ปรอฮกคะติฮ์
ปรอฮกคะติฮ์เคียงกับผักสด | |
ประเภท | เครื่องจิ้ม |
---|---|
แหล่งกำเนิด | ประเทศกัมพูชา |
ส่วนผสมหลัก | เนื้อปรอฮก, เนื้อหมูสับ, เกรืองเหลือง, กะทิ, น้ำส้มมะขาม, น้ำตาลโตนด, มะเขือพวง และใบมะกรูด |
ปรอฮกคะติฮ์[1][2][3] (เขมร: ប្រហុកខ្ទិះ, ปรหุกขะทิ; แปลว่า ปลาร้ากะทิ) หรือ น้ำพริกปลาร้ากะทิเขมร[4] เป็นเครื่องจิ้มของประเทศกัมพูชา มีส่วนประกอบคือ เนื้อปรอฮก เนื้อหมูสับ เกรืองเหลือง กะทิ น้ำส้มมะขาม น้ำตาลโตนด มะเขือพวง และใบมะกรูด[5] เป็นอาหารที่ใกล้เคียงกับน้ำพริกในสำรับอาหารไทยมาก[4] และมีความใกล้เคียงกับ น้ำพริกจรั๊วะโดง ในสำรับอาหารชาวไทยเชื้อสายเขมรแถบอีสานใต้[6]
ส่วนประกอบสำคัญของปรกฮกคะติฮ์นอกจากเนื้อปรอฮกแกะก้างและเนื้อหมูสับละเอียด คือ เกรืองเหลือง ซึ่งได้มาจาก หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ข่า ขมิ้น และผิวมะกรูดตำละเอียด แต่จะไม่ใส่พริกลงในเครื่องแกงอย่างการทำอาหารไทย โดยจะนำพริกแห้งไปแช่น้ำจนเปื่อยยุ่ย แล้วนำไปสับบนเขียงแยกไว้[4] เพราะตามธรรมเนียมการทำอาหารเขมรดั้งเดิมจะไม่นิยมพริก[7] และอาหารเขมรดั้งเดิมจะไม่นิยมใช้กะทิ เพราะกะทิเป็นเครื่องบ่งบอกว่าเป็นอาหารหวาน มิใช่อาหารคาว[8] อีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญคือ มะสัง ซึ่งเป็นผสไม้รสเปรี้ยวอมหวานไว้เพิ่มรสเปรี้ยวในอาหาร แต่ปัจจุบันหายากต้องใช้น้ำมะขามเปียกหรือน้ำมะนาวแทน[4] บางสูตรอาจใส่แอปเปิลเขียว พีช เนคทารีน กะหล่ำปลี หรือดอกกะหล่ำแทนมะเขือพวง[9]
วิธีการทำปรอฮกคะติฮ์ คือนำส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงไปผัดในน้ำมันจนหอม แล้วใส่พริกแห้งแช่น้ำลงไปผัดให้เข้ากันจึงเติมน้ำกะทิลงไป เมื่อน้ำเดือดให้ใส่ปรอฮกแกะก้างและเนื้อหมูสับละเอียดลงไปผัด เคี่ยวจนเข้ากันดีแล้วเติมน้ำตาลโตนด น้ำปลา เกลือ มะสังเพื่อแต่งรส เคี่ยวจนเป็นน้ำขลุกขลิก จากนั้นใส่มะเขือพวงและใบมะกรูดซอยลงไป รอจนมะเขือพวงสุกเป็นอันเสร็จ[4]
ชาวเขมรรับประทานปรอฮกคะติฮ์ใช้รับประทานกับข้าวเคียงกับผักสดหรือผักตามฤดูกาล เช่น แตงกวา แคร์รอต กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ผักกาดแก้ว มะเขือเปราะ ถั่วพลู และผักชี[4][5][9] สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่คุ้นเคย ปรอฮกคะติฮ์จะมีกลิ่นฉุนแรง อาจทำให้เข้าใจว่าเนื้อหมูที่ผสมกับปรอฮกในน้ำพริกบูดเน่า[5] โดยอาหารชนิดนี้เป็นอาหารที่ปรากฏในพิธีกรรมเซ่นไหว้ผีบรรพชน และใช้สำหรับเลี้ยงแขกในเทศกาลต่าง ๆ ตามความเชื่อของชาวเขมร[10]
ปราก โซะคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา เสนอชื่อ ปรอฮกคะติฮ์ เป็นเมนูส่งเสริมการโฆษณาอาหารการทูตของประเทศกัมพูชา[11]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ De Monteiro, Longteine; Neustadt, Katherine (1998). The Elephant Walk Cookbook: Cambodian Cuisine from the Nationally Acclaimed Restaurant. Houghton Mifflin Harcourt. p. 246. ISBN 0395892538.
- ↑ Zibart, Eve (2010). The Ethnic Food Lover's Companion: A Sourcebook for Understanding the Cuisines of the World. Menasha Ridge Press. p. 286. ISBN 978-0-897-32775-6.
- ↑ Burum, Linda (13 August 2008). "It's a fresh angle on Southeast Asia". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ 4 November 2023.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 "เปิดสูตร 5 อาหารจานเด็ดกัมพูชา ทำกินเองได้ที่บ้าน". ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2566.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 5.0 5.1 5.2 Carter, Terence (27 November 2014). "An Authentic Khmer Prahok Ktis (Prahok K'tis) Recipe". Grantourismo Travels. สืบค้นเมื่อ 14 October 2023.
- ↑ ""น้ำพริกจรั๊วะโดง" เมนูสุดโปรดของ "ลิซ่า BLACKPINK" อาหารถิ่นอีสานใต้". ผู้จัดการออนไลน์. 12 กันยายน 2564. สืบค้นเมื่อ 18 ตุลาคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help) - ↑ ชัยวัฒน์ เสาทอง (26 พฤษภาคม 2562). "มจู, ม็วน ด๊ด, ก็องแก๊บ บ๊ก ฯลฯ เมนูอร่อยในสำรับกับข้าวเขมร". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 18 ตุลาคม 2567.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help) - ↑ โสมเพ็ญ ขุทรานนท์ (3 กุมภาพันธ์ 2557). "รู้จักอาหารเขมรรู้นิสัยใจคอเพื่อนบ้าน". โพสต์ทูเดย์. สืบค้นเมื่อ 18 มีนาคม 2566.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 9.0 9.1 "Prahok Ktis/Coconut Prahok Dip". Cambodianess. 6 May 2021. สืบค้นเมื่อ 4 November 2023.
- ↑ สุทธาสินี จิตรกรรมไทย เจียจันทร์พงษ์ (13 พฤศจิกายน 2567). "เปิด 5 เมนูขึ้นชื่อ "อาหารสำรับพิธีกรรมเขมร" ไม่ได้กินถือว่าพลาดความอร่อย". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 27 มกราคม 2568.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help) - ↑ Siow, Maria (3 January 2021). "Cambodia is taking a pungent, potent approach to food diplomacy: prepare for prahok". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 4 November 2023.