ข้ามไปเนื้อหา

ซุนหลิม (ซุน เชิน)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ซุนหลิม (ซุน เชิน)
孫綝
อัครมหาเสนาบดี (丞相 เฉิงเซี่ยง)
ดำรงตำแหน่ง
3 ธันวาคม ค.ศ. 258 (258) – 18 มกราคม ค.ศ. 259 (259)
กษัตริย์ซุนฮิว
ก่อนหน้าซุนจุ๋น
ถัดไปเอียงเหียง
เจ้ามณฑลเกงจิ๋ว (荊州牧 จิงโจวมู่)
ดำรงตำแหน่ง
3 ธันวาคม ค.ศ. 258 (258) – 18 มกราคม ค.ศ. 259 (259)
กษัตริย์ซุนฮิว
มหาขุนพล (大將軍 ต้าเจียงจฺวิน)
ดำรงตำแหน่ง
ธันวาคม ค.ศ. 256 (256) – 3 ธันวาคม ค.ศ. 258 (258)
กษัตริย์ซุนเหลียง
ก่อนหน้าซุนจุ๋น
ถัดไปเตงฮอง
ขุนพลยุทธพิทักษ์ (武衛將軍 อู่เว่ย์เจียงจฺวิน)
ดำรงตำแหน่ง
19 ตุลาคม ค.ศ. 256 (256) – ธันวาคม ค.ศ. 256 (256)
กษัตริย์ซุนเหลียง
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิดค.ศ. 232[a]
เสียชีวิต18 มกราคม พ.ศ. 259 (27 ปี)[a]
นครหนานจิง มณฑลเจียงซู
บุพการี
  • ซุน ชั่ว (บิดา)
ญาติดูพงศาวลีง่อก๊ก
อาชีพขุนพล, ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
ชื่อรองจื่อทง (子通)
บรรดาศักดิ์หย่งหนิงโหว (永寧侯)

ซุนหลิม (ค.ศ. 232 – 18 มกราคม ค.ศ. 259)[a] มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า ซุน เชิน (จีน: 孫綝; พินอิน: Sūn Chēn) ชื่อรอง จื่อทง (จีน: 子通; พินอิน: Zǐtōng) เป็นขุนพลและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งรัฐง่อก๊กในยุคสามก๊กของจีน ซุนหลิมปกครองในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในรัชสมัยของจักรพรรดิซุนเหลียงและซุนฮิว ความขัดแย้งระหว่างซุนหลิมและซูนเหลียงทำให้ในที่สุดซุนหลิมปลดซุนเหลียงจากตำแหน่งจักรพรรดิและตั้งซุนฮิวขึ้นครองราชย์แทน แต่ซุนหลิมก็ถูกสังหารโดยซุนฮิวในระหว่างการก่อรัฐประหารโดยซุนฮิว

ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

[แก้]

ซุนหลิมเป็นลูกพี่ลูกน้องกันกับซุนจุ๋นที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ลำดับก่อนหน้า ทั้งคู่เป็นเหลนชายของซุนเจ้งผู้เป็นพระปิตุลา (อา) ของซุนกวนจักรพรรดิผู้ก่อตั้งรัฐง่อก๊ก ซุนหลิมและซุนจุ๋นเป็นหลานปู่ของซุน เก่า (孙暠)[2] มีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับหน้าที่การงานของซุนหลิมในช่วงต้น ๆ จนกระทั่งเมื่อซุนจุ๋นล้มป่วยกะทันหันในปี ค.ศ. 256 และซุนจุ๋นเลือกจะถ่ายโอนอำนาจให้กับซุนหลิม ซุนหลิมเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นานและซุนหลิมขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ขุนพลลิกี๋โกรธมากเมื่อทราบเรื่องดังกล่าว (เนื่องจากลิกี๋ก็ไม่พอใจซุนจุ๋นจากรูปแบบการปกครองแบบเผด็จการและไม่ได้สร้างผลงานใด ๆ มาแต่ก่อน) ลิกี๋จึงร่วมมือกับเสนาบดีเตงอิ๋น พยายามจะโค่นล้มซุนหลิม ซุนหลิมใช้กำลังทหารตอบโต้ กองกำลังของซุนหลิมเอาชนะเตงอิ๋นและลิกี๋ได้ เตงอิ๋นและตระกูลถูกประหารชีวิต ส่วนลิกี๋ฆ่าตัวตาย หลังซุนหลิมเอาชนะเตงอิ๋นและลิกี๋ได้ก็ยิ่งมีความเย่อหยิ่งมากขึ้น[3]

ในปี ค.ศ. 257 จักรพรรดิซุนเหลียงพระชนมายุ 14 พรรษาเริ่มจัดการราชการสำคัญบางอย่างด้วยพระองค์เอง พระองค์ก่อตั้งกองกำลังรักษาพระองค์ซึ่งประกอบด้วยชายหนุ่มและข้าราชการที่มีอายุไล่เลี่ยกับพระองค์ โดยตรัสว่าพระองค์ตั้งพระทัยจะเติบโตไปด้วยกันกับพวกเขา บางครั้งพระองค์ยังทรงตั้งคำถามถึงการติดสินใจของซุนหลิม ซุนหลิมเริ่มรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องจักรพรรดิหนุ่มซุนเหลียง[4]

กบฏในฉิวฉุนครั้งที่ 3

[แก้]

ต่อมาในปีเดียวกัน จูกัดเอี๋ยนขุนพลของรัฐวุยก๊กเชื่อว่าสุมาเจียวผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งวุยก๊กกำลังคิดการจะยังราชบัลลังก์ จูกัดเอี๋ยนจึงประกาศก่อกบฏและขอการสนับสนุนจากง่อก๊ก กองกำลังขนาดเล็กนำโดยบุนขิมอดีตขุนพลวุยก๊กที่แปรพักตร์เข้าด้วยง่อก๊กจึงเร่งยกกำลังพลมาช่วย แต่ซุนหลิมนำทัพหลักและเลือกจะตั้งค่ายไกลออกไปจากฉิวฉุนที่จูกัดเอี๋ยนกำลังถูกทัพสุมาเจียวล้อมไว้ และซุนหลิมก็ตั้งมั่นโดยไม่ได้ทำการใด ๆ เมื่อซุนหลิมสั่งให้ขุนพลจูอี้ให้พยายามช่วยเหลือฉิวฉุนโดยใช้กำลังพลที่เหนื่อยล้าและไม่ได้กินอิ่ม จูอี้ก็ปฏิเสธ ซุนหลิมจึงสั่งประหารชีวิตจูอี้ ทำให้ผู้คนที่ชิ่นชมทักษะทางการทหารและความซื่อสัตย์ของจูอี้รู้สึกโกรธเคือง เมื่อซุนหลิมไม่สามารถทำอะไรได้ การก่อกบฏของจูกัดเอี๋ยนก็ล้มเหลวในปี ค.ศ. 258 กองกำลังของบุนขิมก็ตกเป็นเชลยของวุยก๊ก[5]

ซุนหลิมรู้ว่าผู้คนในง่อก๊กรวมถึงจักรพรรดิหนุ่มซุนเหลียงต่างก็โกรธตน ซุนหลิมจึงเลือกจะไม่กลับไปนครหลวงเกี๋ยนเงียบ แต่กลับส่งคนสนิทของตนไปดูแลการป้องกันนครหลวงแทน ซุนเหลียงยิ่งกริ้วมากขึ้น และวางแผนร่วมกับกิมก๋งจู๋ที่เป็นพระเชษฐภคินี, ขุนพลเล่าเสง (劉丞/劉承 หลิว เฉิง), จวนเสียง (全尚 เฉฺวียน ช่าง) พระสัสสุระ (พ่อตา) และจวนกี๋ (全記 เฉวียน จี้) พระเทวัน (พี่เขยหรือน้องเขย) เพื่อโค่นล้มซุนหลิม แต่จวนเสียงไม่ได้ปิดบังแผนการจากภรรยาซึ่งลูกพี่ลูกน้องของซุนหลิม ภรรยาของจวนเสียงจึงไปบอกซุนหลิมในเรื่องนี้ ซุนหลิมจึงเร่งให้จับตัวจวนเสียงและสังหารเล่าเสง จากนั้นจึงนำทหารล้อมพระราชวังและบังคับขุนนางคนอื่น ๆ ให้เห็นพ้องที่จะปลดซุนเหลียงลงจากตำแหน่งจักรพรรดิ โดยการประกาศเท็จต่อผู้คนว่าซุนเหลียงประชวนด้วยพระโรคทางจิต ซุนเหลียงถูกลดสถานะลงเป็น "อ๋องแห่งห้อยเข" (會稽王 ไค่วจีหวาง)[6]

ความล่มจมและการเสียชีวิต

[แก้]

จากนั้นซุนหลิมจึงตั้งให้พระเชษฐาของซุนเหลียงคือซุนฮิวผู้เป็นอ๋องแห่งลองเอี๋ย (琅邪王 หลางหยาหวาง) ขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ ซุนฮิวเพิ่มห้าอำเภอให้เขตศักดินาของซุนหลิม รวมถึงตั้งให้เหล่าน้องชายของซุนหลิมขึ้นมีบรรดาศักดิ์โหวเพื่อเป็นการเอาใจซุนหลิม แต่ต่อมาไม่นานซุนหลิมก็มีเรื่องขัดแย้งกับจักรพรรดิซุนฮิวเนื่องจากเหตุการณ์เล็ก ๆ คือเรื่องที่ซุนหลิมนำเนื้อและสุรามายังพระราชวังโดยตั้งใจจะรวมงานเลี้ยงกับจักรรรดิ แต่ซุนฮิวทรงปฏิเสธของถวาย ซุนหลิมจึงนำอาหารและสุราไปยังบ้านของขุนพลเตียวปอ แสดงความรู้สึกผิดหวังที่ซุนฮิวทรงปฏิเสธให้เตียวปอฟัง รวมถึงแสดงความเห็นว่าตนควรเลือกคนอื่นขึ้นเป็นจักรพรรดิ เตียวปอทูลรายงานเรื่องคำบ่นของซุนหลิมนี้แก่ซุนฮิว ซุนฮิวจึงทรงวิตกในเรื่องซุนหลิม แต่ยังคงแสดงพระองค์ภายนอกว่าทรงโปรดปรานซุนหลิม ซุนหลิมเริ่มกังวลเกี่ยวกับจุดยืนของตนต่อจักรพรรดิ จึงทูลขอออกจากนครหลวงเกี๋ยนเงียบ (建業 เจี้ยนเย่; ปัจจุบันคือนครหนานจิง มณฑลเจียงซู) เพื่อไปทำหน้าที่ป้องกันนครหลวงรองคือบู๊เฉียง (武昌 อู่ชาง; ปัจจุบันคือนครเอ้อโจว มณฑลหูเป่ย์) ซุนฮิวทรงอนุญาต[7]

อย่างไรก็ตาม ซุนฮิวเริ่มทรงกังวลว่าซุนหลิมจะเข้ายึดบู๊เฉียงและก่อกบฏ พระองค์จึงทรงสมคบคิดกับเตียวปอและมหาขุนพลเตงฮองจะสังหารซุมหลิมระหว่างเทศกาลล่าปา ต่อมาข่าวจะรั่วไหล ซุนหลิมรู้สึกวิตกกังวลแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธผู้แทนพระองค์ที่ซุนฮิวทรงส่งมาเชิญซุนหลิม ซุนหลิมจึงเดินทางไปร่วมเทศกาล โดยเห็นว่าตนอาจจะออกจากเทศกาลไปด้วยข้ออ้างว่าจวนของตนถูกไฟไหม้ แต่ซุนหลิมออกไปไม่สำเร็จและถูกจับกุมโดยทหารของเตงฮองและเตียวปอ ซุนหลิมทูลร้องขอชีวิตต่อซุนฮิว ขอถูกเนรเทศไปมณฑลเกาจิ๋ว (ปัจจุบันคือภาคเหนือของประเทศเวียดนาม) หรือให้กลายเป็นทาสแทน แต่ซุนฮิวทรงปฏิเสธโดยตรัสกับซุนหลิมว่าตัวซุนหลิมไม่ได้เสนอทางเลือกเช่นนี้กับเตงอิ๋นและลิกี๋ ซุนหลิมจึงถูกประหารชีวิตพร้อมด้วยสมาชิกในตระกูล นอกจากนี้ซุนฮิวยังรู้สึกละอายพระทัยที่จะอยู่ร่วมตระกูลกับซุนจุ๋น (ซุน จฺวิ้น) และซุนหลิม (ซุน เชิน) จึงมีรับสั่งให้ถอดชื่อของทั้งคู่ออกจากตระกูลซุน และเรียกทั้งสองด้วยชื่อว่ากู้ จฺวิ้น (故峻) และกู้ เชิน (故綝) แทน[8]

ดูเพิ่ม

[แก้]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. 1.0 1.1 1.2 ชีวประวัติของซุนหลิมในสามก๊กจี่บันทึกว่าซุนหลิมเสียชีวิตในวันอู้เฉิน (戊辰) ในเดือน 12 ของศักราชหย่งอาน (永安) ปีที่ 1 ของศักราชในรัชสมัยของซุนฮิว และซุนหลิมเสียชีวิตขณะอายุ 28 ปี (ตามการนับอายุแบบเอเชียตะวันออก)[1] วันที่ซุนหลิมเสียชีวิตเทียบได้กับวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 259 ในปฏิทินกริกอเรียน เนื่องจากซุนหลิมเสียชีวิตขณะอายุ 27 ปีใน ค.ศ. 259 เมื่อคำนวณแล้ว ปีเกิดของซุนหลิมจึงเป็นปี ค.ศ. 232

อ้างอิง

[แก้]
  1. ([永安元年十二月]戊辰臘會, ... 綝起離席,奉、布目左右縛之。 ... 遂斬之。 ... 綝死時年二十八。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 64.
  2. (孙峻字子远,孙坚弟静之曾孙也。静生暠,暠生恭,为散骑侍郎。恭生峻。....孙𬘭字子通,与峻同祖。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 64
  3. สามก๊กจี่, บทที่ 64, หน้าที่ 1446
  4. สามก๊กจี่, หน้าที่ 1448
  5. สามก๊กจี่, หน้าที่ 1447
  6. สามก๊กจี่, หน้าที่ 1448
  7. สามก๊กจี่, หน้าที่ 1450
  8. สามก๊กจี่, หน้าที่ 1451

บรรณานุกรม

[แก้]
  • ตันซิ่ว (1977) [คริสต์ทศวรรษ 280 หรือ 290]. เผย์ ซงจือ (บ.ก.). 三國志 [สามก๊กจี่ (ซานกั๋วจื้อ)]. Taipei: Dingwen Printing.