ข้ามไปเนื้อหา

อาสนวิหารแร็งส์

พิกัด: 49°15′13″N 4°2′3″E / 49.25361°N 4.03417°E / 49.25361; 4.03417
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก มหาวิหารแร็งส์)
อาสนวิหารแร็งส์
อาสนวิหารแม่พระแห่งแร็งส์
ฝรั่งเศส: Cathédrale Notre-Dame de Reims
ด้านหน้า มองทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่วนหน้าของอาสนวิหาร มองทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ที่ตั้งในประเทศฝรั่งเศส
ที่ตั้งในประเทศฝรั่งเศส
อาสนวิหารแร็งส์
ที่ตั้งในประเทศฝรั่งเศส
49°15′13″N 4°2′3″E / 49.25361°N 4.03417°E / 49.25361; 4.03417
ที่ตั้งPlace du Cardinal Luçon, 51100
แร็งส์ ประเทศฝรั่งเศส
ประเทศฝรั่งเศส
นิกายโรมันคาทอลิก
เว็บไซต์www.cathedrale-reims.com
ประวัติ
สถานะอาสนวิหาร
อุทิศแก่แม่พระแห่งแร็งส์
บุคคลที่เกี่ยวข้องพระเจ้าโคลวิสที่ 1
สถาปัตยกรรม
สถานะการใช้งานใช้งาน
สถาปนิกJean d'Orbais
Jean-le-Loup
Gaucher of Reims
Bernard de Soissons
ประเภทสถาปัตย์โบสถ์
รูปแบบสถาปัตย์High Gothic
ปีสร้าง1211–1345
งานฐานรากค.ศ. 1211 (1211)
แล้วเสร็จค.ศ. 1275 (1275)
โครงสร้าง
อาคารยาว149.17 m (489.4 ft)
พื้นที่ใช้สอย6,650 m2 (71,600 sq ft)
จำนวนหอคอย2
ความสูงหอคอย81 m (266 ft)
ระฆัง2 (ที่หอตอนใต้)
การปกครอง
อัครมุขมณฑลแร็งส์ (ที่ตั้ง)
นักบวช
อัครมุขนายกÉric de Moulins-Beaufort
Priest in chargeJean-Pierre Laurent
บางส่วนอาสนวิหารแม่พระ, แอบบีแซ็ง-เรมีเก่า และวังโต เมืองแร็งส์
เกณฑ์พิจารณาวัฒนธรรม: i, ii, vi
อ้างอิง601-001
ขึ้นทะเบียน1991 (สมัยที่ 15th)
ชื่อที่ขึ้นทะเบียนCathédrale Notre-Dame
ขึ้นเมื่อ1862, 1920[1]

อาสนวิหารแร็งส์ (ฝรั่งเศส: Cathédrale de Reims) หรือชื่อทางการว่า อาสนวิหารแม่พระแห่งแร็งส์ (Cathédrale Notre-Dame de Reims) เป็นอาสนวิหารสำคัญของเมืองแร็งส์ จังหวัดมาร์น ประเทศฝรั่งเศส ที่เคยใช้ในพิธีสวมมงกุฎกษัตริย์ของประเทศฝรั่งเศส อาสนวิหารที่เห็นในปัจจุบันสร้างบนฐานของวิหารเดิมที่ถูกเพลิงไหม้ไปเมื่อ ค.ศ. 1211 โดยคาดการณ์ว่าวิหารเดิมนั้นมีอายุราวช่วงปี ค.ศ. 400 อาสนวิหารเป็นที่ตั้งของอัครมุขมณฑลแห่งแร็งส์

อาสนวิหารแร็งส์เป็นสถานที่ที่พระเจ้าโคลวิสที่ 1 ผู้ถือกันว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์แรกของฝรั่งเศสได้ทำพิธีรับศีลจุ่มจากนักบุญเรมี บาทหลวงของเมืองแร็งส์เมื่อค.ศ. 496

นับตั้งแต่มีกฎหมายแยกศาสนจักรกับอาณาจักรใน ค.ศ. 1905 อาสนวิหารนี้ถือครองโดยรัฐ โดยมีข้อตกลงกับคริสตจักรให้ใช้งานในโอกาสพิเศษ ทางรัฐฝรั่งเศสเป็นผู้จ่ายค่าบูรณะและค่าบำรุงรักษา[2] มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมอาสนวิหารนี้ประมาณหนึ่งล้านคนทุกปี[3] และได้รับสถานะแหล่งมรดกโลกตั้งแต่ ค.ศ. 1991[2]

การก่อสร้าง

[แก้]

อาสนวิหารสร้างเสร็จเมื่อปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 ยกเว้นด้านหน้าซึ่งมาเสร็จเอาอีกศตวรรษหนึ่งต่อมา แต่ยังเป็นสถาปัตยกรรมของคริสต์ศตวรรษที่ 13 ทางเดินกลางขยายให้ยาวขึ้นเพื่อให้มีเนื้อที่เพียงพอกับผู้ที่เข้าร่วมพิธีสวมมงกุฎ หอสูง 81 เมตรย่อจากแบบเดิมที่ออกแบบให้สูง 120 เมตร หอด้านใต้มีระฆังสองใบ ใบหนึ่งคาร์ดินาลแห่งลอแรนตั้งชื่อให้ว่า "ชาร์ล็อต" เมื่อปีค.ศ. 1570 ซึ่งหนักกว่า 10,000 กิโลกรัมหรือ 11 ตัน

เมื่อปี ค.ศ. 1875 รัฐสภาแห่งประเทศฝรั่งเศสอนุมัติเงินจำนวน 80,000 ปอนด์เพื่อปฏิสังขรณ์ด้านหน้าอาสนวิหาร ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของอาสนวิหาร และนับว่าเป็นงานฝีมือชิ้นเอกจากยุคกลาง เมื่ออาสนวิหารโดนระเบิดระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่งก็ได้ทำลายบริเวณสำคัญ ๆ ของอาสนวิหารไปมาก การบูรณปฏิสังขรณ์เริ่มอีกครั้งเมื่อปี ค.ศ. 1919 และมาเสร็จเมื่อในปี ค.ศ. 1938 โดยงบประมาณสนับสนุนจากมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ แต่การบูรณะก็ยังทำต่อเนื่องกันมาโดยมิได้หยุดยั้งจนทุกวันนี้

ภายนอก

[แก้]
ระเบิดลงที่อาสนวิหารเมื่อประมาณปีค.ศ. 1918 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
คูหาสวดมนต์หลังวัดแบบดาวกระจายฝั่งทิศตะวันออก
ทางเดินกลาง

ประตูทางเข้าด้านหน้ามีสามบาน แต่ละบานเต็มไปด้วยรูปปั้นทั้งใหญ่และเล็กประดับ ประตูกลางอุทิศแด่พระแม่มารีย์ เหนือประตูแทนที่จะเป็นหน้าบันหินแกะสลัก กลับเป็นกระจกโรซาสกรอบประตูเป็นซุ้มโค้งที่ประกอบไปด้วยรูปปั้น เหนือระดับประตูเป็นระเบียงตรงกลาง และด้านล่างเหนือประตูจะมีหน้าต่างกุหลาบบานใหญ่อีกบานหนึ่ง ถัดขึ้นไปจากนั้นเป็นระเบียงรูปปั้นพระเจ้าแผ่นดิน (gallery of the kings) ซึ่งมีรูปปั้นพระเจ้าโคลวิสที่ 1 รับศึลจุ่มอยู่ตรงกลาง

ด้านหน้าทางแขนกางเขนด้านเหนือและใต้ตกแต่งด้วยรูปปั้น ทางด้านเหนือเป็นบาทหลวงของแร็งส์ การตัดสินครั้งสุดท้าย และรูป "พระเยซูผู้งดงาม" ทางด้านใต้เป็นหน้าต่างกุหลาบสมัยใหม่เรื่องศาสดาและสาวก 12 องค์ เมื่อปี ค.ศ. 1481 ไฟไหม้หลังคาวัดและทำลายหอคอยสี่หอที่สูงกว่าหลังคาจนราบลงมาแค่ระดับหลังคา เหนือบริเวณสงฆ์ขึ้นไปเป็นหอระฆังไม้หุ้มด้วยตะกั่วสูง 18 เมตรสร้างเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 15 และซ่อมเมื่อปี ค.ศ. 1920

ภายใน

[แก้]

ทางเดินกลางของอาสนวิหารยาว 138.75 เมตร กว้าง 30 เมตร สูง 38 เมตร ทางเดินกลางขนาบด้ายทางเดินข้าง แขนกางเขนก็เป็นทางเดินหลายช่อง บริเวณสงฆ์เป็นทางเดินคู่ หลังมุขมีทางเดินรอบ และคูหาสวดมนต์กระจายออกไปทางด้านหลัง ภายในมีหน้าต่างประดับกระจกสีที่สร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึง 20 ประดับ

นอกจากนั้นทางอาสนวิหารยังมีพรมทอแขวนผนัง ชุดที่มีค่าที่สุดถวายให้แก่วัดโดยรอแบร์ เดอ เลอนงกูร์ ผู้เป็นอัครบาทหลวงในสมัยพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 เป็นเรื่องพระแม่มารี ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่วังโตซึ่งเดิมเป็นที่ประทับของบาทหลวง ทางด้านเหนือแขนกางเขนมีออร์แกนในตู้แบบกอทิกวิจิตร (Flamboyant Gothic) นาฬิกาที่ตกแต่งด้วยกลไกที่สวยงาม และงานหน้าต่างประดับกระจกสีโดยมาร์ก ชากาล ศิลปินมีชื่อเสียงชาวรัสเซีย-ฝรั่งเศส ติดตั้งเมื่อ ค.ศ. 1974

อาสนวิหารแร็งส์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เมื่อปี ค.ศ. 1862

อาสนวิหารแร็งส์ได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1991

ระเบียงภาพ

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. French Ministry of Culture: Cathédrale Notre-Dame.
  2. 2.0 2.1 Kurmann & Villes 2001, p. 23.
  3. Reims Cathedral page on culture.fr เก็บถาวร 2016-07-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]