ข้ามไปเนื้อหา

คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี
เริ่มดำรงตำแหน่ง
22 กันยายน พ.ศ. 2567
ก่อนหน้าชาญ พวงเพ็ชร์
คะแนนเสียง187,975
ดำรงตำแหน่ง
20 ธันวาคม พ.ศ. 2563 – 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
(3 ปี 134 วัน)
ก่อนหน้าชาญ พวงเพ็ชร์
ถัดไปชาญ พวงเพ็ชร์
คะแนนเสียง252,499
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
ดำรงตำแหน่ง
1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 – 30 กันยายน พ.ศ. 2557
ก่อนหน้าพลตำรวจโท วินัย ทองสอง
ถัดไปพลตำรวจโท ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด22 สิงหาคม พ.ศ. 2497 (70 ปี)
อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ประเทศไทย
พรรคการเมืองคนรักปทุม (2562–ปัจจุบัน)
คู่สมรสศรีปริญญา ธูปกระจ่าง
บุพการี
  • มงคล ธูปกระจ่าง (บิดา)
  • จงกล ธูปกระจ่าง (มารดา)
ศิษย์เก่าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
อาชีพตำรวจ
นักการเมือง
หมอฝังเข็ม
ชื่อเล่นแจ๊ส
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
ยศ พลตำรวจโท
ผ่านศึกความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย

พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง (เกิด 22 สิงหาคม พ.ศ. 2497) เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี 2 สมัย อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นอกจากนี้ยังเป็นหมอฝังเข็มรักษาคนไข้ที่มูลนิธิมงคล-จงกล ธูปกระจ่าง

ประวัติ

[แก้]

คำรณวิทย์ เกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2497 ที่ ตำบลสวนพริกไทย อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เป็นบุตรของมงคล และจงกล ธูปกระจ่าง โดยจงกลเคยรับราชการเป็นคุณครูประจำอยู่ที่โรงเรียนปทุมวิไล และเกษียณอายุราชการเมื่อปี พ.ศ. 2529

คำรณวิทย์สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 30 ในปี พ.ศ. 2520 และยังได้รับปริญญาการแพทย์แผนไทย ประยุกต์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (การแพทย์แผนไทยประยุกต์)[1]

คำรณวิทย์สมรสกับศรีปริญญา ธูปกระจ่าง มีบุตร-ธิดาสองคน[2] โดยบุตรชาย ร้อยตำรวจเอก ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครรังสิต ส่วนบุตรสาว นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ เคยดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี

คำรณวิทย์เคยได้รับฉายาจากสื่อมวลชนว่า "หมอแจ๊ดจัดให้" เนื่องจากเปิดคลินิกเพื่อรักษาคนไข้ด้วยวิธีการฝังเข็มและการช่วยเหลือกิจกรรมสาธารณะอื่นๆ และยังเป็นเจ้าของวลีเด็ดตำรวจประจำปี พ.ศ. 2555 “มีวันนี้เพราะพี่ให้”[3]

การทำงาน

[แก้]

ตำรวจ

[แก้]

คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เริ่มเข้ารับราชการตำรวจตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 ในตำแหน่งผู้บังคับกองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ต่อมาได้ย้ายมาเป็นสารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ในปี พ.ศ. 2530 โดยเริ่มเข้ารับราชการเพียง 6 ปี ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นสารวัตรใหญ่ครั้งแรกที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ก่อนที่จะถูกย้ายไปยังสถานีตำรวจภูธรอื่น แต่ยังคงดำรงตำแหน่งเดิม

ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการกองปราบปราม ในปี พ.ศ. 2543, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ในปี พ.ศ. 2546 โดยได้เลื่อนขั้นเป็นพลตำรวจตรี, และกลับมาเป็นผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ปี พ.ศ. 2547 ในช่วงที่พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร (ยศในขณะนั้น) เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น จากนั้นก็ได้รับตำแหน่งรองผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2550 และรักษาการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในปี พ.ศ. 2554 พร้อมกับเลื่อนขั้นเป็นพลตำรวจโท และในปี พ.ศ. 2555 คำรณวิทย์ได้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

ผลงานสำคัญของคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง มีดังต่อไปนี้

  1. หนึ่งในชุดจับกุม โจ ด่านช้าง ซึ่งนำโดย พลตำรวจเอก สล้าง บุนนาค[4]
  2. หนึ่งในชุดจับกุม เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ (ผู้พันตึ๋ง) ซึ่งนำโดย พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง (ยศในขณะนั้น)
  3. หนึ่งในชุดจับกุมและวิสามัญแก๊งไผ่เขียว ซึ่งนำโดย พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง รักษาราชการแทนผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 1 ในขณะนั้น[5]

แพทย์ทางเลือก

[แก้]

คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เปิดคลินิกรักษาโรคด้วยการแพทย์แผนจีนสมัยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยเปิดร้านที่ชมรมถ้ำเสือเมืองปทุม ถนนเลียบคลองเจ็ดฝั่งตะวันออก ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ซึ่งคำรณวิทย์เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ได้ความรู้การแพทย์แผนจีนมาในช่วงที่เป็นผู้บัญชาการกองร้อย 2 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ จึงนำมาเปิดรักษาในวันหยุดของตน ซึ่งเปิดมาแล้วกว่า 3 ปี

นอกจากนี้ยังเป็นหมอพื้นบ้านด้านการแพทย์แผนไทยของมูลนิธิมงคล-จงกล ธูปกระจ่าง โดยได้รับการรับรองตามระเบียบของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก[6] มีการจัดตั้งคลินิกการแพทย์แผนไทยในจังหวัดปทุมธานี และในปี พ.ศ. 2562 คำรณวิทย์ได้รับอนุญาตให้สามารถสั่งจ่ายยาที่มีกัญชาปรุงผสมให้ผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

การท่าเรือ

[แก้]

คำรณวิทย์เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555[7]

การเมือง

[แก้]

คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เริ่มเข้าสู่การเมือง โดยการลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ในนามของกลุ่มคนรักปทุม โดยในขณะนั้นมีคำขวัญว่า "ชีวิตที่เหลือ เพื่อคนปทุม" กลุ่มคนรักปทุมเริ่มเปิดตัวเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2562[8] โดยได้รับการสนับสนุนจากร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง และสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางส่วน และในการเลือกตั้งครั้งแรกของเขานั้น ทำคะแนนได้ 252,499 คะแนน ชนะคู่แข่งอย่าง ชาญ พวงเพ็ชร์ ไปสามหมื่นกว่าคะแนน

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 คำรณวิทย์มีความประสงค์ที่จะให้สมาชิกกลุ่มคนรักปทุมของตน ลงสมัคร สส.ในนามพรรคเพื่อไทย ทว่ามีความขัดแย้งกับพรรค เนื่องจากทางพรรคประสงค์จะส่งผู้สมัครเดิมในพื้นที่ ส่งผลให้สมาชิกกลุ่มคนรักปทุมที่ได้ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยมีแค่ 2 คน คือ ยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ ที่ปรึกษาพิเศษนายก อบจ.ปทุมธานี และยงยุทธ มั่นบุปผชาติ อดีตผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2550 และในส่วนสมาชิกที่เหลือต้องย้ายไปลงสมัครพรรคอื่นแทน เช่น พรรคภูมิใจไทย และ พรรคพลังประชารัฐ[9] โดยสมาชิกกลุ่มคนรักปทุมทั้งหมดไม่มีใครได้รับเลือกตั้ง

เดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 คำรณวิทย์ พร้อมกับพลตำรวจเอก สมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ.นครสวรรค์ และสุรเชษ นิ่มกุล นายก อบจ.อ่างทอง ลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ. ก่อนครบวาระ โดยอ้างว่าติดกฎเลือกตั้งท้องถิ่น 180 วัน[10] คราวนี้พรรคเพื่อไทยหันไปสนับสนุนคู่แข่งเดิม (ชาญ พวงเพ็ชร์) ซึ่งอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ยังให้การสนับสนุน

โดยในการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อเดือนมิถุนายน เขาทำคะแนนได้ 201,212 คะแนน แพ้คู่แข่งเดิมอย่างชาญ พวงเพ็ชร์ สองพันกว่าคะแนน จนกระทั่งคณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติให้ใบเหลืองการเลือกตั้งครั้งนี้ ส่งผลให้มีการเลือกตั้งซ่อมอีกครั้งในเดือนกันยายน โดยคำรณวิทย์กลับมาชนะอีกครั้ง[11]

ผลการเลือกตั้ง

[แก้]

กีฬา

[แก้]

คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 โดยให้เหตุผลว่า อดีตรับราชการตำรวจ คลุกคลีอยู่กับอาวุธปืนมาอย่างยาวนาน ต่อมาก็เคยเข้าไปบริหารงานในสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยในระยะสั้น ๆ ได้รู้ ได้เห็นพอสมควร แต่ระยะหลังทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ไม่น่าจดจำ ประกอบกับพรรคพวกที่อยากเห็นสมาคมกีฬายิงปืนกลับมาดีเหมือนเดิม จึงได้มาทาบทาม โดยหากตนได้เข้าไปบริหารงานแล้วจึงจะสามารถดำเนินการให้ทุกอย่างดีขึ้นแน่นอน โดยในส่วนของนักกีฬา จะต้องส่งไปแข่งขันรายการนานาชาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งรัดพัฒนาต้องไม่ด้อยกว่านักยิงปืนระดับแชมป์โลก หรือ แชมป์เอเชีย โดยตลอด 4 ปีที่บริหารงานจะต้องมีการวางแผนอย่างเป็นระบบและรัดกุม นักกีฬายิงปืนไทยต้องได้โควตาไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์มากกว่าวันนี้ ส่วนในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ จะต้องกลับมาเป็นเสือตัวใหญ่อีกครั้ง และสุดท้าย การบริหารงานเน้นความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยใครที่เข้ามาแล้วทำตัวเป็น มอด กัดแกะแทะเล็ม อยู่แล้วทำลาย เพื่อหวังผลประโยชน์หรือต้องการเข้ามากอบโกยจากอะไรก็ตาม คนจำพวกนี้จะต้องถูกกำจัดให้หมดไปอย่างเร็วที่สุด[12] โดยการลงมตินั้น คำรณวิทย์ชนะไปด้วยคะแนนเสียง 22 เสียง จากทั้งหมด 42 เสียง[13]

ทว่า การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ หลังพบว่ามีการทำผิดข้อบังคับรวม 4 ข้อ โดยคำรณวิทย์ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ทางทีมงานได้มีการทำหนังสืออุทธรณ์ไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทยแล้ว ก็ต้องดูว่าทีมงานจะเดินเรื่องต่อไปอย่างไรบ้าง เท่าที่รู้คือมีการปรึกษาฝ่ายกฎหมายเพื่อจะฟ้องร้องทางการกีฬาแห่งประเทศไทยที่สั่งให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะด้วย แต่โดยส่วนตัวนั้นไม่ได้กังวลใจเรื่องตำแหน่งนัก[14]

ข้อวิจารณ์

[แก้]

ในปี พ.ศ. 2556 ครั้งหนึ่งที่คำรณวิทย์นำภาพห้องทำงานมาแสดง แล้วมีภาพที่พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังติดยศให้คำรณวิทย์ตั้งอยู่ พร้อมกับมีข้อความบนภาพว่า "มีวันนี้ เพราะพี่ให้" ซึ่งทำให้ถูกฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม เพราะในขณะนั้น ทักษิณยังเป็นผู้ต้องหาหนีคดี จนเป็นเหตุให้ถูกตรวจสอบเรื่องจริยธรรมตำรวจ แต่คำรณวิทย์ยืนยันว่าตนไม่ได้ผิด[15]

และในปีเดียวกัน คำรณวิทย์เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่นควบคุมตัว ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ที่สนามบินนาริตะ โดยคำรณวิทย์ให้การรับสารภาพกับตำรวจญี่ปุ่นว่า อาวุธปืนดังกล่าวเป็นของตนจริง พร้อมแสดงเอกสารประจำตัวข้าราชการตำรวจ และเอกสารเกี่ยวกับอาวุธปืนต่อเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น อีกทั้งยังระบุอีกว่า ไม่รู้ว่าตนลืมอาวุธปืนไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่[16] ในเวลาต่อมา พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในขณะนั้น เตรียมแจ้ง 3 ข้อหากับคำรณวิทย์ ดังนี้: ครอบครองอาวุธปืน, พกพาอาวุธปืน, และทำผิดพระราชบัญญัติท่าอากาศยาน[17]

นอกจากนี้ เขายังเคยถูกนายอัมรินทร์ ยี่เฮง ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท หลังจากที่ถูกนำชื่อไปประกาศว่าเป็นบุคคลอันตราย ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ส่งผลให้ธุรกิจของครอบครัวได้รับความเสียหาย แต่คดีไม่ได้รับความคืบหน้า[18]

รางวัล

[แก้]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "ประวัติ "คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง" อดีตสารวัตรสืบสวน สู่ผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี". pptvhd36.com. 2024-07-01.
  2. isranews (2012-10-15). "เปิดขุมธุรกิจ"คำรณวิทย์-ปวีณา"โยงทายาท"จุฬางกูร"". สำนักข่าวอิศรา.
  3. "วลีเด็ดตำรวจปี 55 มีวันนี้เพราะพี่ให้". www.thairath.co.th. 2012-12-23.
  4. "จ้องจะย้ายผมอยู่ได้". posttoday. 2012-09-08.
  5. "ล้อมจับมือยิงน้องโตมี่ วิสามัญ 1 ศพ จิ๊ป ไผ่เขียว หนีรอด". sanook.com. 2010-12-11.
  6. "เปิดประวัติ พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง". tnnthailand.com. 2024-06-30.
  7. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำนวน ๑๐ ราย
  8. [1]
  9. bunthit (2024-06-16). "กกต.ร้อน "คำรณวิทย์" สางแค้นเก่า "บ้านใหญ่" ขั้วเจ๊แดงเมืองเหนือ". www.komchadluek.net.
  10. "มีผลวันนี้ "คำรณวิทย์" พ้นตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี". Thai PBS.
  11. ""บิ๊กแจ๊ส" คัมแบ็ค คว้าชัยชนะเลือกตั้ง "นายกอบจ.ปทุมธานี" อย่างขาดลอย". เนชั่นทีวี. 2024-09-22.
  12. พี่เหรียญ (2024-01-22). "'บิ๊กแจ๊ส'เปิดตัว ท้าชิงนายกฯยิงปืน ลั่นพร้อมขจัด'มอด'แทะสมาคมฯ".
  13. ""คำรณวิทย์" นั่งนายกฯ ยิงปืน ลุ้น "ได้รับการรับรอง" หรือไม่". pptvhd36.com. 2024-02-24.
  14. บิ๊กแจ๊ส ไม่ทน เล็งยื่นฟ้อง กกท. ปมสั่งโมฆะ เลือกตั้งนายกยิงปืน
  15. ""บิ๊กแจ๊ด"ยันไม่ผิด..มีวันนี้เพราะพี่ให้". posttoday. 2013-07-15.
  16. "ประวัติ พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น." kapook.com. 2013-07-16.
  17. "จ่อแจ้ง 3 ข้อหาใหญ่ "พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง" ปมพกปืนเข้าประเทศญี่ปุ่น". kapook.com. 2015-08-05.
  18. "กางเต๊นท์หน้าบชน.เหตุฟ้องหมิ่นฯคำรณวิทย์ไม่คืบ". bangkokbiznews. 2014-09-24.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
ก่อนหน้า คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ถัดไป
ชาญ พวงเพ็ชร์
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี
(สมัยที่หนึ่ง)

(20 ธันวาคม พ.ศ. 2563 - 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2567)
ชาญ พวงเพ็ชร์
ชาญ พวงเพ็ชร์
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี
(สมัยที่สอง)

(22 กันยายน พ.ศ. 2567 - ปัจจุบัน)
ยังอยู่ในตำแหน่ง
พลตำรวจโท วินัย ทองสอง
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
(พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2557)
พลตำรวจโท ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล