ข้ามไปเนื้อหา

อนุพันธ์อันดับสอง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อนุพันธ์อันดับสองของ ฟังก์ชันกำลังสองมีค่าคงที่

ในแคลคูลัส อนุพันธ์อันดับสองของฟังก์ชัน f คืออนุพันธ์ของอนุพันธ์ของ f อนุพันธ์อันดับสองสามารถใช้กล่าวในภาษาไม่เป็นทางการได้ว่า "อัตราการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเปลี่ยนแปลง" ตัวอย่างเช่น อนุพันธ์อันดับสองของตำแหน่งของวัตถุเทียบกับเวลาคือความเร่งขนะหนึ่งของวัตถุ หรืออัตราที่ความเร็วของวัตถุที่เปลี่ยนแปลงตามเวลา

ในสัญกรณ์ไลบ์นิซโดยที่ a คือความเร่ง v คือความเร็ว t คือเวลา x คือตำแหน่ง และ d คือ "เดลตา" หรือการเปลี่ยนแปลงขณะหนึ่ง นิพจน์สุดท้าย คืออนุพันธ์อันดับสองของตำแหน่ง ( x ) เทียบกับเวลา

บนกราฟของฟังก์ชัน อนุพันธ์อันดับสองสอดคล้องกับความโค้ง หรือความเว้าของกราฟ กราฟของฟังก์ชันที่มีอนุพันธ์อันดับสองเป็นลบจะเว้าขึ้น ในขณะที่กราฟของฟังก์ชันที่มีอนุพันธ์อันดับสองเป็นลบจะโค้งในทิศตรงกันข้าม

กฎยกกำลังอนุพันธ์อันดับสอง[แก้]

กฎยกกำลังสำหรับอนุพันธ์อันดับหนึ่ง หากกระทำสองครั้งจะสามารถสร้างกฎยกกำลังอนุพันธ์อันดับสองได้ดังนี้

สัญกรณ์[แก้]

อนุพันธ์อันดับสองของ โดยมากจะเขียนเป็น [1][2] ซึ่งคือ

เมื่อใช้สัญกรณ์ของไลบ์นิซสำหรับอนุพันธ์ อนุพันธ์อันดับสองของตัวแปรตาม y เทียบตัวแปรอิสระ x จะเขียนได้ว่าที่มาของสัญกรณ์นี้คือ

ตัวอย่าง[แก้]

เมื่อพิจารณาฟังก์ชันอนุพันธ์ของ f คือฟังก์ชันอนุพันธ์อันดับสองของ f คืออนุพันธ์ของ กล่าวคือ

ความสัมพันธ์กับกราฟ[แก้]

กราฟของ จาก ถึง - เส้นสัมผัสเป็นสีน้ำเงินตรงที่เส้นโค้งเว้าขึ้น สีเขียวตรงที่เส้นโค้งเว้าลง และเป็นสีแดงที่จุดเปลี่ยนเว้า (0, /2, และ )

ความเว้า[แก้]

อนุพันธ์อันดับสองของฟังก์ชัน f สามารถใช้เพื่อกำหนด ความเว้า ของกราฟของ f [2] ฟังก์ชันที่มีอนุพันธ์อันดับสองเป็นบวกเรียกเว้าขึ้น (หรือ นูน) ซึ่งมีความหมายว่า เส้นสัมผัสจะอยู่ใต้กราฟของฟังก์ชันใกล้จุดที่สัมผัสกับฟังก์ชัน ในทำนองเดียวกัน ฟังก์ชันที่มีอนุพันธ์อันดับสองเป็นลบจะเว้าลง (หรือ เว้า) และเส้นสัมผัสกันจะอยู่เหนือกราฟของฟังก์ชันใกล้กับจุดที่สัมผัส

จุดเปลี่ยนเว้า[แก้]

ถ้าอนุพันธ์อันดับสองของฟังก์ชันเปลี่ยนเครื่องหมาย กราฟของฟังก์ชันจะเปลี่ยนจากเว้าลงไปเป็นเว้าขึ้นหรือในทางกลับกัน จุดที่ทำให้เครื่องหมายเปลี่ยนนี้เรียกว่าจุดเปลี่ยนเว้า สมมติว่าอนุพันธ์อันดับสองมีภาวะต่อเนื่อง จะต้องมีค่าเป็นศูนย์ที่จุดเปลี่ยนเว้าใดๆ แม้ว่าไม่ใช่ทุกจุดที่อนุพันธ์อันดับสองเป็นศูนย์จะต้องเป็นจุดเปลี่ยนเว้าก็ตาม

การทดสอบอนุพันธ์อันดับสอง[แก้]

ความสัมพันธ์ระหว่างอนุพันธ์อันดับสองกับกราฟสามารถใช้เพื่อทดสอบว่าจุดนิ่งสำหรับฟังก์ชัน (เช่น จุดที่ ) ว่าใช่ค่าสูงสุดเฉพาะที่หรือค่าต่ำสุดเฉพาะที่ไหม

  • ถ้า , แล้ว มีค่าสูงสุดเฉพาะที่ที่
  • ถ้า , แล้ว มีค่าต่ำสุดเฉพาะที่ที่ -
  • ถ้า การทดสอบอนุพันธ์อันดับสองไม่ได้กล่าวถึงจุด นี้เลย อาจเป็นจุดเปลี่ยนเว้าได้

เหตุผลที่อนุพันธ์อันดับสองให้ผลลัพธ์เหล่านี้สามารถเห็นได้จากการเปรียบเทียบในชีวิตจริง พิจารณารถคันหนึ่งวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงในตอนแรกแต่มีความเร่งเป็นลบ เห็นได้ชัดว่าตำแหน่งของรถ ณ จุดที่ความเร็วถึงศูนย์จะมีระยะทางเป็นค่าสูงสุดจากตำแหน่งเริ่มต้น หลังจากเวลานี้ ความเร็วจะกลายเป็นลบและรถจะถอยหลัง การเปรียบเทียบนี้ใช้ได้เช่นเดียวกับค่าต่ำสุด โดยทำให้รถในตอนแรกมีความเร็วเป็นลบมากแต่มีความเร่งเป็นบวกตรงกันข้ามกับกรณีของค่าสูงสุด

ลิมิต[แก้]

สามารถจะเขียนลิมิตเพียงลิมิตเดียวแทนอนุพันธ์อันดับสองได้ดังนี้ลิมิตนี้เรียกว่าอนุพันธ์สมมาตรอันดับสอง[3][4] อนุพันธ์สมมาตรอันดับสองอาจมีอยู่แม้ว่าอนุพันธ์สามัญอันดับสองจะไม่มีก็ตาม

นิพจน์ทางขวาสามารถเขียนเป็นผลหารเชิงผลต่างของผลหารเชิงผลต่างได้ดังนี้ลิมิตนี้สามารถมองได้เป็นรูปที่ต่อเนื่องของผลต่างอันดับสองของลำดับ

อย่างไรก็ตาม การที่ลิมิตข้างต้นหาค่าได้ไม่ได้หมายว่าฟังก์ชัน นั้นมีอนุพันธ์อันดับสอง ลิมิตข้างต้นให้ความเป็นไปได้ในการคำนวณอนุพันธ์อันดับสอง แต่ไม่ใช่นิยาม ตัวอย่างแย้ง เช่น ฟังก์ชันเครื่องหมาย ซึ่งนิยามว่าฟังก์ชันเครื่องหมายไม่ต่อเนื่องที่ศูนย์ ดังนั้นอนุพันธ์อันดับสองที่ หาค่าไม่ได้ แลิมิตข้างต้นหาค่าได้ที่

การประมาณกำลังสอง[แก้]

เช่นเดียวกับอนุพันธ์อันดับหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการประมาณเส้นตรง, อนุพันธ์อันดับสองก็เกี่ยวข้องกับการประมาณกำลังสองที่ดีที่สุดของฟังก์ชัน f เป็นฟังก์ชันกำลังสองซึ่งมีอนุพันธ์อันดับหนึ่งและสองที่เหมือนกับของ f ที่จุดหนึ่ง ๆ สูตรของการประมาณกำลังสองที่ดีที่สุดของ f รอบ ๆ จุด x = a คือการประมาณกำลังสองคือพหุนามเทย์เลอร์อันดับที่สองสำหรับฟังก์ชันที่มีจุดศูนย์กลางที่ x = a

ค่าเฉพาะและเวกเตอร์เฉพาะของอนุพันธ์อันดับสอง[แก้]

สูตรสำหรับค่าเฉพาะและเวกเตอร์เฉพาะของอนุพันธ์อันดับสองสามารถหาได้จากการผสมกันต่าง ๆ ของเงื่อนไขขอบ เช่น สมมุติให้ และเงื่อนไขขอบดิริชเลต์เอกพันธ์ุ (เช่น โดยที่ v เป็นเวกเตอร์เฉพาะ) ค่าเฉพาะเป็น และเวกเตอร์เฉพาะที่สอดคล้องกัน (เรียกอีกอย่างว่า ฟังก์ชันเฉพาะ ) คือ จะได้ เมื่อ

สำหรับกรณีอื่น ๆ ที่เป็นที่รู้จัก ดูที่ค่าเฉพาะและเวกเตอร์เฉพาะของอนุพันธ์อันดับสอง

การวางนัยทั่วไปสู่มิติที่สูงขึ้น[แก้]

เมทริกซ์เฮสเซียน[แก้]

อนุพันธ์อันดับสองวางนัยทั่วไปในมิติที่สูงกว่าผ่านแนวคิดของ อนุพันธ์ย่อยอันดับสอง สำหรับฟังก์ชัน f: R3R เหล่านี้จะรวมอนุพันธ์ย่อยลำดับที่สองสามอนุพันธ์ดังนี้และอนุพันธ์ย่อยผสมหากภาพและโดเมนของฟังก์ชันมีศักย์ทั้งคู่ สิ่งที่กล่าวมานี้นี้จะรวมกันเป็นกันเป็นเมทริกซ์สมมาตร ที่เรียกว่าเมทริกซ์เฮสเซียน ค่าเฉพาะ ของเมทริกซ์นี้สามารถนำไปใช้ในการการทดสอบอนุพันธ์อันดับสองของฟังก์ชันหลายตัวแปร (ดูเพิ่มที่ การทดสอบอนุพันธ์ย่อยอันดับสอง)

ตัวดำเนินการลาปลาส[แก้]

การวางนัยทั่วไปอีกรูปแบบหนึ่งของอนุพันธ์อันดับสองคือตัวดำเนินการลาปลาส เป็นตัวดำเนินการดิฟเฟอเรนเชียล (หรือ ) ที่กำหนดโดยลาปลาเซียนของฟังก์ชันเท่ากับไดเวอร์เจนซ์ของเกรเดียนต์ และรอยเมทริกซ์เฮสเซียน

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Content - The second derivative". amsi.org.au. สืบค้นเมื่อ 2020-09-16.
  2. 2.0 2.1 "Second Derivatives". Math24 (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2020-09-16.
  3. A. Zygmund (2002). Trigonometric Series. Cambridge University Press. pp. 22–23. ISBN 978-0-521-89053-3.
  4. Thomson, Brian S. (1994). Symmetric Properties of Real Functions. Marcel Dekker. p. 1. ISBN 0-8247-9230-0.

อ่านเพิ่มเติม[แก้]

สิ่งพิมพ์[แก้]

หนังสือออนไลน์[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]