ข้ามไปเนื้อหา

ไค ฮาเวิทซ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ไค ฮาแวทซ์)
ไค ฮาเวิทซ์
ฮาเวิทซ์กับเยอรมนีในปี ค.ศ. 2019
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ไค จูดาส ฮาเวิทซ์[1]
วันเกิด (1999-06-11) 11 มิถุนายน ค.ศ. 1999 (25 ปี)
สถานที่เกิด อาเคิน เยอรมนี
ส่วนสูง 1.93 เมตร (6 ฟุต 4 นิ้ว)[2]
ตำแหน่ง กองกลางตัวรุก, กองหน้า
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
อาร์เซนอล
หมายเลข 29
สโมสรเยาวชน
2003–2009 อาเลมันนีอา มารีอาดอร์ฟ
2009–2010 อาเลมันนีอา อาเคิน
2010–2017 ไบเออร์เลเวอร์คูเซิน
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2016–2020 ไบเออร์เลเวอร์คูเซิน 118 (36)
2020–2023 เชลซี 91 (19)
2023– อาร์เซนอล 40 (15)
ทีมชาติ
2014–2015 เยอรมนี อายุไม่เกิน 16 ปี 6 (0)
2015–2016 เยอรมนี อายุไม่เกิน 17 ปี 16 (2)
2017–2018 เยอรมนี อายุไม่เกิน 19 ปี 8 (7)
2018– เยอรมนี 53 (19)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2024
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 10 กันยายน 2024

ไค จูดาส ฮาเวิทซ์ (เยอรมัน: Kai Judas Havertz, ออกเสียง: [kaɪ̯ ˈhaːvɐt͡s]; เกิด 11 มิถุนายน ค.ศ. 1999) เป็นนักฟุตบอลชาวเยอรมัน ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกและกองหน้าให้กับอาร์เซนอล สโมสรในพรีเมียร์ลีก และทีมชาติเยอรมนี

ฮาเวิทซ์เป็นผลผลิตระดับเยาวชนของไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซินตั้งแต่ ค.ศ. 2016 และได้ลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ในปีเดียวกัน และเขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในบุนเดิสลีกา และในปีถัดมา เขากลายเป็นผู้ทำประตูอายุน้อยที่สุดของสโมสร เขายังเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นครบ 50 และ 100 นัดบนลีกสูงสุดของเยอรมนี[3]

ด้วยพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดทำให้เขาเป็นที่สนใจจากหลายสโมสร ก่อนจะย้ายไปเชลซีใน ค.ศ. 2020 ด้วยค่าตัว 84 ล้านยูโร (72 ล้านปอนด์) ถือเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับสองของสโมสรในขณะนั้น เขาชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 โดยเป็นผู้ทำประตูในนัดชิงชนะเลิศที่ทีมเอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี 1–0 ตามด้วยการชนะเลิศยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2021 และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2021 ซึ่งเขาทำประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษพาทีมเอาชนะปัลเมย์รัส 2–1 เขาย้ายร่วมทีมอาร์เซนอลในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2023 ด้วยค่าตัว 65 ล้านปอนด์

หลังจากลงเล่นในทีมเยาวชนหลายช่วงอายุของเยอรมนี ฮาเวิทซ์ติดทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในเดือนกันยายน ค.ศ. 2018 ถือเป็นผู้เล่นคนแรกที่เกิดใน ค.ศ. 1999 ที่ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของเยอรมนี มีส่วนร่วมในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 และ 2024 รวมถึงฟุตบอลโลก 2022

สโมสรอาชีพ

[แก้]

เยาวชน

[แก้]

ฮาเวิทซ์เกิดที่อาเคินในเยอรมนี เขามีประสบการณ์การเล่นฟุตบอลครั้งแรกเมื่ออายุ 4 ขวบ โดยเขาได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของอาเลมันนีอา มารีอาดอร์ฟ ซึ่งปู่ของเขา ริชาร์ด เป็นประธานสโมสร[4] ใน ค.ศ. 2009 เขาเซ็นสัญญากับอาเลมันนีอาอาเคินในลีกระดับสอง เขาเล่นให้กับทีมเยาวชนของสโมสรนี้เพียงปีเดียว ก่อนที่จะย้ายไปไบเออร์เลเวอร์คูเซินในวัย 11 ปี[5] เขาเอาชนะความท้าทายและทำผลงานได้เป็นอย่างดี โดยใน ค.ศ. 2016 เขาทำ 18 ประตูให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี จนได้รับเหรียญเงิน Fritz Walter ของรุ่นอายุนั้น ก่อนที่เขาจะเลื่อนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในเวลาต่อมา[4][6][7]

ไบเออร์เลเวอร์คูเซิน

[แก้]

ฮาเวิทซ์ลงเล่นนัดแรกให้กับไบเออร์เลเวอร์คูเซินเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 2016 โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองในครึ่งหลังแทน Charles Aránguiz ในนัดที่ออกไปแพ้แวร์เดอร์เบรเมินในลีก 2–1 เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ได้ลงเล่นในบุนเดิสลีกา ในวัยเพียง 17 ปีและ 126 วัน อย่างไรก็ตาม สถิตินี้ถูกทำลายโดยโฟลรีอาน เวียทซ์ที่ลงเล่นด้วยอายุน้อยที่น้อยกว่าเพียง 111 วันใน ค.ศ. 2020[5][8][9] วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 เขาแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีม Karim Bellarabi ทำประตูที่ 50,000 ของบุนเดิสลีกา[10] สี่วันถัดมา เขาลงเล่นเป็นตัวจริงครั้งแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกแทน Hakan Çalhanoğlu ที่ถูกระงับการลงเล่น โดยเขาลงเล่นในเลกแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่พ่ายแพ้ต่ออัตเลติโกมาดริด[11][12] อย่างไรก็ตาม ในเลกที่สอง เขาไม่ได้ลงเล่นเนื่องจากการแข่งขันชนกับการสอบที่โรงเรียนของเขา[13] เขาทำประตูแรกให้กับสโมสรเมื่อวันที่ 2 เมษายน ในนัดที่เสมอกับเฟาเอ็ฟเอ็ล ว็อลฟส์บวร์ค 3–3[14] ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นน้อยที่สุดที่ทำประตูในบุนเดิสลีกาให้กับสโมสร ด้วยวัยเพียง 17 ปี[15] เขาลงเล่น 28 นัดและทำ 4 ประตูจากทุกรายการ ซึ่งรวมถึงสองประตูที่ยิงใส่แฮร์ทา เบเอ็สเซในนัดปิดฤดูกาล สุดท้ายเลเวอร์คูเซินจบอันดับที่ 12 ในลีกฤดูกาลนั้น[16]

วันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2018 ฮาเวิทซ์กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นครบ 50 ในบุนเดิสลีกา ด้วยวัยเพียง 18 ปี 307 วัน ทำลายสถิติเดิมของทีโม แวร์เนอร์[17][18] เขาลงเล่นในลีก 30 นัดและทำ 3 ประตู ช่วยให้เลเวอร์คูเซินจบอันดับที่ 5 ของตาราง[19]

ฮาเวิทซ์ยังคงทำผลงานได้ดีในฤดูกาลถัดมา แม้ว่าเลเวอร์คูเซินจะต้องดิ้นรนในลีกช่วงแรกของฤดูกาล และในช่วงกลางฤดูกาล เขาเป็นผู้เล่นเพียงไม่กี่คนที่ได้ลงเล่นครบทุกนัด โดยทำได้ 6 ประตู[20] วันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2018 เขาทำสองประตูแรกในรายการระดับทวีปยุโรป ช่วยให้ทีมเอาชนะลูโดโกเรตส์รัซกราด 3–2 ในยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2018–19[21] ต่อมาในวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2019 เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ทำประตูจากลูกโทษ ช่วยให้ทีมเอสชนะว็อลฟส์บวร์ค 3–0 ตอนนั้นเขามีอายุ 19 ปี 7 เดือน และ 16 วัน[22] ในเดือนถัดมา เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับที่สองที่ลงเล่นในบุนเดิสลีกาครบ 75 นัด รองจากยูลีอาน ดรัคส์เลอร์ ในนัดนั้นเขาลงเล่นเป็นตัวจริงและทำประตูช่วยให้ทีมเอาชนะฟอร์ทูนาดึสเซิลดอร์ฟ 2–0[23] ต่อมาในวันที่ 13 เมษายน เขาลงเล่นนัดที่ 100 ให้กับเลเวอร์คูเซิน พร้อมทำประตูช่วยให้ทีมชนะชตุทการ์ทในลีก 1–0 ประตูนี้นับเป็นประตูที่ 13 ของเขาในฤดูกาลนี้ ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำถึง 13 ประตูในฤดูกาลเดียว นับตั้งแต่ที่ Horst Köppel ผู้เล่นของชตุทการ์ท เคยทำไว้เมื่อฤดูกาล 1967–68[24] ต่อมาในวันที่ 5 พฤษภาคม เขาทำประตูที่ 15 ของเขาในฤดูกาลนี้ ช่วยให้ทีมเอาชนะไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟวร์ท 6–1 นัดนี้เป็นนัดแรกในบุนเดิสลีกาที่มีการทำถึง 7 ประตูในช่วงครึ่งแรก[25] ต่อมาในนัดปิดฤดูกาล เขากลายเป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่ทำประตูมากที่สุดในบุนเดิสลีกาฤดูกาลเดียว โดยเขาทำประตูที่ 17 ของเขา ช่วยให้ทีมเอาชนะแฮร์ทา เบเอ็สเซ 5–1[26] หลังจบฤดูกาล เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลเยอรมันแห่งปี แต่สุดท้ายเขาแพ้ให้กับมาร์โก รอยซ์เพียง 37 คะแนน[27]

ในนัดเปิดฤดูกาล 2019–20 ฮาเวิทซ์ทำประตูช่วยให้เลเวอร์คูเซินเอาชนะพาเดอร์บอร์น 3–2 ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับสองที่ทำประตูในบุนเดิสลีกาถึง 25 ลูก รองจาก Köppel[28] ต่อมาในเดือนธันวาคม ฮาเวิทซ์ในวัยเพียง 20 ปี 6 เดือนและ 4 วัน ทำลายสถิติเดิมของทีโม แวร์เนอร์ในการเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในบุนเดิสลีกาครบ 100 ปี โดยเขาลงเล่นในนัดที่แพ้เคิลน์ 2–0[29] และในยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2019–20 ฮาเวิทซ์ทำประตูในทั้งสองเลกที่พบกับโปร์ตูและยังทำประตูในนัดที่แพ้อินเตอร์มิลานในรอบก่อนรองชนะเลิศ 2–1[30]

เชลซี

[แก้]

ในวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 2020 ฮาเวิทซ์เซ็นสัญญาห้าปีกับเชลซีในพรีเมียร์ลีก[31][32] ค่าตัวที่ได้รับรายงานอยู่ที่ 62 ล้านปอนด์ และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 71 ล้านปอนด์ ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่ย้ายเข้าด้วยค่าตัวแพงเป็นอันดับที่สองของเชลซีในตอนนั้นรองจากเกปา อาร์ริซาบาลากา[33][34] ต่อมาในวันที่ 14 กันยายน เขาลงเล่นนัดแรกให้กับเชลซีในนัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020–21 ช่วยให้ทีมบุกเอาชนะไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 3–1[35] ต่อมาในวันที่ 23 กันยายน ฮาเวิทซ์ทำประตูแรกในนามสโมสรเชลซีและทำแฮตทริกแรกในอาชีพของเขา ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะบาร์นสลีย์ 6–0 ในรอบที่สามของอีเอฟแอลคัพ[36]

วันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 เขาทำประตูในนัดชิงชนะเลิศของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2021–22 ซึ่งเป็นประตูแรกที่เขาทำได้ในรายการนี้ และเป็นประตูชัยช่วยให้ทีมเอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี คว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่สองในประวัติศาสตร์สโมสร[37][38]

สถิติอาชีพ

[แก้]

สโมสร

[แก้]
ณ วันที่ 23 เมษายน 2024 [39]
สโมสร ฤดูกาล ลีก ถ้วยแห่งชาติ[a] ลีกคัพ[b] ยุโรป อื่น ๆ ทั้งหมด
ระดับ ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
ไบเออร์เลเวอร์คูเซิน 2016–17 บุนเดิสลีกา 24 4 1 0 3[c] 0 28 4
2017–18 บุนเดิสลีกา 30 3 5 1 35 4
2018–19 บุนเดิสลีกา 34 17 2 0 6[d] 3 42 20
2019–20 บุนเดิสลีกา 30 12 5 2 10[e] 4 45 18
รวม 118 36 13 3 19 7 150 46
เชลซี 2020–21 พรีเมียร์ลีก 27 4 5 1 1 3 12[c] 1 45 9
2021–22[40] พรีเมียร์ลีก 29 8 3 0 3 2 9[c] 3 3[f] 1 47 14
2022–23[41] พรีเมียร์ลีก 35 7 1 0 1 0 10[c] 2 47 9
รวม 91 19 9 1 5 5 31 6 3 1 139 32
อาร์เซนอล 2023–24[42] พรีเมียร์ลีก 33 11 1 0 2 0 10[c] 1 1[g] 0 47 12
รวมทั้งหมด 242 66 23 4 7 5 60 14 4 1 336 90

หมายเหตุ

  1. รวมเดเอ็ฟเบ-โพคาลและเอฟเอคัพ
  2. รวมอีเอฟแอลคัพ
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
  4. ลงเล่นในยูฟ่ายูโรปาลีก
  5. ลงเล่น 5 นัดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกและลงเล่น 5 นัดและทำ 4 ประตูในยูฟ่ายูโรปาลีก
  6. ลงเล่นหนึ่งนัดในยูฟ่าซูเปอร์คัพ, สองนัดและหนึ่งประตูในฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก
  7. ลงเล่นในเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์

ทีมชาติ

[แก้]
ณ วันที่ 26 มีนาคม 2024 [43]
เยอรมนี
ปี ลงเล่น ประตู
2018 2 0
2019 5 1
2020 3 1
2021 13 5
2022 10 5
2023 9 2
2024 2 1
รวม 44 15

ประตูในนามทีมชาติ

[แก้]
ณ วันที่ 26 มีนาคม 2024
ลำดับ วันที่ สนาม นัดที่ คู่แข่ง ประตู ผล รายการแข่งขัน อ้างอิง
1 9 ตุลาคม 2019 ซิกนัลอิดูนาพาร์ค ดอร์ทมุนท์ เยอรมนี 6 ธงชาติอาร์เจนตินา อาร์เจนตินา 2–0 2–2 กระชับมิตร [44]
2 13 ตุลาคม 2020 ไรน์เอแนร์กีชตาดีอ็อน โคโลญ เยอรมนี 10 ธงชาติสวิตเซอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ 2–2 3–3 ยูฟ่าเนชันส์ลีก 2020–21 ลีกเอ [45]
3 25 มีนาคม 2021 MSV-Arena ดืสบวร์ค เยอรมนี 11 ธงชาติไอซ์แลนด์ ไอซ์แลนด์ 2–0 3–0 ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก [46]
4 19 มิถุนายน 2021 อัลลีอันทซ์อาเรนา มิวนิก เยอรมนี 16 ธงชาติโปรตุเกส โปรตุเกส 3–1 4–2 ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 [47]
5 23 มิถุนายน 2021 อัลลีอันทซ์อาเรนา มิวนิก เยอรมนี 17 ธงชาติฮังการี ฮังการี 1–1 2–2 ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 [48]
6 11 ตุลาคม 2021 ตอเช ปรอเอสกี อารีนา สกอเปีย มาซิโดเนียเหนือ 22 ธงชาติมาซิโดเนียเหนือ มาซิโดเนียเหนือ 1–0 4–0 ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก [49]
7 14 พฤศจิกายน 2021 สนามกีฬาสาธารณรัฐวัซแกน ซาร์กซียัน เยเรวาน อาร์มีเนีย 23 ธงชาติอาร์มีเนีย อาร์มีเนีย 1–0 4–1 ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก [50]
8 26 มีนาคม 2022 ไรน์-เน็คคาร์-อาเรนา ซินส์ไฮม์ เยอรมนี 24 ธงชาติอิสราเอล อิสราเอล 1–0 2–0 กระชับมิตร [51]
9 26 กันยายน 2022 สนามกีฬาเวมบลีย์ ลอนดอน อังกฤษ 30 ธงชาติอังกฤษ อังกฤษ 2–0 3–3 ยูฟ่าเนชันส์ลีก 2022–23 ลีกเอ [52]
10 3–3
11 1 ธันวาคม 2022 Al Bayt Stadium, Al Khor, กาตาร์ 33 ธงชาติคอสตาริกา คอสตาริกา 2–2 4–2 ฟุตบอลโลก 2022 [53]
12 3–2
13 12 มิถุนายน 2023 เวเซอร์ชตาดีอ็อน เบรเมิน เยอรมนี 35 ธงชาติยูเครน ยูเครน 2–3 3–3 กระชับมิตร [54]
14 18 พฤศจิกายน 2023 โอลึมพีอาชตาดีอ็อน เบอร์ลิน เยอรมนี 41 ธงชาติตุรกี ตุรกี 1–0 2–3 กระชับมิตร [55]
15 23 มีนาคม 2024 ปาร์กอแล็งปิกลียอแน ลียง ฝรั่งเศส 43 ธงชาติฝรั่งเศส ฝรั่งเศส 2–0 2–0 กระชับมิตร [56]

เกียรติประวัติ

[แก้]

ไบเออร์เลเวอร์คูเซิน

เชลซี

อาร์เซนอล

รางวัลส่วนตัว

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Profile: Havertz full name and all you need to know about him". Opera News. 24 August 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-06-03. สืบค้นเมื่อ 13 September 2020.
  2. "Kai Havertz: Overview". Premier League. สืบค้นเมื่อ 29 June 2023.
  3. "Youngest to play 100 Bundesliga games: Havertz in numbers". AS.com (ภาษาอังกฤษ). 2019-12-14. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-20. สืบค้นเมื่อ 2020-09-05.
  4. 4.0 4.1 "Kai Havertz's journey: From Grandad's guidance to becoming Germany's next great star". Bundesliga. 27 April 2020. สืบค้นเมื่อ 27 April 2020.
  5. 5.0 5.1 Röber, Philip (4 February 2017). "UEFA.com's weekly wonderkid: Kai Havertz". UEFA. สืบค้นเมื่อ 4 April 2017.
  6. "Bravertz: Julian Brandt and Kai Havertz forming Bayer Leverkusen's German midfield core". Bundesliga. 15 March 2019. สืบค้นเมื่อ 15 March 2019.
  7. McGuiness, Kev (25 January 2017). "Bayer Leverkusen's overlooked youth prospects". Vavel. สืบค้นเมื่อ 6 April 2017.
  8. "Werder Bremen v Bayer Leverkusen". Soccerway. 15 October 2016. สืบค้นเมื่อ 4 April 2017.
  9. "Florian Wirtz replaces Kai Havertz as Bayer Leverkusen's youngest ever player". Bundesliga. 18 May 2020. สืบค้นเมื่อ 19 May 2020.
  10. "European Golden Boys XI: Dembele and Havertz continue to shine brightly". Bleacher Report. 21 February 2017. สืบค้นเมื่อ 6 April 2017.
  11. Sargeant, Jack. "Bayer Leverkusen vs. Atlético Madrid lineups: Bayer hand teenager Havertz first Champions League start". SBNation. สืบค้นเมื่อ 21 February 2017.
  12. Molinaro, John (14 March 2017). "Person of Interest: German wunderkind Kai Havertz one to watch". Sports Net. สืบค้นเมื่อ 5 April 2017.
  13. Wright, Chris (14 March 2017). "Bayer Leverkusen starlet ruled out for school exam". ESPN. สืบค้นเมื่อ 4 April 2017.
  14. Fahey, Ciaran (2 April 2017). "Gomez hat trick but Wolfsburg held 3–3 at Leverkusen". New Jersey Herald. สืบค้นเมื่อ 4 April 2017.
  15. Gladwell, Ben (2 April 2017). "Rising Star: Bayer Leverkusen's Kai Havertz". Bundesliga. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-07-14. สืบค้นเมื่อ 4 April 2017.
  16. Mende, Jens; Krṻhler, Andreas (20 May 2017). "Hertha trotz 2:6 gegen Bayer kurz vor Europa". Dewezet. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-04. สืบค้นเมื่อ 20 May 2017.
  17. "Bayer Leverkusen's Kai Havertz becomes youngest player in history to reach 50 appearances". Bundesliga. 14 April 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-19. สืบค้นเมื่อ 14 April 2018.
  18. "Bayer Leverkusen : record de précocité pour Kai Havertz" (ภาษาฝรั่งเศส). LEquipe. 14 April 2018. สืบค้นเมื่อ 15 April 2018.
  19. "Bayer Leverkusen's Kai Havertz: "I should be aiming for the Germany national team"". Bundesliga. 24 August 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-03-03. สืบค้นเมื่อ 2 September 2018.
  20. "Bayer Leverkusen up to 9th after Kai Havertz-inspired win over Hertha Berlin". Bundesliga. 24 December 2018. สืบค้นเมื่อ 26 December 2018.
  21. "Kai Havertz becoming the real deal at Bayer Leverkusen". Bundesliga. 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-10-15. สืบค้นเมื่อ 2020-09-27.
  22. "Kai Havertz, Kevin Volland and Julian Brandt fire Bayer Leverkusen past Wolfsburg". Bundesliga. 27 January 2019. สืบค้นเมื่อ 27 January 2019.
  23. "Kai Havertz and Leon Bailey fire Bayer Leverkusen to victory over Fortuna Düsseldorf". Bundesliga. 17 February 2019. สืบค้นเมื่อ 18 February 2019.
  24. "Kai Havertz scores on 100th appearance as Bayer Leverkusen down VfB Stuttgart". Bundesliga. 13 April 2019. สืบค้นเมื่อ 14 April 2019.
  25. "Kai Havertz on target again as Bayer Leverkusen smash six past Eintracht Frankfurt in record-breaking game". Bundesliga. 5 May 2019. สืบค้นเมื่อ 6 May 2019.
  26. "Kai Havertz, Lucas Alario and Julian Brandt secure Champions League spot for Bayer Leverkusen". Bundesliga. 18 May 2019. สืบค้นเมื่อ 19 May 2019.
  27. "Borussia Dortmund captain Marco Reus named Germany's Footballer of the Year 2019". Bundesliga. 29 July 2019. สืบค้นเมื่อ 1 August 2019.
  28. "Kai Havertz makes history as Bayer Leverkusen overcome new boys Paderborn". Bundesliga. 18 August 2019. สืบค้นเมื่อ 19 August 2019.
  29. "Kai Havertz: 100 Bundesliga appearances for Bayer Leverkusen at 20". Bundesliga. 15 December 2019. สืบค้นเมื่อ 17 December 2019.
  30. "Inter Milan 2–1 Bayer Leverkusen – as it happened". Bundesliga. 2020.
  31. "Chelsea have Havertz". chelseafc.com. 4 September 2020.
  32. "Transfer completed: Havertz joins Chelsea". bayer04.de. 4 September 2020.
  33. Law, Matt (4 September 2020). "Kai Havertz completes move to Chelsea for £62million". The Daily Telegraph.
  34. "Kai Havertz: Chelsea sign Bayer Leverkusen midfielder for £71m". BBC Sport. 4 September 2020.
  35. "Havertz admits Premier League is 'much tougher than the Bundesliga' after testing Chelsea debut". Goal. 15 September 2020.
  36. "Chelsea 6-0 Barnsley: Kai Havertz hits hat-trick as Blues romp into round four of Carabao Cup". Sky Sports. 23 September 2020.
  37. "Man. City 0–1 Chelsea: Havertz gives Blues second Champions League triumph". UEFA. 29 May 2021. สืบค้นเมื่อ 29 May 2021.
  38. "Chelsea Defeats Man City to Win Champions League Final Behind Havertz Goal". Sports Illustrated. 29 May 2021. สืบค้นเมื่อ 29 May 2021.
  39. "Kai Havertz". สืบค้นเมื่อ 21 February 2017.
  40. "Games played by ไค ฮาเวิทซ์ in 2021/2022". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 27 August 2022.
  41. "Games played by ไค ฮาเวิทซ์ in 2022/2023". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 8 October 2023.
  42. "Games played by ไค ฮาเวิทซ์ in 2023/2024". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 20 April 2024.
  43. "Kai Havertz: Internationals". worldfootball.net. HEIM:SPIEL. สืบค้นเมื่อ 6 April 2024.
  44. "Germany vs. Argentina 2–2: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 9 April 2023.
  45. "Germany vs. Switzerland 3–3: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 9 April 2023.
  46. "Germany vs. Iceland 3–0: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 9 April 2023.
  47. "Portugal vs. Germany 2–4: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 9 April 2023.
  48. "Germany vs. Hungary 2–2: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 9 April 2023.
  49. "North Macedonia vs. Germany 0–4: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 9 April 2023.
  50. "Armenia vs. Germany 1–4: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 9 April 2023.
  51. "Germany vs. Israel 2–0: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 9 April 2023.
  52. "England vs. Germany 3–3: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 9 April 2023.
  53. "Costa Rica vs. Germany 2–4: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 9 April 2023.
  54. "Germany vs. Ukraine 3–3: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 12 June 2023.
  55. "Germany vs. Türkiye 2–3: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 19 November 2023.
  56. "France vs. Germany 0–2: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 23 March 2024.
  57. "DFB-Pokal 2019/20, Finale in Berlin: Bayer 04 Leverkusen 2:4 Bayern München: Aufstellung" [DFB-Pokal 2019/20, Final in Berlin: Bayer 04 Leverkusen 2:4 Bayern Munich: Lineup]. Kicker (ภาษาเยอรมัน). Olympia-Verlag. สืบค้นเมื่อ 21 March 2023.
  58. McNulty, Phil (29 May 2021). "Manchester City 0–1 Chelsea". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 14 February 2022.
  59. Sterling, Mark (11 August 2021). "Chelsea 1–1 Villarreal". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 14 February 2022.
  60. "Chelsea 2–1 Palmeiras". BBC Sport. 12 February 2022. สืบค้นเมื่อ 14 February 2022.
  61. McNulty, Phil (15 May 2021). "Chelsea 0–1 Leicester City". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 17 May 2021.
  62. McNulty, Phil (14 May 2022). "Chelsea 0–0 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 21 March 2023.
  63. McNulty, Phil (27 February 2022). "Chelsea 0–0 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 25 April 2022.
  64. Rose, Gary (6 August 2023). "Arsenal 1–1 Manchester City". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 14 April 2024.
  65. "Fritz-Walter-Medaille für Ehegötz, Henrichs und Itter" [Fritz Walter Medal for Ehegötz, Henrichs and Itter]. DFB.de (ภาษาเยอรมัน). German Football Association. 8 August 2016. สืบค้นเมื่อ 29 August 2018.
  66. "Fritz-Walter-Medaille in Gold an Havertz, Katterbach und Pawollek" [Fritz Walter medal in gold for Havertz, Katterbach and Pawollek]. DFB.de (ภาษาเยอรมัน). German Football Association. 24 July 2018. สืบค้นเมื่อ 29 August 2018.
  67. "This is the Team of the season 2018/19". Bundesliga. 27 May 2019. สืบค้นเมื่อ 30 October 2019.
  68. "Bayer Leverkusen's Kai Havertz wins Bundesliga Player of the Month for May!". Bundesliga. May 2019. สืบค้นเมื่อ 25 January 2020.
  69. "Kai Havertz voted Bundesliga Player of the Month for May". BuliNews.com. 16 June 2020. สืบค้นเมื่อ 16 June 2020.
  70. "Champions League breakthrough team of 2019". UEFA.com. UEFA.com Reporters & Editors. 30 December 2019. สืบค้นเมื่อ 25 January 2020.
  71. "UEFA Europa League Squad of the Season". UEFA.com. Union of European Football Associations. 26 August 2020. สืบค้นเมื่อ 26 August 2020.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]