ข้ามไปเนื้อหา

สงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย

ยุทธการที่ฟองเทนอย โดยPierre L'Enfant สีน้ำมันบนผ้าใบ
วันที่16 ธันวาคม ค.ศ. 1740 – 18 ตุลาคม ค.ศ. 1748
(7 ปี 10 เดือน 2 วัน)
สถานที่
ผล สนธิสัญญาแอกซ์-ลา-ชาแปล
ดินแดน
เปลี่ยนแปลง
คู่สงคราม
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ
กำลัง
ค.ศ. 1740:
ราชอาณาจักรฝรั่งเศส 140,000 นาย
ราชอาณาจักรปรัสเซีย 80,000 นาย[1]
ค.ศ. 1747:
ราชาธิปไตยฮาพส์บวร์ค 204,000 นาย[2]
ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ 120,000 นาย[3]
อาณาจักรดยุคแห่งซาวอย 55,000 นาย[4]
ความสูญเสีย

ฝรั่งเศส
ถูกฆ่าและบาดเจ็บ 158,400 นาย[5]
การสูญเสียทางน้ำ: เรือรบแนวเส้นประจัญบาน 20 ลำ, ฟริเกต 16 ลำ, เรือเล็ก 20 ลำ, เรือพาณิชย์ 2,185 ลำ และปืนใหญ่นาวี 1,738 อัน[2]

ปรัสเซีย:
ถูกฆ่าและบาดเจ็บ 23,100 นาย[5]

สเปน:
ถูกฆ่าและบาดเจ็บ 3,000 นาย[5]
การสูญเสียทางน้ำ: เรือรบแนวเส้นประจัญบาน 17 ลำ, ฟริเกต 7 ลำ, เรือพาณิชย์ 1249 ลำ และปืนใหญ่นาวี 1,276 อัน[2]

พระมหากษัตริย์ฮาพส์บวร์ค:
ถูกฆ่าและบาดเจ็บ 148,000 นาย[5]

บริเตนใหญ่:
ถูกฆ่าและบาดเจ็บ 26,400 นาย[5]
การสูญเสียทางน้ำ: เรือรบแนวเส้นประจัญบาน 14 ลำ, ฟริเกต 7 ลำ, เรือเล็ก 28 ลำ, เรือพาณิชย์ 3,238 ลำ และปืนใหญ่นาวี 1,012 อัน[2]

สาธารณรัฐดัตช์:
ถูกฆ่าและบาดเจ็บ 14,630 นาย[5]

ซาวอย-ซาร์ดีเนีย:
ถูกฆ่าและบาดเจ็บ 7,840 นาย[5]
ทหารเสียชีวิต 450,000 นายและบาดเจ็บ/หายตัวไป 300,000 นาย (ทั้งสองฝั่ง)[6]

สงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย (อังกฤษ: War of the Austrian Succession; เยอรมัน: Österreichischer Erbfolgekrieg) เป็นสงครามมหาอำนาจสุดท้ายของราชวงศ์บูร์บง-ฮาพส์บวร์ค โดยเกิดขึ้นจาก ค.ศ. 1740 ถึง 1748 และถือเป็นจุดที่ราชอาณาจักรปรัสเซียเริ่มกลายเป็นมหาอำนาจ[7]

สงครามเริ่มจากการที่เมื่อจักรพรรดิคาร์ลที่ 6 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เสด็จสวรรคตในค.ศ. 1740 พระนางมาเรีย เทเรซา ผู้เป็นพระราชบุตรเพียงองค์เดียวจึงได้สืบบัลลังก์ของฮังการี, โครเอเชีย, โบฮีเมีย, ออสเตรีย และปาร์มา ต่อจากพระราชบิดา ซึ่งขัดกับกฎหมายแซลิกที่ห้ามสตรีครองแว่นแคว้น นอกจากนี้ ด้วยความที่พระนางซึ่งเป็นสตรีไม่สามารถสืบตำแหน่งจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ได้ จึงผลักดันให้พระสวามีคือฟรันซ์ สเตฟัน ดยุกแห่งลอแรน ขึ้นเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์แทน

การที่สตรีได้ครองแผ่นดินซึ่งขัดกับกฎหมาย ทำให้บรรดามหาอำนาจออกมาเรียกร้องสิทธิในบัลลังก์จักรวรรดิให้แก่เจ้านครที่เป็นบุรุษและเหมาะสมกว่า ประเทศปรัสเซียและประเทศฝรั่งเศสมีความต้องการบั่นทอนอำนาจของราชวงศ์ฮาพส์บวร์คแห่งออสเตรียเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในขณะที่ประเทศคู่อริของทั้งปรัสเซียและฝรั่งเศสอย่างบริเตนใหญ่และสาธารณรัฐดัตช์ก็คอยสนับสนุนฮาพส์บวร์ค สเปนซึ่งกำลังทำสงครามกับบริเตนใหญ่มาตั้งแต่ปี 1739 จึงถือโอกาสนี้เข้าข้างฝ่ายปรัสเซียและฝรั่งเศสเพื่อหมายจะขจัดอิทธิพลของราชวงศ์ฮาพส์บวร์คเหนือคาบสมุทรสเปนในคราวเดียว เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

การรบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในภาคพื้นดิน ในขณะที่ชาติอื่นๆยังคงใช้ทหารรับจ้างมาทำการรบ ประเทศปรัสเซียผ่านการปฏิรูปกองทัพเป็นระบบทหารประจำการแล้ว จึงมีแสนยานุภาพที่เหนือกว่า ประเทศปรัสเซียสามารถมีชัยเหนือราชวงศ์ฮาพส์บวร์คในสงครามไซลีเชียครั้งที่หนึ่งในปี 1742 ซึ่งทำให้ปรัสเซียได้เข้าครอบครองดินแดนไซลีเชีย ปรัสเซียได้รับชัยชนะอีกครั้งในสงครามไซลีเชียครั้งที่สองในปี 1744 ในขณะที่ฝรั่งเศสก็ทำการโจมตีอาณานิคมต่างๆของบริเตนใหญ่ในทวีปอเมริกาเหนือเป็นสงครามที่เรียกว่าสงครามพระเจ้าจอร์จ

สงครามครั้งนี้จบลงด้วยสนธิสัญญาแอกซ์-ลา-ชาแปลในปี 1748 พระนางมาเรีย เทราซา สูญเสียดินแดนไซลีเชียให้แก่ปรัสเซีย และเสียแคว้นปาร์มาและปีอาเชนซาให้แก่สเปน แลกกับการยอมรับพระนางเป็นอาร์ชดัชเชสแห่งออสเตรียและกษัตริย์แห่งโบฮีเมีย ส่วนฝรั่งเศสไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก ความสงบสุขอยู่ได้ไม่นานนัก ความอยากได้ดินแดนไซลีเชียคืนมาของออสเตรียทำให้เกิดการเปลี่ยนดุลอำนาจครั้งใหญ่ในยุโรปเมื่อปี 1756 ซึ่งนำไปสู่สงครามครั้งใหญ่กว่าอย่างสงครามเจ็ดปี

กำลังทหารใน ค.ศ. 1740

[แก้]
คู่สงคราม เดินเท้า ทหารม้า ทหารปืนใหญ่ วิศวกร อื่น ๆ ทหารอาสา ข้อมูล
ออสเตรีย 76,000 32,000 2,600 150 0 .. [8]
บาวาเรีย 36,000 4,000 200 0 0 .. [9]
ฝรั่งเศส 111,000 19,000 3,000 .. 0 30,000 [10]
บริเตนใหญ่ 19,000 7,000 2,000 .. 6,000[a] 130,000 [11]
ฮันโนเฟอร์ 18,000 5,000 360 23 0 0 [12]
เฮ็สเซิน-คัสเซิล 18,000 4,000 900 .. .. 0 [13]
โคโลญ 1,000 0 0 0 0 0 [14]
ฟัลทซ์ 9,000 1,000 200 15 0 0 [15]
ปรัสเซีย 76,000 22,000 1,200 43 0 0 [16]
ซาวอย-ซาร์ดิเนีย 41,000 5,000 .. .. 0 0 [17]
ซัคเซิน 20,000 8,800 600 0 0 0 [18]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Dwyer, Philip G. The Rise of Prussia 1700-1830. United Kingdom: Taylor & Francis, 2014. Page 14.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 Clodfelter 2002, p. 78.
  3. Dwyer, p. 14.
  4. Gregory Hanlon. "The Twilight Of A Military Tradition: Italian Aristocrats And European Conflicts, 1560-1800." Routledge: 1997. Page 120: "Gradual buildup brought the army close to 55,000 effective soldiers (including the provincial militia regiments) in 1747. This level of two percent of the total population, while lower than that of Prussia or Sweden, was far ahead of France, Austria, and most other European states, and certainly had no rival in Italy."
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 5.6 Statistics of Wars, Oppressions and Atrocities of the Eighteenth Century
  6. Clodfelter 2002, p. 81.
  7. Anderson 1995, pp. 3–4.
  8. K. und K. Kriegsarchiv (1896); Oesterreichischer Erbfolge-Krieg, vol. 1:1, Verlag L. W. Seidel & Sohn, Wien, pp. 372, 432–434, 444–445
  9. K. und K. Kriegsarchiv (1896), vol. 1:1, pp. 589–590
  10. K. und K. Kriegsarchiv (1896), vol. 1:1, pp. 639, 642
  11. K. und K. Kriegsarchiv (1896), vol. 1:1, pp. 620–621, 626–627
  12. K. und K. Kriegsarchiv (1896), vol. 1:1, pp. 610–611
  13. K. und K. Kriegsarchiv (1896), vol. 1:1, p. 605
  14. K. und K. Kriegsarchiv (1896), vol. 1:1, p. 602
  15. K. und K. Kriegsarchiv (1896), vol. 1:1, p. 601
  16. K. und K. Kriegsarchiv (1896), vol. 1:1, p. 573
  17. K. und K. Kriegsarchiv (1896), vol. 1:1, pp. 661–662
  18. K. und K. Kriegsarchiv (1896), vol. 1:1, pp. 585–586

ข้อมูล

[แก้]
  • Anderson, M. S. (1995). The War of the Austrian Succession 1740–1748. Routledge. ISBN 978-0-582-05950-4.
  • Armour, Ian (2012). A History of Eastern Europe 1740–1918. Bloomsbury Academic Press. ISBN 978-1-849-66488-2.
  • Asprey, Robert B. (1986). Frederick the Great; The Magnificent Enigma (2007 ed.). iUniverse. ISBN 978-0-595-46900-0.
  • Baugh, Daniel A (2004). "Mathews, Thomas 1676-1751". Oxford Dictionary of National Biography (online ed.). Oxford University Press. doi:10.1093/ref:odnb/18332. (ต้องรับบริการหรือเป็นสมาชิกหอสมุดสาธารณะสหราชอาณาจักร)
  • Black, Jeremy (1994). British Foreign Policy in an Age of Revolutions, 1783–1793. Cambridge University Press. ISBN 978-0-521-45001-0.
  • Black, Jeremy (1994b). European Warfare, 1660–1815. London: UCL Press. ISBN 978-1-85728-172-9.
  • Black, Jeremy (1998). America or Europe?: British Foreign Policy, 1739–63. University College London Press. ISBN 0-203-49947-6.
  • Borneman, Walter R. (2007). The French and Indian War: Deciding the Fate of North America. HarperCollins. ISBN 978-0-060-76184-4.
  • Browning, Reed S. (1993). The War of the Austrian Succession. New York (NY): St.Martin's Press. ISBN 978-0-312-09483-6.
  • Carlyle, Thomas (1873). History of Friedrich II of Prussia, called Frederick the Great. Vol. V. London.
  • Chandler, David (1990). The Art of Warfare in the Age of Marlborough. Spellmount Limited. ISBN 0-946771-42-1.
  • Clark, Christopher (2006). Iron Kingdom: The Rise and Downfall of Prussia, 1600–1947. Belknap Press. ISBN 978-0-674-03196-8.
  • Clodfelter, Micheal (2002). Warfare and Armed Conflicts: A Statistical Reference to Casualty and Other Figures 1500-1999 (2017 ed.). McFarland & Co. ISBN 978-0786412044.
  • Coxe, William (1847). History of the House of Austria (2010 ed.). Nabu Publishing. ISBN 978-1-148-32947-5.
  • Creveld, Martin van (1977). Supplying War: Logistics from Wallenstein to Patton. Cambridge University Press. ISBN 978-0-521-21730-9.
  • Davies, Norman (1982). God's Playground: A History of Poland; Volume 1: The Origins to 1795 (2005 ed.). Oxford University Press. ISBN 978-0-199-25339-5.
  • De Jomini, General Baron Antoine Henri (1862). Treatise on grand military operations. Vol. I. New York (NY).
  • De Périni, Hardÿ (1896). Batailles françaises; Volume VI (ภาษาฝรั่งเศส). Ernest Flammarion, Paris.
  • Duffy, Christopher (2015) [1985]. Frederick the Great: A Military Life (2015 ed.). Routledge. ISBN 978-1138924659.
  • Dull, Jonathan R. (2007). The French Navy and the Seven Years' War. University of Nebraska Press. ISBN 978-0-803-21731-7.
  • Fortescue, Sir John William (1899). A History of the British Army. Vol. II. London: MacMillan.
  •  บทความนี้ ประกอบด้วยข้อความจากสิ่งพิมพ์ซึ่งปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติHannay, David (1911). "Austrian Succession, War of the" . ใน Chisholm, Hugh (บ.ก.). สารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 1911. Vol. 3 (11 ed.). สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์. pp. 39–45.
  • Harding, Richard (2013). The Emergence of Britain's Global Naval Supremacy: The War of 1739–1748. Boydell Press. ISBN 978-1843838234.
  • Hochedlinger, Michael (2003). Austria's Wars of Emergence, 1683-1797 (Modern Wars in Perspective). Routledge. ISBN 978-0582290846.
  • Holborn, Hajo (1982). A History of Modern Germany, Volume 2: 1648–1840: 1648–1840 v. 2. Princeton University Press. ISBN 978-0-691-00796-0.
  • Horn, David Bayne (1929). "Saxony in the War of the Austrian Succession". The English Historical Review. 44 (173): 33–47. doi:10.1093/ehr/XLIV.CLXXIII.33. JSTOR 552493.
  • Ingrao, Charles (2000). The Habsburg Monarchy, 1618–1815 (New Approaches to European History). Cambridge University Press. ISBN 978-0-521-78034-6.
  • Lee, Stephen J. (1984). Aspects of European History, 1494–1789. London: Routledge. ISBN 978-0-416-37490-2.
  • Lincoln, W. Bruce (1981). The Romanovs: Autocrats of All the Russias. New York (NY): The Dial Press.
  • Luvaas, Jay (1966). Frederick the Great on the Art of War. Free Press. ISBN 978-1-111-78540-6.
  • Mahan, J. Alexander (1932). Maria Theresa of Austria. New York (NY): Thomas Y. Crowell Pub.
  • McKay, Derek (1983). The Rise of the Great Powers 1648–1815. Routledge. ISBN 978-0582485549.
  • McLynn, Frank (2008). 1759: The Year Britain Became Master of the World. Vintage. ISBN 978-0-099-52639-1.
  • McNally, Michael (2017). Fontenoy 1745: Cumberland's bloody defeat. Osprey. ISBN 978-1472816252.
  • Pritchard, James (2004). In Search of Empire: The French in the Americas, 1670–1730. Cambridge: Cambridge University Press. ISBN 978-0-521-82742-3.
  • Riding, Jacqueline (2016). Jacobites: A New History of the 45 Rebellion. Bloomsbury. ISBN 978-1408819128.
  • Rodger, Brendan (2005). The Command of the Ocean: A Naval History of Britain 1649-1815. W. W. Norton & Company. ISBN 978-0-393-06050-8.
  • Showalter, Dennis (2012). Frederick the Great: A Military History. Frontline Books. ISBN 978-1848326408.
  • Smith, Rhea Marsh (1965). Spain: A Modern History. Ann Arbor (MI): University of Michigan Press.
  • Starkey, Armstrong (2003). War in the Age of Enlightenment 1700–1789. Praeger. ISBN 0-275-97240-2.
  • Thomson, Mark A. (1957). The War of the Austrian Succession, in The New Cambridge Modern History, Volume VII. Cambridge University Press. online pp. 416–439
  • Till, Geoffrey (2006). Development of British Naval Thinking: Essays in Memory of Bryan Ranft. Routledge. ISBN 978-0-714-65320-4.
  • Vego, Milan N. (2003). Naval Strategy and Operations in Narrow Seas. Frank Cass. ISBN 978-0-714-65389-1.
  • Young, Patricia T.; Levy, Jack S. (2011). "Domestic politics and the escalation of commercial rivalry: Explaining the War of Jenkins' Ear, 1739–48". European Journal of International Relations. 17 (2): 209–232. doi:10.1177/1354066109350054. S2CID 18541144.