สนธิสัญญาอึลซา
หน้าลงตรารับรองที่จัดแสดง | |
วันร่าง | 9 พฤศจิกายน 1905 |
---|---|
วันลงนาม | 17 พฤศจิกายน 1905 |
ที่ลงนาม | พระตำหนักชุงมย็องจ็อน, ฮันซ็อง, เกาหลี |
วันมีผล | 17 พฤศจิกายน 1905 |
ผู้ลงนาม |
สนธิสัญญาอึลซา | |||||||
ชื่อภาษาเกาหลี | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ฮันกึล | 을사조약 | ||||||
ฮันจา | 乙巳條約 | ||||||
| |||||||
ชื่อภาษาญี่ปุ่น | |||||||
คันจิ | 第二次日韓協約 | ||||||
ฮิรางานะ | だいにじにっかんきょうやく | ||||||
|
สนธิสัญญาอึลซา (เกาหลี: 을사조약, อึลซา-โจยัค) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ สนธิสัญญาญี่ปุ่น-เกาหลีฉบับที่สอง (ญี่ปุ่น: 第二次日韓協約; โรมาจิ: Dai-niji nikkan kyōyaku; ทับศัพท์: ได-นิจิ นิกกัน เกียวยากุ) เป็นสนธิสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างจักรวรรดิเกาหลีกับจักรวรรดิญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1905 โดยมีการลงนามเมื่อ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1905[1] สนธิสัญญาฉบับนี้ คือการที่เกาหลียินยอมอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่นในฐานะรัฐในอารักขา ถือเป็นการรับรองสถานะของกองทหารญี่ปุ่นในเกาหลีให้ถูกต้องตามกฎหมาย ญี่ปุ่นมีอำนาจกำหนดนโยบายต่างประเทศของเกาหลีทั้งหมด แต่การปกครองภายในและนโยบายด้านอื่นยังดำเนินโดยข้าราชการชาวเกาหลี สนธิสัญญาฉบับนี้มีขึ้นภายหลังจากที่ญี่ปุ่นสามารถเอาชนะรัสเซียได้ในสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ที่ยุติไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้า[2]
คำว่า "อึลซา" หรือ "อุลซา" (을사) ในภาษาเกาหลีนั้น มาจากการที่วันลงนามในสนธิสัญญานี้ เกิดขึ้นในปีที่ 42 ตามระบบแผนภูมิสวรรค์[3]
การลงนาม
[แก้]9 พฤศจิกายน 1905 อิโต ฮิโรบูมิ เดินทางถึงกรุงฮันซอง (กรุงโซล) และเข้าถวายพระราชสาสน์จากจักรพรรดิเมจิจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นแก่จักรพรรดิโกจงแห่งเกาหลี เพื่อต้องการให้จักรพรรดิโกจงลงพระนามในสนธิสัญญา ซึ่งพระองค์ก็ไม่ยิมยอม ต่อมาในวันที่ 15 พฤศจิกายน อิโตได้บัญชาให้กองทหารญี่ปุ่นเข้าล้อมวังหลวงไว้ เพื่อกดดันให้พระองค์ทรงลงพระนาม
17 พฤศจิกายน พลเอก ฮาเซนาวะ โยชิมิชิ ผู้บัญชาการกองทหารรักษาการณ์ประจำเกาหลี พร้อมด้วย อิโต ฮิโรบูมิ และกองทหารญี่ปุ่นส่วนหนึ่ง ได้เข้าไปยังพระที่นั่งจุงเมียงจอน ซึ่งเป็นพระที่นั่งสถาปัตยกรรมตะวันตก ที่ตั้งอยู่ในพระราชวังด็อกซุกอุง เพื่อเกลี้ยกล่อมให้จักรพรรดิเกาหลีลงพระนามในสนธิสัญญา แต่พระองค์ก็ได้ปฏิเสธ ดังนั้น อิโต จึงบีบบังคับด้วยกำลังทหารให้คณะรัฐมนตรีเกาหลีลงนาม[4] อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเกาหลี ฮัน กยูซอล ปฏิเสธการลงนามอย่างเสียงดัง อิโตจึงสั่งให้ทหารนำตัวเขาไปขัง และขู่ว่าถ้าเขายังไม่หยุดโวยวายเสียงดังจะสังหารเขา[5] เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ จึงมีรัฐมนตรีเกาหลี 5 คนซึ่งเรียกว่า "5 รัฐมนตรี" ยอมลงนาม คือ รัฐมนตรีศึกษาธิการ อี วันยง, รัฐมนตรีกองทัพ อี กวนแท็ก, รัฐมนตรีมหาดไทย อี จียอง, รัฐมนตรีต่างประเทศ พัก เจซุน และ รัฐมนตรีเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม กวอน จุงฮยอน โดยที่จักรพรรดิโกจงไม่ได้ทรงร่วมลงพระนาม
ข้อโต้แย้ง
[แก้]ภายหลังการลงนามในสนธิสัญญาผ่านพ้น จักรพรรดิโกจงได้ทรงส่งราชสาสน์ส่วนพระองค์ไปยังบรรดาประมุขแห่งรัฐของประเทศมหาอำนาจ เพื่อขอแนวร่วมเพื่อต่อต้านการลงนามที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย[6] โดยพระองค์ได้ส่งราชสาสน์ลงตราราชลัญจกรไปยัง 8 ประมุขแห่งรัฐ คือ
- พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร
- ประธานาธิบดี อาร์ม็อง ฟาลีแยร์ แห่งฝรั่งเศส
- จักรพรรดินีโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย
- จักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย
- พระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 3 แห่งอิตาลี
- สมเด็จพระเจ้าเลออปอลที่ 2 แห่งเบลเยียม
- จักรพรรดิกวังซวี่แห่งจักรวรรดิชิง
- จักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี[6]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ Korean Mission to the Conference on the Limitation of Armament, Washington, DC, 1921–1922. (1922). Korea's Appeal , p. 35, ที่กูเกิล หนังสือ; excerpt, "Alleged Treaty, dated November 17, 1905."
- ↑ Clare, Israel et al. (1910). Library of universal history and popular science, p. 4732., p. 4732, ที่กูเกิล หนังสือ
- ↑ Kodansha encyclopedia of Japan, Vol 4, 1983, p. 289; "Ulsa is the designation in the sexagenary cycle for the year corresponding to 1905"
- ↑ McKenzie, F. A. Korea's Fight for Freedom. 1920.
- ↑ 이토 히로부미는 직접~ :한계옥 (1998년 4월 10일). 〈무력을 앞장 세워 병탄으로〉, 《망언의 뿌리를 찾아서》, 조양욱, 1판 1쇄, 서울: (주)자유포럼, 97~106쪽쪽. ISBN 89-87811-05-0
- ↑ 6.0 6.1 Lee Hang-bok. "The King's Letter," English JoongAng Daily. September 22, 2009.
บรรณานุกรม
[แก้]- Beasley, William G. (1987). Japanese Imperialism, 1894–1945. Oxford: Oxford University Press. ISBN 0198215754 ISBN 9780198215752; ISBN 9780198221685; OCLC 14719443
- Carnegie Endowment for International Peace, Division of International Law. (1921). Pamphlet 43: Korea, Treaties and Agreements." The Endowment: Washington, D.C. OCLC 1644278
- Clare, Israel Smith; Hubert Howe Bancroft and George Edwin Rines. (1910). Library of universal history and popular science. New York: The Bancroft society. OCLC 20843036
- Cordier, Henri and Edouard Chavannes. (1905). "Traité entre le Japon et la Corée," Revue internationale de Sinologie (International Journal of Chinese studies). Leiden: E. J. Brill. OCLC 1767648
- Duus, Peter (1995). The Abacus and the Sword: The Japanese Penetration of Korea, 1895–1910. Berkeley: University of California Press. ISBN 9780520086142 ISBN 0520086147; ISBN 978-0-520-21361-6; ISBN 0-520-21361-0; OCLC 232346524
- Korean Mission to the Conference on the Limitation of Armament, Washington, D.C., 1921–1922. (1922). Korea's Appeal to the Conference on Limitation of Armament. Washington: U.S. Government Printing Office. OCLC 12923609
- Pak, Chʻi-yŏng. (2000). Korea and the United Nations. The Hague: Kluwer Law International. ISBN 9789041113825; OCLC 247402192
- Tae-Jin, Yi. "Treaties Leading to Japan’s Annexation of Korea: What Are the Problems?." Korea Journal 56.4 (2016): 5-32. online