ข้ามไปเนื้อหา

อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ
อาคารใบไม้สามใบ
ประเภทสวนสมุนไพร, สวนสาธารณะ
ที่ตั้งมหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
พื้นที่140 ไร่
เปิดตัว8 สิงหาคม พ.ศ. 2531
ผู้ดำเนินการมหาวิทยาลัยมหิดล
สถานะเปิดให้บริการ

อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางด้านพฤกษศาสตร์และสมุนไพร ตั้งอยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัยมหิดล ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 140 ไร่ รวบรวมพันธุ์สมุนไพรไว้มากกว่า 900 ชนิด

ประวัติ

[แก้]

เริ่มต้นในปี 2523 จากดำริของศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ ดร.ณัฐ ภมรประวัติอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล และศาสตราจารย์ พเยาว์ เหมือนวงษ์ญาติ หัวหน้าภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์คณะเภสัชศาสตร์ ที่มีความประสงค์ให้พื้นที่มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา มี “สวนสมุนไพร” ที่เป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์พืชสมุนไพรไทยเพื่อการศึกษาและวิจัย โดยในระยะแรก ใช้ชื่อว่า “โครงการปลูกสวนสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์” ดำเนินการบนพื้นที่ 12 ไร่ จากนั้นมีการพัฒนาขยายพื้นที่เป็น 37 ไร่ รวบรวมพืชสมุนไพรประมาณ 600 ชนิด

ต่อมาในปี 2531 สวนสมุนไพรแห่งนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานชื่อว่า “สิรีรุกขชาติ” และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด “สวนสมุนไพรสิรีรุกขชาติ” เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2531 ซึ่งสวนสมุนไพรสิรีรุกขชาตินี้ บริหารและดำเนินงานโดยภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ ซึ่งในปี 2536 สวนสมุนไพรสิรีรุกขชาติ ได้รับรางวัล “มหาวิทยาลัยมหิดล ประเภทดีเด่นเฉพาะทาง สาขาการบริการ” และในปี 2539 ได้รับรางวัล “โครงการดีเด่นแห่งชาติ สาขาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้านสมุนไพร ประจำปี 2539” จากคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี

ต่อมาในปี 2550 ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล มีดำริให้ยกระดับพื้นที่สวนสมุนไพรสิรีรุกขชาติ เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติ และเป็นศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรไทยระดับประเทศและระดับนานาชาติ รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางด้านพฤกษศาสตร์ด้วย มหาวิทยาลัยจึงได้ดำเนินการปรับภูมิทัศน์และขยายพื้นที่เป็น 140 ไร่ เพื่อเพิ่มศักยภาพสู่ระดับสากลและรองรับกิจกรรมต่างๆ โดยมีพื้นที่สำหรับจัดแสดงสมุนไพรในลานสมุนไพร จำนวน 7 ลาน รวมถึงสร้าง “ลานสมุนไพรเพื่อผู้พิการและผู้สูงอายุ” แห่งแรกในประเทศไทย พร้อมทั้ง นิทรรศการถาวร ภายใต้แนวคิด “สมุนไพร ภูมิปัญญาไทยสู่สากล” อีกทั้งยังจัดตั้ง “ศูนย์อ้างอิงทางพฤกษศาสตร์พืชสมุนไพรและเครื่องยา” เพื่อเป็นหน่วยงานวิจัยเพื่ออนุรักษ์ และขยายพันธุ์ โดยทำงานร่วมกับโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ (อพ.สธ.) ให้บริการวิชาการในรูปแบบการจัดกิจกรรม การอบรมทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติการแก่ผู้ที่มีความสนใจทุกกลุ่ม

ในวันที่ 22 เมษายน 2553 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานชื่อสวนสมุนไพรใหม่ว่า “อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ” และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ ในวันที่ 10 มิถุนายน 2556 เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2560 อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอุทยานธรรมชาติฯ และเริ่มเปิดให้บริการกับนักเรียน นักศึกษา นักวิจัยและบุคคลทั่วไป อย่างเป็นทางการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ต่อมาในปี 2560 ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดลได้แต่งตั้งรองศาสตราจารย์ ภญ.พร้อมจิต ศรลัมพ์ เป็นผู้จัดการอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ และในปี 2561 รองศาสตราจารย์ ดร.ภก.สมภพ ประธานธุรารักษ์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพและบริการวิชาการได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรักษาการแทนผู้จัดการอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ ซึ่งจากการออกแบบพื้นที่ของอุทยานธรรมชาติฯ ให้เข้าถึงได้สำหรับทุกคน ทั้งบุคคลทั่วไป ผู้พิการและผู้สูงอายุ ส่งผลให้อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติได้รับประกาศเกียรติคุณให้เป็น “สถานที่อารยสถาปัตย์แห่งปี 2561 ประเภทแหล่งท่องเที่ยว Friendly Design” จากมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล และในปีเดียวกันนี้ อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติได้เข้าร่วมการประกวดรางวัลพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ดีเด่น (Museum Thailand Awards) จัดขึ้นโดยสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) ซึ่งเป็นองค์กรภายในของสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) ภายใต้การกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี โดยอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ ได้รับรางวัล Museum Thailand Awards 2018 “รองชนะเลิศอันดับ 1 สาขาพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม”

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 ตามดำริของศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น “โครงการจัดตั้งสถาบันอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ” สังกัดสำนักงานอธิการบดีมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และพัฒนาการใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรอย่างครบวงจรมีพันธกิจเพื่อการศึกษา วิจัยและบริการวิชาการ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ภก.สมภพ ประธานธุรารักษ์ เป็นรักษาการแทนผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งสถาบันอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ

ต่อมาวันที่ 9 มิถุนายน 2564 อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ ได้รับการรับรองจาก Botanic Gardens Conservation International (BGCI) ให้เป็น “สวนพฤกษศาสตร์ที่มีมาตรฐานระดับสากล แห่งแรกในประเทศไทย” และ ในเดือนกันยายน 2564 อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติได้รับรางวัล Museum Thailand Awards 2021 ประเภทพิพิธภัณฑ์ด้านวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม “รางวัลดีเด่น ด้านการอนุรักษ์และสืบสาน” รวบรวมพันธุ์พืชสมุนไพรจากตำรายาที่มีคุณค่าและหายากมากกว่า 900 ชนิด ได้รับการยกย่องว่าเป็นพิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้ที่มีทั้งคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงการเรียนรู้ และมาตรฐานพิพิธภัณฑ์ตามแบบสากล

ปัจจุบัน รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฏฐนียา โตรักษา ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งสถาบันอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2564 บริหารงานภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการนโยบายโครงการจัดตั้งสถาบันอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ เพื่อให้โครงการได้รับการจัดตั้งเป็น “สถาบัน” มีฐานะเป็นส่วนงานของมหาวิทยาลัยมหิดล ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าด้วยการดำเนินงานของโครงการจัดตั้งสถาบันอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ พ.ศ. 2564

พื้นที่

[แก้]

ปัจจุบัน อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติมีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 140 ไร่ รวบรวมพันธุ์สมุนไพรไว้ประมาณมากกว่า 900 ชนิด ภายในมีทั้งพรรณไม้สมุนไพรที่พบทั่วไปและสมุนไพรที่หาได้ยาก พื้นที่ในสวนสมุนไพรแบ่งออกเป็น 3 ส่วน

  • ส่วนแรก เป็นเรือนเพาะชำ ซึ่งปลูกสมุนไพรที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ไม่ต้องการแสงแดดจัด และขนาดไม่ใหญ่มาก เช่น ดองดึง หญ้าหวาน รวมทั้งพืชที่มีพิษ เช่น ช้างร้อง สลอด เป็นต้น
  • ส่วนที่สอง เป็นพื้นที่สวนหย่อมสมุนไพร จัดปลูกสมุนไพรเป็นไม้ต้นขนาดเล็ก ไม้เลื้อย และไม้ล้มลุกที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามเหมาะกับการพักผ่อน และเรียนรู้พืชสมุนไพร ได้แก่ มะเกลือ ส้มเสี้ยว กันเกรา สารภี สีเสียด เป็นต้น
  • ส่วนสุดท้าย ปลูกในลักษณะสวนป่าเพื่อแสดงระบบนิเวศที่สมุนไพรเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนใหญ่เป็นไม้ต้น และไม้เล็กที่ขึ้นแซมไม้ใหญ่ ให้ความร่มรื่นเหมาะกับผู้ที่สนใจศึกษาสมุนไพรอย่างเป็นธรรมชาติ พืชในส่วนนี้ เช่น สมอไทย สมอพิเภก สมอดีงู การบูร อบเชย โมกมัน เป็นต้น

นอกจากนี้อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ มีสมุนไพรที่หาชมได้ยากหลายชนิด เช่น โมกราชินี สิรินธรวัลลี สามสิบกีบน้อย และจิกดง ซึ่งเป็นพืชชนิดใหม่ของโลก มะลิซาไกสมุนไพรหายากที่ใช้เป็นยาคุมกำเนิดของชนเผ่าซาไก กำแพงเจ็ดชั้น กวาวเครือขาว และกวาวเครือแดงสมุนไพรบำรุงกำลังของไทย รวมทั้งสมุนไพรที่เป็นพืชผักพื้นบ้านอีกหลากหลายชนิด

ประกอบด้วย 7 อาคาร 7 ลาน ดังนี้

  • อาคารใบไม้สามใบ เป็นอาคารต้อนรับผู้เข้าเยี่ยมชมเข้าสู่อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ พร้อมจัดแสดงนิทรรศการถาวร "สมุนไพร ภูมิปัญญาไทยสู่สากล"
  • ลานนานาสมุนไพร เป็นลานจัดแสดงสมุนไพรไม้พุ่ม และไม้ล้มลุก ในกระถางขนาดใหญ่รูปดอกไม้บนลานหินกว้าง
  • บ้านหมอยา เป็นอาคารให้บริการ ส่งเสริมสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทย และให้คำปรึกษาการใช้ยาสมุนไพร พร้อมการนวดรักษาแบบราชสำนัก
  • สวนสมุนไพร จัดปลูกในรูปแบบสวนสาธารณะ มีไม้ยืนต้นเป็นหลัก พร้อมทั้งไม้เลื้อยขนาดใหญ่และพรรณไม้ชนิดอื่น ๆ
  • พื้นที่ชุ่มน้ำของอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ เป็นแหล่งพักพิงของนกหลายชนิด มีหอดูนก 2 หอที่ใช้เฝ้าดูและสังเกตพฤติกรรมของนก
  • ลานไม้เลื้อย เป็นลานรวบรวมไม้เลื้อยสมุนไพรขนาดกลางและเล็กปลูกไว้ด้วยกันเพื่อศึกษาเปรียบเทียบ
  • ลานสมุนไพรวงศ์ขิง เป็นลานปลูกกลุ่มพืชหัววงศ์ขิง ซึ่งมีคุณค่าเป็นยา และเป็นพืชในเขตร้อนที่มีความสำคัญทั้งในการใช้ระดับชุมชนและการวิจัยพัฒนายาใหม่
  • อาคารใบไม้ใบเดียว เป็นอาคารสาธิตการขยายพันธุ์และห้องปฏิบัติการสำหรับการฝึกอบรมต่าง ๆ
  • ลานสมุนไพรเพื่อคนพิการ เป็นลานสมุนไพรที่อำนวยความสะดวกในการศึกษาสมุนไพรสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ โดยใช้สื่อการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ
  • ศาลาหมอชีวกโกมารภัจจ์ ประดิษฐานรูปหล่อหมอชีวกโกมารภัจจ์ ซึ่งเป็นแพทย์ประจำพระโคตมพุทธเจ้า และเป็นครูแห่งการแพทย์แผนโบราณ
  • ลานสมุนไพรเพื่อสุขภาพ รวบรวมสมุนไพรมากกว่า 100 ชนิดที่สามารถนำไปใช้ป้องกันและรักษาอาการป่วยพื้นฐานได้
  • อาคารสัมมนาห้องอบรมเชิงปฏิบัติการเฉพาะทางเรื่องการใช้ประโยชน์สมุนไพรไทย
  • อาคารวิจัยและพิพิธภัณฑ์พืช ประกอบด้วย ชั้นที่ 1 เป็นห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และชั้นที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์สมุนไพร (Herbarium) ที่รวบรวมตัวอย่างพรรณไม้สมุนไพรแห้ง เพื่อเป็นมาตรฐานเปรียบเทียบให้บริการตรวจสอบชนิดและสร้างเครือข่ายติดต่อกับพิพิธภัณฑ์พืชในต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์พันธุ์พืชในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และยังมีศูนย์อ้างอิงทางพฤกษศาสตร์และเครื่องยาซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเป็นแหล่งอ้างอิง ศึกษาเรียนรู้พืชสมุนไพรและการนำไปใช้ประโยชน์อย่างถูกต้อง และให้บริการตรวจสอบหาชื่อวิทยาศาสตร์ของพรรณไม้โดยผู้เชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์และจัดทำตัวอย่างพรรณไม้แห้งเพื่อใช้เป็นตัวอย่างอ้างอิงในบทความวิชาการด้านพืช

รางวัล

[แก้]

พ.ศ. 2567 ได้รับประกาศนียบัตร “ดาวเด่นแห่งความยั่งยืน” (STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating) จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นโครงการยกระดับผู้ประกอบการสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืน เพื่อเป็นการยกระดับต่อยอดโครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety and Health Administration หรือ SHA ซึ่งอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ ได้รางวัลระดับ 5 ดาว จัดเป็นสถานที่ที่ผ่านเป้าหมาย STG ทั้งหมด 12 เป้าหมายขึ้นไป เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567

พ.ศ. 2567 ได้รับรางวัลเกียรติบัตร แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร ระดับดีเยี่ยม ประจำปี 2567 จากนายทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ภายในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 21 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2567

พ.ศ. 2567 ได้รับรางวัลเครื่องหมายมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Standard) ประจำปี พ.ศ. 2567 จากนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดพิธีมอบเครื่องหมายรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติให้แก่ สถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และเพื่อเป็นการสร้างมูลค่าให้เครื่องหมายมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการและชุมชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2567

พ.ศ. 2566 ได้รางวัลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ระดับ A (MU ITA Awards) ในการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จากมหาวิทยาลัยมหิดล

พ.ศ. 2566 ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม Thailand Tourism Gold Awards  ประเภทแหล่งท่องเที่ยว (Attraction) สาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ (Learning & Doing) ในงาน Thailand Tourism Awards ครั้งที่ 14 จากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ณ สามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 27 กันยายน 2566 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

พ.ศ. 2566 ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ “การปลูกต้นไม้เพื่อแผ่นดินตามรอยพ่อ กรณี ป่าสมุนไพรไทย : อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ” จากพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ณ อาคารรัฐสภา ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2566

พ.ศ. 2565 ได้รับเครื่องหมาย SHA Plus จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (วันที่ 25 กรกฎาคม 2565)

พ.ศ. 2565 ได้รับเครื่องหมายมาตรฐาน SHA หมายเลข C1443 ประเภทนันทนาการและการท่องเที่ยว จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (วันที่ 7 กรกฎาคม 2565)

พ.ศ. 2565 เกียรติบัตรแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร ระดับ “ดีเยี่ยม” ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 19 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี (วันที่ 8 กรกฎาคม 2565)

พ.ศ. 2564 รางวัล Museum Thailand Awards 2021 ประเภทพิพิธภัณฑ์ด้านวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม และรางวัลดีเด่นด้านการอนุรักษ์และสืบสาน จาก สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.)

พ.ศ. 2564 อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับการรับรองจาก Botanic Gardens Conservation International (BGCI) ให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่มีมาตรฐานระดับสากล แห่งแรกของประเทศไทย

พ.ศ. 2563 อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ ได้รับรางวัลชมเชย จากสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ MUSEUM THAILAND AWARDS 2020

พ.ศ. 2561 รางวัลประเภท “แหล่งท่องเที่ยว Friendly Design”  ในงาน Thailand Friendly Design Expo 2018  มหกรรมอารยสถาปัตย์  และนวัตกรรมสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 3  

พ.ศ. 2561 อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติได้รับรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล สาขาการบริการ และใน พ.ศ. 2539 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี

อ้างอิง

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]