ยุทธการที่เกเต๋ง
ยุทธการที่เกเต๋ง | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ การบุกขึ้นเหนือของจูกัดเหลียงครั้งแรก | |||||||
ภาพวาดยุคราชวงศ์ชิงแสดงเหตุการณ์การประหารชีวิตม้าเจ๊ก | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
วุยก๊ก | จ๊กก๊ก | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
เตียวคับ |
ม้าเจ๊ก อองเป๋ง | ||||||
กำลัง | |||||||
ไม่ทราบ | ไม่ทราบ | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
ไม่ทราบ | ไม่ทราบ |
ยุทธการที่เกเต๋ง | |||||||
อักษรจีนตัวเต็ม | 街亭之戰 | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวย่อ | 街亭之战 | ||||||
|
ยุทธการที่เกเต๋ง (จีน: 街亭之戰) เป็นการรบระหว่างรัฐวุยก๊กและจ๊กก๊ก ใน ค.ศ. 228 ในยุคสามก๊ก ของจีน ยุทธการเกเต๋งเป็นส่วนหนึ่งของการบุกขึ้นเหนือครั้งแรกที่นำโดยจูกัดเหลียงอัครมหาเสนาบดีและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งจ๊กก๊กเพื่อโจมตีวุยก๊ก ยุทธการสิ้นสุดด้วยชัยชนะอย่างเด็ดขาดของวุยก๊ก
เปิดศึก
[แก้]ในขั้นต้นจูกัดเหลียงส่งขุนพลเตียวจูล่งและเตงจี๋นำกองกำลังรบล่อไปยังหุบเขากิก๊ก (箕谷 จีกู่) แสร้งจะเข้าโจมตีอำเภอไปเซีย (郿縣 เหมย์เซี่ยน; อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอำเภอฝูเฟิง มณฑลฉ่านซีในปัจจุบัน) ผ่านหุบเขาเสียดก๊ก (斜谷 เสียกู่) เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของทัพหลักของวุยก๊ก ส่วนตัวจูกัดเหลียงนำทัพด้วยตนเองไปยังเขากิสาน (祁山 ฉีชาน; พื้นที่ภูเขาโดยรอบอำเภอหลี่ มณฑลกานซู่ในปัจจุบัน) โจจิ๋นนำกำลังทหารไปต้านเตียวจูล่ง ในขณะที่สามเมืองภายใต้การปกครองของวุยก๊กได้แก่ ลำอั๋น (南安 หนานอาน; อยู่บริเวณอำเภอหล่งซี มณฑลกานซู่ในปัจจุบัน), เทียนซุย (天水 เทียนฉุ่ย; อยู่บริเวณนครเทียนฉุ่ย มณฑลกานซู่ในปัจจุบัน) และฮันเต๋ง (安定 อานติ้ง; อยู่บริเวณอำเภอเจิ้นยฺเหวียน มณฑลกานซู่ในปัจจุบัน) แปรพักตร์ไปเข้าด้วยจ๊กก๊ก[2][3]
ผู้คนในวุยก๊กมองว่าเล่าปี่เป็นวีรบุรุษคนสำคัญของจ๊กก๊ก ภายหลังการสวรรคตของเล่าปี่ ดินแดนด้านตะวันตกของวุยก๊กก็สงบสุขไประยะเวลาหนึ่ง จึงไม่ได้เตรียมพร้อมกับสถานการณ์ร้ายกาจเช่นนี้่[4] เมื่อโจยอยจักรพรรดิแห่งวุยก๊กทรงทราบว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเสียภูมิภาคกวนต๋งแห่งจ๊กก๊ก จึงเสด็จไปยังเตียงฮันด้วยพระองค์เองและรวบรวมกองกำลังรองให้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเตียวคับในการโจมตีจูกัดเหลียง จูกัดเหลียงเลือกขุนพลม้าเจ๊กเป็นแม่ทัพหน้าโดยมีอองเป๋งเป็นผู้ช่วยไปสกัดเตียวคับ แทนที่จะเลือกนายทหารผ่านศึกอย่างอุยเอี๋ยนและงออี้ที่มีผู้เสนอมา[5][6]
ยุทธการ
[แก้]เกเต๋งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญบนเส้นทางลำเลียงเสบียง จูกัดเหลียงจึงส่งม้าเจ๊กและอองเป๋งไปรักษาเกเต๋ง ม้าเจ๊กไปพร้อมกับอองเป๋ง แต่ม้าเจ๊กไม่ฟังคำแนะนำเรื่องการศึกของอองเป๋ง ม้าเจ๊กอาศัยเพียงตำราพิชัยสงครามเลือก "ยึดพื้นที่สูง" และตั้งมั่นอยู่บนเขาแทนที่จะเป็นในตัวเมืองตามคำสั่งของจูกัดเหลียง เพิกเฉยต่อคำแนะนำของอองเป๋งที่ให้ตั้งค่ายในหุบเขาที่มีแหล่งน้ำอย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตาม อองเป๋งสามารถโน้มน้าวม้าเจ๊กให้แบ่งกำลังทหารส่วนหนึ่งมาให้ตนบัญชาการ แล้วอองเป๋งก็แยกไปตั้งค่ายใกล้กับค่ายของม้าเจ๊กเพื่อคอยช่วยเหลือเมื่อม้าเจ๊กตกอยู่ในอันตราย[7][8]
เนื่องด้วยความผิดพลาดทางยุทธวิธีของม้าเจ๊ก ทัพวุยก๊กที่นำโดยเตียวคับจึงเข้าล้อมเนินเขาและตัดทางน้ำของกำลังทหารฝ่ายจ๊กก๊กจึงตีฝ่ายจ๊กก๊กแตกพ่าย[9] มีบันทึกว่าระหว่างชุลมุน ม้าเจ๊กลอบหนีไปทิ้งกำลังทหารที่ไม่มีผู้บังคับบัญชา[10] อองเป๋งรวบรวมกำลังทหารของม้าเจ๊กที่กระจัดกระจาย และใช้กำลังทหารที่เหลือไม่มากนี้หาทางล่าถอยได้อย่างเป็นระเบียบ อองเป๋งสั่งให้ทหารตีกลองเสียงดังเพื่อทำให้ฝ่ายวุยก๊กเข้าใจว่ากำลังเสริมกำลังมาถึง เตียวคับเชื่อว่าอาจเป็นสัญญาณการซุ่มโจมตีจึงไม่ได้ไล่ตามไป[11] เมื่อจูกัดเหลียงยกมาถึงก็พยายามจะเอาชนะเตียวคับแต่ไม่สำเร็จจึงถอยกลับไปฮันต๋ง[12]
แม้ว่าม้าเจ๊กจะรอดชีวิตจากยุทธการ แต่กองกำลังของม้าเจ๊กก็เสียหายอย่างหนัก (อองเป๋งสามารถรวบรวมกำลังทหารของม้าเจ๊กที่เหลืออยู่ขึ้นใหม่และรวบรวมเสบียงของทัพจ๊กก๊กที่กระจัดกระจาย) ในเวลาต่อมาไม่นานม้าเจ๊กก็ถูกจับและถูกตัดสินประหารชีวิตโดยจูกัดเหลียงผู้ฝืนใจออกคำตัดสินทั้งหลั่งน้ำตา[13][a]
ผลสืบเนื่อง
[แก้]ขุนพลของจ๊กก๊กจำนวนมากถูกลงโทษ ม้าเจ๊กถูกจูกัดเหลียงตัดสินโทษประหารชีวิตเพื่อปลอมประโลมมวลชน[14] จาง ซิว (張休) และหลี่ เชิ่ง (李盛) ก็ถูกประหารชีวิตเช่นกัน[15] จิ้นชูระบุว่าบิดาของตันซิ่ว[b]พลอยติดร่างแหและถูกตัดสินโทษคุน (髡) ซึ่งเป็นการลงโทษด้วยการโกนศีรษะ[16] เอี่ยงลองถูกปลดจากตำแหน่งหัวหน้าเลขานุการเพราะเอี่ยงลองไม่ได้รายงานว่าม้าเจ๊กหนีเพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนกับม้าเจ๊ก[17] หฺวาง สี (黃襲) และขุนพลคนอื่น ๆ ถูกจูกัดเหลียงปลดจากอำนาจบัญชาการทหาร ในขณะที่อองเป๋งได้รับการเลื่อนยศเป็นขุนพลปราบโจร (討寇將軍 เถ่าโค่วเจียงจวิน) จากความพยายามในการลดความเสียหายให้น้อยที่สุดและจากความพยายามในการป้องกันการกระทำของม้าเจ๊ก ตัวจูกัดเหลียงเองถวายฎีกาถึงจักรพรรดิเล่าเสี้ยนขอให้ลดตำแหน่งตนเองเพื่อรับผิดชอบความพ่ายแพ้ที่เกเต๋ง[18]
ก่อนที่ม้าเจ๊กจะถูกประหารชีวิตได้เขียนจดหมายถึงจูกัดเหลียงว่า "ท่านผู้ปราดเปรื่องมองข้าพเจ้าดั่งบุตรชายและตัวข้าพเจ้าเองก็มองท่านดั่งบิดา ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่านี่คือความชอบธรรมในการประหารชีวิตกุ่นซึ่งนำไปสู่ความรุ่งโรจน์ของพระเจ้าอวี่ ขอให้ความสัมพันธ์ทั้งชีวิตของเราไม่ลดลงไปกว่านี้ แม้ว่าข้าพเจ้าจะตาย แต่ข้าพเจ้าก็ไม่มีความแค้นเคืองต่อแผ่นดินเหลือง"[19] เวลานั้นทหารหลายคนร้องไห้ให้กับการเสียชีวิตของม้าเจ๊ก[20]
จากการเสียเกเต๋งทำให้สถานการณ์ด้านเสบียงในทัพจูกัดเหลียงเลวร้ายลง จูกัดเหลียงจึงต้องล่าถอยไปยังฐานทัพหลักที่เมืองฮันต๋ง ในขณะที่ทัพวุยก๊กภายใต้การบัญชาการของโจจิ๋นและเตียวคับถือโอกาสนี้เข้าปราบกบฏในสามเมืองคือลำอั๋น เทียนซุย และฮันเต๋งจนกลับมาสงบ ความพ่ายแพ้ที่เกเต๋งทำให้การบุกขึ้นเหนือของจูกัดเหลียงครั้งแรกประสบความล้มเหลว[21]
สถานที่
[แก้]ตำแหน่งที่แน่นอนของยุทธการที่เกเต๋งไม่ทราบแน่ชัด จากการวิจัยโดยหนังสือพิมพ์กานซู่จิงจี้รื่อเป้า (甘肃经济日报; แปลว่า "เศรษฐกิจกานซู่รายวัน") มีสถานที่ที่เป็นเป็นได้หลายแห่ง ได้แก่:[22]
- หมู่บ้านเจียถิง เขตม่ายจี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนครเทียนฉุ่ย
- เมืองกงเหมิน ทางตะวันออกของอำเภอปกครองตนเองจางเจียชฺวาน
- ภูเขาเจียถิง ในอำเภอเหมี่ยน มณฑลฉ่านซี
- เมืองหล่งเฉิง ทางตะวันออกของอำเภอฉินอาน มณฑลกานซู่
- สถานที่อื่น ๆ ที่บางคนเสนอชื่อ ได้แก่ นครหฺวาถิง และอำเภอจฺวางล่าง
อนุสรณ์สถานของยุทธการที่ตั้งอยู๋ที่เมืองหล่งเฉิง หลักฐานทางภูมิประเทศและอาวุธที่ค้นพบช่วยสนับสนุนว่าเมืองหล่งเฉิงเป็นสถานที่ที่เป็นไปได้มากที่สุด แม้จะยังไม่เห็นพ้องต้องกันในหมู่ผู้เชี่ยวชาญ[22]
ในนิยายสามก๊ก
[แก้]ในนวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊กในศตวรรษที่ 14 ม้าเจ๊กถูกประหารชีวิตโดยจูกัดเหลียงที่ออกคำสั่งประหารทั้งหลั่งน้ำตาและเป็นผู้ประเมินสติปัญญาของม้าเจ๊กไว้สูงมาโดยตลอดจึงตัดสินโทษประหารอย่างไม่เต็มใจอย่างยิ่ง เหตุการณ์นี้ได้ถูกนำมาแสดงในการแสดงงิ้วด้วย สุภาษิตจีนที่ว่า "หลั่งน้ำตาฆ่าม้าเจ๊ก" (挥泪斩马谡; 揮淚斬馬謖; Huī Lèi Zhán Mǎ Sù) อ้างถึงเหตุการณ์นี้โดยเฉพาะ มีความหมายว่า "การลงโทษบุคคลหนึ่งฐานกระทำความผิดโดยไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์หรือความสามารถของบุคคลนั้น" สุภาษิตญี่ปุนที่เทียบเท่าคือ "ประหารม้าเจ๊กทั้งน้ำตา" (泣いて馬謖を斬る Naite Bashoku wo kiru)
ในนวนิยาย การพ่ายแพ้ที่เกเต๋งกลายเป็นการเผยตำแหน่งของจูกัดเหลียงในเวลานั้นคือเสเสีย (西城 ซีเฉิง) ที่ไร้การป้องกัน จูกัดเหลียงจึงใช้กลยุทธ์เมืองว่างป้องกันไม่ให้ข้าศึกเข้ามาโจมตีก่อนจะล่าถอย
ในหลากหลายเรื่องเล่ารวมถึงนวนิยาย สุมาอี้มีส่วนร่วมในยุทธการในฝ่ายวุยก๊ก แต่ตามชีวประวัติของสุมาอี้ในสามก๊กจี่ เป็นไปไม่ได้ที่สุมาอี้จะมีส่วนร่วมในยุทธการ มอสส์ โรเบิตส์ (Moss Roberts) ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ในเล่มที่ 4 ของสามก๊ก ฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษของตน (หน้าที่ 2,179 ในหมายเหตุของตอนที่ 95 ย่อหน้าที่ 4 และย่อหน้าสุดท้ายของหมายเหตุของตอน) ว่า:
- สุมาอี้ตามประวัติศาสตร์ไม่ได้อยู่ที่แนวรบด้านตะวันตกขณะเกิดกรณี "อุบายเมืองว่าง" แต่อยู่ที่แนวรบด้านใต้ที่มีความสำคัญกว่าเพื่อต้านแดนใต้ [ง่อก๊ก] สุมาอี้ไม่ได้มาที่แนวรบด้านตะวันตกจนกระทั่งการบุกของขงเบ้ง [จูกัดเหลียง] ครั้งที่ 4 [ยุทธการที่เขากิสาน] ประเพณีนิยมในบันเทิงคดีมีแนวโน้มจะให้ความสำคัญกับความขัดแย้งระหว่างวุยก๊กและจ๊กก๊กมากกว่าระหว่างวุยก๊กและง่อก๊ก เรื่องสามก๊กจึงสร้างเรื่องราวความเป็นคู่ศึกระหว่างขงเบ้งและสุมาอี้และเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องในปี ค.ศ. 228 [23]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
หมายเหตุ
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ จือจื้อทงเจี้ยน เล่มที่ 71.
- ↑ (諸葛亮圍祁山,南安、天水、安定三郡反應亮。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 9.
- ↑ (六年春,揚聲由斜谷道取郿,使趙雲、鄧芝為疑軍,據箕谷,魏大將軍曹真舉衆拒之。亮身率諸軍攻祁山,戎陣整齊,賞罰肅而號令明,南安、天水、安定三郡叛魏應亮,關中響震。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 35.
- ↑ (《魏略》曰:始,國家以蜀中惟有劉備。備既死,數歲寂然無聲,是以略無備預;而卒聞亮出,朝野恐懼,隴右、祁山尤甚,故三郡同時應亮。) อรรถาธิบายจากเว่ย์เลฺว่ในสามก๊กจี่ เล่มที่ 35.
- ↑ (建興六年,亮出軍向祁山,時有宿將魏延、吳壹等,論者皆言以為宜令為先鋒,而亮違眾拔謖,統大眾在前,) สามก๊กจี่ เล่มที่ 39.
- ↑ (諸葛亮出祁山。加郃位特進,遣督諸軍,拒亮將馬謖於街亭。謖依阻南山,不下據城。郃絕其汲道,擊,大破之。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 17.
- ↑ (与魏將張邰戰于街亭,為邰所破,士卒离散。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 39.
- ↑ (建興六年,屬參軍馬謖先鋒。謖舍水上山,舉措煩擾,平連規諫謖,謖不能用,大敗於街亭。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 43.
- ↑ (諸葛亮出祁山。加郃位特進,遣督諸軍,拒亮將馬謖於街亭。謖依阻南山,不下據城。郃絕其汲道,擊,大破之。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 17.
- ↑ (朗素與馬謖善,謖逃亡,朗知情不舉,亮恨之,免官還成都。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 41.
- ↑ (眾盡星散,惟平所領千人,鳴鼓自持,魏將張郃疑其伏兵,不往偪也。於是平徐徐收合諸營遺迸,率將士而還。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 43.
- ↑ (亮進無所据,退軍還漢中。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 39.
- ↑ (謖下獄物故,亮為之流涕。良死時年三十六,謖年三十九。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 39.
- ↑ ((亮)戮謖以謝眾。) (แปลว่า (จูกัด) เหลียงประหาร (ม้า) เจ๊กเพื่อขอขมาต่อมวลชน) ตันซิ่ว. สามก๊กจี่, เล่มที่ 35, ชีวประวัติจูกัดเหลียง
- ↑ (丞相亮既誅馬謖及將軍張休、李盛,奪將軍黃襲等兵,平特見崇顯,加拜參軍,統五部兼當營事。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 43.
- ↑ (壽父為馬謖參軍,謖為諸葛亮所誅,壽父亦坐被髡,諸葛瞻又輕壽。壽為亮立傳,謂亮將略非長,無應敵之才,言瞻惟工書,名過其實。) จิ้นชู เล่มที่ 82.
- ↑ (朗素與馬謖善,謖逃亡,朗知情不舉,亮恨之,免官還成都。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 41.
- ↑ (丞相亮既誅馬謖及將軍張休、李盛,奪將軍黃襲等兵,平特見崇顯,加拜參軍,) สามก๊กจี่ เล่มที่ 43.
- ↑ (襄陽記曰:謖臨終與亮書曰:「明公視謖猶子,謖視明公猶父,原深惟殛鯀興禹之義,使平生之交不虧於此,謖雖死無恨於黃壤也。」) อรรถาธิบายจากเซียงหยางจี้ใน สามก๊กจี่ เล่มที่ 39.
- ↑ (於時十萬之眾為之垂涕。) อรรถาธิบายจากเซียงหยางจี้ใน สามก๊กจี่ เล่มที่ 39.
- ↑ (帝遣真督諸軍軍郿,遣張郃擊亮將馬謖,大破之。安定民楊條等略吏民保月支城,真進軍圍之。條謂其衆曰:「大將軍自來,吾願早降耳。」遂自縛出。三郡皆平。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 9.
- ↑ 22.0 22.1 "街亭之战位在何处" [Where was the Battle of Jieting?]. Gansu Financial Daily (ภาษาจีน). 2 September 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-04-16. สืบค้นเมื่อ 5 May 2023.
- ↑ Roberts, Moss (1976). Three Kingdoms Volume IV. Beijing: Foreign Languages Press. p. 2179. ISBN 978-7-119-00590-4.