เตียวหุย
เตียวหุย (จาง เฟย์) | |
---|---|
張飛 | |
ภาพวาดเตียวหุยในสมัยราชวงศ์หมิง | |
ขุนพลทหารม้ารถศึก (車騎將軍 เชอฉีเจียงจฺวิน) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 221 – ค.ศ. 221 | |
กษัตริย์ | เล่าปี่ |
นายพันเอกผู้บัญชาการมณฑลราชธานี (司隸校尉 ซือลี่เซี่ยวเว่ย์) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 221 – ค.ศ. 221 | |
กษัตริย์ | เล่าปี่ |
ถัดไป | จูกัดเหลียง |
ขุนพลขวา (右將軍 โย่วเจียงจฺวิน) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 219 – ค.ศ. 221 | |
กษัตริย์ | เล่าปี่ |
เจ้าเมืองปาเส (巴西太守 ปาซีไท่โฉ่ว) (ภายใต้เล่าปี่) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 214 – ค.ศ. 219 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
เจ้าเมืองลำกุ๋น (南郡太守 หนานจฺวิ้นไท่โฉ่ว) (ภายใต้เล่าปี่) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. ? – ค.ศ. 214 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
เจ้าเมืองงิเต๋า (宜都太守 อี๋ตูไท่โฉ่ว) (ภายใต้เล่าปี่) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. ? – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
ขุนพลผู้โจมตีเชลยศึก (征虜將軍 เจิงหลู่เจียงจฺวิน) (ภายใต้เล่าปี่) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 209 – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
ขุนพลราชองครักษ์ (中郎將 จงหลางเจี้ยง) (ภายใต้เล่าปี่) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 199 – ค.ศ. 209 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | ไม่ปรากฏ เมืองตุ้นก้วน (จัวจฺวิ้น) จักรวรรดิฮั่น (ปัจจุบันคือ อำเภอจัวโจว มณฑลเหอเป่ย์) |
เสียชีวิต | กรกฎาคมหรือสิงหาคม ค.ศ. 221[a] อำเภอลองจิ๋ว (หลางจง) เมืองปาเส (ปาซีจฺวิ้น) จ๊กก๊ก (ปัจจุบันคือ นครหลางจง มณฑลเสฉวน) |
คู่สมรส | เซี่ยโหวชื่อ |
บุตร | |
อาชีพ | ขุนพล, ขุนนาง |
ชื่อรอง | เอ๊กเต๊ก (益德 อี้เต๋อ) |
สมัญญานาม | หฺวันโหฺว (桓侯) |
บรรดาศักดิ์ | ซีเซียงโหว (西鄉侯) |
เตียวหุย (จาง เฟย์) | |||||||||||||||||||||||||
"เตียวหุย" (จาง เฟย์) เขียนเป็นอักษรจีนตัวเต็ม (บน) และอักษรจีนตัวย่อ (ล่าง) | |||||||||||||||||||||||||
อักษรจีนตัวเต็ม | 張飛 | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวย่อ | 张飞 | ||||||||||||||||||||||||
|
เตียวหุย (เสียชีวิต กรกฎาคมหรือสิงหาคม ค.ศ. 221)[a] มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า จาง เฟย์ (จีน: 张飞; พินอิน: Zhāng Fēi; เวด-ไจลส์: Chang Fei; ) ชื่อรอง เอ๊กเต๊ก[b] หรือภาษาจีนกลางคือ อี้เต๋อ (จีน: 益德[c]; พินอิน: Yìdé) เป็นขุนพลและขุนนางชาวจีนที่รับใช้ขุนศึกเล่าปี่ในช่วงปลายยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออกและต้นยุคสามก๊กของจีน เตียวหุยและกวนอูเป็นคนในกลุ่มแรก ๆ ที่เข้าร่วมกับเล่าปี่ ทั้งสองมีความสัมพันธ์ฉันพี่น้องกับเล่าปี่ผู้เป็นนาย และติดตามเล่าปี่ตลอดการแสวงอำนาจของเล่าปี่ในช่วงต้น เตียวหุยต่อสู้ในหลายยุทธการในฝ่ายเล่าปี่ เช่น ยุทธการที่เซ็กเพ็ก (ค.ศ. 208–209), การยึดมณฑลเอ๊กจิ๋ว (ค.ศ. 212–214) และยุทธการที่ฮันต๋ง (ค.ศ. 217–218) เตียวหุยถูกลอบสังหารโดยผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองในปี ค.ศ. 221 หลังรับราชการเพียงไม่กี่เดือนในรัฐจ๊กก๊กซึ่งก่อตั้งโดยเล่าปี่ก่อนหน้านี้ในปีเดียวกัน[3]
เตียวหุยเป็นหนึ่งในตัวละครหลักในนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ที่ประพันธ์ในศตวรรษที่ 14 เรื่องสามก๊ก (ซานกั๋วเหยี่ยนอี้) ซึ่งเล่าเรื่องเหตุการณ์ก่อนและระหว่างยุคสามก๊ก ในนวนิยาย เตียวหุยเป็นพี่น้องร่วมสาบานของเล่าปี่และกวนอูด้วยคำสาบานในสวนท้อในช่วงเริ่มต้นของนวนิยายและยังคงความซื่อสัตย์ต่อคำสาบานจนกระทั่งเสียชีวิต
ประวัติในช่วงต้น
[แก้]เตียวหุยเป็นชาวเมืองตุ้นก้วน (涿郡 จัวจฺวิ้น) ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 180 ช่วงปลายยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก เตียวหุยและกวนอูเข้าร่วมเป็นผู้ติดตามของเล่าปี่ เนื่องจากกวนอูมีอายุมากกว่าเตียวหุยหลายปี เตียวหุยจึงนับถือกวนอูเหมือนเป็นพี่ชาย[4] กวนอูและเตียวหุยมีชื่อเสียงในเรื่องความกล้าหาญและความแข็งแกร่ง ทำให้ทั้งสองกลายเป็นนักรบที่มีความสามารถ[5]
ภายหลังเล่าปี่ได้รับแต่งตั้งจากราชสำนักฮั่นให้เป็นปลัดรัฐเพงงวนก๋วน (平原國 ผิง-ยฺเหวียนกั๋ว) กวนอูและเตียวหุยได้รับราชการในฐานะนายกองพันแยก (別部司馬 เปี๋ยปู้ซือหม่า) ในสังกัดของเล่าปี่ เล่าปี่ปฏิบัติต่อกวนอูและเตียวหุยเหมือนเป็นพี่น้องของตน ทั้งสองมีความสัมพันธ์แบบพี่น้องถึงขนาดใช้ห้องรวมกัน นอนบนเสื่อผืนเดียวกัน และกินอาหารจากหม้อเดียวกัน[6] เตียวหุยและกวนอูทำหน้าที่เป็นองครักษ์คุ้มกันเล่าปี่ ทั้งสองติดตามเล่าปี่ไปในการแสวงอำนาจและมักพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอันตรายและความยากลำบากต่าง ๆ[7]
ความขัดแย้งระหว่างเล่าปี่และลิโป้
[แก้]ในปี ค.ศ. 194 เล่าปี่สืบทอดตำแหน่งเจ้ามณฑลชีจิ๋วถัดจากโตเกี๋ยม ในปีต่อมา เล่าปี่นำกองทัพไปยังอำเภอชัวหยิน (淮陰 หฺวายอิน) เพื่อรับมือการบุกของอ้วนสุด ในช่วงเวลานั้นนั้น เล่าปี่มอบหมายให้เตียวหุยรักษาเมืองแห้ฝือ (下邳 เซี่ยพี) เมืองเอกของมณฑลชีจิ๋ว[8]
เตียวหุยต้องการสังหารโจป้าอดีตนายทหารของโตเกี๋ยมด้วยเหตุผลที่ไม่ทราบแน่ชัด โจป้าหนีกลับไปยังค่ายของตนและเสริมการป้องกัน ขณะเดียวกันก็ส่งคนนำสารไปขอความช่วยเหลือจากลิโป้ขุนศึกอีกคนหนึ่งซึ่งขณะนั้นกำลังพึ่งใบบุญของเล่าปี่อยู่ ลิโป้นำกองทัพเข้าโจมตีเมืองแห้ฝือ และสามารถยึดครองเมืองแห้ฝือได้สำเร็จ เตียวหุยหนีออกจากเมืองหลังจากเสียแห้ฝือให้กับลิโป้[9][d]
เล่าปี่กลับมายังชีจิ๋วซึ่งขณะนั้นตกอยู่ภายใต้การปกครองของลิโป้ เล่าปี่ยอมรับข้อเสนอของลิโป้อย่างจำใจที่ให้ย้ายไปอยู่ที่เสียวพ่ายในขณะที่ลิโป้ยังคงอยู่ที่แห้ฝือ ความสัมพันธ์ระหว่างเล่าปี่และลิโป้ตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนนำไปสู่ความขัดแย้ง เล่าปี่ขอความช่วยเหลือจากโจโฉขุนศึกผู้กุมอำนาจเหนือราชสำนักฮั่น กองทัพผสมของเล่าปี่และโจโฉเอาชนะลิโป้ในยุทธการที่แห้ฝือเมื่อปี ค.ศ. 198 หลังจากนั้นทั้งสองเดินทางกลับไปยังนครหลวงฮูโต๋ ในฮูโต๋เตียวหุยได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนพลราชองครักษ์ (中郎將 จงหลางเจี้ยง)[10]
ร่วมเดินทางกับเล่าปี่
[แก้]ในปี ค.ศ. 199 เล่าปี่ได้วางแผนที่จะหนีออกจากฮูโต๋ เพื่อหลบหนีจากการจับตามองของโจโฉ เขาจึงเสนอตัวอาสาเป็นผู้นำกองทัพไปโจมตีอ้วนสุด เตียวหุยร่วมเดินทางกับเล่าปี่ไปยังมณฑลชีจิ๋ว โดยสังหารกีเหมา เจ้ามณฑลที่โจโฉแต่งตั้ง และยึดครองเมืองแห้ฝือคืนมาได้อีกครั้ง ในปีถัดมา โจโฉบุกโจมตีเล่าปี่และสามารถยึดชีจิ๋วกลับคืนมาได้สำเร็จ เมื่อเล่าปี่พ่ายแพ้ในสงคราม เขาต้องหลบหนีเพื่อความปลอดภัย เล่าปี่ตัดสินใจเดินทางขึ้นเหนือไปยังกิจิ๋ว และขอความช่วยเหลือจากอ้วนเสี้ยว ซึ่งเป็นศัตรูของโจโฉ
ภายหลังเล่าปี่ละทิ้งอ้วนเสี้ยวด้วยการแสร้งทำเป็นช่วยอ้วนเสี้ยวให้ได้การสนับสนุนจากกบฏท้องที่บริเวณยีหลำ (หรู่หนาน) ในสงครามต่อโจโฉ ท้ายที่สุดเขาพบที่พักพิงจากเล่าเปียว ผู้ว่าการเกงจิ๋ว เล่าเปียวแต่งตั้งเขาให้ควบคุมอำเภอซินเอี๋ย (新野 ซินเหย่) ที่ชายแดนทางตอนเหนือของเกงจิ๋ว[11][12]
ไม่มีข้อมูลว่าเตียวหุยติดตามเล่าปี่ไปเข้าร่วมกับอ้วนสุดหลังเล่าปี่พ่ายแพ้ที่มณฑลชีจิ๋ว หรือเขาแยกจากเล่าปี่ในช่วงนั้นเหมือนกับกวนอู
ยุทธการที่เซ็กเพ็ก
[แก้]ยุทธการที่เตียงปัน
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ครอบครัว
[แก้]ในปี ค.ศ. 200 เตียวหุยบังเอิญพบกับหลานสาวของแฮหัวเอี๋ยนระหว่างที่นางออกไปเก็บฟืนจึงลักพาตัวนางมา หลานสาวของแฮหัวเอี๋ยนในเวลานั้นอายุราว 13 ปี เตียวหุยรู้ว่านางได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดีจึงแต่งงานกับนาง ให้กำเนิดบุตรสาว 2 คนซึ่งภายหลังทั้งคู่ได้แต่งงานกับเล่าเสี้ยนและขึ้นเป็นจักรพรรดินีแห่งรัฐจ๊กก๊ก บุตรสาวคนแรกเป็นที่รู้จักในชือจักรพรรดินีจิ้งไอ[13][14] จักรพรรดินีจิ้งไอมีน้องสาวซึ่งแต่งงานกับเล่าเสี้ยนเช่นกันและรู้จักในชื่อ จักรพรรดินีจาง[15]
บุตรชายคนโตของเตียวหุยชื่อเตียวเปา เสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในวัยเยาว์[16] บุตรชายของเตียวเปาชื่อจาง จุน (張遵) รับราชการเป็นราชเลขาธิการ (尚書) ในปี ค.ศ. 263 ระหว่างการพิชิตจ๊กก๊กของวุยก๊ก จาง จุนติดตามจูกัดเจี๋ยมในการป้องกันกิมก๊กจากการบุกของเตงงายขุนพลวุยก๊ก แต่ถูกสังหารในที่รบ[17][18]
บุตรชายคนรองของเตียวหุยชื่อเตียวเซีย (張紹 จาง เช่า) สืบทอดบรรดาศักดิ์ของบิดาและรับราชการเป็นมหาดเล็ก (侍中) และผู้ช่วยราชเลขาธิการ (尚書僕射) ในจ๊กก๊ก[19] ในปี ค.ศ. 263 จักรพรรดิจ๊กก๊กเล่าเสี้ยนมอบหมายให้เตียวเซีย เจาจิ๋ว และเตงเลียง (鄧良 เติ้ง เหลียง) เป็นผู้แทนพระองค์ในการยอมจำนนต่อเตงงายและนำไปสู่การสิ้นสุดของจ๊กก๊ก หลังการล่มสลายของจ๊กก๊ก เตียวเซียติดตามเล่าเสี้ยนไปยังลกเอี๋ยงราชธานีของวุยก๊ก ได้รับบรรดาศักดิ์โหฺวร่วมกับอดีตขุนนางของจ๊กก๊กคนอื่น ๆ[20]
ในวรรณกรรม สามก๊ก
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ในศิลปะ
[แก้]-
Looking Three Times at the Thatched Hut (ราชวงศ์หมิงตอนต้น) โดยไต้ จิ้น แสดงเตียวหุย (ขวา) กับกวนอูและเล่าปี่ที่กระท่อมมุงจากของจูกัดเหลียง
-
ภาพวาดเตียวหุยบนหลังม้าโดย Zhao Zhi (ราชวงศ์หมิง)
-
เตียวหุยประลองกับเตียวจูล่งใน Heroes of the Popular History of the Three Kingdoms (ป. 1836) โดยอูตางาวะ คูนิโยชิ
-
Zhang Fei on the Long Sloped Bridge Turning Away One Million Wei Troops with a Powerful Stare (ป. 1883) โดยสึกิโอกะ โยชิโตชิ
-
เตียวหุยเฆี่ยนขุนนาง ภาพจากวรรณกรรมสามก๊กสมัยราชวงศ์หมิง (ป. 1591)
-
ภาพวาดเตียวหุยจากวรรณกรรมสามก๊กสมัยราชวงศ์ชิง (คริสต์ศตวรรษที่ 19)
ในวัฒนธรรมร่วมสมัย
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อาวุธ
[แก้]อาวุธประจำกายของเตียวหุยมีลักษณะเป็นโค้งคล้ายงูเลื้อยไปมา หัวตัด รู้จักกันดีในชื่อว่า ทวนงูเลื้อย หรือ ทวนอสรพิษ (Viper Blade) หลอมพร้อมกันกับอาวุธของเล่าปี่และกวนอู หนักถึง 80 ชั่ง
ดูเพิ่ม
[แก้]หมายเหตุ
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 ชีวประวัติเล่าปี่ในสามก๊กจี่บันทึกว่าเตียวหุยเสียชีวิตในศักราชเจี๋ยงบู๋ปีที่ 1 เดือน 6 ในรัสมัยของเล่าปี่[1] เทียบได้กับช่วงระหว่างวันที่ 8 กรกฎาคมถึง 5 สิงหาคม ค.ศ. 221 ในปฏิทินจูเลียนและก่อนเกรโกเรียน
- ↑ ในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 1 บรรยายความถึงเตียวหุยเมื่อเริ่มมีบทบาทว่า "ผู้นั้นจึงตอบว่าเราชื่อเตียวหุยเอ๊กเต๊กบ้านอยู่ตุ้นก้วน"[2]
- ↑ ไม่ใช่ 翼德 ที่พ้องเสียงกันกับ 益德 โดย 翼德 เป็นชื่อรองของเตียวหุยในปรากฏในนิยายสามก๊ก (ซานกั๋วเหยี่ยนอี้)
- ↑ บางบันทึกระบุว่าเตียวหุยสังหารโจป้าระหว่างการวิวาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความโจป้า
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ([章武元年]六月, ... 車騎將軍張飛為其左右所害。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 32.
- ↑ "สามก๊ก ตอนที่ ๑". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ February 28, 2024.
- ↑ de Crespigny 2007, p. 1042.
- ↑ (張飛字益德,涿郡人也,少與關羽俱事先主。羽年長數歲,飛兄事之。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 36.
- ↑ (河東關羽雲長,同郡張飛益德,並以壯烈,禦侮。) หฺวาหยางกั๋วจื้อ เล่มที่ 6.
- ↑ (先主與二子寢則同床,食則共器,恩若弟兄。然於稠人廣眾中,侍立終日。) หฺวาหยางกั๋วจื้อ vol. 6.
- ↑ (先主於鄉里合徒衆,而羽與張飛為之禦侮。先主為平原相,以羽、飛為別部司馬,分統部曲。先主與二人寢則同牀,恩若兄弟。而稠人廣坐,侍立終日,隨先主周旋,不避艱險。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 36.
- ↑ (英雄記曰:備留張飛守下邳,引兵與袁術戰於淮陰石亭,更有勝負。) อรรถาธิบายจากอิง-สฺยงจี้ในสามก๊กจี่ เล่มที่ 32.
- ↑ (陶謙故將曹豹在下邳,張飛欲殺之。豹衆堅營自守,使人招呂布。布取下邳,張飛敗走。) อรรถาธิบายจากอิง-สฺยงจี้ในสามก๊กจี่ เล่มที่ 32.
- ↑ (先主從曹公破呂布,隨還許,曹公拜飛為中郎將。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 36.
- ↑ (... 先主還紹軍,陰欲離紹,乃說紹南連荊州牧劉表。紹遣先主將本兵復至汝南,與賊龔都等合,衆數千人。 ... 曹公旣破紹,自南擊先主。先主遣麋笁、孫乾與劉表相聞,表自郊迎,以上賔禮待之,益其兵,使屯新野。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 32.
- ↑ (先主背曹公依袁紹、劉表。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 36.
- ↑ (初,建安五年,時霸從妹年十三四,在本郡,出行樵採,為張飛所得。飛知其良家女,遂以為妻,產息女,為劉禪皇后。) อรรถาธิบายจากเว่ย์เลฺว่ ใน สามก๊กจี่ เล่มที่ 9.
- ↑ (後主敬哀皇后,車騎將軍張飛長女也。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 34.
- ↑ (後主張皇后,前后敬哀之妹也。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 34.
- ↑ (長子苞,早夭。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 36.
- ↑ (苞子遵為尚書,隨諸葛瞻於綿竹,與鄧艾戰,死。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 36.
- ↑ (忠、纂馳還更戰,大破之,斬瞻及尚書張遵等首,進軍到雒。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 28.
- ↑ (次子紹嗣,官至侍中尚書僕射。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 36.
- ↑ (用光祿大夫譙周策,降於艾,奉書曰:「... 謹遣私署侍中張紹、光祿大夫譙周、駙馬都尉鄧良奉齎印緩,請命告誠, ...」 ... 紹、良與艾相遇於雒縣。 ... 後主舉家東遷,旣至洛陽, ... 尚書令樊建、侍中張紹、光祿大夫譙周、祕書令郤正、殿中督張通並封列侯。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 33.
บรรณานุกรม
[แก้]- ตันซิ่ว (คริสต์ศตวรรษที่ 3). สามก๊กจี่ (ซานกั๋วจื้อ).
- ฉาง ฉฺวี (คริสต์ศตวรรษที่ 4). พงศาวดารหฺวาหยาง (หฺวาหยางกั๋วจื้อ).
- เผย์ ซงจือ (คริสต์ศตวรรษที่ 5). อรรถาธิบายสามก๊กจี่ (ซานกั๋วจื้อจู้).
- ล่อกวนตง (คริสต์ศตวรรษที่ 14). สามก๊ก (ซานกั๋วเหยี่ยนอี้).
- de Crespigny, Rafe (2007), A Biographical Dictionary of Later Han to the Three Kingdoms 23-220 AD, Leiden: Brill, ISBN 9789004156050