ฟ้าใส ใจชื่นบาน
ฟ้าใส ใจชื่นบาน | |
---|---|
กำกับ | เกริกชัย ใจมั่น นภาพร พูลเจริญ |
อำนวยการสร้าง | โชคชัย ลาภรัตนากุล |
นักแสดงนำ | พิชญะ วัชจิตพัน ร่มฉัตร ขำศิริ สุรสิทธิ์ เอี่ยมโอภาสวงศ์ ค่อม ชวนชื่น ฝันดี จรรยาธนากร อ่าง เถิดเทิง ไพโรจน์ สังวริบุตร สมชาย ศักดิกุล วาสนา สิทธิเวช ประกาศิต โบสุวรรณ จิรเกษ จินาทอง พิสิทธิ์ กิรติการกุล อัครพงษ์ วงศ์อินทรักษ์ |
ผู้จัดจำหน่าย | พระนครฟิล์ม |
วันฉาย | 15 มกราคม พ.ศ. 2552 |
ความยาว | 90 นาที |
ประเทศ | ประเทศไทย |
ภาษา | ภาษาไทย |
ข้อมูลจาก IMDb | |
ข้อมูลจากฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย | |
ข้อมูลจากสยามโซน |
ฟ้าใส ใจชื่นบาน เป็นภาพยนตร์รัก-ตลก ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2552 เรื่องราวเกี่ยวกับนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 และหลบหนีเข้าป่าไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย กำกับโดย เกริกชัย ใจมั่น และนภาพร พูลเจริญ
นักแสดง
[แก้]- พิชญะ วัชจิตพัน รับบท ก้อง
- ร่มฉัตร ขำศิริ รับบท เม็ดทราย
- สุรสิทธิ์ เอี่ยมโอภาสวงศ์ รับบท เที่ยง
- ค่อม ชวนชื่น รับบท จอบ
- ฝันดี จรรยาธนากร รับบท คิด
- อ่าง เถิดเทิง รับบท เสียม
- ไพโรจน์ สังวริบุตร รับบท พ่อของก้อง
- วาสนา สิทธิเวช รับบท แม่ของทราย
- ประกาศิต โบสุวรรณ รับบท สหายนำ
- สมชาย ศักดิกุล รับบท หมอ
- จิรเกษ จินาทอง รับบท สมชาย / สมหญิง
- พิสิทธิ์ กีรติการกุล รับบท บรรณาธิการ
- อัครพงษ์ วงศ์อินทรักษ์ รับบท ทหารพราน 1
- พิมล โชคกำเนิด รับบท ทหารพราน 2
- อดิศร กล้าหาญ รับบท ทหารพราน 3
- เลอวิทย์ สังข์สิทธิ์ รับบท ทหารพราน 4
งานสร้าง
[แก้]เกริกชัย ใจมั่น และ นภาพร พูลเจริญ เป็นหนึ่งในทีมโปรดิวเซอร์ของรายการโทรทัศน์ คดีเด็ด ฉายทางช่อง 7 เริ่มงานสร้างจากคำแนะนำของโชคชัย ลาภรัตนากุล ผู้บริหารบริษัท I-RIM ผู้ผลิตรายการคดีเด็ด โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจากบริษัท รอยัล มัลติมีเดีย ดีเวลล็อปเมนต์ จำกัด
เกริกชัย ใจมั่น และนภาพร พูลเจริญ ซึ่งร่วมเป็นผู้เขียนบทด้วย เริ่มงานค้นคว้าข้อมูลโดยใช้ทีมงานของรายการคดีเด็ด [1] ซึ่งตามปกติต้องไปถ่ายทำตามสถานีตำรวจทั่วประเทศอยู่แล้ว เก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วนำเกร็ดข้อมูลต่างๆ มารวบรวมเพื่อเขียนบทภาพยนตร์
ภาพยนตร์ถ่ายทำที่จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดเชียงใหม่
ผลตอบรับ
[แก้]เนื่องจากเจ้าของหนังรายแรกไม่มีความเข้าใจและรู้จักหนังในแนวนี้ดีพอ พอหนังสร้างเสร็จแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์เจ้าของหนังเช็คดูหนังแล้วมองว่าหนังเรื่องนี้ล้มเหลวแน่ จึงรีบนำหนังไปเร่ขายราคาถูกๆ อย่างฉุกละหุกเร่งด่วนต่อคนในวงการหลายๆ เจ้า ทำให้ทุกคนมองหนังเรื่องนี้ในแนวลบและไม่มีราคา และทุกคนก็พากันชิ่งหนีหมด กว่าจะหาคนซื้อหนังเรื่องนี้ได้ ก็เหลืออีกไม่กี่วันจะถึงกำหนดฉายแล้ว จึงทำให้หนังเรื่องนี้ไม่สามารถโปรโมทอะไรได้มากนักและทำให้หนังเรื่องนี้ไม่มีกระแสเลย แต่กระนั้นหนังเรื่องนี้ก็ยังสามารถทำรายได้ในสัปดาห์แรกชนะหนังทุกเรื่องที่ฉายในเวลาเดียวกันนี้ได้ทั้งหมดแม้จะเป็นรายได้แค่เพียง 11.36 ล้านบาทก็ตาม
หลังจากหนังเรื่องนี้ต้องออกจากโรงภาพยนตร์อย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่นั้นมา หนังเรื่องนี้ก็กลายเป็นสัมภะเวสีล่องลอยอยู่ในโลกออนไลน์เหมือนผีไม่มีเจ้าของ แต่ด้วยคุณภาพที่อัดแน่นอยู่ในตัวหนัง ทำให้ข้อผิดพลาดข้างต้นไม่สามารถทำลายล้างมันได้ คุณภาพในตัวของมันกลับดึงดูดคนในโลกออนไลน์ได้อยู่ตลอดเวลา เป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี เป็นหลายปี มันดึงดูดคนได้ไม่หยุดไม่หย่อน ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม มันกลายเป็นหนังที่แอบซ่อนอยู่ดวงใจของคนจำนวนมากขึ้นทุกทีๆ หลายๆคน ดูนับเป็นสิบๆ รอบ ย้อนกลับมาดูวันไหน เดือนไหน ปีไหนก็สนุกทุกที ทุกๆ คนต่างก็คิดเหมือนๆ กันว่า นี่เป็นหนังที่ตัวเองแอบชอบอยู่คนเดียว โดยไม่รู้เลยว่ามีคนที่คิดเหมือนๆ กันอยู่อีกมากมายนับไม่ถ้วน และเพิ่มจำนวนขึ้นตลอดเวลาด้วย นับเป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับหนังเรื่องไหนมาก่อนเลย
และในที่สุด พระนครฟิลม์ ก็เป็นนายทุนรายแรกที่สังเกตเห็นปรากฏการณ์ประหลาดนี้ พระนครฟิลม์ซื้อหนังเรื่องนี้มาฉายในโลกออนไลน์อย่างมีลิขสิทธิ์ถูกต้องครั้งแรกในวันที่ 24 ธันวาคม 2018 พร้อมๆ กับตัดมุกตลกในหนังปล่อยเป็นคลิปสั้นๆ อีกจำนวนมาก ทำให้หนังเรื่องนี้กลับมามีตัวตนอีกครั้ง
เนื้อเรื่อง
[แก้]จากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ทราย (ร่มฉัตร ขำศิริ) นักศึกษาสาวที่ต้องการเข้าไปช่วยเพื่อนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถูกกันตัวออกมา เธอได้พบกับ ก้อง (พิชญะ วัชจิตพันธ์) กับพรรคพวก ได้แก่ จอบ (ค่อม ชวนชื่น) เสียม (อ่าง เถิดเทิง) และ คิด (ฝันดี จรรยาธนากร) ที่ปั๊มน้ำมัน ทันใดนั้นแม่มารับทรายกลับบ้านแต่ทรายกลับตั้งใจผิดหลายครั้งก็เลยต้องทะเลาะกันจนเกือบเสียฟอร์ม ในที่สุดทรายก็ยอมที่จะกลับบ้าน
วันหนึ่งก้องชวนเพื่อน ๆ เข้าป่าเพราะต้องการหนีจากชีวิตในเมือง หารู้ไม่เลยว่ากำลังเดินทางไปพร้อมกับพวกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ก้องได้พบกับทราย ซึ่งบัดนี้กลายเป็น "สหายเม็ดทราย" ไปแล้ว ก้องและพวกจึงจำเป็นต้องแสร้งใช้ชีวิตอยู่ในป่าไปก่อน สหายเม็ดทรายนั้นชื่นชอบ สหายเที่ยง (สุรสิทธิ์ เอี่ยมโอภาสวงศ์) คอมมิวนิสต์หนุ่มผู้มีอุดมการณ์ ซึ่งต่างจากก้องและพรรคพวก และวันหนึ่งที่จอบและเสียมเผลอไปตัดเอาต้นข้าวเพราะคิดว่าเป็นหญ้าจนเหี้ยนหมด ทั้งหมดจึงต้องออกเดินทางไปขอเสบียงจากชาวบ้าน และที่นั่น ทำให้สหายเม็ดทรายได้ล่วงรู้ถึงความจริงว่า ความสุขที่แท้ของคนอยู่ที่ใจ หาใช่อุดมการณ์อะไรไม่
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ปฏิวัติเบาๆ ฉบับคดีเด็ด, ประวัติศาสตร์..ก็ฮาได้ ประวัติศาสตร์..ก็ขายได้[ลิงก์เสีย] เนชั่นสุดสัปดาห์, ปีที่ 17 ฉบับที่ 686, 16 มกราคม 2552
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- ฟ้าใสใจชื่นบาน ที่เว็บไซต์ ThaiFilmDb
- ชีวประวัติ ฟ้าใส ใจชื่นบาน ที่เว็บไซต์ หนังดี.คอม
- ฟ้าใส ใจชื่นบาน (2009) ที่สยามโซน
- ฟ้าใสใจชื่นบาน ปี 2009 เก็บถาวร 2024-03-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ที่ oldthaitv.com เก็บถาวร 2024-02-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน