ข้ามไปเนื้อหา

อโศกมหาราช (ละครโทรทัศน์ พ.ศ. 2558)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อโศกมหาราช
ประเภทHistorical drama
สร้างโดยAshok Banker
เขียนโดยAshok Banker
กำกับโดยPrasad Gavandi
ผู้กำกับศิลป์Jitendra Srivastava, Nafees Khan
แสดงนำSee Cast section
ประเทศแหล่งกำเนิดIndia
ภาษาต้นฉบับHindi
จำนวนฤดูกาล1
จำนวนตอน442[1]
การผลิต
ผู้อำนวยการสร้างAbhimanyu Raj Singh
Rupali Singh
สถานที่ถ่ายทำKarjat, Raigad district, Maharashtra, India
ผู้กำกับภาพDeepak Pandey
ความยาวตอนApprox. 20 minutes
บริษัทผู้ผลิตContiloe Entertainment
ออกอากาศ
เครือข่ายColors TV (อินเดีย)
ช่อง 3 แฟมิลี่ (ไทย)
ออกอากาศ2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 (2015-02-02) –
7 ตุลาคม ค.ศ. 2016 (2016-10-07)

อโศกมหาราช (อังกฤษ: Chakravartin Ashoka Samrat) ละครโทรทัศน์อินเดียฟอร์มยักษ์แนวพีเรียดอิงประวัติศาสตร์ที่นำเสนอพระราชประวัติของ พระเจ้าอโศกมหาราช จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่ง ราชวงศ์เมารยะ ออกอากาศระหว่างวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 – 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 มีจำนวนตอนทั้งสิ้น 442 ตอน

ในประเทศไทยออกอากาศทาง ช่อง 3 แฟมิลี่ ทุกวันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 18.20 – 19.15 น. และวันศุกร์ เวลา 18.00 -19 .15 น. โดยออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560 และออกอากาศซ้ำอีกครั้ง ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 12:30 - 14:30 น. โดยเริ่มออกอากาศเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

เนื้อเรื่อง

[แก้]

เรื่องราวความเป็นมาของชีวิตและความรักระหว่างพระเจ้าพินทุสารและนางธรรมาผู้เป็นพระบิดาและพระมารดาของพระเจ้าอโศกพระเจ้าพินทุสารทรงเป็นกษัตริย์องค์ปัจจุบันของแคว้นมคธ และพระองค์ทรงถูกเกลียดชังจากพระนางเฮเลน่าผู้เป็นพระชายาอีกคนหนึ่งของพระเจ้าจันทรคุปต์พระบิดาของพระเจ้าพินทุสารและปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เมารยะพระเจ้าพินทุสารทรงถูกบริวารของพระนางเฮเลน่าทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส แต่มีหญิงสาวชาวบ้านมาพบและช่วยเหลือพระองค์ไว้ หญิงสาวผู้มีรูปโฉมงดงามและเฉลียวฉลาดมีนามว่าศุภัทรางคี หรือธรรมาพระเจ้าพินทุสารทรงรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณและความสามารถของนาง พระองค์ทรงตกหลุมรักนางและสมรสกันนางธรรมาตั้งครรภ์โดยไม่ทราบเรื่องราวที่แท้จริงว่าพระเจ้าพินทุสารทรงเป็นกษัตริย์ ความจริงปรากฏเมื่อมีราชบริวารมารับตัวพระเจ้าพินทุสารกลับไป ซึ่งนางก็ยอมให้พระองค์ไปและไม่ได้ทูลบอกเรื่องที่นางตั้งครรภ์ให้ทรงทราบนางธรรมาได้ให้กำเนิดทารกเพศชายและตั้งชื่อเขาว่า “อโศก” (ปราศจากทุกข์โศก)

14 ปีต่อมา เรื่องราวชีวิตวัยเด็กของพระเจ้าอโศกพระองค์ได้รับการช่วยเหลือจากจาณักยะหรือชานัคยา เพื่อผ่านอุปสรรคต่างๆนางธรรมาไม่ได้บอกเรื่องของพ่อให้เจ้าชายอโศกได้รับรู้ นางต้องการให้เขาได้ใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชน แต่ต่อมา เจ้าชายอโศกก็ได้รับรู้จากหลักฐานหลายๆ อย่าง และพยายามให้พระเจ้าพินทุสารและนางธรรมากลับมาอยู่ด้วยกัน จาณักยะเชื่อว่าเจ้าชายอโศกจะเป็นผู้ปกครองที่ดีของแคว้นมคธ เพราะความไม่เห็นแก่ตัวและคำปฏิญาณที่จะรับใช้มาตุภูมิจนกว่าลมหายใจสุดท้ายของชีวิต แต่เจ้าชายอโศกไม่เคยคิดหวังจะขึ้นครองราชย์ และเชื่อว่าน้องชายต่างมารดาอย่างเจ้าชายสยามักจะเป็นกษัตริย์ที่เพียบพร้อมของแคว้นมคธได้

จาณักยะกับราธาคุปต์และเหล่าบริวารต้องวุ่นวายกับการปกป้องราชบัลลังก์ของแคว้นมคธจากความชั่วร้ายของพระนางเฮเลน่าและศัตรูของแคว้นจาณักยะได้ปฏิญาณว่าจะปกป้องมาตุภูมิ และขัดขวางพระนางเฮเลน่าอย่างสุดความสามารถ ซึ่งพระนางเฮเลน่าก็ได้วางแผนสังหารเขาในภายหลัง พระนางจารุมิตราฝึกฝนมนต์ดำ เพื่อทำร้ายนางธรรมา เจ้าชายสุศิมะทรงเกลียดชังจาณักยะเพราะเขามักจะช่วยเหลือเจ้าชายอโศกเสมอ ขณะที่ขัลลาตักมักจะอิจฉาจาณักยะเพราะพระเจ้าพินทุสารทรงชื่นชมจาณักยะมากกว่าตน ดังนั้นพระนางเฮเลน่าจึงทรงร่วมมือกับพระนางจารุมิตรา เจ้าชายสุศิมะ ขัลลาตักและเจ้าชายสยามักที่เข้าร่วมแผนการนี้ด้วย พวกเขาสังหารจาณักยะ ซึ่งก่อนตาย จาณักยะได้บอกกับเจ้าชายอโศกว่า หนทางเดียวที่จะช่วยมาตุภูมิได้คือ เจ้าชายอโศกต้องขึ้นเป็นจักรพรรดิ์ของแคว้นมคธเจ้าชายอโศกเชื่อว่า จาณักยะถูกสังหารโดยศัตรูของแคว้นมคธ จึงตั้งใจว่า จะหาตัวคนผิดมาลงโทษ และทำให้ความต้องการสุดท้ายของจาณักยะเป็นจริง โดยการเป็นจักรพรรดิ์ของแคว้นมคธ แต่เพื่อการกำจัดทรราชอย่างกีจักให้สิ้นซากเจ้าชายอโศกจึงเดินทางไปเมืองตักสิลา พระองค์ได้พบกับเจ้าหญิงกรกีเกิดเป็นความสัมพันธ์อันดีต่อกัน สร้างความไม่พอใจแก่พระเจ้าชคันนาถพระบิดาของนาง ต่อมาเจ้าชายอโศกได้กลับมาที่เมืองปาฏลีบุตรและทราบถึงตัวคนร้ายที่สังหารจาณักยะจึงต้องการจับคนร้ายมาลงโทษ สถานการณ์บีบบังคับให้เจ้าชายอโศกต้องโจมตีพระเจ้าพินทุสารและทำให้เจ้าชายสุศิมบาดเจ็บ ด้วยความโกรธเกรี้ยว พระเจ้าพินทุสารจึงขับไล่เจ้าชายอโศกออกจากเมืองนางธรรมาจึงออกจากเมืองไปกับเจ้าชายอโศก ทั้งคู่ย้ายไปอยู่ที่เมืองอุชเชนีย์

10 ปีที่แล้ว เจ้าชายอโศก นางธรรมา และน้องชายของเจ้าชายอโศกนามว่าวิทอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านของพ่อค้าที่เมืองอุชเชนีย์เจ้าชายอโศกได้สนิทสนมกับลูกสาวของพ่อค้านามว่า เทวีและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ฝั่งแคว้นมคธ เจ้าชายสุศิมแข็งแกร่งขึ้นมากจากมนต์ดำของพระนางจารุมิตราเจ้าชายอโศกได้พบกับเจ้าชายสุศิมะอีกครั้ง พวกเขาต่อสู้กันจนนางธรรมาและวิทต้องเข้ามาห้าม ทำให้ทุกคนจำพวกเขาได้ พระเจ้าพินทุสารทรงยกโทษให้แก่เจ้าชายอโศกและชักชวนให้กลับเมืองปาฏลีบุตร นางธรรมาและวิทจึงกลับไป แต่เจ้าชายอโศกปฏิเสธคำเชิญนั้น พระองค์มุ่งหน้าเข้าป่าและพบกับเจ้าหญิงกรกีอีกครั้ง

การเตรียมงานอภิเษกสมรสของเจ้าชายอโศกกับเจ้าหญิงกรกีได้เริ่มต้นขึ้นนางธรรมาและนางเทวีได้ไปหานักทำนาย และทราบว่า งานสมรสครั้งนี้จะเต็มไปด้วยอุปสรรคและประชาชนบริสุทธิ์จำนวนมากจะถูกสังหารในสงครามกลิงคะ ด้วยความหวาดกลัว นางธรรมาจึงตัดสินใจให้เจ้าชายอโศกสมรสกับนางเทวีแทนพระเจ้าชคันนาถกล่าวกับพระเจ้าพินทุสารว่า เจ้าชายอโศกจะสามารถสมรสกับเจ้าหญิงกรกีได้ ก็ต่อเมื่อพระเจ้าพินทุสารทรงให้เจ้าชายอโศกสืบทอดบัลลังก์ต่อเท่านั้น ซึ่งพระเจ้าพินทุสารก็ทรงตกลง เมื่อถึงงานเสกสมรสเจ้าชายอโศกทรงรับรู้คำทำนายแห่งความโชคร้ายนั้น จึงทรงปฏิเสธการสมรสกับเจ้าหญิงกรกีแล้วสมรสกับนางเทวีแทน สร้างความไม่พอพระทัยแก่พระเจ้าชคันนาถเป็นอย่างมาก จึงเกิดเหตุวิวาทกัน

หลังจากการสวรรคตของพระเจ้าพินทุสารเจ้าชายสุศิมะและเจ้าชายอโศกได้ต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์กัน เป็นเหตุให้เจ้าชายสุศิมสวรรคต เจ้าชายอโศกได้สถาปนาตนขึ้นเป็น จักรพรรดิ์อโศกแห่งเมารยะ เรื่องราวจบลงที่สงครามกลิงคะ สงครามนองเลือดครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายที่กลายเป็นตราบาปในชีวิตของพระเจ้าอโศกและทำให้พระองค์หันเข้าหาทางธรรมเป็นที่พึ่งในการปกครอง เป็นที่มาของตำนาน“อโศกผู้ทรงธรรม”

นักแสดงนำ

[แก้]
ภาพละครภาษาไทย

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Chakravartin Ashoka Samrat episodes". Chakravartin Ashoka Samrat. 7 October 2016. สืบค้นเมื่อ 8 October 2016.
  2. "Mohit Raina to showcase merciless avatar in 'Ashoka'". The Indian Express. {{cite news}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |access26-07-2017 15:29:36= ถูกละเว้น (help)
  3. "Mohit Raina to play grown-up Ashoka". India Today. {{cite news}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |access26-07-2017 15:29:36= ถูกละเว้น (help)
  4. "Kajol Shrivastav to play Devi's character in 'Chakravartin Ashoka Samrat'". The Times of India. {{cite news}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |access-26-07-2017 15:29:36= ถูกละเว้น (help)
  5. "Saumya Seth returns to TV with 'Chakravartin Ashoka Samrat'". The Times of India. {{cite news}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |access26-07-2017 15:29:36= ถูกละเว้น (help)
  6. "Playing onscreen mother was a challenge: Pallavi Subhash - IBNLive". Ibnlive.in.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-02. สืบค้นเมื่อ 2017-07-28. {{cite web}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |26-07-2017 15:29:36= ถูกละเว้น (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |access26-07-2017 15:29:36= ถูกละเว้น (help)
  7. "Sameer Dharmadhikari in Chakravartin Ashoka Samrat". The Times of India. {{cite news}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |access26-07-2017 15:29:36= ถูกละเว้น (help)
  8. "German actress to star in Ashoka". The Times of India. {{cite news}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |access26-07-2017 15:29:36= ถูกละเว้น (help)
  9. "I am leaving 'Chakravartin Ashoka Samrat' with a heavy heart, says Queen Helena aka Suzanne Bernert". The Times of India. {{cite news}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |access26-07-2017 15:29:36= ถูกละเว้น (help)
  10. "Prinal Oberoi: 'I am jealous of Ankita'".
  11. "Ankit Arora to play Sushima in 'Chakravartin Ashoka Samrat'". Mid Day. {{cite news}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |access26-07-2017 15:29:36= ถูกละเว้น (help)

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

ลำดับรายการโทรทัศน์

[แก้]
ช่อง 3 แฟมิลี  : เอเชี่ยนฮิต ซีรีส์ฮอต วันจันทร์- พฤหัสบดี เวลา 18:20 - 19:15 น. วันศุกร์ เวลา 18.00 – 19.00 น.
ก่อนหน้า
อโศกมหาราช
ถัดไป
-
อ๊กยอ ผู้พิทักษ์แห่งโชซอน