ข้ามไปเนื้อหา

The Restaurant War Thailand ศึกพ่อค้าซ่าแม่ค้าแซ่บ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
The Restaurant War Thailand ศึกพ่อค้าซ่าแม่ค้าแซ่บ
ประเภทเรียลลิตี, การทำอาหาร
สร้างโดยกิติกร เพ็ญโรจน์
บริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป จำกัด
พิธีกรสัญญา ธาดาธนวงศ์
แสดงนำ
กรรมการวิลแมน ลีออง
ประเทศแหล่งกำเนิดประเทศไทย
ภาษาต้นฉบับภาษาไทย
จำนวนฤดูกาล1
จำนวนตอน12
การผลิต
ความยาวตอน110 นาที
บริษัทผู้ผลิตบริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป จำกัด
ออกอากาศ
เครือข่ายช่อง 7HD
ออกอากาศ22 กันยายน 2567 (2567-09-22) –
ปัจจุบัน

The Restaurant War Thailand ศึกพ่อค้าซ่าแม่ค้าแซ่บ เป็นรายการโทรทัศน์ไทยประเภทเรียลลิตีโชว์การแข่งขันทำอาหารแบบทีมของพ่อค้าและแม่ค้าจากร้านอาหารข้างถนนร้านต่าง ๆ ดำเนินรายการโดย กอล์ฟ - สัญญา ธาดาธนวงศ์ โดยมีเชฟวิลแมน ลีออง เป็นครูใหญ่ และมีหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอน (Head Chef Trainer) ได้แก่ เชฟต้น - ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร, เชฟแพม - พิชญา สุนทรญาณกิจ และ เชฟอาร์ต - ศุภมงคล ศุภพิพัฒน์ ผลิตรายการโดย บริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป จำกัด ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 18:00 น. และรีรันทุกวันพฤหัสบดี เวลา 23:15 น. ทางช่อง 7HD เริ่มออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2567

รูปแบบรายการ

[แก้]

The Restaurant War Thailand ศึกพ่อค้าซ่าแม่ค้าแซ่บ เป็นรายการเรียลลิตีโชว์การแข่งขันทำอาหารที่บริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป จำกัด คิดและผลิตขึ้นเอง โดยรับสมัครพ่อค้าและแม่ค้าจากร้านอาหารข้างถนน ตลาดนัด อาหารตามสั่ง หรือภัตตาคารขนาดเล็กร้านต่าง ๆ มาแข่งขันทำอาหาร โดยแบ่งออกเป็น 3 ทีม มีครูใหญ่เป็นกรรมการตัดสินหลัก และมีหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนประจำทีมเป็นผู้สอนการทำอาหารให้ลูกทีมของตน เพื่อพัฒนาเป็นเชฟในอนาคต[1]

The Restaurant War Thailand ศึกพ่อค้าซ่าแม่ค้าแซ่บ แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 รอบ ดังนี้

รอบ Audition

[แก้]

ในรอบนี้จะแบ่งออกเป็น 2 รอบ ดังนี้

  • รอบที่ 1 – ผู้เข้าแข่งขันจะต้องแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม สร้างคาแรกเตอร์ และนำเสนออาหารที่ขายปกติให้โดดเด่นภายในเวลา 30 วินาที เพื่อให้ครูใหญ่และหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนพิจารณาเป็นเบื้องต้น
  • รอบที่ 2 – ผู้เข้าแข่งขันจะต้องนำเมนูที่ร้านของตัวเองมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่ให้มีความโดดเด่น และมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ภายในเวลา 60 นาที และนำเสนอเมนูใหม่ดังกล่าว เพื่อให้หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนคัดเลือกเข้าเป็นลูกทีมของตน โดยการคัดเลือกแบ่งออกเป็นดังนี้
    • หากไม่มีหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนคนใดเลือกเลย ผู้เข้าแข่งขันจะตกรอบทันที
    • หากมีหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนเลือก 1 คน ผู้เข้าแข่งขันจะเข้าทีมของหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนคนนั้นทันที
    • หากมีหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนเลือกมากกว่า 1 คน ผู้เข้าแข่งขันจะมีสิทธิ์เลือกหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนเพื่อเข้าทีม

โดยลูกทีมของแต่ละทีมจะได้รับผ้ากันเปื้อนสีประจำทีมนั้น ๆ โดยหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนของแต่ละทีมจะมีลูกทีมได้ไม่เกิน 6 คน

รอบการแข่งขันจริง

[แก้]

Individual Challenge

[แก้]

ผู้เข้าแข่งขันจะต้องสร้างสรรค์เมนูอาหารข้างถนนตามโจทย์ที่กำหนด ภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 60 นาที หลังจากนั้น หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนของแต่ละทีมจะชิมอาหารของลูกทีมของตน และเลือก 2 จานที่ดีที่สุดของทีมของตน รวมเป็น 6 จาน เพื่อให้คณะกรรมการ (ประกอบด้วยครูใหญ่และแขกรับเชิญอีกสัปดาห์ละ 2 คน) ชิมและตัดสินหาจานที่ดีที่สุด โดยจานที่เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ลงไปจะได้รับการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ ผู้ที่ได้เป็นจานที่ดีที่สุดจะได้รับสิทธิพิเศษในโจทย์ถัดไป

Restaurant War

[แก้]

แต่ละทีมจะต้องทำอาหารในสัญชาติและรูปแบบที่กำหนด เพื่อให้คณะกรรมการพิเศษจำนวน 20 คนชิม และลงคะแนนเพื่อหาทีมที่ชนะ 1 ทีม โดยมีวัตถุดิบหลักหรืออุปกรณ์ในการทำอาหาร 3 อย่าง ซึ่งผู้ชนะในรอบ Individual Challenge เลือกมอบให้ทั้ง 3 ทีม (หรือในบางตอน ทั้ง 3 ทีมจะได้วัตถุดิบเดียวกัน แต่ผู้ชนะในรอบ Individual Challenge จะได้รับสิทธิพิเศษอื่นๆ อาทิ สวิงมหัศจรรย์, สวิตซ์ปิดไฟห้องบัญชาการ เป็นต้น) จากนั้นแต่ละทีมจะมีเวลา 60 นาที ในการประชุมกับหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนเกี่ยวกับเมนูอาหารที่จะทำ รวมถึงการทำงานของผู้เข้าแข่งขันในครัว หลังจากนั้นทุกทีมจะมีเวลา 90 นาที (60 นาทีในช่วงปลายฤดูกาล) ในการทำอาหารตามที่วางแผนไว้ให้สมบูรณ์และครบถ้วน โดยหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนจะสามารถทำได้เฉพาะการสังเกตการทำงานของผู้เข้าแข่งขันจากภาพกล้องวงจรปิดในห้องบัญชาการ แต่หากต้องการเรียกสมาชิกทีมมาพูดคุย ให้กดปุ่มที่มีชื่อของสมาชิกคนนั้น โดยระหว่างที่หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนเรียกสมาชิกทีมไปพูดคุย สมาชิกทีมที่เหลือจะต้องหยุดการทำงานชั่วคราวในขณะที่เวลาจะยังคงนับถอยหลังต่อไป แต่หากครูใหญ่เห็นว่าการทำงานของทั้ง 3 ทีมเกิดปัญหาใหญ่จนหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนเริ่มไม่สามารถควบคุมได้ ครูใหญ่สามารถอนุญาตให้หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนออกไปช่วยลูกทีมได้ภายในระยะเวลาที่จำกัดไว้

การคัดออก

[แก้]

หลังจากคณะกรรมการชิมและตัดสินเมนูของทั้ง 3 ทีมแล้ว จะมีการส่งจดหมายไปยังห้องพักของแต่ละทีม เพื่อสรุปผลการแข่งขันในรอบ Restaurant War โดยทีมที่ชนะ 1 ทีม จะไม่มีลูกทีมที่ถูกคัดออกในสัปดาห์นั้น ๆ ส่วนอีก 2 ทีมที่แพ้ หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนจะต้องเลือกผู้เข้าแข่งขันในทีมของตนทีมละ 2 คน ไปให้ครูใหญ่และหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนของทีมที่ชนะในรอบ Restaurant War ตัดสิน หลังจากครูใหญ่และหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนของทีมที่ชนะปรึกษาหารือกันแล้ว หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนของทีมที่ชนะสามารถใช้สิทธิ์เลือกผู้เข้าแข่งขันคนดังกล่าวให้ย้ายมาอยู่ทีมของตัวเองหรือไม่ก็ได้ แต่หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนแต่ละคน จะสามารถใช้สิทธิ์นี้ได้เพียง 1 ครั้งในแต่ละฤดูกาล และเมื่อตัดสินใจว่าจะใช้สิทธิ์หรือไม่แล้ว ครูใหญ่จะตัดสินผู้เข้าแข่งขันให้คืนผ้ากันเปื้อนและออกจากการแข่งขัน 1 คนในแต่ละสัปดาห์

รอบชิงชนะเลิศ

[แก้]

ผู้ดำเนินรายการ

[แก้]
พิธีกร ฤดูกาล
1
สัญญา ธาดาธนวงศ์
ครูใหญ่ ฤดูกาล
1
วิลแมน ลีออง
หัวหน้าเชฟ
ผู้ฝึกสอน
ฤดูกาล
1
ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร
พิชญา สุนทรญาณกิจ
ศุภมงคล ศุภพิพัฒน์

ภาพรวมในแต่ละฤดูกาล

[แก้]
ฤดูกาล ออกอากาศ
ครั้งแรก
ออกอากาศรอบ
ชิงชนะเลิศ
ผู้ชนะเลิศ รองชนะเลิศ ผู้เข้าแข่งขันตัวจริง
(เรียงตามลำดับคนออก)
จำนวนตอน จำนวนผู้เข้าแข่งขันตัวจริง จำนวนผู้เข้าแข่งขันเริ่มต้น
1 22 กันยายน 2567 15 ธันวาคม 2567   อารฟา บือราแง  /  ธนเดช สารคุณ
  ปรัชญา คำแหง
  ภาสน โรมวิสัย
  ชาคริต อยู่ฤทธิ์,   เนตรดาว จันที,   สราวุธ อ่ำสะอาด,   สุภาชาติ สวยงาม,   วศิน ศรีประสิทธิพร,   โชติกา ฮวดลิ้ม (ถอนตัว),   เชษฐา บุดดาโจม,   สุทธิศักดิ์ เกิดอุดม,   ฉกรรจ์ บุญชนะ,  /  ศิวัช เทียวพานิช,   วรรณวิสา ประทุมวัน &   ณัฐพล นาคผ่อง &   ภาณิชา ฐานิสรกุลนาถ &   สุรภี จันทราภรณ์
12 18 30
2 เร็ว ๆ นี้

สัญลักษณ์สี

  ลูกทีมในทีมเชฟต้น
  ลูกทีมในทีมเชฟแพม
  ลูกทีมในทีมเชฟอาร์ต

ฤดูกาลที่ 1

[แก้]

ผู้เข้าแข่งขันตัวจริง

[แก้]
ชื่อ อายุ อาหารที่ขาย ทีม ลำดับการแข่งขัน จำนวนชนะ
อารฟา บือราแง (ฟาน) 26 อาหารตามสั่ง เชฟต้น ชนะเลิศ
(วันที่ 15 ธันวาคม)
5
ธนเดช สารคุณ (นัท) 26 ข้าวแกง เชฟต้น เชฟแพม รองชนะเลิศ
(วันที่ 15 ธันวาคม)
8
ปรัชญา คำแหง (บีเอ็ม) 34 ลาบเป็ด เชฟอาร์ต 4
ภาสน โรมวิสัย (โยตัส) 40 ข้าวแกง เชฟแพม 7
ภาณิชา ฐานิสรกุลนาถ (แนน) 36 ยำ เชฟแพม ถูกคัดออกในตอนที่ 11
(วันที่ 8 ธันวาคม)
5
สุรภี จันทราภรณ์ (รักเอย) 32 ห่อหมก เชฟแพม 5
ณัฐพล นาคผ่อง (โกอิ่มบอม) 45 เนื้อย่าง เชฟต้น 2
วรรณวิสา ประทุมวัน (วีซ่า) 51 อาหารในโรงเรียน เชฟอาร์ต 4
ศิวัช เทียวพานิช (ปู) 37 บะหมี่ เชฟอาร์ต เชฟต้น ถูกคัดออกในตอนที่ 10
(วันที่ 1 ธันวาคม)
4
ฉกรรจ์ บุญชนะ (แพน) 49 ผัดไทย เชฟอาร์ต กลับเข้าสู่การแข่งขันและออกจากการแข่งขันในตอนที่ 10
(วันที่ 1 ธันวาคม)
[] []

ถูกคัดออกในตอนที่ 9
(วันที่ 24 พฤศจิกายน)

4
สุทธิศักดิ์ เกิดอุดม (ฟูฟู) 43 ส้มตำและอาหารทั่วไป เชฟอาร์ต ถูกคัดออกในตอนที่ 8
(วันที่ 17 พฤศจิกายน)
4
เชษฐา บุดดาโจม (ต้น) 50 ขาไก่ซุปเปอร์ เชฟต้น ถูกคัดออกในตอนที่ 7
(วันที่ 10 พฤศจิกายน)
1
โชติกา ฮวดลิ้ม (นิ้ง) 28 อาหารสุขภาพ เชฟต้น ออกจากการแข่งขันในตอนที่ 10
(วันที่ 1 ธันวาคม)
[]

กลับเข้าสู่การแข่งขันในตอนที่ 8
(วันที่ 17 พฤศจิกายน)
[]
ถอนตัวในตอนที่ 7
(วันที่ 10 พฤศจิกายน)

2
วศิน ศรีประสิทธิพร (ขวด) 29 ส้มตำ เชฟแพม ถูกคัดออกในตอนที่ 6
(วันที่ 27 ตุลาคม)
1
สุภาชาติ สวยงาม (น้อย) 65 ผัดไทย เชฟแพม ถูกคัดออกในตอนที่ 5
(วันที่ 20 ตุลาคม)
1
สราวุธ อ่ำสะอาด (เอ็ม) 37 ผัดกะเพรา เชฟอาร์ต ถูกคัดออกในตอนที่ 4
(วันที่ 13 ตุลาคม)
2
เนตรดาว จันที (อุ้ม) 49 บะหมี่จับกัง เชฟแพม ถูกคัดออกในตอนที่ 3
(วันที่ 6 ตุลาคม)
0
ชาคริต อยู่ฤทธิ์ (บาสซี่) 34 อาหารตามสั่ง เชฟต้น ถูกคัดออกในตอนที่ 2
(วันที่ 29 กันยายน)
0
  1. 1.0 1.1 กลับเข้าสู่การแข่งขันเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมของตน
  2. 2.0 2.1 ออกจากการแข่งขันเนื่องจากไม่มีสิทธิ์ในการเข้ารอบรองชนะเลิศและชิงชนะเลิศได้

ความคืบหน้าของผู้เข้าแข่งขัน

[แก้]
อันดับ ผู้เข้าแข่งขัน ตอนที่
2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
1 พ่อค้าฟาน สูง แพ้ ผ่าน เสี่ยง สูง แพ้ สูง แพ้ สูง ชนะ สูง แพ้ ชนะ แพ้ ผ่าน ชนะ ผ่าน แพ้ ชนะ ชนะเลิศ
2 พ่อค้านัท สูง แพ้ ชนะ แพ้ สูง แพ้ ผ่าน แพ้ ชนะ ชนะ สูง ย้าย สูง ชนะ ชนะ แพ้ ชนะ ชนะ ชนะ รองชนะเลิศ
พ่อค้าบีเอ็ม ผ่าน ชนะ ผ่าน ชนะ สูง แพ้ สูง ชนะ สูง แพ้ สูง แพ้ สูง แพ้ สูง แพ้ ผ่าน เสี่ยง ชนะ
แม่ค้าโยตัส สูง แพ้ ผ่าน แพ้ ชนะ ชนะ สูง แพ้ สูง แพ้ สูง ชนะ สูง ชนะ ผ่าน แพ้ ชนะ ชนะ ชนะ
5 แม่ค้าแนน ผ่าน แพ้ ผ่าน แพ้ ผ่าน ชนะ ผ่าน เสี่ยง สูง เสี่ยง สูง ชนะ ผ่าน ชนะ ผ่าน เสี่ยง ชนะ ชนะ ออก
แม่ค้ารักเอย ผ่าน แพ้ ผ่าน แพ้ สูง ชนะ ผ่าน แพ้ ผ่าน แพ้ ผ่าน ชนะ ผ่าน ชนะ สูง เสี่ยง ชนะ ชนะ ออก
พ่อค้าโกอิ่มบอม ผ่าน แพ้ ผ่าน แพ้ ผ่าน แพ้ สูง แพ้ ผ่าน ชนะ ผ่าน แพ้ ผ่าน แพ้ สูง ชนะ ผ่าน เสี่ยง ออก
แม่ค้าวีซ่า สูง ชนะ สูง ชนะ ผ่าน แพ้ ผ่าน ชนะ สูง แพ้ ชนะ แพ้ ผ่าน แพ้ ผ่าน เสี่ยง ผ่าน เสี่ยง ออก
9 พ่อค้าปู ผ่าน ชนะ ผ่าน ชนะ ผ่าน แพ้ ผ่าน ชนะ ผ่าน ย้าย ผ่าน เสี่ยง สูง เสี่ยง สูง ชนะ ผ่าน ออก
10 พ่อค้าแพน ผ่าน ชนะ สูง ชนะ ผ่าน เสี่ยง ชนะ ชนะ ผ่าน แพ้ ผ่าน แพ้ สูง เสี่ยง สูง ออก กลับ ออก
11 พ่อค้าฟูฟู ชนะ ชนะ ผ่าน ชนะ ผ่าน แพ้ ผ่าน ชนะ ผ่าน เสี่ยง ผ่าน เสี่ยง ผ่าน ออก
12 พ่อค้าต้น ผ่าน เสี่ยง สูง แพ้ ผ่าน เสี่ยง ผ่าน เสี่ยง ผ่าน ชนะ ผ่าน ออก
13 แม่ค้านิ้ง ผ่าน แพ้ ถอนตัว เสี่ยง ผ่าน เสี่ยง ผ่าน เสี่ยง ผ่าน ชนะ ถอนตัว กลับ ผ่าน เสี่ยง ผ่าน ชนะ ผ่าน ออก
14 แม่ค้าขวด ผ่าน แพ้ ผ่าน แพ้ ผ่าน ชนะ สูง แพ้ ผ่าน ออก
15 แม่ค้าน้อย สูง เสี่ยง สูง เสี่ยง ผ่าน ชนะ ผ่าน ออก
16 พ่อค้าเอ็ม ผ่าน ชนะ ผ่าน ชนะ สูง ออก
17 แม่ค้าอุ้ม ผ่าน เสี่ยง สูง ออก
18 แม่ค้าบาสซี่ ผ่าน ออก
สัญลักษณ์สีและคำสำคัญ
  (ชนะเลิศ) ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน
  (รองชนะเลิศ) รองชนะเลิศการแข่งขัน
  (ผ่าน) ผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านเข้ารอบต่อไป
  (ชนะ) ผู้เข้าแข่งขันที่ชนะในรอบ Individual Challenge / ภารกิจพิเศษ
  (สูง) ผู้เข้าแข่งขันที่เข้าชิงจานที่ดีที่สุดในรอบ Individual Challenge
  (ชนะ) ผู้เข้าแข่งขันที่ชนะในรอบ Restaurant War
  (แพ้) ผู้เข้าแข่งขันที่แพ้ในรอบ Restaurant War
  (เสี่ยง) ผู้เข้าแข่งขันที่เสี่ยงในการถูกคัดออก
  (ถอนตัว) ผู้เข้าแข่งขันที่ถอนตัวออกจากการแข่งขัน
  (ย้าย) ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนประจำทีมที่ชนะย้ายเข้าทีมของตน
  (ออก) ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกคัดออกประจำสัปดาห์
  (กลับ) ผู้เข้าแข่งขันที่กลับมาช่วยเพื่อนร่วมทีมของตน แต่จะไม่มีสิทธิ์ในการเข้ารอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ
  (ออก) ผู้เข้าแข่งขันที่กลับมาช่วยเพื่อนร่วมทีมของตน และต้องออกจากการแข่งขันหลังจากการแข่งขันรอบ Restaurant War ครั้งสุดท้าย

รายชื่อตอน

[แก้]

ตอนที่ 1: รอบ Audition

[แก้]

ออกอากาศ 22 กันยายน 2567[2]

การเลือกเข้าทีม
ลำดับ ผู้เข้าแข่งขัน การเลือกของหัวหน้าเชฟ
ผู้ฝึกสอนและผู้เข้าแข่งขัน
เชฟต้น เชฟแพม เชฟอาร์ต
1 แม่ค้าขวด
2 พ่อค้าปู
3 แม่ค้าแนน
4 พ่อค้านัท
5 แม่ค้ามะเหมี่ยว
6 พ่อค้าบอส
7 แม่ค้ากบ
8 แม่ค้าน้อย
9 พ่อค้าฟูฟู
10 แม่ค้าวีซ่า
11 พ่อค้าโกอิ่มบอม
12 พ่อค้าฟาน
13 พ่อค้าบีเอ็ม
14 พ่อค้าดีดี
15 แม่ค้าวิ
16 แม่ค้าฝ้าย
17 แม่ค้าบอย
18 แม่ค้าซัยหนับ
19 พ่อค้าแซม
20 พ่อค้าแบงค์
21 แม่ค้าน้อยโหน่ง
22 แม่ค้าอุ้ม
23 แม่ค้าโยตัส
24 แม่ค้านิ้ง
25 พ่อค้าแพน
26 พ่อค้าต้น
27 แม่ค้ารักเอย
28 พ่อค้าเอ็ม
29 แม่ค้าบาสซี่
30 แม่ค้าย้ง
หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนเลือกลูกทีม
  ผู้เข้าแข่งขันตกรอบเพราะหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนไม่เลือก
  หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนที่ผู้เข้าแข่งขันเข้าร่วมทีมโดยอัตโนมัติ
  หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนที่ผู้เข้าแข่งขันตัดสินใจเลือกเข้า
  ผู้เข้าแข่งขันถอนตัวออกจากการแข่งขัน

เนื่องจากเชฟแพมมีสมาชิกในทีมสีม่วงไม่ครบตามจำนวน ครูใหญ่จึงเรียกแม่ค้าขวดและแม่ค้าน้อยโหน่งกลับมาอีกครั้ง เพื่อให้เชฟแพมเลือก 1 ใน 2 คนเข้าทีมของตน และเชฟแพมได้มอบผ้ากันเปื้อนสีม่วงผืนสุดท้ายให้แก่แม่ค้าขวด

ตอนที่ 2: ศึกครั้งแรกของพ่อค้าซ่าแม่ค้าแซ่บ

[แก้]

ออกอากาศ 29 กันยายน 2567[3]

  • Individual challenge: ในการแข่งเดี่ยวครั้งแรกนี้ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต้องทำเมนู "ขนมจีนเส้นสด" โดยสามารถทำขนมจีนกับน้ำยาประเภทใดก็ได้ ให้มีรสชาติและความคิดสร้างสรรค์ โดยมีเวลาในการทำอาหาร 60 นาที
  • ผู้ที่เข้าชิงจานที่ดีที่สุด: หลังจากที่เวลาหมดลง หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนทั้ง 3 คนได้ชิมเมนูของผู้เข้าแข่งขันทุกคนในทีมของตน และคัดเลือกจานที่ดีที่สุดทีมละ 2 จาน ดังนี้
    • เชฟต้น: พ่อค้านัท และ พ่อค้าฟาน
    • เชฟแพม: แม่ค้าน้อย และ แม่ค้าโยตัส
    • เชฟอาร์ต: แม่ค้าวีซ่า และ พ่อค้าฟูฟู
  • การตัดสิน: ในรอบนี้ นอกจากครูใหญ่ ยังมีกรรมการรับเชิญที่มาร่วมตัดสินอีก 2 คน คือ เชฟตุ๊กตา - สุพัตรา สารสิทธิ์ เชฟอาหารไทยจากร้านอาหารบ้านยี่สาร และผู้เข้าแข่งขันศึกค้นหาเชฟกระทะเหล็ก ฤดูกาลที่ 1 และ คุณแทน - กิตติเดช วิมลรัตน์ นักชิมและยูทูบเบอร์ช่อง iTAN TV (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว)
คนที่ ผู้เข้าแข่งขัน เมนู การตัดสินของคณะกรรมการ ผู้ชนะ
เชฟตุ๊กตา เชฟวิลแมน คุณแทน
1 พ่อค้านัท ขนมจีนเส้นสดน้ำยาปลาทับทิมสูตรคุณยาย พ่อค้านัท
2 แม่ค้าน้อย ขนมจีนแกงเขียวหวานหมูกับปู พ่อค้านัท พ่อค้านัท พ่อค้านัท
3 แม่ค้าวีซ่า ขนมจีนเส้นสดเส้นเล็กกระชับพร้อมกับน้ำพริกโบราณหิมพานต์จ๋า พ่อค้านัท พ่อค้านัท พ่อค้านัท
4 พ่อค้าฟาน ขนมจีนเส้นสดน้ำแกงมลายู พ่อค้านัท พ่อค้าฟาน พ่อค้านัท
5 แม่ค้าโยตัส มันเป็นขนมจีนน้ำยาไก่ครีมมี แม่ค้าโยตัส แม่ค้าโยตัส แม่ค้าโยตัส แม่ค้าโยตัส
6 พ่อค้าฟูฟู ขนมจีนกับต้มข่าไก่แห่งความทรงจำ พ่อค้าฟูฟู พ่อค้าฟูฟู แม่ค้าโยตัส พ่อค้าฟูฟู
  • ผู้ชนะรอบ Individual challenge: พ่อค้าฟูฟู
ทีม วัตถุดิบหลัก ประเภทอาหาร
อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก ของหวาน
ทีมสีส้ม กุ้งกุลาดำ อันดามัน บิสก์ซุป โครเกตลาบ ไทเกอร์พรอว์น รีซอตโตต้มยำกุ้งลายเสือลวกเนย ตีรามีซู
ทีมสีม่วง ปลาทูน่าครีบเหลือง ทูน่าอรุณสวัสดิ์ สเต๊กทูน่าเสิร์ฟพร้อมสตูผัก เบอร์รีแสนละมุน
ทีมสีเขียว เนื้อแองกัสส่วนริบอาย การ์ปัชโชแห่งเมืองเวนิส เนื้อย่างสไตล์ปาแลร์โมผสมผสานกับน้ำพริกอ่องแบบไทย ปันนากอตตาชาไทยเสิร์ฟพร้อมซอสมิกซ์เบอร์รี
    • เหตุการณ์ในระหว่างการแข่งขัน: ระหว่างการแข่งขัน หัวหน้าเชฟผู้สอนของแต่ละทีมได้เรียกลูกทีมของตนมาพบที่ห้องบัญชาการ โดยทีมสีม่วง ทีมสีม่วงเกิดความสับสนในการแล่หางปลา เชฟแพมจึงเรียกแม่ค้าขวดมาพบ แล้วมอบหมายให้แม่ค้าขวดบอกเพื่อนร่วมทีมให้หั่นหางปลาแบบแนวเฉียง ต่อมาเชฟแพมเห็นแม่ค้ารักเอยใส่มาสคาโพนเข้าไปในผิดที่ จึงเรียกมาพบ และบอกให้แม่ค้ารักเอยใส่มาสคาโพนเข้าไปในครีม ส่วนทีมสีเขียว แม่ค้านิ้งเกิดความสับสนในขั้นตอนทำของหวาน เชฟต้นจึงเรียกแม่ค้านิ้งมาพบ และบอกให้แม่ค้านิ้งตวงชาใหม่ และต่อมาบอกให้แม่ค้านิ้งนำชาที่ต้มไว้มาให้ตนชิม ซึ่งเชฟต้นบอกว่ารสชาติพอใช้ได้ ต่อมาในเวลาที่เหลือง 1 ชั่วโมง ในทีมสีส้ม เชฟอาร์ตเห็นพ่อค้าแพนใส่ปริมาณข้าวลงไปในหม้อเยอะเกินไป จึงเรียกพ่อค้าแพนมาพบและเตือนให้แก้ไขปัญหา และเชฟอาร์ตได้เห็นแม่ค้าวีซ่าเผลอนำหม้อมาวางบนถาดขนม ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดสุขอนามัย จึงต้องเรียกแม่ค้าวีซ่ามาเพื่อเตือน ส่วนทีมสีม่วง ครูใหญ่เห็นว่ามีถาดปลาทูน่าที่หั่นแล้วยังไม่ได้ถูกทยอยเข้าตู้เย็น จึงตำหนิแม่ค้าโยตัสที่ไม่ได้ทำตามดังกล่าว และในเวลา 25 นาทีสุดท้าย เชฟต้นได้เรียกพ่อค้าฟานนำจานเนื้อสำหรับจานเรียกน้ำย่อยมาให้ตนตรวจดู หลังจากนั้นก็ให้พ่อค้าฟานเตือนเพื่อนร่วมทีมให้นับจานเรียกน้ำย่อยให้ครบ หลังจากที่กรรมการพิเศษมาถึงแล้ว เชฟแพมได้เรียกให้แม่ค้าโยตัสให้เตือนเพื่อนร่วมทีมให้เริ่มเอาอาหารลงจาน และในทีมสีส้ม เชฟอาร์ตเห็นว่าพ่อค้าเอ็มยังไม่ได้เอาโครเกตทอดขึ้นจากหม้อทอด จึงต้องเรียกมาพบและเตือน และยังเห็นว่าพ่อค้าแพนให้พ่อค้าปูทำริซอตโตให้ จึงเรียกพ่อค้าแพนมาตำหนิที่ไม่รับผิดชอบและไม่ทำหน้าที่ของตนเอง และให้พ่อค้าแพนนำริซอตโตที่ทำไว้มาให้ชิม ต่อมีในทีมสีม่วง ทั้งทีมยังไม่เอาอาหารลงจาน เชฟแพมจึงตะโกน "เร็ว!" ให้ทีมสีม่วงเร่งมือในการจัดจาน ส่วนทีมสีเขียว เชฟต้นเรียกแม่ค้านิ้งมาเพื่อเตือนให้เร่งมือในการทำปันนาคอตต้า และได้เรียกพ่อค้าโกอิ่มบอมให้นำจานอาหารหลักมาให้ตรวจสอบ ซึ่งอาหารจานหลักในจานถูกจัดจานได้อย่างดี ต่อมาในเวลา 5 นาทีสุดท้าย ทีมสีม่วงเกิดความสบสนในการจัดจาน รวมถึงการทำงานที่ช้าของแม่ค้าน้อยและแม่ค้าอุ้ม เชฟแพมจึงเรียกแม่ค้าขวดมาเตือนและให้บอกเพื่อนร่วมทีมเร่งมือในการจัดจาน หลังจากนั้น เชฟแพมได้เรียกแม่ค้าขวดมาเพื่อเตือนให้ต้องยกอาหารไปหาจาน ไม่ใช่ยกไปตรงอาหาร ต่อมาทีมสีส้ม เชฟอาร์ตได้เรียกแม่ค้าวีซ่ามาพบและสั่งให้รีบจัดจานของหวานให้เสร็จ และทีมสีเขียว เชฟต้นได้เรียกพ่อค้านัทมาและได้เตือนให้รีบจัดจานทั้งหมด และในที่สุด ทั้งสามทีมได้นำอาหารลงจานจนหมดเวลา แต่ในช่วงการเสิร์ฟอาหาร กลับพบว่าทีมสีส้มเสิร์ฟจานของหวานให้กรรมการไม่ครบ ซึ่งมีกรรมการที่ไม่ได้ชิมจานของหวานของทีมสีส้ม 6 ท่าน ครูใหญ่ได้ถามเชฟอาร์ตถึงสาเหตุของการเสิร์ฟอาหารไม่ครบ เชฟอาร์ตระบุเหตุผลว่าทำเสร็จแต่ลงจานไม่ทัน ทำให้ทีมสีส้มเสียคะแนนในจานของหวานไปบางส่วน
  • ทีมที่ชนะรอบ Restaurant war: ทีมสีส้ม
  • การคัดออก: เนื่องจากทีมสีส้มเป็นทีมที่ชนะในรอบ Restaurant war จึงทำให้ไม่มีสมาชิกในทีมถูกคัดออกในสัปดาห์นี้ ส่วนทีมสีเขียวและทีมสีม่วงจะต้องเลือกสมาชิกทีมละ 2 คน เพื่อให้ครูใหญ่และเชฟอาร์ตคัดออกหรือคัดเข้าทีมสีส้ม โดยเชฟต้นเสนอชื่อแม่ค้าบาสซี่และพ่อค้าต้น ส่วนเชฟแพมเสนอชื่อแม่ค้าน้อยและแม่ค้าอุ้ม จากนั้นครูใหญ่และเชฟอาร์ตได้ถามถึงข้อผิดพลาดและหน้าที่ของทั้งสี่คนที่ถูกหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนเสนอชื่อ โดยทีมสีม่วง แม่ค้าน้อยจึงให้เหตุผลว่า ตนไม่รู้จักหรือเคยรับประทานอาหารที่ต้องทำในสัปดาห์นี้เลย แต่อยากจะพัฒนาตัวเองและอยากจะช่วยเพื่อนร่วมทีมของตน ส่วนแม่ค้าอุ้มได้ระบุเหตุผลว่าตนเองไม่เคยเห็นหน้าตาหรือเคยรับประทานอาหารที่ทำในสัปดาห์นี้เลย แต่ตนทำอาหารที่มอบหมายมาได้อย่างดีและเต็มที่ และยังอยากเรียนรู้อาหารหลายๆอย่าง ส่วนทีมสีเขียว เชฟอาร์ตได้ถามแม่ค้าบาสซี่ถึงหน้าที่ของตน หลังจากที่แม่ค้าบาสซี่ได้บอกหน้าที่ของตนเองแล้ว ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า อาหารที่ตนได้รับมอบหมายให้ทำนั้นเป็นอาหารที่ไม่เคยทำหรือเคยรับประทาน และถ้าได้โอกาส ตนก็จะกลับไปศึกษาเกี่ยวกับอาหารหล่าวนั้น แต่เมื่อเชฟอาร์ตถามว่า ถ้าไม่ให้โอกาส แม่ค้าบาสซี่จะกลับไปศึกษาอาหารหล่าวนั้นหรือไม่ ซึ่งแม่ค้าบาสซี่ได้ตอบอย่างสิ้นหวังว่า ตนไม่รู้ว่าจะศึกษาอาหารหล่าวนั้นไปเพื่ออะไร และยังบอกอีกว่า อาหารที่ตนขายอยู่นั้นเป็นอาหารตามสั่ง และคิดว่าตนไม่มีโอกาสที่ไปศึกษาอาหารต่างชาติ เมื่อเป็นเช่นนั้น เชฟอาร์ตจึงอธิบายว่า ตนไม่ได้ต้องการให้แม่ค้าบาสซี่เป็นเชฟอาหารอิตาเลี่ยน แต่อยากให้แม่ค้าบาสซี่มีความรู้เพิ่มเติมต่างหาก ครูใหญ่จึงกล่าวสมทบว่า วัตถุประสงค์ของรายการนี้คือพัฒนาพ่อค้าและแม่ค้าเพื่อให้มีความรู้มากขึ้นเพื่อไปพัฒนาร้านขายอาหารของตน หลังจากนั้น ครูใหญ่ได้ถามพ่อค้าต้นถึงเหตุผลที่ตนสมควรที่จะอยู่ต่อ พ่อค้าต้นระบุเหตุผลว่า ตนมีความตั้งใจในการช่วยเพื่อนร่วมทีมของตนได้อย่างเต็มที่ แต่บอกว่า ไม่เคยทำน้ำพริกอ่องที่ตนรับผิดชอบ ครูใหญ่จึงกล่าวสวนไปว่า ทุกคนที่มาแข่งในรายการนี้ก็ไม่เคยทำอาหารที่มอบหมายให้ทำเช่นกัน และได้ถามพ่อค้าต้นอีกว่า ตนมีใจสู้พอที่จะอยู่ในการแข่งขันต่อหรือเปล่า ซึ่งพ่อค้าต้นได้ตอบว่า ตนก็เต็มที่ หลังจากครูใหญ่และเชฟอาร์ตปรึกษาหารือกันแล้ว เชฟอาร์ตได้เก็บสิทธิ์ในการเลือกผู้เข้าแข่งขันเข้าทีมสีส้มของตนไว้ ดังนั้น ผู้ที่ครูใหญ่ตัดสินให้ออกจากการแข่งขัน คือ แม่ค้าบาสซี่
  • ผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้คัดออก:
    • ทีมสีเขียว: แม่ค้าบาสซี่ และ พ่อค้าต้น
    • ทีมสีม่วง: แม่ค้าน้อย และ แม่ค้าอุ้ม
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: แม่ค้าบาสซี่

ตอนที่ 3: การแข่งขันที่เกินควบคุม

[แก้]

ออกอากาศ 6 ตุลาคม 2567[4]

  • Individual challenge: ในรอบนี้ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต้องทำเมนู "ผัดเผ็ด" หรือ "ผัดฉ่า" โดยใช้โปรตีนแช่แข็งที่เตรียมไว้ 3 ชนิด ได้แก่ หมึกบั้ง ปลาแพนกาเซียสดอร์รี่ และหอยแมลงภู่ชิลี ให้มีรสชาติและความคิดสร้างสรรค์ โดยมีเวลาในการทำอาหาร 60 นาที แต่ก่อนเริ่มการแข่งขัน พิธีกรได้ประกาศว่า แม่ค้านิ้ง สมาชิกทีมสีเขียวของเชฟต้น ประสบอุบัติเหตุจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ทำให้ไม่สามารถมาร่วมแข่งขันในรอบนี้ได้ และยังต้องตรวจดูอาการอย่างใกล้ชิดว่าจะสามารถมาร่วมแข่งขันในรอบ Restaurant war ได้หรือไม่ หากไม่สามารถมาร่วมแข่งขันได้ สมาชิกของทีมสีเขียวจะเหลือเพียง 4 คน
  • ผู้ที่เข้าชิงจานที่ดีที่สุด: หลังจากที่เวลาหมดลง หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนทั้ง 3 คนได้ชิมเมนูของผู้เข้าแข่งขันทุกคนในทีมของตน และคัดเลือกจานที่ดีที่สุดทีมละ 2 จาน ดังนี้
    • เชฟแพม: แม่ค้าน้อย และ แม่ค้าอุ้ม
    • เชฟอาร์ต: พ่อค้าแพน และ แม่ค้าวีซ่า
    • เชฟต้น: พ่อค้าต้น และ พ่อค้านัท
  • การตัดสิน: ในรอบนี้ นอกจากครูใหญ่ ยังมีกรรมการรับเชิญที่มาร่วมตัดสินอีก 2 คน คือ คุณแนน - วิศัลย์ ศิริลักษณ์ เจ้าของร้านลุงหวังกะเพราพ่นไฟ ซึ่งได้รับเครื่องหมายช้อนทองคำ 2 ช้อน จากรายการ The Spoon ช้อนทองคำ และ เชฟอ๊อฟ - ณัฐวุฒิ ธรรมพันธุ์ เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย และผู้ชนะเลิศศึกค้นหาเชฟกระทะเหล็ก ฤดูกาลที่ 1
คนที่ ผู้เข้าแข่งขัน เมนู การตัดสินของคณะกรรมการ ผู้ชนะ
คุณแนน เชฟวิลแมน เชฟอ๊อฟ
1 แม่ค้าน้อย ผัดฉ่า ผัดเผ็ด รวมทะเล แม่ค้าน้อย
2 พ่อค้าแพน สามสาวสามแซ่บ แม่ค้าน้อย แม่ค้าน้อย แม่ค้าน้อย
3 พ่อค้าต้น ผัดฉ่าล่าทะเล พ่อค้าต้น พ่อค้าต้น พ่อค้าต้น พ่อค้าต้น
4 แม่ค้าอุ้ม ผัดฉ่า 3 หน้าราดเส้น พ่อค้าต้น พ่อค้าต้น พ่อค้าต้น
5 แม่ค้าวีซ่า ผัดฉ่าอันดามันข้าวคุ้นเคย พ่อค้าต้น พ่อค้าต้น พ่อค้าต้น
6 พ่อค้านัท ผัดฉ่าทะเลรวม ปลากรอบ พ่อค้านัท พ่อค้านัท พ่อค้านัท พ่อค้านัท
  • ผู้ชนะรอบ Individual challenge: พ่อค้านัท
  • Restaurant war: ในรอบนี้ ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 ทีม จะต้องสร้างสรรค์อาหารอาหารเม็กซิกัน จำนวน 4 ชุด ชุดละ 4 เมนู เพื่อเสิร์ฟให้กับอุปทูต กงสุล เอกอัครราชทูตเม็กซิโกประจำประเทศไทย ประธานหอการค้าเม็กซิกัน-ไทย และแขกพิเศษอื่น ๆ รวมทั้งหมด 20 คน ในรูปแบบ Sharing โดยมีวัตถุดิบ 3 อย่าง ซึ่งแต่ละทีมจะต้องใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการทำอาหารทั้ง 4 เมนู คือ เนื้อบด รวมถั่วยอดนิยมของประเทศเม็กซิโก และหมึกยักษ์ทาโกะ โดยพ่อค้านัทซึ่งเป็นผู้ชนะในรอบ Individual challenge เป็นผู้เลือกวัตถุดิบให้ทั้ง 3 ทีมนำมาทำเมนูดังนี้
ทีม วัตถุดิบหลัก เมนูหลัก อาหารมังสวิรัติ
ทีมสีม่วง หมึกยักษ์ทาโกะ Tostada หนวดหมึก ซุปเม็กซิกันผสมผสานน้ำเงี้ยวแบบไทย ข้าวอบสไตล์เม็กซิกันเสิร์ฟพร้อมหนวดหมึกสโลว์คุก Quesadilla น้ำพริกอ่อง เซตเม็กซิกันรวมมิตรมังสวิรัติ
ทีมสีส้ม รวมถั่วยอดนิยมของประเทศเม็กซิโก แบงค็อกกัวกาโมเล เม็กซิกันอ่อง Quesadilla ไก่ผัดพริกเผา บีแอนด์บีบูร์ริโต แอโวคาโดสลัด ถั่วตัง
ทีมสีเขียว เนื้อบด ทาโก้ไข่ครอบ Pozole ซูเปอร์เนื้อบดบาทาไร้เงา Albondigas มีตบอลส์ในเวอร์ชันของเม็กซิกัน ลาบทอดเสิร์ฟพร้อมกัวกาโมเลแบบไทย ซูกินีเผาเสิร์ฟกับกัวกาโมเลแบบไทย
    • เหตุการณ์ในระหว่างการแข่งขัน: ในรอบนี้ แม่ค้านิ้ง สมาชิกทีมสีเขียวของเชฟต้น ที่ประสบอุบัติเหตุในรอบก่อนหน้า สามารถกลับเข้าประชุมร่วมกับทีมและทำการแข่งขันในรอบนี้ได้ตามปกติ ต่อมาในระหว่างการทำอาหาร หัวหน้าเชฟผู้สอนของแต่ละทีมได้เรียกลูกทีมของตนมาพบที่ห้องบัญชาการ โดยทีมสีม่วง เชฟแพมได้เรียกแม่ค้าขวดมาเพื่อสั่งให้บอกเพื่อนร่วมทีมให้ตั้งน้ำสำหรับการต้มอาหาร หลังจากนั้นแม่ค้าอุ้มลืมตั้งน้ำสำหรับการต้มอาหารอีกครั้ง เชฟแพมจึงเรียกแม่ค้าขวดมาเพื่อเตือนว่าต้องตั้งน้ำก่อนเนื่องจากการตั้งน้ำเป็นจุดเริ่มที่สำคัญของการทำอาหาร ส่วนทีมสีเขียว เชฟต้นเห็นว่าปริมาณเนื้อที่พ่อค้าฟานหั่นไว้น้อยเกินไป จึงเรียกพ่อค้าฟานมาเพื่อสั่งให้หั่นเนื้อเพิ่ม ต่อมาในเวลา 1 ชั่วโมงสุดท้าย ในทีมสีส้ม เชฟอาร์ตได้เรียกแม่ค้าวีซ่ามาเพื่อเตือนว่าควรเก็บจำนวนหมูสับไว้สักครึ่งหนึ่งสำหรับน้ำพริกอ่อง หลังจากนั้นพ่อค้าเอ็มนำจานสำหรับการเอาอาหารลงจานขึ้นมาร่วงหน้า เชฟอาร์ตจึงเรียกพ่อค้าเอ็มมาเพื่อเตือนว่าอย่าเพิ่งเอาจานขึ้นมา ต่อมาในทีมสีม่วง ครูใหญ่เห็นว่าใต้ถาดบนหม้อมีเศษพลาสติกที่กำลังจะละลายติดอยู่ ครูใหญ่จึงสั่งให้ทีมสีม่วงเปลี่ยนหม้อสำหรับการต้ม ส่วนทีมสีเขียว พ่อค้านัทใช้มือเปล่าแกะอโวคาโด ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดสุขอนามัย ครูใหญ่จึงทิ้งอโวคาโดทั้งหมดออกจากเครื่องบดอาหารและสั่งให้ทำใหม่ ส่วนทีมสีส้ม ครูใหญ่เห็นว่าแป้งทอดที่ทอดไว้แล้วมีลักษณะสีที่ไม่เหมือนกัน จึงบอกว่าทุกสีของแป้งทอดต้องมีลักษณะเหมือนกัน ต่อมาพิธีกรได้สั่งให้ทุกคนหยุดการทำอาหาร และประกาศว่ามีแขกรับเชิญเดินทางมาเพิ่มอีก 1 คน โดยแขกรับเชิญคนนี้จะรับประทานเฉพาะอาหารมังสวิรัติเท่านั้น ทำให้ทั้ง 3 ทีมต้องทำอาหารมังสวิรัติเพิ่มทีมละ 1 จาน หัวหน้าเชฟผู้สอนจึงเรียกลูกทีม 1 คนของแต่ละทีมมาพบ (พ่อค้าฟาน, แม่ค้าขวด และพ่อค้าฟูฟู) และบอกรายละเอียดเกี่ยวเมนูอาหารมังสวิรัติที่จะทำ หลังจากที่กรรมการพิเศษมาถึงแล้ว ในทีมสีส้ม เชฟอาร์ตเห็นว่าพ่อค้าแพนใส่ปริมาณเคซาดีญ่าเยอะเกินไปในจาน จึงต้องเรียกมาพบเพื่อเตือนและสั่งให้เอามะม่วงมาสับเป็นลูกเต๋า แล้วก็ผสมกับกัวกาโมเล แต่ทว่าพ่อค้าแพนหามะม่วงไม่เจอ จึงต้องเรียกให้เพื่อนร่วมทีมของตนมาช่วยหามะม่วง แต่ก็หามะม่วงไม่เจอ ส่วนทีมสีเขียว เชฟต้นเรียกพ่อค้าฟานมาเพื่อเตือนให้รีบเอาอาหารลงจานและบอกว่าถ้ายังไม่เอาอาหารลงจาน ก็เตรียมตัวแพ้ และหลังจากนั้น เชฟต้นจึงเรียกพ่อค้าฟานมาอีกครั้งเพื่อเตือนว่าต้องเอาอาหารลงจานด่วน ส่วนทีมสีส้ม เชฟอาร์ตเรียกพ่อค้าเอ็มมาเพื่อเตือนว่าต้องทอดแป้งทีละ 2-3 แผ่น ไม่ใช่ทอดทีละแผ่น ส่วนทีมสีม่วง เชฟแพมเรียกแม่ค้าขวดมาเพื่อเตือนให้เอาอาหารลงจานให้หมดและให้เร็วที่สุด ครูใหญ่เห็นว่าทั้ง 3 ทีมยังทำอาหารไม่เสร็จเรียบร้อยเท่าที่ควร จึงเรียกหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนให้ออกมาช่วยทีมของตนได้เป็นระยะเวลา 5 นาที ซึ่งในระหว่างที่หล่าวหัวหน้าเชฟผู้สอนทั้งสามคนกำลังช่วยลูกทีมของตนอยู่นั้น ในทีมสีส้ม พ่อค้าแพนได้บอกเชฟอาร์ตว่า ทีมสีส้มหามะม่วงไม่เจอ เชฟอาร์ตจึงไปหามะม่วงบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบต่างๆ และในที่สุด เชฟอาร์ตก็หามะม่วงเจอและได้กล่าวตำหนิทั้งทีมถึงความไม่รอบคอบในการหามะม่วง หลังจากนั้น เมื่อหมดเวลาที่หัวหน้าเชฟผู้สอนต้องมาช่วยลูกทีมแล้ว หัวหน้าเชฟผู้สอนทั้ง 3 คนจึงได้กลับเข้าห้องบัญชาการ แต่ทว่า ในทีมสีม่วง แม่ค้าน้อยเกิดความสงสัยว่าจะต้องทำอย่างไร เชฟแพมจึงตะโกนบอกให้แม่ค้าน้อยเช็ดจานสำหรับการเอาอาหารลงจาน และในที่สุด ทั้งสามทีมได้นำอาหารลงจานจนหมดเวลา
  • ทีมที่ชนะรอบ Restaurant war: ทีมสีส้ม
  • การคัดออก: เนื่องจากทีมสีส้มเป็นทีมที่ชนะในรอบ Restaurant war จึงทำให้ไม่มีสมาชิกในทีมถูกคัดออกในสัปดาห์นี้ ส่วนทีมสีเขียวและทีมสีม่วงจะต้องเลือกสมาชิกทีมละ 2 คน เพื่อให้ครูใหญ่และเชฟอาร์ตคัดออกหรือคัดเข้าทีมสีส้ม โดยเชฟแพมเสนอชื่อแม่ค้าน้อยและแม่ค้าอุ้ม ส่วนเชฟต้นเสนอชื่อแม่ค้านิ้งและพ่อค้าฟาน จากนั้นครูใหญ่และเชฟอาร์ตได้ถามถึงข้อผิดพลาดและหน้าที่ของสี่คนที่ถูกเสนอชื่อ โดยทีมสีม่วง แม่ค้าอุ้มได้ระบุว่าตนทำงานช้าและยังไม่ได้ค่อยพัฒนาเท่าไหร่ ตนรู้สึกละอายใจที่ต้องถูกเสนอชื่อเป็นครั้งที่สอง แต่ก็บอกว่าทำงานเต็มที่ และถึงแม้ว่าจะไม่เคยเจอความกดดันแบบนี้มาก่อน แต่ทำได้เท่านี้ก็ดีแล้ว หลังจากนั้น เชฟอาร์ตได้เตือนแม่ค้าน้อยว่าแม่ค้าน้อยถูกเสนอชื่อเป็นครั้งที่สอง และบอกว่าเท่าที่ตนได้ยินมา เหมือนกับว่าแม่ค้าน้อยถอดใจและไม่อยากแข่งในรายการต่อแล้ว แต่แม่ค้าน้อยส่วนกลับไปว่า เรื่องนั้นเกี่ยวกับอายุของตน แต่ถ้าตนได้โอกาส ก็จะสู้เต็มที่ เชฟอาร์ตจึงถามว่า แม่ค้าน้อยเดินทางจากเชียงใหม่จนมาถึงสตูฯไม่ลำบากใช่ไหม แม่ค้าน้อยจึงตอบกลับไปว่า ตนอยากพัฒนาตนเองให้ไปไกลกว่านี้ ส่วนทีมสีเขียว แม่ค้านิ้งระบุว่าตนเสนอชื่อตนเอง เนื่องจากรู้สึกว่าไม่มีจานอาหารที่ตนรับผิดชอบ และคิดว่าตนช่วยทีมไม่ได้เต็มที่จึงคิดว่าตนมีความสามารถน้อยที่สุดในทีม และด้วยหัวไหล่ของซ้ายของตนยังบาดเจ็บอยู่ จึงใช้งานไม่ค่อยดี หลังจากนั้นเชฟอาร์ตจึงถามพ่อค้าฟานถึงข้อผิดพลาดของตน พ่อค้าฟานจึงระบุเหตุผลว่า ตนมีข้อผิดพลาดเรื่องการปรุงรสชาติในอาหาร แต่เชฟอาร์ตบอกพ่อค้าฟานว่า เหมือนพ่อค้าฟานจะหมดพลังงานและขาดแรงจูงใจในการทำงานในครั้งนี้ พ่อค้าฟานจึงตอบอย่างไม่จริงจังว่า ตนเหนื่อยนิดหน่อย เชฟอาร์ตจึงสวนกลับไปว่า ทุกคนที่ทำงานในรอบ Restaurant war ในครั้งนี้ก็เหนื่อยหมดทุกคน และยังถามพ่อค้าฟานอีกว่า ถ้าพ่อค้าฟานยังเอื่อยเฉื่อยอยู่ พ่อค้าฟานจะช่วยเพื่อนร่วมทีมของตนได้อย่างไร พ่อค้าฟานจึงตอบว่า ถ้าตนได้รับโอกาส ตนจะทำงานให้เต็มที่กว่าครั้งนี้ หลังจากครูใหญ่และเชฟอาร์ตปรึกษาหารือกันแล้ว เชฟอาร์ตได้เก็บสิทธิ์ในการเลือกผู้เข้าแข่งขันเข้าทีมสีส้มของตนไว้ ดังนั้น ผู้ที่ครูใหญ่ตัดสินให้ออกจากการแข่งขัน คือ แม่ค้าอุ้ม
  • ผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้คัดออก:
    • ทีมสีม่วง: แม่ค้าน้อย และ แม่ค้าอุ้ม
    • ทีมสีเขียว: แม่ค้านิ้ง และ พ่อค้าฟาน
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: แม่ค้าอุ้ม

ตอนที่ 4: เมื่อห้องครัวเปลี่ยนเป็นสนามรบ

[แก้]

ออกอากาศ 13 ตุลาคม 2567

  • Individual challenge: ในรอบนี้ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต้องทำเมนู "หอยทอด" ด้วยตนเองทุกขั้นตอน โดยใช้น้ำมันปาล์มสำหรับการทอด โดยมีเวลาในการทำอาหาร 60 นาที
  • ผู้ที่เข้าชิงจานที่ดีที่สุด: หลังจากที่เวลาหมดลง หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนทั้ง 3 คนได้ชิมเมนูของผู้เข้าแข่งขันทุกคนในทีมของตน และคัดเลือกจานที่ดีที่สุดทีมละ 2 จาน ดังนี้
    • เชฟอาร์ต: พ่อค้าบีเอ็ม และ พ่อค้าเอ็ม
    • เชฟต้น: พ่อค้าฟาน และ พ่อค้านัท
    • เชฟแพม: แม่ค้าโยตัส และ แม่ค้ารักเอย
  • การตัดสิน: ในรอบนี้ นอกจากครูใหญ่ ยังมีกรรมการรับเชิญที่มาร่วมตัดสินอีก 2 คน คือ คุณเค้ก - กนกอร วศินสุนทร เจ้าของร้านเฮงหอยทอดชาวเล ซึ่งได้รับเครื่องหมายช้อนทองคำ 2 ช้อน จากรายการ The Spoon ช้อนทองคำ และ เชฟป้อม - ธนรักษ์ ชูโต เชฟกระทะเหล็กอาหารจีนร่วมสมัย จากรายการ เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย
คนที่ ผู้เข้าแข่งขัน เมนู การตัดสินของคณะกรรมการ ผู้ชนะ
คุณเค้ก เชฟวิลแมน เชฟป้อม
1 พ่อค้าบีเอ็ม หอยทอดไทยสไตล์เม๊กซิกัน กับซอสพริกศรีราชาส้มซ่า พ่อค้าบีเอ็ม
2 พ่อค้าฟาน หอยทอด กับน้ำจิ้มผลไม้ไทย พ่อค้าฟาน พ่อค้าฟาน พ่อค้าบีเอ็ม พ่อค้าฟาน
3 แม่ค้าโยตัส หอยทอด 2 หอย กับซอสโคชูจัง แม่ค้าโยตัส แม่ค้าโยตัส พ่อค้าฟาน แม่ค้าโยตัส
4 พ่อค้าเอ็ม หอยทอดทะเลรวมมิคร กับซอสเปรี้ยวหวาน แม่ค้าโยตัส แม่ค้าโยตัส แม่ค้าโยตัส
5 พ่อค้านัท หอยทอดทะเลรวมกรอบ น้ำจิ้มสูตรกลมกล่อมที่ลงตัว แม่ค้าโยตัส แม่ค้าโยตัส พ่อค้านัท
6 แม่ค้ารักเอย หอยทอด 3 เทกซ์เซอร์ กับซอส 3 รสชาติ แม่ค้าโยตัส แม่ค้าโยตัส แม่ค้าโยตัส
  • ผู้ชนะรอบ Individual challenge: แม่ค้าโยตัส
  • Restaurant war: ในรอบนี้ ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 ทีม จะต้องสร้างสรรค์อาหารจีน จำนวน 3 คอร์ส ได้แก่ อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และ ของหวาน เพื่อเสิร์ฟให้กับอดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เกาะฮ่องกง รองประธานกรรมการหอการค้าไทยพร้อมกับเชฟอาหารจีน และแขกพิเศษอื่น ๆ รวมทั้งหมด 20 คน โดยมีวัตถุดิบ 3 อย่าง ซึ่งแต่ละทีมจะต้องใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการทำอาหารเรียกน้ำย่อยและอาหารจานหลักด้วย คือ เป็ด ปลาเก๋า และปูทาราบะ โดยแม่ค้าโยตัสซึ่งเป็นผู้ชนะในรอบ Individual challenge เป็นผู้เลือกวัตถุดิบให้ทั้ง 3 ทีมนำมาทำเมนู ดังนี้
ทีม วัตถุดิบหลัก ประเภทอาหาร
อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก ของหวาน
ทีมสีส้ม เป็ด เมี่ยงลาบเป็ดพะโล้อุบล และซุปผักกาดดองถั่วแดง Mapou Tofu กับสหายของเขา เต้าฮวยฟรุตสลัด
ทีมสีม่วง ปลาเก๋า ซุปน้ำแดงตุ๋นกำลังภายใน ปลาเก๋า 2 โลก บัวลอยน้ำขิงเหินฟ้า
ทีมสีเขียว ปูทาราบะ สลัดปูทาราบะ เสิร์ฟเคียงกับซอสกุยช่าย 2 สี ข้าวผัดบ๊ะจ่างปูแห่งวัยเด็ก เต้าฮวยหยินหยาง
    • เหตุการณ์ในระหว่างการแข่งขัน: ต่อมาในระหว่างการทำอาหาร หัวหน้าเชฟผู้สอนของแต่ละทีมได้เรียกลูกทีมของตนมาพบที่ห้องบัญชาการ โดยทีมสีม่วง เชฟแพมได้เรียกแม่ค้ารักเอยมาพบเพื่อบอกให้เตือนเพื่อนร่วมทีมให้ตั้งหม้อสำหรับการต้มอาหาร ครูใหญ่ได้เตือนทั้งสามทีมให้ตั้งหม้อสำหรับการต้มอาหารก่อนเนื่องจากการต้มน้ำใช้เวลานานมากๆ ต่อมา เชฟแพมเห็นว่าแม่ค้าน้อยใช้เวลาทำอาหารนานพอสมควร จึงเรียกแม่ค้าแนนมาเพื่อบอกให้หั่นปลาเก๋าให้แม่ค้าน้อย ในทีมสีส้ม พ่อค้าเอ็มใส่น้ำเข้าไปในกระทะที่กำลังตนเจียวน้ำมัน เชฟอาร์ตจึงเรียกมาเตือนเกี่ยวกับผลลัพธ์จากการกระทำดังกล่าว ต่อมาในเวลา 1 ชั่วโมงที่เหลือ ทีมสีเขียวยังไม่สามารถเริ่มแกะปูได้ เนื่องจากพ่อค้าโกอิ่มบอมพึ่งจะตั้งน้ำสำหรับต้มปู เชฟต้นจึงเรียกมาพบเพื่อเตือนให้รีบเอาปูลงหม้อ ต่อมา เชฟต้นได้เรียกพ่อค้านัทมาเพื่อเตือนให้บอกเพื่อนร่วมทีมให้รีบแกะปู หลังจากนั้นก็เรียกพ่อค้าต้นมาเพื่อเตือนให้รีบทำซอสให้เสร็จและไปทำหน้าที่อย่างอื่น ส่วนทีมสีส้ม พ่อค้าเอ็มลืมใส่กระเทียมและขิงเข้าไปในกระทะที่ตนผัดข้าว เชฟอาร์ตจึงต้องเรียกมาเตือนว่าให้ใส่ขิงและกระเทียมเข้าไปด้วย แต่ทว่า พ่อค้าเอ็มกลับนำกระเทียมและขิงไปโขลกในครก เชฟอาร์ตจึงเรียกแม่ค้าวีซ่ามาเพื่อให้ไปเตือนและช่วยพ่อค้าเอ็ม และต่อมาในเวลา 26 นาทีสุดท้าย พ่อค้าเอ็มยังไม่ได้เสียบปลั๊กสำหรับหม้อหุงข้าว เชฟอาร์ตเรียกพ่อค้าเอ็มมาเพื่อตำหนิจากการไม่รับผิดชอบหน้าที่ของตนเองและยังเอาเต้าหู้ไปให้แม่ค้าวีซ่า (ที่รับผิดชอบของหวาน) ซึ่งที่จริงแล้วเต้าหู้เป็นองค์ประกอบของเมนูมาโฝ ไม่ใช่เมนูของหวาน ต่อมาพ่อค้าฟูฟูทอดแป้งเครปทีละกระทะ ซึ่งทำให้การทำงานช้า จึงเรียกพ่อค้าฟูฟูมาเพื่อเตือนให้ทอดแป้งเครปทีละ 2 กระทะ ส่วนทีมสีม่วง เชฟแพมได้ตะโกนบอกแม่ค้าแนนว่ายังไม่ต้องทำปลาฟู จึงเรียกแม่ค้าขวดมาเพื่อเตือนให้เอาอาหารลงจานและให้บอกแม่ค้าแนนว่ายังไม่ต้องทำปลาฟู ต่อมาเชฟแพมได้เรียกแม่ค้ารักเอยมาเพื่อเตือนว่าอีกสิบนาที ตนจะชิมอาหารที่ทำไว้ เมื่อกรรมการพิเศษมาถึงแล้ว เชฟแพมได้เรียกแม่ค้าขวดมาเตือนว่าต้องเอาอาหารลงจานได้แล้ว ส่วนทีมสีส้ม เชฟอาร์ตเห็นว่าแม่ค้าวีซ่าตักผงวุ้นสำหรับจานของหวานใหญ่เกินไป จึงเรียกแม่ค้าวีซ่ามาเพื่อเตือนให้ตักเพียงนิดเดียว ส่วนทีมสีเขียว พ่อค้าต้นใช้เวลาผัดข้าวนานเกินไป เชฟต้นจึงเรียกพ่อค้าต้นมาพบเพื่อเตือนให้เร่งมือในการผัดข้าว หลังจากนั้น ได้เรียกพ่อค้านัทให้เอากะลามังปูมาให้ตนดู ซึ่งปูที่ทำไว้ดี ต่อมาในเวลา 10 นาทีสุดท้าย พ่อค้าแพนได้เปิดหม้อหุงข้าวและได้พบว่าข้าวที่หุงไว้ยังไม่สุก เชฟอาร์ตจึงเรียกไปถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้าวที่หุง พ่อค้าแพนจึงตอบว่าข้าวดิบ ส่วนทีมสีเขียว เชฟต้นได้เรียกพ่อค้านัทมาถามว่าทำไมแม่ค้านิ้งถึงไม่ทำของหวาน ซึ่งพ่อค้านัทได้ตอบว่าของหวานยังไม่เซ๊ตตัว เชฟต้นจึงบอกให้เอาซอสสำหรับของหวานราดบนจานของหวาน และในเวลา 5 นาทีสุดท้าย เชฟแพมได้เรียกแม่ค้าโยตัสให้นำจานทุกจานที่ทำไว้มาให้ตนดู ซึ่งจานเหล่านั้นทำออกมาได้ดี ส่วนทีมสีส้ม เชฟอาร์ตได้เรียกพ่อค้าปูมาเพื่อเตือนให้เอาข้าวที่หุงไว้แล้วลงจาน และถ้าข้าวไม่พอ ให้แบ่งข้าวเป็นครึ่งแล้วเอาลงจาน ส่วนทีมสีเขียว เชฟต้นได้เรียกให้พ่อค้าฟานนำจานอาหารมาให้ตนดู แต่อาหารจานหลักขาดซอสที่ต้องเอาลงจาน จึงเตือนทั้งทีมให้รีบเร่งมือ และในที่สุด ทั้งสามทีมได้นำอาหารลงจานจนหมดเวลา
  • ทีมที่ชนะรอบ Restaurant war: ทีมสีม่วง
  • การคัดออก: เนื่องจากทีมสีม่วงเป็นทีมที่ชนะในรอบ Restaurant war จึงทำให้ไม่มีสมาชิกในทีมถูกคัดออกในสัปดาห์นี้ ส่วนทีมสีเขียวและทีมสีส้มจะต้องเลือกสมาชิกทีมละ 2 คน เพื่อให้ครูใหญ่และเชฟแพมคัดออกหรือคัดเข้าทีมสีส้ม โดยเชฟต้นเสนอชื่อพ่อค้าต้นและแม่ค้านิ้ง ส่วนเชฟอาร์ตเสนอชื่อพ่อค้าเอ็มและพ่อค้าแพน จากนั้นครูใหญ่และเชฟแพมได้ถามถึงข้อผิดพลาดและหน้าที่ของทั้งสี่คนที่ถูกหัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนเสนอชื่อ โดยทีมสีส้ม พ่อค้าเอ็มได้ระบุว่าตนพลาดเรื่องข้าว และยอมรับในข้อผิดพลาดของตน และจะไม่ทำให้ทีมของตนช้าอีกแล้วในครั้งต่อไป ส่วนพ่อค้าแพนได้ระบุเหตุผลว่าตนพลาดเรื่องมีเส้นผมอยู่ในซุป แต่อยากขอโอกาสให้ตนปรับปรุงและแก้ไขข้อผิดพลาด ส่วนทีมสีเขียว พ่อค้าต้นได้สารภาพว่าตนถูกเสนอชื่อเป็นครั้งที่สองแล้ว เนื่องจากพลาดเรื่องการจัดการเวลาที่ช้ากว่าที่คาดหวังไว้ แต่ได้กล่าวเสริมว่า ตนเชื่อว่าทีมสีเขียวชนะในสัปดาห์นี้ และถ้าตนได้อยู่ต่อ ตนต้องชนะการแข่งขันให้ได้ ส่วนแม่ค้านิ้งได้ระบุว่าตนทำงานช้าในระหว่างรอบ Restaurant war แต่เมนูของหวานที่ทำนั้นได้รับคำชม เชฟแพมจึงถามว่าแม่ค้านิ้งทำเมนูของหวานคนเดียว หรือทำกับคนอื่น แม่ค้านิ้งจึงตอบว่าตนทำของหวานกับพ่อค้าฟาน เชฟแพมจึงถามต่อไปว่า ระหว่างแม่ค้านิ้งกับพ่อค้าฟาน ใครทำงานมากกว่ากัน แม่ค้านิ้งจึงตอบกลับไปว่า พ่อค้าฟานทำมากกว่าตน เมื่อเชฟแพมถามว่า ระหว่างพ่อค้าต้นกับแม่ค้านิ้ง แม่ค้านิ้งคิดว่าใครควรออกจากการแข่งขัน แม่ค้านิ้งตอบว่าตนคิดว่าตนเองควรที่จะอยู่ต่อ เชฟแพมจึงถามอีกว่า แม่ค้านิ้งทำผลงานได้ดีกว่าพ่อค้าต้นใช่หรือไม่ แม่ค้านิ้งจึงตอบว่าตนไม่ได้คิดว่าตนทำได้ดีกว่า แต่คิดว่ามีความตั้งใจที่จะทำงานเป็นทีมมากกว่า เชฟแพมจึงกลับไปถามพ่อค้าต้นเกี่ยวกับว่าใครควรที่จะอยู่ต่อ พ่อค้าต้นจึงตอบว่าตนคิดว่าตนเองควรที่จะอยู่ต่อ เชฟแพมจึงถามในคำถามเดียวกันว่า พ่อค้าต้นทำผลงานได้ดีกว่าแม่ค้านิ้งใช่ไหม พ่อค้าต้นจึงตอบว่าตนทำองค์ประกอบสองอย่างในอาหารจานเรียกน้ำย่อยและอาหารจานหลัก ส่วนทีมสีส้ม ครูใหญ่กลับไปถามพ่อค้าเอ็มว่า ระหว่างพ่อค้าแพนกับตนเอง พ่อค้าเอ็มคิดว่าใครควรที่จะออก พ่อค้าเอ็มจึงตอบว่าตนมีข้อผิดพลาดเยอะกว่าพ่อค้าแพน ตนจึงยอมรับว่าตนเองสมควรที่จะต้องออกจากการแข่งขัน ส่วนพ่อค้าแพนตอบว่า ตนมีข้อผิดพลาดซึ่งพาทีมของตนและพ่อค้าเอ็มผิดพลาดไปด้วย จึงยอมรับว่าตนเองพร้อมที่จะต้องออกจากการแข่งขัน หลังจากครูใหญ่และเชฟแพมปรึกษาหารือกันแล้ว เชฟแพมได้เก็บสิทธิ์ในการเลือกผู้เข้าแข่งขันเข้าทีมสีม่วงของตนไว้ ดังนั้น ผู้ที่ครูใหญ่ตัดสินให้ออกจากการแข่งขัน คือ พ่อค้าเอ็ม
  • ผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้คัดออก:
    • ทีมสีส้ม: พ่อค้าเอ็ม และ พ่อค้าแพน
    • ทีมสีเขียว: พ่อค้าต้น และ แม่ค้านิ้ง
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: พ่อค้าเอ็ม

ตอนที่ 5: ภารกิจระดับชาติ

[แก้]

ออกอากาศ 20 ตุลาคม 2567

  • Individual challenge: ในรอบนี้ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต้องทำเมนู อีสานย่างจิ้มแจ่ว โดยใช้น้ำปลาหอยนางรม เพื่อเพิ่มความหอมเข้าไปในจานอาหาร ภายในเวลา 45 นาที และในเวลา 20 นาทีที่เหลือ ครูใหญ่ได้กำหนดให้ผู้เข้าแข่งขันทำเพิ่มอีก 1 เมนู นั้นคือ ส้มตำปลาร้า โดยมีวัตถุดิบหลักเป็นน้ำปลาร้า
  • ผู้ที่เข้าชิงจานที่ดีที่สุด: หลังจากที่เวลาหมดลง หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนทั้ง 3 คนได้ชิมเมนูของผู้เข้าแข่งขันทุกคนในทีมของตน และคัดเลือกจานที่ดีที่สุดทีมละ 2 จาน ดังนี้
    • เชฟต้น: พ่อค้าฟาน และ พ่อค้าโกอิ่มบอม
    • เชฟแพม: แม่ค้าโยตัส และ แม่ค้าขวด
    • เชฟอาร์ต: พ่อค้าบีเอ็ม และ พ่อค้าแพน
  • การตัดสิน: ในรอบนี้ นอกจากครูใหญ่ ยังมีกรรมการรับเชิญที่มาร่วมตัดสินอีก 2 คน คือ คุณหญิง เจ้าของร้านตะบันตำ ตำถาดบันลือโลก ซึ่งได้รับเครื่องหมายช้อนทองคำ 2 ช้อน จากรายการ The Spoon ช้อนทองคำ และ เชฟไก่ ธนัญญา ไข่แก้ว เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย
คนที่ ผู้เข้าแข่งขัน เมนู การตัดสินของคณะกรรมการ ผู้ชนะ
คุณหญิง เชฟวิลแมน เชฟไก่
1 พ่อค้าฟาน ไก่ย่าง น้ำจิ้มแจ่วสมุนไพรไทยและส้มตำปลาร้า พ่อค้าฟาน
2 แม่ค้าโยตัส ปลาดุกด้งกับตำไหลบัวปลาร้า แม่ค้าโยตัส พ่อค้าฟาน แม่ค้าโยตัส แม่ค้าโยตัส
3 พ่อค้าบีเอ็ม หมูย่างสไตล์อีสาน น้ำจิ้มมะขาม และส้มตำลำโดม อำเภอเดชอุดม แม่ค้าโยตัส แม่ค้าโยตัส แม่ค้าโยตัส
4 พ่อค้าโกอิ่มบอม หมูย่าง แจ่วบองไตปลาทู และตำปลาร้าสายบัว แม่ค้าโยตัส แม่ค้าโยตัส แม่ค้าโยตัส
5 แม่ค้าขวด ไส้ย่าง น้ำจิ้มแจ่วผสมน้ำไตปลา และส้มตำยกป่า แม่ค้าโยตัส แม่ค้าขวด แม่ค้าโยตัส
6 พ่อค้าแพน หมูย่างคลุกฝุ่นซอสจิ้มแจ่วมะขามไข่เค็ม และส้มตำปลาร้า พ่อค้าแพน พ่อค้าแพน พ่อค้าแพน พ่อค้าแพน
  • ผู้ชนะรอบ Individual challenge: พ่อค้าแพน
  • Restaurant war: ในรอบนี้ ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 ทีม จะต้องสร้างสรรค์อาหารบาร์บีคิวอบย่างสไตล์อเมริกัน จำนวน 4 ชุด ชุดละ 4 เมนู เพื่อเสิร์ฟให้กับ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และแขกพิเศษอื่น ๆ รวมทั้งหมด 20 คน ในรูปแบบ Sharing โดยมีอุปกรณ์ 3 อย่าง ซึ่งแต่ละทีมจะต้องใช้อุปกรณ์อบย่างในการทำอาหารทั้ง 4 เมนู คือ ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร พร้อมกับถ่านกิโลกรัมละ 21 บาท เตาอั้งโล พร้อมกับปี๊ป ถ่าน และฟาง และเตาบาร์บีคิวแบบมืออาชีพจากโรงแรม 5 ดาว โดยพ่อค้าแพนซึ่งเป็นผู้ชนะในรอบ Individual challenge เป็นผู้เลือกอุปกรณ์ให้ทั้ง 3 ทีมนำมาทำเมนูดังนี้
ทีม อุปกรณ์ เมนูหลัก
ทีมสีเขียว ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร พร้อมกับถ่านกิโลกรัมละ 21 บาท แฮมเบอร์เกอร์ในสวนหลังบ้าน วันอาทิตย์จากความทรงจำ Picanha Steak ซอสบาร์บีคิว เสร์ฟคู่กับชิมิชูร์ริสสไตล์อีสานผสมอเมริกัน พร้อมจานพิเศษ สลัดผัก กับ Chorizo ชิกเกนวิงสไตล์นิวออร์ลินส์ฟีเจอริงไทย นิวยอร์กชีสเค้กแบบนิ่มราดซอสเบอรรี่
ทีมสีม่วง เตาอั้งโล พร้อมกับปี๊ป ถ่าน และฟาง เบกด์บีนรมควันด้วยฟาง ข้าวโพดสะดุ้งไฟสไตล์อเมริกัน สะพานโค้งซี่โครงหมูอบอวล สเต๊กเนื้อวากีลเสร์ฟพร้อมกับกริล์ดชีส
ทีมสีส้ม เตาบาร์บีคิวแบบมืออาชีพจากโรงแรม 5 ดาว ไก่กอและผสมพริกพาพรีกาเสร์ฟพร้อมกับคอร์นชาวเดอร์ บาร์บีคิวซอสพริกเผารมควัน สแปร์ริปส์ย่างซอสบาร์บีคิว ไก่นิวออร์ลีนส์ซอสแบงค็อก
    • เหตุการณ์ในระหว่างการแข่งขัน: ในระหว่างการทำอาหาร หัวหน้าเชฟผู้สอนของแต่ละทีมได้เรียกลูกทีมของตนมาพบที่ห้องบัญชาการ โดยทีมสีม่วง เชฟแพมได้เรียกแม่ค้าขวดมาเพื่อเตือนให้ใช้เตาอั้งโลทุกเตา และต่อมาได้เรียกแม่ค้าขวดมาเพื่อนเตือนให้ใส่ฟางเข้าไปข้างในก่อนอันดับแรก ส่วนทีมสีส้ม พ่อค้าฟูฟูหั่นผักซูกินี่แทนแตงกวา เชฟอาร์ตจึงเรียกไปเตือนว่าผักที่พ่อค้าฟูฟูหั่นอยู่นั้นเป็นผักที่ผิดชนิด แต่ทว่าเมื่อกลับไปที่ครัวแล้ว พ่อค้าฟูฟูกลับทิ้งซูกินี่ที่ตนหั่นไว้ลงไปในถังขยะ เชฟอาร์ตจึงเรียกพ่อค้าฟูฟูมาตำหนิถึงการกระทำที่ไม่สนใจถึงต้นทุนอาหาร ต่อมาในเวลา 1 ชั่วโมงที่เหลือ เชฟแพมได้เรียกแม่ค้าขวดมาเพื่อถามว่าเตาอั้งโลที่จุดไว้เป็นอย่างไรบ้าง แม่ค้าขวดจึงตอบว่าเตาทั้งสามเตามีไฟที่แรงพอแล้ว เชฟแพมจึงบอกให้เอาข้าวโพดมาย่างบนเตาได้เลย ต่อมาเชฟแพมได้เรียกแม่ค้าขวดมาเพื่อเตือนให้ย้ายข้าวโพดที่ย่างอยู่ในเตาเดิมไปย่างตรงเตาอีกที่นึง แต่ทันไดนั้น ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น โดยแม่ค้ารักเอยบังเอิญเดินไปชนกับถังขยะบนพื้นจนทำให้มันไปชนกับขอบของเตาอบจนเกิดความเสียหาย ครูใหญ่เมื่อเห็นดังนั้น จึงสั่งให้ทีมงานของสตูฯนำเศษกระจากทั้งหมดไปทิ้ง หลังจากนั้น เชฟแพมได้เรียกแม่ค้าขวดมาเพื่อเตือนให้นำข้าวโพดที่ย่างไว้แล้วขึ้นจากเตาย่าง และได้เรียกแม่ค้าโยตัสมาเพื่อเตือนให้หาหน้าที่ให้แม่ค้าน้อย ต่อมาแม่ค้าน้อยนำข้าวโพดมาทาด้วยซอสทีละอัน เชฟแพมจึงเรียกแม่ค้าโยตัสมาเพื่อเตือนให้บอกแม่ค้าน้อยให้นำข้าวโพดหลายอันใส่เข้าไปในกาละมัง ใส่ซอสและเขย่า ส่วนทีมสีเขียว เชฟต้นได้เรียกแม่ค้านิ้งให้เอาเค้กที่ปั่นไว้มาให้ตนตรวจสอบ โดยแม่ค้านิ้งได้บอกเชฟต้นว่าเค้กที่ปั่นไว้ยังไม่เนียนพอ เชฟต้นจึงเตือนให้เอาเค้กที่ปั่นไว้เข้าไปในเตาอบ แต่ทว่า แม่ค้านิ้งยังพยายามเคาะเค้กให้เนียนขึ้น เชฟต้นจึงเรียกพ่อค้าโกอิ่มบอมมาให้เตือนแม่ค้านิ้งให้เอาเค้าที่ปั่นไว้ใส่เข้าเตาอบทันที ต่อมาเชฟต้นได้เรียกพ่อค้าโกอิ่มบอมมาเพื่อเตือนให้บอกพ่อค้าต้นนำเนื้อไก่ที่หมักแล้วใส่เข้าไปในเตาย่าง ส่วนทีมสีส้ม เชฟอาร์ตเห็นว่าเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ยังไม่ผ่านการหมักหรือทาซอส จึงเรียกพ่อค้าฟูฟูมาเพื่อเตือนให้บอกเพื่อนร่วมทีมให้รีบหมักเนื้อสัตว์เพื่อการย่าง เมื่อครูใหญ่เห็นเช่นนั้น จึงสั่งให้ทีมสีส้มหยุดทำอาหาร และถามทั้งทีมว่าใครเป็นคนรับผิดชอบในการหมักเนื้อสัตว์ ซึ่งพ่อค้าบีเอ็มได้สารภาพว่าตนมีหน้าที่ในการหมักเนื้อสัตว์ หลังจากนั้นเชฟอาร์ตได้เห็นว่าพ่อค้าแพนกำลังย่างเนื้อสัตว์ที่ยังไม่ผ่านการทาซอส จึงเรียกพ่อค้าบีเอ็มมาเพื่อเตือนให้เอาเนื้อสัตว์ที่อยู่ในเตาย่างขึ้นมาและทาซอสใหม่ ต่อมาเชฟอาร์ตเห็นว่าพ่อค้าแพนกำลังย่างเนื้อสัตว์ด้วยไฟที่แรงเกินไป จึงเรียกพ่อค้าแพนมาเพื่อเตือนให้ย่างเนื้อสัตว์โดยไฟที่เบากว่านี้ และเตือนให้บอกเพื่อนร่วมทีมให้หยุดทำขนมปังได้แล้ว แต่ทว่า พ่อค้าบีเอ็มกลับทำขนมปังเพิ่มไปอีกจนกลายเป็นขนมปัง 12 ชิ้น เชฟอาร์ตจึงตะโกนสั่งให้พ่อค้าบีเอ็มหยุดทำขนมปัง และต่อมาในเวลา 10 นาทีสุดท้าย พ่อค้าโกอิ่มบอมยังไม่ได้นำเนื้อสำหรับแฮมเบอร์เกอร์ไปย่างบนเตาย่าง เชฟต้นได้เรียกพ่อค้าโกอิ่มบอมมาเพื่อเตือนให้นำขนมปังแฮมเบอร์เกอร์ลงจาน และให้ย่างเนื้อเบอร์เกอร์ให้เร็วที่สุด แต่ทว่า พ่อค้าโกอิ่มบอมกลับนำขนมปังเบอร์เกอร์ไปย่างบนเตาจนทำให้ขนมปังเกือบไหม้ เชฟต้นจึงตะโกนบอกพ่อค้าโกอิ่มบอมให้นำเนื้อเบอร์เกอร์ไปย่างบนเตา หลังจากนั้น พ่อค้าต้นได้นำไก่ที่หมักไว้ไปย่างตรงข้างบนของเตาจนทำให้ซอสหยดลงมาใส่เนื้อเบอร์เกอร์ พ่อค้านัทจึงบอกให้พ่อค้าต้นย่างเนื้อไก่ตรงข้างล่างของเตา ส่วนทีมสีม่วง แม่ค้าแนนพยายามที่จะทำอาหารเพิ่มเติม เชฟแพมจึงเรียกให้แม่ค้าโยตัสนำเนื้อที่ย่างไว้มาให้ตนตรวจสอบ และได้บอกให้แม่ค้าโยตัสเตือนแม่ค้าแนนว่าไม่ต้องทำอาหารเพิ่มเติมแล้ว หลังจากนั้นแม่ค้าน้อยเกิดความสับสนในการทำหน้าที่ในครัว จึงเดินไปเดินมาอย่างไร้จุดหมาย พิธีกรจึงเข้าไปเตือนแม่ค้าน้อยให้ช่วยเพื่อนร่วมทีมของตน และในเวลา 1 นาทีสุดท้าย หัวหน้าเชฟผู้สอนของแต่ละทีมได้ออกมาจากห้องบัญชาการและได้ตะโกนกระตุ้นลูกทีมของตนให้รีบเอาอาหารที่ทำไว้ลงจาน และในที่สุด ทั้งสามทีมได้นำอาหารลงจานจนหมดเวลา
  • ทีมที่ชนะรอบ Restaurant war: ทีมสีส้ม
  • การคัดออก: เนื่องจากทีมสีส้มเป็นทีมที่ชนะในรอบ Restaurant war จึงทำให้ไม่มีสมาชิกในทีมถูกคัดออกในสัปดาห์นี้ ส่วนทีมสีเขียวและทีมสีม่วงจะต้องเลือกสมาชิกทีมละ 2 คน เพื่อให้ครูใหญ่และเชฟอาร์ตคัดออกหรือคัดเข้าทีมสีส้ม โดยเชฟต้นเสนอชื่อแม่ค้านิ้งและพ่อค้าต้น ส่วนเชฟแพมเสนอชื่อแม่ค้าน้อยและแม่ค้าแนน จากนั้นครูใหญ่และเชฟอาร์ตได้ถามถึงข้อผิดพลาดและหน้าที่ของสี่คนที่ถูกเสนอชื่อ โดยทีมสีเขียว พ่อค้าต้นได้ระบุว่าตนทำงานช้าจนทำให้ระบบการทำงานของทีมของตนช้าไปด้วย ครูใหญ่จึงถามพ่อค้าต้นว่า ตนไม่ได้ความรู้หรืออะไรจากเชฟต้นที่สอนตนมาเลยใช่ไหม พ่อค้าต้นจึงตอบว่า เชฟต้นได้สอนตนมาเยอะพอสมควร แต่เมื่อตนเจอกับอุปกรณ์ที่ไม่คุ้นเคย ตนก็พยายามอย่างเต็มที่ ครูใหญ่ได้กล่าวสวนไปว่า ทุกคนที่มาแข่งในรายการนี้ก็ไม่คุ้นเคยกับอาหารหรืออุปกรณ์ที่เจอเหมือนกัน และได้ถามพ่อค้าต้นอีกว่า ตนคิดว่าตนเองสมควรที่จะออกจากการแข่งขันได้หรือยัง พ่อค้าต้นจึงตอบว่า ตนทำเต็มที่ๆสุดแล้ว และได้บอกให้ครูใหญ่ตัดสินตามผลงาน ส่วนแม่ค้านิ้งได้ระบุว่า ตนทำอาหารที่ตัวเองได้รับการมอยหมายไว้ช้ากว่าที่วางแผนไว้ ครูใหญ่จึงถามแม่ค้านิ้งว่า ตนคิดว่าตนเองสมควรได้อยู่ในการแข่งขันต่อหรือไม่ แม่ค้านิ้งจึงตอบว่า ตนคิดว่าตนสมควรได้ไปต่อ เพราะได้ทำหน้าที่ๆรับผิดชอบได้อย่างเต็มที่ ส่วนทีมสีม่วง แม่ค้าแนนได้ระบุว่าตนพยายามที่จะทำอาหารหลายอย่างเพิ่มเติมเนื่องจากคิดว่าเวลาทำอาหารมีเยอะ เชฟอาร์ตจึงสรุปว่า การตัดสินใจที่จะปฏิบัติของแม่ค้าแนนไม่ผ่านความคิดเห็นของเชฟแพมเลย จึงทำให้แม่ค้าแนนถูกเสนอชื่อ หลังจากนั้นครูใหญ่ได้เตือนแม่ค้าน้อยว่า ตนไม่ได้เห็นว่าแม่ค้าน้อยทำหน้าที่อะไรมากมายนัก และได้บอกอีกว่าแม่ค้าน้อยทำงานช้าพอสมควร แม่ค้าน้อยจึงกล่าวสวนไปว่า ตนทำหน้าที่ตามที่เชฟแพมมอบหมายมาก่อนเพื่อนร่วมทีมของตน เชฟอาร์ตจึงถามว่า ถ้าแม่ค้าน้อยทำหน้าที่ตามที่เชฟแพมมอบหมายมา ทำไมแม่ค้าน้อยถึงถูกเสนอชื่อ แม่ค้าน้อยจึงตอบว่า ตนเชื่อว่าตนเองทำเต็มที่และพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆตลอดการแข่งขัน หลังจากครูใหญ่และเชฟอาร์ตปรึกษาหารือกันแล้ว เชฟอาร์ตได้เก็บสิทธิ์ในการเลือกผู้เข้าแข่งขันเข้าทีมสีส้มของตนไว้ ดังนั้น ผู้ที่ครูใหญ่ตัดสินให้ออกจากการแข่งขัน คือ แม่ค้าน้อย
  • ผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้คัดออก:
    • ทีมสีเขียว: พ่อค้าต้น และ แม่ค้านิ้ง
    • ทีมสีม่วง: แม่ค้าแนน และ แม่ค้าน้อย
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: แม่ค้าน้อย

ตอนที่ 6: ต้อนรับประธานสมาคมเชฟโลก

[แก้]

ออกอากาศ 27 ตุลาคม 2567

  • Individual challenge:
  • ผู้ที่เข้าชิงจานที่ดีที่สุด: หลังจากที่เวลาหมดลง หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนทั้ง 3 คนได้ชิมเมนูของผู้เข้าแข่งขันทุกคนในทีมของตน และคัดเลือกจานที่ดีที่สุดทีมละ 2 จาน ดังนี้
    • เชฟแพม: แม่ค้าแนน และ แม่ค้าโยตัส
    • เชฟอาร์ต: พ่อค้าบีเอ็ม และ แม่ค้าวีซ่า
    • เชฟต้น: พ่อค้าฟาน และ พ่อค้านัท
  • การตัดสิน: ในรอบนี้ นอกจากครูใหญ่ ยังมีกรรมการรับเชิญที่มาร่วมตัดสินอีก 2 คน คือ
คนที่ ผู้เข้าแข่งขัน เมนู การตัดสินของคณะกรรมการ ผู้ชนะ
คุณโอ๊ต เชฟวิลแมน เชฟเอียน
1 แม่ค้าแนน '
2 พ่อค้าบีเอ็ม '
3 พ่อค้าฟาน '
4 แม่ค้าโยตัส '
5 แม่ค้าวีซ่า '
6 พ่อค้านัท '
  • ผู้ชนะรอบ Individual challenge: พ่อค้านัท
  • Restaurant war:


    • เหตุการณ์ในระหว่างการแข่งขัน: (รอเพิ่มข้อมูล)
  • ทีมที่ชนะรอบ Restaurant war: ทีมสีเขียว
  • การคัดออก:
  • ผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้คัดออก:
    • ทีมสีม่วง: แม่ค้าขวด และ แม่ค้าแนน
    • ทีมสีส้ม: พ่อค้าฟูฟู และ พ่อค้าปู
  • ผู้ที่ย้ายทีม: พ่อค้าปู (ทีมสีส้มทีมสีเขียว)
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: แม่ค้าขวด

ตอนที่ 7: กรรมการจาก MasterChef Junior

[แก้]

ออกอากาศ 10 พฤศจิกายน 2567

  • Individual challenge: เหล่าพ่อค้าซ่าแม่ค้าแซ่บ จะต้องแข่งขันกันในโจทย์ “ข้าวราดแกง” ภายในเวลา 45 นาที โดยใช้วัตถุดิบกะทิ "อัมพวา" เป็นวัตถุดิบหลัก และสิทธิพิเศษของผู้ชนะ คือ สามารถขโมยลูกทีมสีอื่นเข้าทีมไปช่วยในรอบ Restaurant war ได้ ซึ่งผู้ที่ถูกขโมยเข้าทีมจะสามารถช่วยในเฉพาะสัปดาห์นั้นเท่านั้น และสัปดาห์ต่อไป ผู้ที่ถูกขโมยเข้าทีมจะกลับทีมเดิมของตน เว้นแต่ว่า เขาจะถูกหัวหน้าเชฟผู้สอนของทีมที่ชนะขโมยเข้าทีม
  • ผู้ที่เข้าชิงจานที่ดีที่สุด: หลังจากที่เวลาหมดลง หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนทั้ง 3 คนได้ชิมเมนูของผู้เข้าแข่งขันทุกคนในทีมของตน และคัดเลือกจานที่ดีที่สุดทีมละ 2 จาน ดังนี้
    • เชฟอาร์ต: พ่อค้าบีเอ็ม และ แม่ค้าวีซ่า
    • เชฟต้น: พ่อค้านัท และ พ่อค้าฟาน
    • เชฟแพม: แม่ค้าโยตัส และ แม่ค้าแนน
  • การตัดสิน: ในรอบนี้ นอกจากครูใหญ่ ยังมีกรรมการรับเชิญที่มาร่วมตัดสินอีก 2 คน คือ คุณเดียร์ จากร้านขนมเส้นคุณย่า และ คุณมนตรี วิโรจน์เวชภัณฑ์” Commentator และกรรมการจากรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย
คนที่ ผู้เข้าแข่งขัน เมนู การตัดสินของคณะกรรมการ ผู้ชนะ
คุณเดียร์ เชฟวิลแมน คุณมนตรี
1 พ่อค้าบีเอ็ม ข้าวพะแนงเนื้อริบอายย่าง
2 พ่อค้านัท ข้าวราดแกงอกไก่รูลาดซอสแกงเขียวหวาน '
3 แม่ค้าโยตัส ข้าวแกงคั่วเนื้อหน่อไม้สด '
4 แม่ค้าวีซ่า แกงคั่วเนื้อพริกขี้หนูสดไม่สุภาพ เสิร์ฟพร้อมข้าวหุงกะทิ '
5 พ่อค้าฟาน ข้าวแกงเหลืองกุ้ง ปลาทูทอด และน้ำพริกกะปิ '
6 แม่ค้าแนน ข้าวแกงเทโพอะโลฮากับกรานีตาสับปะรดมะกรูดพริกน้ำปลา '
  • ผู้ชนะรอบ Individual challenge: แม่ค้าวีซ่า
  • ผู้ที่ถูกผู้ชนะรอบ Individual challenge ขโมยเข้าทีม: พ่อค้านัท
  • Restaurant war: ในการแข่งขันรอบนี้ มีวัตถุดับหลักคือ เชดด้าชีส และวิปปิ้งครีม โดยทำอาหารเสิร์ฟให้น้องๆ MasterChef Junior Thailand Season 3 และเด็ก ๆ ที่มีอายุระหว่าง 8-12 ปี รวม 50 คน (อาหารคาว 1 อย่างจากเชดด้าชีส และอาหารหวาน 1 อย่าง จากวิปปิ้งครีม) ภายในเวลา 90 นาที และก่อนเริ่มการแข่งขัน ทั้งสามทีมได้ประชุมและเลือกซื้อวัตถุดิบที่แม็คโคร


    • เหตุการณ์ในระหว่างการแข่งขัน: (รอเพิ่มข้อมูล)
  • ทีมที่ชนะรอบ Restaurant war: ทีมสีม่วง
  • การคัดออก:
  • ผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้คัดออก:
    • ทีมสีส้ม: พ่อค้าฟูฟู
    • ทีมสีเขียว: พ่อค้านัท (ถูกเสนอชื่อโดยเชฟอาร์ต) พ่อค้าปู และ พ่อค้าต้น
  • ผู้ที่ย้ายทีม: พ่อค้านัท (ทีมสีเขียวทีมสีม่วง)
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: พ่อค้าต้น

ตอนที่ 8: สิทธิพิเศษสุดยิ่งใหญ่แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

[แก้]

ออกอากาศ 17 พฤศจิกายน 2567

  • Individual challenge:
  • ผู้ที่เข้าชิงจานที่ดีที่สุด: หลังจากที่เวลาหมดลง หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนทั้ง 3 คนได้ชิมเมนูของผู้เข้าแข่งขันทุกคนในทีมของตน และคัดเลือกจานที่ดีที่สุดทีมละ 2 จาน ดังนี้
    • เชฟต้น: พ่อค้าปู และ พ่อค้าฟาน
    • เชฟแพม: พ่อค้านัท และ แม่ค้าโยตัส
    • เชฟอาร์ต: พ่อค้าบีเอ็ม และ พ่อค้าแพน
  • การตัดสิน: ในรอบนี้ นอกจากครูใหญ่ ยังมีกรรมการรับเชิญที่มาร่วมตัดสินอีก 2 คน คือ
คนที่ ผู้เข้าแข่งขัน เมนู การตัดสินของคณะกรรมการ ผู้ชนะ
คุณก้อย เชฟวิลแมน คุณอิ้งค์
1 พ่อค้าปู '
2 พ่อค้านัท '
3 พ่อค้าบีเอ็ม '
4 พ่อค้าฟาน '
5 แม่ค้าโยตัส '
6 พ่อค้าแพน '
  • ผู้ชนะรอบ Individual challenge: พ่อค้าฟาน
  • Restaurant war:


    • เหตุการณ์ในระหว่างการแข่งขัน: (รอเพิ่มข้อมูล)
  • ทีมที่ชนะรอบ Restaurant war: ทีมสีม่วง
  • การคัดออก:
  • ผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้คัดออก:
    • ทีมสีส้ม: พ่อค้าแพน และ พ่อค้าฟูฟู
    • ทีมสีเขียว: แม่ค้านิ้ง และ พ่อค้าปู
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: พ่อค้าฟูฟู

ตอนที่ 9: กติกาใหม่ ลดเวลาแข่ง

[แก้]

ออกอากาศ 24 พฤศจิกายน 2567

  • Individual challenge:
  • ผู้ที่เข้าชิงจานที่ดีที่สุด: หลังจากที่เวลาหมดลง หัวหน้าเชฟผู้ฝึกสอนทั้ง 3 คนได้ชิมเมนูของผู้เข้าแข่งขันทุกคนในทีมของตน และคัดเลือกจานที่ดีที่สุดทีมละ 2 จาน ดังนี้
    • เชฟแพม: พ่อค้านัท และ แม่ค้ารักเอย
    • เชฟอาร์ต: พ่อค้าบีเอ็ม และ พ่อค้าแพน
    • เชฟต้น: พ่อค้าโกอิ่มบอม และ พ่อค้าปู
  • การตัดสิน: ในรอบนี้ นอกจากครูใหญ่ ยังมีกรรมการรับเชิญที่มาร่วมตัดสินอีก 2 คน คือ
คนที่ ผู้เข้าแข่งขัน เมนู การตัดสินของคณะกรรมการ ผู้ชนะ
เจ๊จง เชฟวิลแมน คุณนา
1 พ่อค้านัท '
2 พ่อค้าบีเอ็ม '
3 พ่อค้าโกอิ่มบอม '
4 แม่ค้ารักเอย '
5 พ่อค้าแพน '
6 พ่อค้าปู '
  • ผู้ชนะรอบ Individual challenge: พ่อค้านัท
  • Restaurant war:


    • เหตุการณ์ในระหว่างการแข่งขัน: (รอเพิ่มข้อมูล)
  • ทีมที่ชนะรอบ Restaurant war: ทีมสีเขียว
  • การคัดออก:
  • ผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้คัดออก:
    • ทีมสีส้ม: พ่อค้าแพน และ แม่ค้าวีซ่า
    • ทีมสีม่วง: แม่ค้ารักเอย และ แม่ค้าแนน
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: พ่อค้าแพน

ตอนที่ 10: สงครามครั้งสุดท้าย

[แก้]

ออกอากาศ 1 ธันวาคม 2567

ในช่วงแรกนี้ ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 10 คน ไม่ต้องทำการแข่งขัน แต่จะได้ไป... (รอเพิ่มข้อมูล)

  • ทีมที่ชนะภารกิจพิเศษ: ทีมสีม่วง
  • Restaurant war:
    • เหตุการณ์ในระหว่างการแข่งขัน: (รอเพิ่มข้อมูล)

หลังจากที่กรรมการรับเชิญพิเศษได้ชิมอาหารที่ทั้ง 3 ทีมทำออกมาแล้ว ครูใหญ่ได้เรียกพ่อค้าแพนและแม่ค้านิ้งออกมา เนื่องจากทั้งสองกลับเข้าสู่การแข่งขันมาเพื่อช่วยเพื่อนร่วมทีมของตน ทั้งสองจึงไม่สามารถเข้ารอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศได้ ครูใหญ่ได้กล่าวขอบคุณพ่อค้าแพนและแม่ค้านิ้งถึงการช่วยเหลือต่อเพื่อนร่วมทีมของตน หลังจากนั้น ทั้งสองได้คืนผ้ากันเปื้อนของตนให้แก่ครูใหญ่ และได้กล่าวลากับหัวหน้าเชฟผู้สอนทั้งสามคนและเพื่อนร่วมทีมของตน

  • ทีมที่ชนะรอบ Restaurant war: ทีมสีม่วง
  • การคัดออก: (รอเพิ่มข้อมูล)
  • ผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้คัดออก:
    • ทีมสีส้ม: พ่อค้าบีเอ็ม และ แม่ค้าวีซ่า (เนื่องจากจำนวนสมาชิกในทีมสีส้มมีเพียงแค่ 2 คน)
    • ทีมสีเขียว: พ่อค้าโกอิ่มบอม และ พ่อค้าปู
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: พ่อค้าปู

ตอนที่ 11: รอบรองชนะเลิศกับการต่อสู้ที่ไม่มีคำว่า "ทีม"

[แก้]

ออกอากาศ 8 ธันวาคม 2567

  • รอบรองชนะเลิศ (Semi-Final): การแข่งขันรอบรองชนะเลิศในฤดูกาลนี้จะใช้วิธีการแข่งขันแบบ "แข่งขันในทีมกันเอง" นั่นคือผู้ชนะในแต่ละทีมจะได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทันที ส่วนผู้เข้าแข่งขันคนอื่นในทีมนั้นจะถูกคัดออกไปโดยปริยาย โดยการแข่งขันรอบนี้ แต่ละทีมจะมีกรรมการตัดสิน 2 ท่าน คือ เชฟวิลแมน (ครูใหญ่) และ Head Chef Trainer ของแต่ละทีม ในรอบนี้จะมีผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเพียง 4 คน โดยทีมสีม่วงที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุด เชฟแพมจะมีโควตาที่สามารถเลือกผู้ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ 2 คน ส่วนอีก 2 ทีมที่เหลือ (ทีมสีเขียว และ ทีมสีส้ม) เชฟต้นและเชฟอาร์ตจะมีโควตาที่สามารถเลือกผู้ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเพียงทีมละ 1 คนเท่านั้น วัตถุดิบหลักในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศนี้คือ "ปลาจากลุ่มแม่น้ำไทยทั้ง 5 ชนิด" ได้แก่ ปลายี่สก ปลาช่อน ปลาค้าว ปลาคัง และ ปลาซิว โดยที่แต่ละทีมจะไม่รู้ว่าจะได้รับวัตถุดิบอะไร ขึ้นอยู่การจับฉลากวัตถุดิบที่แต่ละทีมจะได้ แต่ก่อนเริ่มการแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขันจะต้องไปเลือกซื้อวัตถุดิบเสริมที่จะใช้ทำอาหารด้วยตัวเอง
    • การแข่งขันของทีมสีส้ม: วัตถุดิบที่ทีมสีส้มได้รับคือ ปลาช่อน (รอเพิ่มข้อมูล)
    • ผู้ชนะ: พ่อค้าบีเอ็ม
    • การแข่งขันของทีมสีเขียว: วัตถุดิบที่ทีมสีเขียวได้รับคือ ปลาคัง (รอเพิ่มข้อมูล)
    • ผู้ชนะ: พ่อค้าฟาน
    • การแข่งขันของทีมสีม่วง: วัตถุดิบที่ทีมสีม่วงได้รับคือ ปลาซิว (รอเพิ่มข้อมูล)
    • ผู้ชนะ: แม่ค้าโยตัส และ พ่อค้านัท
  • ผู้ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ: พ่อค้าบีเอ็ม พ่อค้าฟาน แม่ค้าโยตัส และ พ่อค้านัท
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: แม่ค้าวีซ่า พ่อค้าโกอิ่มบอม แม่ค้าแนน และ แม่ค้ารักเอย

ตอนที่ 12: รอบชิงชนะเลิศกับกติการูปแบบใหม่สุดลุ้นระทึก

[แก้]

ออกอากาศ 15 ธันวาคม 2567

  • รอบชิงชนะเลิศ (Final): (รอเพิ่มข้อมูล)
  • ผู้ชนะเลิศ The Restaurant War Thailand ศึกพ่อค้าซ่าแม่ค้าแซ่บ ฤดูกาลที่ 1: พ่อค้าฟาน

อ้างอิง

[แก้]
  1. "เปิดศึกพ่อค้าซ่า แม่ค้าแซ่บ "The Restaurant War Thailand"". มายาแชนแนล. 30 สิงหาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 29 กันยายน 2024.
  2. "เปิดครัวรายการใหม่ The Restaurant War Thailand ศึกพ่อค้าซ่า แม่ค้าแซ่บ". สนุก.คอม. 19 กันยายน 2024. สืบค้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2024.
  3. "เปิดฉากแข่งทีม 'The Restaurant War Thailand'สุดวุ่นวาย 'เชฟแพม-เชฟอาร์ต-เชฟต้น' หน้าเครียดคิ้วขมวด!นั่งไม่ติดเก้าอี้". แนวหน้า. 25 กันยายน 2024. สืบค้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2024.
  4. ""เชฟแพม-เชฟอาร์ต-เชฟต้น" สุดตึงเครียด! พยายามกอบกู้ทีมก่อนเจอหายนะ". ไทยรัฐ. 3 ตุลาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2024.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]