

[แก้]
ในวันที่ 5 เดือนที่ 4 ปีที่ 30 ขณะเมื่อข้าพเจ้าอยู่ท่ามกลางพวกเชลยที่ริมแม่น้ำเคบาร์ ท้องฟ้าเปิดออก และข้าพเจ้าได้เห็นพระเจ้าในนิมิต[16]

วรรคแรกของหนังสือประกาศว่าผู้เขียนได้รับ 'นิมิต (พหูพจน์) ของพระเจ้า' ขณะอยู่ท่ามกลางพวกเชลย 'ที่ริมแม่น้ำเคบาร์' ใน 'ปีที่ 30'[15] คัมภีร์ไบเบิลภาษาซีรีแอกกล่าวถึง "นิมิต" (เอกพจน์)[17]

วรรค 2

[แก้]
ในวันที่ 5 เดือนนั้น (คือในปีที่ 5 ที่กษัตริย์เยโฮยาคีนตกเป็นเชลย)[18]

วรรค 3

[แก้]
พระวจนะของพระยาห์เวห์มายังปุโรหิตเอเสเคียลบุตรบุซี
ในแผ่นดินของคนเคลเดียริมแม่น้ำเคบาร์
ณ ที่นั่นพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์มาอยู่เหนือท่าน[19]

นิมิตเรื่องพระที่นั่ง-รถม้า (1:4-28)

[แก้]
นิมิตของเอเสเคียล จากหนังสือออาร์มีเนียในคริสต์ศตวรรษที่ 15

นิมิตแรกของเอเสเคียลมาถึงเมื่อมีลมพายุพัดจากทิศเหนือพร้อมกับนำเมฆที่มีความสว่างโดยรอบและภายในมี 'รถม้าของพระยาห์เวห์เทียมด้วยสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ'[20] "สิ่งมีชีวิต 4 ตน" เหล่านี้ถูกระบุในเอเสเคียล 10:20 ว่าเป็นเครูบ

วรรค 5

[แก้]
"นิมิตรถม้า" ของเอเสเคียล โดย Matthaeus Merian (ค.ศ. 1593-1650)
ละท่ามกลางไฟนั้นมีรูปลักษณ์ของสิ่งมีชีวิต 4 ตน
ลักษณะของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเป็นเช่นนี้คือ มีรูปลักษณ์ของมนุษย์[21]

วรรค 10

[แก้]
รูปลักษณ์ใบหน้าของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นคือด้านหน้าเป็นหน้าคน ด้านขวาเป็นหน้าสิงโต ด้านซ้ายเป็นหน้าโค และด้านหลังเป็นหน้านกอินทรี[23]

สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีหน้า 4 หน้าในทิศทางต่าง ๆ กัน จึงสามารถเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด ๆ โดยที่ 'คุ้มกันสสารลุกโชนโดยรอบ' ไปด้วย[20]

วรรค 16

[แก้]
ลักษณะและโครงสร้างของวงล้อเหล่านั้นเหมือนเบริล วงล้อทั้งสี่มีรูปลักษณ์เหมือนกัน มีลักษณะและโครงสร้างเหมือนวงล้อซ้อนอยู่กลางวงล้อ[24]

คำบรรยายนี้ (รวมถึงในวรรค 19) กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้าง "เรือบินเอเสเคียล"[25]

  • "เบริล" หรือ "โทแพซ": เป็น "อัญมณีสีทองมีค่า" ชนิดหนึ่ง[26]

วรรค 19

[แก้]
เมื่อสิ่งมีชีวิตทั้งสี่บินไป วงล้อเหล่านั้นก็เคลื่อนตามไปข้างๆ ด้วย เมื่อสิ่งมีชีวิตลอยขึ้นจากพิภพ วงล้อก็ลอยขึ้นด้วย[27]

คำบรรยายนี้ (รวมถึงในวรรค 16) กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้าง "เรือบินเอเสเคียล"[25][28]

วรรค 26

[แก้]
และบนพื้นฟ้าที่อยู่เหนือศีรษะของพวกเขา มีสิ่งที่มีรูปลักษณ์ของพระที่นั่ง
ซึ่งมีลักษณะเหมือนไพลิน
และบนสิ่งที่มีรูปลักษณ์ของพระที่นั่งนั้นก็มีผู้มีลักษณะเหมือนมนุษย์อยู่บนนั้น[29]
  • "ไพลิน" (ฮีบรู: ספיר sapîr): "อัญมณีชนิดหนึ่ง"; "แลพิสแลซูลี" (เอเสเคียล 28:13)[30][31] อพยพ 24:10 บันทึกว่า "พื้นที่รองพระบาทเป็นเหมือนนิลสีคราม (ไพลิน)"[32]

วรรค 27

[แก้]
และจากส่วนที่มีลักษณะของบั้นเอวของผู้นั้นขึ้นไป ข้าพเจ้าเห็นสิ่งคล้ายทองสัมฤทธิ์แวบวาบ ลักษณะคล้ายไฟถูกบังไว้โดยรอบ และจากส่วนที่มีลักษณะของบั้นเอวลงมา ข้าพเจ้าเห็นสิ่งที่มีลักษณะคล้ายไฟและมีความสุกใสอยู่รอบๆ ท่านผู้นั้น[33]

เอเสเคียลเห็นผู้มีลักษณะเหมือนมนุษย์มีความเปล่งประกายราวกับ "ไฟ" (ฮีบรู: hasmal)[20]

วรรค 28

[แก้]
หน้าที่มีข้อความเซปทัวจินต์ของเอเสคียล 1:28-2:6 ในฉบับมาร์ชาล (Codex Marchalianus; คริสต์ศตวรรษที่ 6)
ลักษณะความสุกใสที่อยู่รอบๆ นั้น
เหมือนลักษณะของรุ้งที่ปรากฏในเมฆเมื่อฝนตก
ลักษณะและรูปลักษณ์ของพระสิริของพระยาห์เวห์เป็นเช่นนี้แหละ
และเมื่อข้าพเจ้าเห็นแล้ว ข้าพเจ้าก็ซบหน้าลงถึงดิน
และข้าพเจ้าได้ยินเสียงผู้หนึ่งกำลังตรัส[34]

ความสว่างไสวที่ล้อมรอบผู้มีลักษณะเหมือนมนุษย์ในนิมิตของเอเสเคียลมีลักษณะเหมือนรุ้ง และทันที่เห็นเอเสเคียลก็ซบหน้าลง เพราะเอเสเคียลระลึกได้ว่านี่เป็น 'ลักษณะที่เหมือนกับพระสิริ' ของพระยาห์เวห์[20] รายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับนิมิตใช้บ่งบอกถึง 'สัญลักษณ์อันชัดแจ้งถึงการทรงสถิตของพระยาห์เวห์สำหรับผู้อ่านชาวอิสราเอล'[20]

ดูเพิ่ม

[แก้]
  • ส่วนในคัมภีร์ไบเบิลที่เกี่ยวข้อง: 2 พงศ์กษัตริย์ 24, 2 พงศาวดาร 36, อิสยาห์ 6, เยเรมีย์ 29, เอเสเคียล 10, เอเสเคียล 11, ยอห์น 12, วิวรณ์ 4, วิวรณ์ 21
  • หมายเหตุ

    [แก้]
    1. หนังสือเอเสเคียลทั้งเล่มขาดหายไปจากจากฉบับซีนาย (Codex Sinaiticus)[14]

    อ้างอิง

    [แก้]
    1. เอเสเคียล 1:1 -28: THSV11
    2. เอเสเคียล 1:1 -28: TNCV
    3. เอเสเคียล 1:1 : THSV11
    4. Würthwein 1995, pp. 35–37.
    5. Ulrich 2010, pp. 584–585.
    6. 6.0 6.1 Dead sea scrolls - Ezekiel
    7. Fitzmyer 2008, p. 38.
    8. 4Q74 at the Leon Levy Dead Sea Scrolls Digital Library
    9. Sanderson 1997. DJD 15: 215–218.
    10. Fitzmyer 2008, p. 110.
    11. 11Q4 - 11QEzek at the Leon Levy Dead Sea Scrolls Digital Library
    12. Ulrich 2010, p. 584.
    13. 13.0 13.1 Würthwein 1995, pp. 73–74.
    14. Shepherd, Michael (2018). A Commentary on the Book of the Twelve: The Minor Prophets. Kregel Exegetical Library. Kregel Academic. p. 13. ISBN 978-0825444593.
    15. 15.0 15.1 15.2 Galambush 2007, p. 537.
    16. เอเสเคียล 1:1 THSV11
    17. Footnote a in the New King James Version
    18. เอเสเคียล 1:2 THSV11
    19. เอเสเคียล 1:3 THSV11
    20. 20.0 20.1 20.2 20.3 20.4 Galambush 2007, p. 538.
    21. เอเสเคียล 1:5 THSV11
    22. Coogan 2007, pp. 1182–1184.
    23. เอเสเคียล 1:10 THSV11
    24. เอเสเคียล 1:16 THSV11
    25. 25.0 25.1 Peoples, Robert (July 21, 2014). "The Book of Ezekiel and the Flying Machine". The Texas Story Project. Bullock Texas State History Museum. สืบค้นเมื่อ August 2, 2015.
    26. Carley 1974, p. 17.
    27. เอเสเคียล 1:19 THSV11
    28. "Local inventor beat Wright brothers, Texas townsfolk say". CNN.com. December 17, 2002. สืบค้นเมื่อ August 2, 2015.
    29. เอเสเคียล 1:26 THSV11
    30. Brown, Briggs & Driver 1994, "סַפִּיר"
    31. Gesenius 1979, "סַפִּיר"
    32. Carley 1974, p. 20.
    33. เอเสเคียล 1:27 THSV11
    34. เอเสเคียล 1:28 THSV11

    บรรณานุกรม

    [แก้]

    แหล่งข้อมูลอื่น

    [แก้]

    ศาสนายูดาห์

    [แก้]

    ศาสนาคริสต์

    [แก้]