ประเทศเอธิโอเปีย
สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย | |
---|---|
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | อาดดิสอาบาบา 9°1′N 38°45′E / 9.017°N 38.750°E |
ภาษาราชการ | โซมาลี ทือกรึญญา อาฟาร์ อามารา โอโรโม[1][2][3] |
กลุ่มชาติพันธุ์ | |
ศาสนา (ค.ศ. 2016[7]) |
|
การปกครอง | สหพันธ์ สาธารณรัฐระบบรัฐสภา[8] |
ซาห์เล เวิร์ก ซิวเด | |
อาบีย์ อาห์เม็ด | |
สภานิติบัญญัติ | สมัชชารัฐสภากลาง |
• สภาสูง | สภาสหพันธ์ |
• สภาล่าง | สภาผู้แทนราษฎร |
การก่อตั้ง | |
• ก่อตั้งจักรวรรดิ | ค.ศ. 1270 |
7 พฤษภาคม ค.ศ. 1769 | |
11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1855 | |
• รวมศูนย์ | ค.ศ. 1904 |
9 พฤษภาคม ค.ศ. 1936 | |
31 มกราคม ค.ศ. 1942 | |
• เริ่มต้นการปกครองของเผด็จการทหารเดร์ก | 12 กันยายน ค.ศ. 1974 |
28 พฤษภาคม ค.ศ. 1991 | |
21 สิงหาคม ค.ศ. 1995 | |
พื้นที่ | |
• รวม | 1,104,300[9] ตารางกิโลเมตร (426,400 ตารางไมล์) (อันดับที่ 26) |
0.7 | |
ประชากร | |
• 2021 ประมาณ | 117,876,227[10] (อันดับที่ 12) |
• สำมะโนประชากร 2007 | 73,750,932[6] |
92.7 ต่อตารางกิโลเมตร (240.1 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 123) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2022 (ประมาณ) |
• รวม | 4.01 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ[11] (อันดับที่ 58) |
• ต่อหัว | 3,407 ดอลลาร์สหรัฐ[12] |
จีดีพี (ราคาตลาด) | 2022 (ประมาณ) |
• รวม | 1.22591 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ[12] (อันดับที่ 65) |
• ต่อหัว | 1,040 ดอลลาร์สหรัฐ[12] |
จีนี (ค.ศ. 2015) | 35.0[13] ปานกลาง |
เอชดีไอ (ค.ศ. 2019) | 0.485[14] ต่ำ · อันดับที่ 173 |
สกุลเงิน | Birr (ETB) |
เขตเวลา | UTC+3 (เวลาแอฟริกาตะวันออก) |
ขับรถด้าน | ขวามือ |
รหัสโทรศัพท์ | +251 |
โดเมนบนสุด | .et |
เอธิโอเปีย (อังกฤษ: Ethiopia; โซมาลี: Itoobiya; ทือกรึญญา: ኢትዮጵያ; อาฟาร์: Itiyoppiya; อามารา: ኢትዮጵያ, ออกเสียง [i.tjo.p’ja]; โอโรโม: Itiyoophiyaa) หรือชื่อทางการคือ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย (อังกฤษ: Federal Democratic Republic of Ethiopia; โซมาลี: Jamhuuriyadda Dimuqraadiga Federaalka Itoobiya; ทือกรึญญา: ፌዴራላዊ ዴሞክራሲያዊ ሪፐብሊክ ኢትዮጵያ; อาฟาร์: Itiyoppiya Federaalak Demokraatik Rippeblikih; อามารา: የኢትዮጵያ ፌዴራላዊ ዴሞክራሲያዊ ሪፐብሊክ; โอโรโม: Rippabliikii Federaalawaa Dimokraatawaa Itiyoophiyaa) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลที่ตั้งอยู่ในส่วนแหลมของทวีปแอฟริกาในแอฟริกาตะวันออก มีพรมแดนติดกับเอริเทรียทางตอนเหนือ จิบูตีทางตะวันออกเฉียงเหนือ โซมาเลียทางทิศตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ เคนยาทางทิศใต้ ซูดานใต้ทางทิศตะวันตก และซูดานทางตะวันตกเฉียงเหนือ[a][15] เอธิโอเปียครอบคลุมพื้นที่ 1,112,000 ตารางกิโลเมตร (472,000 ตารางไมล์)[16] ข้อมูลเมื่อ 2023[update], มีประชากรอยู่ประมาณ 128 ล้านคน ทำให้เป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 13 ของโลก มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 2 ในแอฟริการองจากไนจีเรีย และเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลที่มีประชากรมากที่สุดในโลก[17][18] อาดดิสอาบาบา เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อยู่ห่างจากรอยแยกแอฟริกาตะวันออกหลายกิโลเมตร ซึ่งแบ่งประเทศออกเป็นแผ่นเปลือกโลกแอฟริกาและโซมาเลีย[19]
มนุษย์สมัยใหม่ที่มีโครงสร้างทางกายวิภาคถือกำเนิดมาจากเอธิโอเปียในยุคปัจจุบัน และออกเดินทางสู่ตะวันออกใกล้และที่อื่น ๆ ในยุคหินเก่าตอนกลาง[20][21][22][23][24] ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเอธิโอเปียได้รับการเสนอให้เป็นแหล่งกำเนิดของตระกูลภาษาแอโฟรเอชีแอติก[25] เอธิโอเปียเป็นประเทศที่เก่าแก่ที่สุดของแอฟริกา และเป็นหนึ่งในประเทศที่เก่าแก่ที่สุดในโลกด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี[26][27]ใน 980 ปีก่อนคริสต์ศักราช อาณาจักร D'mt ได้ขยายอาณาจักรเหนือเอริเทรียและทางตอนเหนือของเอธิโอเปีย ในขณะที่อาณาจักรอักซุมยังคงรักษาอารยธรรมที่เป็นเอกภาพในภูมิภาคนี้เป็นเวลา 900 ปี โดยศาสนาคริสต์ได้รับการยอมรับจากอาณาจักรในปี 330[28] หลังจากการล่มสลายของอาณาจักรอักซุมใน ค.ศ. 960 ราชวงศ์ซากเวได้ปกครองส่วนทางตอนเหนือและตอนกลางของเอธิโอเปีย จนกระทั่งถูกเยคูโน อัมลัค โค่นล้มใน ค.ศ. 1270 เป็นการก่อตั้งจักรวรรดิเอธิโอเปียและราชวงศ์โซโลมอน เมื่อถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 จักรวรรดิเติบโตขึ้นผ่านการขยายอาณาเขตและการต่อสู้กับดินแดนที่อยู่ติดกัน สิ่งที่น่าสังเกตมากที่สุดคือ สงครามเอธิโอเปีย–อาดาล (ค.ศ. 1529–1543) มีส่วนทำให้เกิดการแบ่งแยกของจักรวรรดิ ซึ่งท้ายที่สุดก็ตกอยู่ภายใต้การกระจายอำนาจที่เรียกว่า เซเมเน เมซาฟินต์ ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 จักรพรรดิเทโวโดรอสที่ 2 ทรงสละราชบัลลังก์เซเมเน เมซาฟินต์เมื่อต้นรัชสมัยของพระองค์ใน ค.ศ. 1855 ซึ่งถือเป็นการรวมตัวกันอีกครั้งของจักรวรรดิ[29]
ตั้งแต่ ค.ศ. 1878 เป็นต้นมา จักรพรรดิเมเนลิกที่ 2 ทรงเปิดการพิชิตดินแดนหลายครั้งซึ่งส่งผลให้เกิดพรมแดนปัจจุบันของเอธิโอเปีย ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เอธิโอเปียต้องปกป้องประเทศจากการรุกรานจากต่างประเทศ รวมทั้งจากอียิปต์และอิตาลี เป็นผลให้เอธิโอเปียรักษาอำนาจอธิปไตยของตนไว้ในช่วงการอาณานิคมแอฟริกา ใน ค.ศ. 1936 เอธิโอเปียถูกอิตาลีฟาสซิสต์ยึดครอง และผนวกกับเอริเทรียและโซมาลีแลนด์ที่อิตาลียึดครอง ต่อมาได้ก่อตั้งแอฟริกาตะวันออกของอิตาลี ใน ค.ศ. 1941 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพอังกฤษยึดครอง และได้ฟื้นฟูอธิปไตยโดยกองทัพอังกฤษอย่างสมบูรณ์ใน ค.ศ. 1944 หลังจากช่วงการปกครองของทหารคือเดร์ก ซึ่งเป็นรัฐบาลเผด็จการทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียตขึ้นสู่อำนาจใน ค.ศ. 1974 หลังจากโค่นล้มจักรพรรดิฮัยเลอ ซึลลาเซที่ 1 และราชวงศ์ซาโลมอน และได้ปกครองประเทศมาเกือบ 17 ปีท่ามกลางสงครามกลางเมืองเอธิโอเปีย หลังจากการล่มสลายของเดร์กใน ค.ศ. 1991 แนวร่วมประชาธิปไตยประชาชนปฏิวัติเอธิโอเปีย (EPPRDF) ได้ปกครองประเทศด้วยรัฐธรรมนูญใหม่และสหพันธรัฐตามชาติพันธุ์ ตั้งแต่นั้นมา เอธิโอเปียต้องเผชิญการปะทะกันระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ที่ยืดเยื้อ รวมถึงความไม่มั่นคงทางการเมือง ตั้งแต่ ค.ศ. 2018 กลุ่มต่าง ๆ ตามภูมิภาคและกลุ่มชาติพันธุ์ได้ก่อเหตุโจมตีด้วยอาวุธในสงครามที่ดำเนินอยู่หลายครั้งทั่วเอธิโอเปีย[30]
เอธิโอเปียเป็นรัฐที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ซึ่งมีกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 80 กลุ่ม ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่สุดในประเทศ โดยมีผู้นับถือศาสนาอิสลามจำนวนน้อยและมีเปอร์เซ็นต์เพียงเล็กน้อย รัฐอธิปไตยนี้เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งสหประชาชาติ กลุ่ม 24 ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด กลุ่ม 77 และองค์การเอกภาพแอฟริกา อาดดิสอาบาบาเป็นสำนักงานใหญ่ของสหภาพแอฟริกา หอการค้าและอุตสาหกรรมแอฟริกา คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งสหประชาชาติสำหรับแอฟริกา และองค์การนอกภาครัฐ เอธิโอเปียเข้าเป็นสมาชิกบริกส์เต็มรูปแบบใน ค.ศ. 2024[31]เอธิโอเปียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาน้อยที่สุด แต่บางครั้งก็ถือเป็นมหาอำนาจที่เกิดขึ้นใหม่[32][33] โดยเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เร็วที่สุดในประเทศแถบแอฟริกาใต้สะฮารา เนื่องจากมีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในการขยายอุตสาหกรรมการเกษตรและการผลิต[34] เกษตรกรรมเป็นภาคเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยคิดเป็นร้อยละ 36 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศใน ค.ศ. 2020[35] อย่างไรก็ตาม ในด้านรายได้ต่อหัวและดัชนีการพัฒนามนุษย์[36] ประเทศนี้ถือว่าเป็นประเทศที่ยากจน มีอัตราความยากจนสูง[37] สิทธิมนุษยชนต่ำ การเลือกปฏิบัติทางชาติพันธุ์อย่างกว้างขวาง และอัตราการรู้หนังสือเพียงร้อยละ 49[38]
ประวัติศาสตร์
[แก้]จักรวรรดิ
[แก้]ราชอาณาจักรอิตาลีโจมตีเอธิโอเปียเมื่อ พ.ศ. 2479 และเข้าครอบครองได้สำเร็จใน พ.ศ. 2484 จักรพรรดิองค์สุดท้ายของเอธิโอเปีย เฮลี เซลาสซีที่ 1 เป็นผู้จัดตั้งระบบรัฐสภาเมื่อ พ.ศ. 2474
คอมมิวนิสต์
[แก้]ตั้งแต่ พ.ศ. 2515 เกิดความแห้งแล้งอย่างต่อเนื่องจนเกิดความวุ่นวายภายในประเทศ จักรพรรดิเซลาสซีสละราชบัลลังก์เมื่อ พ.ศ. 2517 เปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบสาธารณรัฐเมื่อ พ.ศ. 2518 นอกจากนั้นยังเกิดสงครามภายในระหว่างกลุ่มการเมืองและเผ่าต่าง ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากซูดานและโซมาเลีย พ.ศ. 2521 เอธิโอเปียได้รับความช่วยเหลือจากสหภาพโซเวียตจนรบชนะทหารโซมาเลีย และมีการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างกันเมื่อ พ.ศ. 2531
การเมือง
[แก้]เอธิโอเปียปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบสหพันธรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข แบ่งการปกครองเป็น 9 รัฐ และ 2 เขตเป็นการปกครองพิเศษ ได้แก่ อาดดิสอาบาบา และเขตปกครองพิเศษไดร์ดาวา แม้เดิมเอธิโอเปียในระบอบกษัตริย์ ในปี 2517 มีการปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาล และโค่นล้มระบอบกษัตริย์ในปีต่อมา จากนั้นได้ปกครองประเทศด้วยสังคมนิยม และเปลี่ยนเป็นประชาธิปไตยในปี พ.ศ. 2534 แต่อย่างไรก็ตามก็ยังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองอยู่เสมอ โดยรัฐบาลถูกกล่าวหาจากฝ่ายค้านว่าทุจริตการเลือกตั้ง
ฝ่ายบริหารได้แก่
- ประธานาธิบดี เป็นประมุขประเทศมาจากการเลือกตั้งโดยสภาผู้แทนราษฏร มีวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี
- นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล มาจากการเสนอชื่อของพรรครัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
- ฝ่ายนิติบัญญัติประกอบด้วย 2 สภา ได้แก่
- สภาแห่งสหพันธรัฐมีลักษณะเดียวกับวุฒิสภา มี 112 ที่นั่ง
- สภาผู้แทนราษฏร มี 547 ที่นั่ง
ภูมิศาสตร์
[แก้]ด้วยพื้นที่ 1,104,300 ตารางกิโลเมตร (426,372.61 ตารางไมล์),[9] เอธิโอเปียเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 28 ของโลก ซึ่งมีขนาดพอ ๆ กับโบลิเวีย อยู่ระหว่างเส้นขนานที่ 3 เหนือกับเส้นขนานที่ 15 เหนือ และลองจิจูดเส้นเมริเดียนที่ 33 ตะวันออก และเส้นเมริเดียนตะวันออกที่ 48
พื้นที่ส่วนใหญ่ของเอธิโอเปียตั้งอยู่ในจะงอยแอฟริกา ซึ่งอยู่ทางตะวันออกสุดของทวีปแอฟริกา ดินแดนที่มีพรมแดนติดกับเอธิโอเปีย ได้แก่ เอริเทรีย จิบูตี โซมาเลีย เคนยา ซูดานใต้ และซูดาน ภายในเอธิโอเปียเป็นพื้นที่สูงสลับซับซ้อนที่ประกอบด้วยภูเขาและที่ราบสูงที่แยกออกเป็นสัดส่วนโดยหุบเขาเกรตริฟต์ ซึ่งทอดยาวไปทางตะวันตกเฉียงใต้ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ และล้อมรอบด้วยที่ราบลุ่มและทุ่งหญ้าสเตปป์ เอธิโอเปียมีภูมิประเทศที่หลากหลายโดยมีสภาพอากาศ ดิน พืชพรรณตามธรรมชาติ และรูปแบบการตั้งถิ่นฐานที่หลากหลาย
เศรษฐกิจ
[แก้]เศรษฐกิจเอธิโอเปียยังพึ่งพารายได้จากภาคกสิกรรมเป็นหลัก แม้รัฐบาลจะได้ปฏิรูปที่ดินเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร แต่เท่าที่ผ่านมายังไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากขาดการวางแผนที่ดี และการเพาะปลูกยังพึ่งพาแหล่งน้ำฝนตามธรรมชาติอยู่เกือบทั้งหมด มีปัญหาการชลประทานรวมทั้งวิธีการเพาะปลูกที่ล้าสมัย ในขณะเดียวกันภาคบริการของเอธิโอเปียก็เติบโตอย่างรวดเร็วจนกระทั่งปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 40 ของรายได้ประชาชาติ โดยภาคส่วนที่มีอัตราการเติบโตสูงได้แก่การบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว การก่อสร้างที่อยู่อาศัยและการคมนาคม รัฐบาลเอธิโอเปียมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งสัตว์ป่า แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเอธิโอเปียยังไม่มีการบริหารจัดการที่ดีเท่าใดนัก และยังล้าหลังเคนยาอยู่มาก ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเอธิโอเปียประมาณปีละ 2 แสนคน
นับตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบเสรีโดยอิงแนวทางของธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ภายใต้กรอบนโยบาย Sustainable Development and Poverty Reduction Programme (SDPRP) ตามเงื่อนไขของ IMF และประเทศผู้บริจาคต่าง ๆ ซึ่งถือได้ว่าประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจของนักลงทุน และบรรดาประเทศผู้บริจาคต่าง ๆ เนื่องจากการปฏิรูปเศรษฐกิจนำไปสู่ระบบเสรีเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป การแปรรูปรัฐวิสาหกิจยังมีน้อย และโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เช่น ถนน และระบบสาธารณูปโภค ยังไม่เอื้อต่อการลงทุนขนาดใหญ่
ความสำเร็จของการปฏิรูปเศรษฐกิจของเอธิโอเปียขึ้นอยู่กับความช่วยเหลือที่ได้รับจากประเทศผู้บริจาคเป็นสำคัญ ซึ่งในช่วงเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา ได้มีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ประเทศผู้บริจาคมีความห่วงกังวล เช่น การปราบปรามผู้ประท้วงฝ่ายค้านอย่างรุนแรง สงครามกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในโซมาเลีย และปัญหาชายแดนกับเอริเทรีย นอกจากนี้ กลุ่มกบฏ Ogaden National Liberation Front (ONLF) ยังได้โจมตีฐานขุดเจาะน้ำมันของจีนที่เมือง Ogaden เมื่อเดือนเมษายน 2550 ทำให้ผู้ลงทุนต่างชาติในเอธิโอเปียขาดความมั่นใจ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจเอธิโอเปียจะเติบโตในอัตราร้อยละ 7.5 ในปี 2550-2551 มีบริษัทต่างชาติใหม่ ๆ เข้าไปลงทุนในเอธิโอเปีย เช่น Starbucks รวมทั้งการลงทุนการผลิตพลังงานชีวภาพก็เพิ่มขึ้นด้วย
ประชากรศาสตร์
[แก้]กลุ่มชาติพันธุ์
[แก้]- โอโรโม ร้อยละ 34.49
- อามารา ร้อยละ 26.89
- โซมาลี ร้อยละ 6.20
- ตีเกรย์ ร้อยละ 6.07
- ซีดามา ร้อยละ 4.01
- กูราจ ร้อยละ 2.53
- โวเลย์ตา ร้อยละ 2.31
- ฮาดียา ร้อยละ 1.74
- อาฟาร์ ร้อยละ 1.73
- กาโม ร้อยละ 1.50
- เคฟฟีโช ร้อยละ 1.18
และชาติพันธุ์อื่น ๆ อีกร้อยละ 11[39][40]
ศาสนา
[แก้]จากการสำรวจสำมะโนประชากรปี พ.ศ. 2550 พบว่าชาวเอธิโอเปียร้อยละ 62.8 นับถือศาสนาคริสต์ (ในจำนวนนี้เป็นผู้นับถือนิกายเอธิโอเปียนคอปติกออร์ทอดอกซ์ร้อยละ 43.5 และนิกายอื่น ๆ ร้อยละ 19.3), ร้อยละ 33.9 นับถือศาสนาอิสลาม, ร้อยละ 2.6 นับถือความเชื่อดั้งเดิม และร้อยละ 0.6 นับถือศาสนาอื่น ๆ [39]
วัฒนธรรม
[แก้]ในวันที่เป็นชนเผ่าจะมีความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งดูได้จากหลังคาที่นำมาทำขอหมู่บ้านต่าง ๆ เอธิโอเปียเป็นแหล่งกำเนิดมนุษย์ยุคแรก แต่ไม่ใช่อาณาจักรแรก เพราะยังคงไม่มีความเจริญทางปัญญา แต่มีเครื่องมือเครื่องใช้ที่ประดิษฐ์ขึ้นเก่าแก่ที่สุดในโลก การตั้งชื่อคนแบบเอธิโอเปียนำมาใช้เช่นเดียวกับในประเทศพม่าคือ ใช้ชื่อพ่อหรือปู่แทนนามสกุล[ต้องการอ้างอิง] การนับวันในเอธิโอเปียใช้ปฏิทินแบบเอธิเปีย ภาษาประจำชาติของเอธิโอเปียคือภาษาอามาราซึ่งเป็นภาษาแรก ๆ ที่มีระบบการเขียนในแอฟริกา
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Ethiopia to Add 4 more Official Languages to Foster Unity". Ventures Africa. 4 March 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 March 2020. สืบค้นเมื่อ 2 February 2021.
- ↑ "Ethiopia is adding four more official languages to Amharic as political instability mounts". Nazret. Nazret. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-08-17. สืบค้นเมื่อ 2 February 2021.
{{cite web}}
: ระบุ|accessdate=
และ|access-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help) - ↑ Shaban, Abdurahman. "One to five: Ethiopia gets four new federal working languages". Africa News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 December 2020. สืบค้นเมื่อ 23 October 2020.
- ↑ "Ethiopian Constitution".
- ↑ "Table 2.2 Percentage distribution of major ethnic groups: 2007" (PDF). Summary and Statistical Report of the 2007 Population and Housing Census Results. Population Census Commission. p. 16. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 25 March 2009. สืบค้นเมื่อ 14 December 2020.
{{cite web}}
: ระบุ|accessdate=
และ|access-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help) - ↑ 6.0 6.1 "Country Level". 2007 Population and Housing Census of Ethiopia. CSA. 13 July 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 February 2019. สืบค้นเมื่อ 18 January 2013.
- ↑ "Ethiopia- The World Factbook". www.cia.gov/the-world-factbook/. Central Intelligence Agency (CIA). สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
- ↑ "Zenawism as ethnic-federalism" (PDF).
- ↑ 9.0 9.1 "CIA World Factbook – Rank Order – Area". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 February 2014. สืบค้นเมื่อ 2 February 2008.
{{cite web}}
: ระบุ|accessdate=
และ|access-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help) - ↑ "Ethiopia Population 2021 (Demographics, Maps, Graphs)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 May 2021. สืบค้นเมื่อ 23 May 2021.
{{cite web}}
: ระบุ|accessdate=
และ|access-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help) - ↑ "GDP, PPP (current international $) - Ethiopia, October 2020". WorldBank.org. World Bank. สืบค้นเมื่อ 1 April 2020.
- ↑ 12.0 12.1 12.2 "World Economic Outlook Database, October 2020". IMF.org. International Monetary Fund. สืบค้นเมื่อ 1 December 2020.
- ↑ "Gini Index coefficient". CIA World Factbook. สืบค้นเมื่อ 16 July 2021.
- ↑ Human Development Report 2020 The Next Frontier: Human Development and the Anthropocene (PDF). United Nations Development Programme. 15 December 2020. pp. 343–346. ISBN 978-92-1-126442-5. สืบค้นเมื่อ 16 December 2020.
- ↑ Ethiopia, Embassy Of (30 July 2023). "Overview Of Ethiopia". Embassy Of Ethiopia Washington. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-02-25. สืบค้นเมื่อ 2024-02-19.
- ↑ Ethiopia, Embassy Of Ethiopia (30 July 2023). "About Ethiopia". Embassy Of Ethiopia Washington. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-02-25. สืบค้นเมื่อ 2024-02-19.
- ↑ "Population Projections for Ethiopia 2007–2037". www.csa.gov.et. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 August 2020. สืบค้นเมื่อ 25 September 2020.
- ↑ "Ethiopia". The World Factbook (2024 ed.). Central Intelligence Agency. สืบค้นเมื่อ 24 September 2022. (Archived 2022 edition)
- ↑ "Ethiopia". The World Factbook. CIA. สืบค้นเมื่อ 5 April 2021.
- ↑ Kessler, David F. (2012). The Falashas : a Short History of the Ethiopian Jews. Routledge. ISBN 978-1-283-70872-2. OCLC 819506475.
- ↑ Hopkin, Michael (16 February 2005). "Ethiopia is top choice for cradle of Homo sapiens". Nature. doi:10.1038/news050214-10. ISSN 0028-0836.
- ↑ Li, J.Z.; Absher, D.M.; Tang, H.; Southwick, A.M.; Casto, A.M.; Ramachandran, S.; Cann, H.M.; Barsh, G.S.; Feldman, M.; Cavalli-Sforza, L.L.; Myers, R.M. (2008). "Worldwide Human Relationships Inferred from Genome-Wide Patterns of Variation". Science. 319 (5866): 1100–04. Bibcode:2008Sci...319.1100L. doi:10.1126/science.1153717. PMID 18292342. S2CID 53541133.
- ↑ "Humans Moved From Africa Across Globe, DNA Study Says". Bloomberg News. 21 February 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 June 2011. สืบค้นเมื่อ 16 March 2009.
- ↑ Kaplan, Karen (21 February 2008). "Around the world from Addis Ababa". Los Angeles Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 June 2013. สืบค้นเมื่อ 16 March 2009.
{{cite web}}
: ระบุ|accessdate=
และ|access-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help) - ↑ Blench, Roger (2006). Archaeology, Language, and the African Past (ภาษาอังกฤษ). AltaMira Press. pp. 150–163. ISBN 978-0759104662.
- ↑ "Ethiopia". November 2023.
- ↑ "Ethiopia | People, Flag, Religion, Capital, Map, Population, War, & Facts | Britannica". 31 October 2023.
- ↑ Moore, Dale H. (1936). "Christianity in Ethiopia". Church History. 5 (3): 271–284. doi:10.2307/3160789. ISSN 0009-6407. JSTOR 3160789. S2CID 162029676.
- ↑ "Ethnicity and Power in Ethiopia" (PDF). 12 April 2022.
- ↑ BBC Staff (3 November 2020). "Ethiopia attack: Dozens 'rounded up and killed' in Oromia state". BBC (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 25 May 2021.
- ↑ "Egypt, Iran, Saudi Arabia, UAE, Ethiopia formally join BRICS". Daily News Egypt. 1 January 2024. สืบค้นเมื่อ 1 January 2024.
- ↑ "5 reasons why Ethiopia could be the next global economy to watch". World Economic Forum (ภาษาอังกฤษ). 6 September 2019. สืบค้นเมื่อ 10 March 2022.
- ↑ Africa, Somtribune (29 August 2020). "Ethiopia Can Be Africa's Next Superpower". SomTribune (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 10 March 2022.
- ↑ "Overview". World Bank (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-06-13.
- ↑ "Agriculture in Ethiopia: data shows for a large part Agriculture still retained its majority share of the economy". The Low Ethiopian Reports. 16 June 2022.
- ↑ "Overview". World Bank (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 23 December 2021.
- ↑ "Ethiopia Poverty Assessment". World Bank (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 17 December 2018.
- ↑ "Major problems facing Ethiopia today". Africaw.
- ↑ 39.0 39.1 Berhanu Abegaz, Ethiopia: A Model Nation of MinoritiesPDF (51.7 KB) . Retrieved 6 April 2006. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "bx" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - ↑ Embassy of Ethiopia, Washington, DC เก็บถาวร 2008-01-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Retrieved 6 April 2006.
ข้อมูลทั่วไป
[แก้]- Abir, Mordechai (1968). Ethiopia: The Era of the Princes; The Challenge of Islam and the Re-unification of the Christian Empire (1769–1855). London, England: Longmans.
- Beshah, Girma; Aregay, Merid Wolde (1964). The Question of the Union of the Churches in Luso-Ethiopian Relations (1500–1632). Lisbon: Junta de Investigações do Ultramar and Centro de Estudos Históricos Ultramarinos.
- Lyons, Terrence (1996). "Closing the Transition: the May 1995 Elections in Ethiopia". The Journal of Modern African Studies. 34 (1): 121–42. doi:10.1017/S0022278X00055233.
- Munro-Hay, Stuart (1991). Aksum: An African Civilization of Late Antiquity (PDF). Edinburgh: University Press. ISBN 978-0-7486-0106-6. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 23 January 2013. สืบค้นเมื่อ 3 March 2012.
{{cite book}}
: ระบุ|accessdate=
และ|access-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help) - Valdes Vivo, Raul (1977). Ethiopia's Revolution. New York, NY: International Publishers. ISBN 978-0-7178-0556-3.
อ่านเพิ่ม
[แก้]- Zewde, Bahru (2001). A History of Modern Ethiopia, 1855–1991 (2nd ed.). Athens, OH: Ohio University Press. ISBN 978-0-8214-1440-8.
- Selassie I., Haile (1999). My Life and Ethiopia's Progress: The Autobiography of Emperor Haile Selassie I. Translated by Edward Ullendorff. Chicago: Frontline. ISBN 978-0-948390-40-1.
- Deguefé, Taffara (2006). Minutes of an Ethiopian Century, Shama Books, Addis Ababa, ISBN 99944-0-003-7.
- Hugues Fontaine, Un Train en Afrique. African Train, Centre Français des Études Éthiopiennes / Shama Books. Édition bilingue français / anglais. Traduction : Yves-Marie Stranger. Postface : Jean-Christophe Belliard. Avec des photographies de Matthieu Germain Lambert et Pierre Javelot. Addis Abeba, 2012, ISBN 978-99944-867-1-7. English and French. UN TRAIN EN AFRIQUE
- Henze, Paul B. (2004). Layers of Time: A History of Ethiopia. Shama Books. ISBN 978-1-931253-28-4.
- Marcus, Harold G. (1975). The Life and Times of Menelik II: Ethiopia, 1844–1913. Oxford: Clarendon. Reprint, Trenton, NJ: Red Sea, 1995. ISBN 1-56902-009-4.
- Marcus, Harold G. (2002). A History of Ethiopia (updated ed.). Berkeley: University of California Press. ISBN 978-0-520-22479-7.
- Mauri, Arnaldo (2010). Monetary developments and decolonization in Ethiopia, Acta Universitatis Danubius Œconomica, VI, n. 1/2010, pp. 5–16. Monetary Developments and Decolonization in Ethiopia and WP Monetary developments and decolonization in Ethiopia
- Campbell, Gwyn; Miers, Suzanne; Miller, Joseph (2007). Women and Slavery: Africa, the Indian Ocean world, and the medieval north Atlantic. Ohio University Press. ISBN 978-0-8214-1723-2.
- Mockler, Anthony (1984). Haile Selassie's War. New York: Random House. Reprint, New York: Olive Branch, 2003. ISBN 0-902669-53-2.
- Murphy, Dervla (1968). In Ethiopia with a Mule. London: Century, 1984, cop. 1968. N.B.: An account of the author's travels in Ethiopia. 280 p., ill. with a b&w map. ISBN 0-7126-3044-9
- Rubenson, Sven (2003). The Survival of Ethiopian Independence (4th ed.). Hollywood, CA: Tsehai. ISBN 978-0-9723172-7-6.
- Siegbert Uhlig, et al. (eds.) (2003). Encyclopaedia aethiopica, Vol. 1: A–C. Wiesbaden: Harrassowitz Verlag.
- Siegbert Uhlig, et al. (eds.) (2005). Encyclopaedia aethiopica, Vol. 2: D–Ha. Wiesbaden: Harrassowitz Verlag.
- Siegbert Uhlig, et al. (eds.) (2007). Encyclopaedia aethiopica, Vol. 3: He–N. Wiesbaden: Harrassowitz Verlag.
- Siegbert Uhlig & Alessandro Bausi, et al. (eds.) (2010). Encyclopaedia aethiopica, Vol. 4: O–X. Wiesbaden: Harrassowitz Verlag.
- Alessandro Bausi & S. Uhlig, et al. (eds.) (2014). Encyclopaedia aethiopica, Vol. 5: Y–Z and addenda, corrigenda, overview tables, maps and general index. Wiesbaden: Harrassowitz Verlag.
- แม่แบบ:Country study
- บทความนี้รวมเอางานสาธารณสมบัติจากเดอะเวิลด์แฟกต์บุ๊ก
- Keller, Edmond (1991). Revolutionary Ethiopia From Empire to People's Republic. Indiana University Press. ISBN 9780253206466.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Ethiopia. The World Factbook. Central Intelligence Agency.
- BBC Ethiopia Profile
- World Bank Ethiopia Summary Trade Statistics
- ประเทศเอธิโอเปีย ที่เว็บไซต์ Curlie
- Key Development Forecasts for Ethiopia from International Futures.
- Ethiopia pages – U.S. Dept. of State (which includes current State Dept. press releases and reports on Ethiopia)
อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref>
สำหรับกลุ่มชื่อ "lower-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="lower-alpha"/>
ที่สอดคล้องกัน