ภาษาเขมรลาวเดิม
ภาษาเขมรลาวเดิม | |
---|---|
ประเทศที่มีการพูด | ไทย |
ชาติพันธุ์ | เขมรลาวเดิม |
ตระกูลภาษา | ขร้า-ไท
|
รหัสภาษา | |
ISO 639-3 | – |
ภาษาเขมรลาวเดิม บ้างเรียก ภาษาลาวเดิม เพื่อจำแนกกลุ่มโดยเฉพาะ เป็นภาษาหนึ่งที่ใช้สื่อสารในจังหวัดราชบุรี มีลักษณะใกล้เคียงกับภาษาไทยถิ่นอีสาน และไม่มีความสัมพันธ์กับภาษาเขมรเลย[1] เข้าใจว่าบรรพบุรุษของชาวเขมรลาวเดิม เป็นชาวลาวที่ถูกกองทัพเขมรกวาดต้อนไปไว้กรุงกัมพูชา ครั้นกองทัพไทยไปตีกัมพูชาเมื่อ พ.ศ. 2314 จึงได้กวาดต้อนทั้งชาวลาวและเขมรจากเมืองโพธิสัตว์ เสียมราฐ และพระตะบองกลับมาด้วย จึงได้ชื่อนี้มา[2] ด้วยเหตุนี้ชาวเขมรที่ถูกกวาดต้อนมาจึงแบ่งเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มที่ใช้ภาษาไทยปนเขมร กับกลุ่มที่ใช้ภาษาลาว[3] เฉพาะกลุ่มที่ใช้ภาษาลาวพบได้ที่ตำบลเจ็ดเสมียน ตำบลคุ้งกระถิน ตำบลคุ้งน้ำวนในอำเภอเมืองราชบุรี, ตำบลวัดยางงาม ตำบลบ่อกระดาน ตำบลดอนทรายในอำเภอปากท่อ, ตำบลวัดเพลง ตำบลเกาะศาลพระในอำเภอวัดเพลง และตำบลหัวโพ ตำบลวังเย็น ตำบลวัดแก้ว ตำบลบางแพในอำเภอบางแพ แต่ปัจจุบันประชากรสองชาติพันธุ์นี้มักสมรสข้ามกลุ่มกันตามพลวัตทางสังคม[4] จากการศึกษาเมื่อ พ.ศ. 2546 พบว่ามีชุมชนที่ใช้ภาษาเขมรลาวเดิมเป็นภาษาเดียวจำนวน 9 หมู่บ้าน และชุมชนสองภาษา (ไทยกลางกับเขมรลาวเดิม) จำนวน 9 หมู่บ้าน[5]
ภาษาเขมรลาวเดิมใกล้เคียงกับภาษาลาวครั่งและลาวหลวงพระบาง จัดอยู่ในกลุ่มภาษาลาวหลวงพระบาง ตระกูลภาษาไทตะวันตกเฉียงใต้[6] ปัจจุบันมีสถานะเป็นภาษาในวงล้อม (Enclave language) เพราะล้อมรอบด้วยภาษาไทยกลางและภาษาลาวเวียง ในอนาคตชุมชนภาษาเขมรลาวเดิมอาจหายไปจากจังหวัดราชบุรีและไม่มีผู้ใดใช้ภาษานี้ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากมีการเปลี่ยนภาษา (language shift) ให้กลมกลืนกับภาษาอื่น โดยเฉพาะภาษาลาวครั่งเพราะภาษาทั้งสองมีความใกล้เคียงกันมากทั้งด้านศัพท์และเสียง สิ่งที่ต่างกันมีเพียงเสียงสระ ใ ไม้ม้วน ซึ่งภาษาเขมรลาวเดิมใช้เสียง [au] ในขณะที่ภาษาลาวครั่งใช้เสียง [ai] และพบว่าผู้พูดภาษาเขมรลาวเดิมที่มีอายุน้อยมักมีการแปรระหว่างเสียง [au] ~[ai] อีกทั้งประเพณีของคนกลุ่มนี้ไม่สู้จะมีเอกลักษณ์เด่นชัด[5]
ทั้งนี้ภาษาเขมรลาวเดิมจะมีการแปรเสียงต่าง ๆ ตามสำเนียงตน เช่น
- เสียงสระโอะ แปรเป็น เอะ เช่น หมด เป็น เหม็ด
- เสียงสระอุ แปรเป็น โอะ เช่น ตุ๊กแก เป็น ต๊กแก
- เสียงสระไอ แปรเป็น อา เช่น ใหม่ เป็น หมา
ปัจจุบันภาษาเขมรลาวเดิมใกล้สูญหาย เหลือเพียงคนสูงอายุใช้ในการสื่อสารเพียงไม่กี่คน เพราะชาวเขมรลาวเดิมมองว่าอัตลักษณ์ของตนนั้นดูน่าอับอายมากกว่าจะเป็นเรื่องน่าชื่นชม[4] ส่วนชาวเขมรลาวเดิมกลุ่มที่ใช้ภาษาเขมร กลับมีสถานะที่แย่กว่าเขมรลาวเดิมกลุ่มที่ใช้ภาษาลาว เพราะการสำรวจใน พ.ศ. 2545 พบผู้ใช้ภาษาเขมรราว 8-10 คนซึ่งเป็นผู้สูงอายุทั้งหมด โดยใช้ภาษาไทยเจือเขมรเป็นคำ ๆ เป็นภาษาผสมสำหรับสื่อสารกับคนรุ่นเดียวกัน และไม่ตกทอดสู่ลูกหลาน[5]
ตัวอย่าง
[แก้]- ฮู้ แปลว่า รู้
- ฮัก แปลว่า รัก
- เว้า หรือ ว้าว แปลว่า พูด
- เซ้า แปลว่า เช้า
- บ่หย่าน แปลว่า ไม่กลัว
- ข้าวเม้า แปลว่า ข้าวใหม่
- ถั่วค้าง แปลว่า ถั่วฝักยาว
- ถั่วคุด แปลว่า ถั่วลิสง
- ไปเด๋ามา แปลว่า ไปไหนมา
- ไปเฮ็ดนา แปลว่า ไปทำนา
- ปวดแค้ว หรือปวดแข่ว แปลว่า ปวดฟัน
- ไปเดี๋ยวหกคืน แปลว่า ไปเดี๋ยวเดียวแล้วจะกลับ
- หกมื้อเด๋า แปลว่า กลับเมื่อไร
- หกมื้ออื้น แปลว่า กลับพรุ่งนี้
- ไปโพ้นไปพี้ แปลว่า ไปโน่นไปนี้
- แย้มอีหยัง แปลว่า มองอะไร
- หกบ้าน แปลว่า กลับบ้าน
- หกบ้านมื้อเด๋า แปลว่า กลับบ้านเมื่อไร
- แย้ม หรือ เย้ม แปลว่า มอง
- พก แปลว่า แอบ (ดู)
อ้างอิง
[แก้]- ↑ นงลักษณ์ สูงสุมาลย์ (2545). ระบบเสียงภาษาลาวเดิม ตำบลบ่อกระดาน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร. p. 4.
- ↑ วลัยลักษณ์ ทรงศิริ (21 สิงหาคม 2563). เขมรลาวเดิม และร่องรอยคนลาวในสังกัดขุนนางเขมรที่วัดเกาะศาลพระ. สยามเทศะ. p. 3. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-12-28. สืบค้นเมื่อ 2021-12-28.
- ↑ "ประวัติความเป็นมา" (PDF). สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-05-02. สืบค้นเมื่อ 3 พฤษภาคม 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 4.0 4.1 วลัยลักษณ์ ทรงศิริ (21 สิงหาคม 2563). เขมรลาวเดิม และร่องรอยคนลาวในสังกัดขุนนางเขมรที่วัดเกาะศาลพระ. สยามเทศะ. p. 2-3. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-12-28. สืบค้นเมื่อ 2021-12-28.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 สุวัฒนา เลี่ยมประวัติ, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (24 มกราคม พ.ศ. 2546). "แผนที่ภาษาศาสตร์". ศูนย์ข้อมูลภาคตะวันตก หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ นงลักษณ์ สูงสุมาลย์ (2545). ระบบเสียงภาษาลาวเดิม ตำบลบ่อกระดาน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร. p. 128.