สนธิสัญญาซานฟรานซิสโก
สนธิสัญญาสันติภาพกับญี่ปุ่น | |
---|---|
![]() ชิเงรุ โยชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ลงนามในสนธิสัญญาซานฟรานซิสโกเมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1951 ในโรงอุปรากรอนุสรณ์สงครามที่ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย | |
วันลงนาม | 8 กันยายน 1951 |
ที่ลงนาม | ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ |
วันมีผล | 28 เมษายน 1952 |
ผู้เจรจา |
|
ภาคี | ประเทศญี่ปุ่นกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง 48 ประเทศ |
ผู้เก็บรักษา | รัฐบาลสหรัฐอเมริกา |
ภาษา | |
![]() |
สนธิสัญญาซานฟรานซิสโก (อังกฤษ: Treaty of San Francisco; ญี่ปุ่น: サンフランシスコ講和条約; โรมาจิ: San-Furanshisuko kōwa-Jōyaku) มีีอีกชื่อว่า สนธิสัญญาสันติภาพกับญี่ปุ่น (Treaty of Peace with Japan; ญี่ปุ่น: 日本国との平和条約; โรมาจิ: Nihon-koku to no Heiwa-Jōyaku) เป็นสนธิสัญญาที่สถาปนาความสัมพันธ์แบบสันติอีกครั้งระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับฝ่ายสัมพันธมิตรในนามของสหประชาชาติด้วยการยุติสถานะทางกฎหมายของสงคราม การครอบครองทางทหาร และจัดให้มีการชดใช้สำหรับการกระทำอันโหดร้ายจนถึงสงครามโลกครั้งที่สอง สนธิสัญญานี้ลงนามโดย 49 ประเทศในวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1951 ที่โรงอุปรากรอนุสรณ์สงคราม ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย[2] ประเทศอิตาลีและจีนไม่ได้รับเชิญ โดยประเทศหลังเนื่องจากความไม่เห็นพ้องที่ว่าประเทศใดเป็นตัวแทนชาวจีนระหว่างสาธารณรัฐจีนหรือสาธารณรัฐประชาชนจีน เกาหลีก็ไม่ได้รับเชิญด้วยเหตุผลคล้ายกันว่าประเทศใดเป็นตัวแทนชาวเกาหลีระหว่างเกาหลีใต้หรือเกาหลีเหนือ[3]
สนธิสัญญามีผลในวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1952 โดยทำให้บทบาทของญี่ปุ่นในฐานะมหาอำนาจจักรวรรดิสิ้นสุด จัดสรรค่าชดเชยแก่ชายสัมพันธมิตรและอดีตเชลยศึกที่ได้รับผลกระทบจากอาชญากรรมสงครามของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ยุติการยึดครองญี่ปุ่นหลังสงครามของฝ่ายสัมพันธมิตร และคืนอำนาจอธิปไตยเต็มรูปแบบ สนธิสัญญานี้พึ่งพากฎบัตรสหประชาชาติ[4] กับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนอย่างมาก[5]เพื่อประกาศเป้าหมายของสัมพันธมิตร ในมาตราที่ 11 ประเทศญี่ปุ่นยอมรับข้อตัดสินของศาลทหารระหว่างประเทศสำหรับตะวันออกไกลและศาลอาชญากรรมสงครามฝ่ายสัมพันธมิตรอื่น ๆ ที่บังคับใช้กับญี่ปุ่นทั้งในและนอกประเทศ[6]
ประเทศที่เข้าร่วมประชุม[แก้]
อาร์เจนตินา, ออสเตรเลีย, เบลเยียม, โบลิเวีย, บราซิล, กัมพูชา, แคนาดา, ชิลี, โคลอมเบีย, คอสตาริกา, คิวบา, เชโกสโลวาเกีย, ดอมินีกา, เอกวาดอร์, อียิปต์, เอลซัลวาดอร์, เอธิโอเปีย, ฝรั่งเศส, กรีซ, กัวเตมาลา, เฮติ, ฮอนดูรัส, อินโดนีเซีย, อิหร่าน, อิรัก, ลาว, เลบานอน, ไลบีเรีย, ลักเซมเบิร์ก, เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นิการากัว, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, ซาอุดีอาระเบีย, สหภาพโซเวียต, ศรีลังกา, แอฟริกาใต้, ซีเรีย, ตุรกี, สหราชอาณาจักร, สหรัฐ, อุรุกวัย, เวเนซุเอลา, เวียดนาม และญี่ปุ่น
พม่า, อินเดีย และยูโกสลาเวีย ได้รับการเชิญแต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม เกาหลีใต้ไม่ได้รับการเชิญเนื่องจากไม่ได้รับการยอมรับเป็นสัมพันธมิตรรวมทั้งประเทศไทย จีน ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่ก็ไม่ได้รับการเชิญเนื่องจากอยู่ระหว่างสงครามกลางเมือง ยังไม่สามารถตัดสินว่าใครจะเป็นตัวแทนประเทศที่ถูกต้องตามกฎหมาย
การลงนามและการให้สัตยาบัน[แก้]
มี 49 ประเทศที่ร่วมลงนาม ยกเว้นเชโกสโลวาเกีย โปแลนด์ และสหภาพโซเวียต เนื่องจากทั้งสามประเทศปฏิเสธที่จะเข้าร่วมสนธิสัญญา ประเทศโคลอมเบีย อินโดนีเซีย และลักเซมเบิร์กได้ร่วมลงนามแต่ไม่ได้ทำสัตยาบัน
อ้างอิง[แก้]
- ↑ มาตราที่ 27
- ↑ "Document 735 Editorial Note". Foreign Relations of the United States, 1951, Asia and the Pacific. Vol. VI, PART 1.
- ↑ "San Francisco Peace Conference".
- ↑ คำปรารภ และมาตราที่ 5
- ↑ คำปรารภ
- ↑ "Treaty of Peace with Japan (with two declarations). Signed at San Francisco, on 8 September 1951" (PDF).
อ่านเพิ่ม[แก้]
- Calder, Kent. "Securing security through prosperity: the San Francisco System in comparative perspective." The Pacific Review 17.1 (2004): 135–157. online
- Hara, Kimie. "50 years from San Francisco: Re-examining the peace treaty and Japan's territorial problems." Pacific Affairs (2001): 361–382. online
- Lee, Seokwoo. "The 1951 San Francisco peace treaty with Japan and the territorial disputes in East Asia." Pacific Rim Law and Policy Journal 11 (2002): 63+ online.
- Trefalt, Beatrice. "A peace worth having: delayed repatriations and domestic debate over the San Francisco Peace Treaty." Japanese Studies 27.2 (2007): 173–187.
- Zhang, Shengfa. "The Soviet-Sino boycott of the American-led peace settlement with Japan in the early 1950s." Russian History 29.2/4 (2002): 401–414.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/4a/Commons-logo.svg/30px-Commons-logo.svg.png)
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/4c/Wikisource-logo.svg/38px-Wikisource-logo.svg.png)
- Treaty of Peace with Japan Signed at San Francisco on 8 September 1951
- Agreement for the Settlement of Disputes arising under Article 15(a) of the Treaty of Peace with Japan
- Prime Minister Shigeru Yoshida's Speech at the San Francisco Peace Conference
- John Foster Dulles's Speech at the San Francisco Peace Conference
- Understanding the San Francisco Peace Treaty's Disposition of Formosa and the Pescadores เก็บถาวร 2012-02-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Joint Communique of the Government of Japan and the Government of the People's Republic of China 1972
- Chihiro Hosoya, "The Road to San Francisco: The Shaping of American Policy on the Japanese Peace Treaty" The Japanese Journal of American Studies 1(1981) pp. 87–117 เก็บถาวร 2022-03-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สนธิสัญญาซานฟรานซิสโก
- สนธิสัญญาสงครามโลกครั้งที่สอง
- สนธิสัญญาสงครามเย็น
- การเมืองในสงครามโลกครั้งที่สอง
- ผลที่ตามมาหลังสงครามโลกครั้งที่สองในประเทศญี่ปุ่น
- ผลที่ตามมาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
- รัฐศาสตร์
- นิติศาสตร์
- สนธิสัญญาสันติภาพ
- สนธิสัญญาสันติภาพเกี่ยวข้องกับญี่ปุ่น
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 4
- สนธิสัญญาในคริสต์ศตวรรษที่ 20
- ค่าปฏิกรรม
- ซานฟรานซิสโก (รัฐแคลิฟอร์เนีย)
- การล่มสลายของจักรวรรดิญี่ปุ่น
- ความสัมพันธ์ญี่ปุ่น–สหรัฐ
- ความสัมพันธ์ญี่ปุ่น–สหภาพโซเวียต
- ฝ่ายสัมพันธมิตร (สงครามโลกครั้งที่สอง)