ข้ามไปเนื้อหา

อรินทราช 26

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อรินทราช 26
กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย
กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ
กองบัญชาการตำรวจนครบาล

เครื่องหมายหลักสูตรการต่อต้านการก่อการร้าย
อาร์มหน่วยอรินทราช 26
ประจำการพ.ศ. 2526 – ปัจจุบัน
ประเทศ ไทย
หน่วยงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
รูปแบบหน่วยยุทธวิธีตำรวจ
บทบาท
  • ชิงตัวประกัน
  • รักษาความสงบในพื้นที่เสี่ยง
  • ต่อต้านการจลาจล, อาชญากรรม และการก่อการร้าย
  • ให้การอารักขาบุคคลสำคัญ
ขึ้นกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล
ทางยุทธการ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล กองบัญชาการกองทัพไทย
กองบัญชาการเขตหลักสี่, กรุงเทพมหานคร
โครงสร้างหน่วย
กำลังปฏิบัติการกองร้อย
ความสำคัญ
ปฏิบัติการสำคัญเหตุการณ์ก๊อด'ส อาร์มี่บุกยึดสถานทูตพม่า พ.ศ. 2542 และโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี พ.ศ. 2543
เหตุกราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2563
เหตุกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู พ.ศ. 2565[1]
วันสถาปนา25 เมษายน

อรินทราช 26 เป็นหน่วยตำรวจที่มีความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธและยุทธวิธีพิเศษ (อังกฤษ: Special Weapons And Tactics: S.W.A.T.) สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการพิเศษต่อภัยคุกคามที่เป็นอาชญากรรม และการก่อการร้าย ด้วยการแย่งชิงตัวประกัน การจับกุม ฯลฯ ตามแนว "การบริหารวิกฤตการณ์" (อังกฤษ: Crisis Management) โดยมีพื้นที่รับผิดชอบในเมืองหลวงคือ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เป็นหน่วยระดับกองร้อย มีอุปกรณ์ครบมือ เช่น ปืนยิงแห, ปืนไฟฟ้า, ปืนพก, ปืนลูกซอง, ปืนกลเบา, ปืนกลมือ, ปืนเล็กยาว, ปืนเล็กสั้น, ระเบิดมือ, ระเบิดแก๊สน้ำตา, ปืนไรเฟิลซุ่มยิง, อุปกรณ์ต่อต้านการจลาจล ฯลฯ

ประวัติ

[แก้]

ในปี พ.ศ. 2520 เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นในไทย ทั้งจากก่ออาชญากรรมร้ายแรงและการก่อการร้ายสากลที่มีรูปแบบเปลี่ยน พันตำรวจเอก ชุมพล อัตถศาสตร์ ผู้กำกับการ กองกำกับการป้องกันและปราบปรามจราจล จึงได้จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษขึ้นซึ่งมีชื่อว่า "Anti-Hijacker" โดยคัดเลือกตำรวจในหน่วยที่มีความพร้อมทั้งร่างกาย,จิตใจและสติปัญญา ตามคุณสมบัติที่กำหนดมาทำการฝึกเพื่อรองรับภารกิจที่รูปแบบสากลในการฝึกครั้งนั้นยังไม่มีงบสนับสนุนที่ไม่เพียงพอ ต่อมาเมื่อ พันตำรวจเอก ชุมพล อัตถศาสตร์ ได้การแต่งตั้งไปยังหน่วยงานอื่น และหน่วยนี้ซึ่งเปลี่ยนแปลงไป

พ.ศ. 2526 เกิดเหตุการณ์การก่อการร้ายสากลและการก่อความสงบขึ้นในไทย โดยเฉพาะพื้นที่ในกรุงเทพฯ พลตำรวจตรี ทิพย์ อัศวรักษ์ ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งได้ฟื้นหน่วยนี้ขึ้นมาใหม่ โดยเสนอขออนุมัติแผนการฝึกหน่วยนี้ ซึ่งเป็นรูปแบบสากล

ต่อมาในปี พ.ศ. 2527 กรมตำรวจได้มีคำสั่งจัดตั้งหน่วยนี้ขึ้น ในสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในนามว่าอรินทราช 26

โดยความหมายของ"อรินทราช 26"

  • อริ = ข้าศึก, ศัตรู
  • อินท = จอม, ผู้เป็นใหญ่
  • ราช = พระเจ้าแผ่นดิน
  • 26 = ปีที่ก่อตั้ง (พ.ศ. 2526)

ซึ่งมีความหมายว่า พระราชาผู้เป็นใหญ่เหนือข้าศึกศัตรูทั้งหลาย

ปัจจุบัน อรินทราช 26 อยู่ในสังกัด กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) และขึ้นตรงกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)

ภารกิจของหน่วย

[แก้]
  • ช่วยเหลือตัวประกัน
  • ควบคุมการก่อจลาจล
  • ต่อต้านการก่อการร้าย
  • ให้ความปลอดภัยบุคคลสำคัญในประเทศและต่างประเทศ
  • เพิ่มการรักษาความปลอดภัยในจุดสำคัญ ในเวลาปกติ และเมื่อมีกิจกรรมพิเศษ
  • การก่อความสงบในประเทศ
  • การก่อวินาศกรรมสถานที่ราชการหรือสถานที่สำคัญ
  • การปราบปรามจี้ยึดอากาศยาน
  • การรีดค่าไถ

การฝึก

[แก้]

อรินทราช 26 มาจากผู้ที่เรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ หรือนายสิบตำรวจ การฝึกในครั้งแรกไม่มีรูปแบบที่แน่นอน โดยได้รับการสนับสนุนครูฝึกจากตำรวจ และยึดรูปแบบการปฏิบัติการเป็นทีม 5 คน เหมือนหน่วยปฏิบัติการพิเศษ GSG 9 ของประเทศเยอรมนี มีการฝึกการยิงปืนทางยุทธวิธี การฝึกพลแม่นปืน การปฏิบัติการทางน้ำ การต่อสู้ป้องกันตัว การขับขี่ยานพาหนะในรูปแบบต่าง ๆ เมื่อการฝึกรุ่นแรกสำเร็จ ก็มีการถ่ายทอดให้กับกำลังพลที่เข้าประจำการในกองร้อยปฏิบัติการพิเศษเรื่อยมา อีกทั้งมีการจัดส่งกำลังพลไปฝึกในหลักสูตรต่าง ๆ ของต่างประเทศและนำวิชาความรู้กลับมาถ่ายทอดให้กับกำลังพลที่อยู่ในหน่วย โดยจะทำการฝึกกันเองถ่ายทอดกันต่อ ๆ มา และได้มีการจัดแบ่งหลักสูตร ออกเป็น 5 หลักสูตร คือ

  1. หลักสูตรการต่อต้านการก่อการร้ายสากล 24 สัปดาห์ สำหรับกำลังพลที่บรรจุใหม่
  2. หลักสูตรทบทวนการต่อต้านการก่อการร้ายสากล 6 สัปดาห์ สำหรับกำลังพลที่ประจำการอยู่ในหน่วย และฝึกทดสอบแผนปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย 1 สัปดาห์
  3. หลักสูตรการทำลายระเบิด 12 สัปดาห์ สำหรับกำลังพลที่บรรจุในตำแหน่ง "พลเก็บกู้ทำลายระเบิด"
  4. หลักสูตรพลแม่นปืน 4 สัปดาห์ สำหรับกำลังพลที่บรรจุในตำแหน่ง "พลซุ่มยิง"
  5. หลักสูตรผู้ชำนาญการอิเล็กทรอนิคส์ 12 สัปดาห์ สำหรับกำลังพลที่บรรจุในตำแหน่ง "ผู้ชำนาญการอิเล็กทรอนิคส์"

นอกจากนี้ยังมีการฝึกต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น "แผนกรกฎ 48" การฝึกในสถานการณ์สมมุติ และการฝึกร่วมกับหน่วยงานอื่น

การฝึกหน่วย Anti-Hijacker (อรินทราช 26 ) ช่วงแรก ๆ

[แก้]

อุปกรณ์

[แก้]

ชุดสำหรับปฏิบัติหน้าที่

[แก้]

ในการแต่งกายจะไม่สามารถเปิดเผยใบหน้าได้ ที่ชุดบริเวณไหล่ซ้าย มีอาร์มสีบานเย็น รูปสี่เหลี่ยมคางหมู ตรงกลางมีรูปอักขระยันต์ มีตัวหนังสือบอกหน่วยสังกัดว่า "ตำรวจนครบาล ปฏิบัติการพิเศษ" นั่นคือ "ตำรวจ 191" เนื้ออาร์มมีคำว่า "อรินทราช 26" บริเวณหน้าอก มีรูปโล่อยู่ตรงกลาง พื้นโล่สีดำแดง กลางโล่มีสายฟ้าสีขาว มีดอกชัยพฤกษ์สีทองพุ่งเข้าหาโล่จากด้านข้าง ข้างละ 6 ดอก สีพื้นของชุดจะเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีสำหรับหน่วยงานที่ทำหน้าที่บริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยชุดแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

  1. ชุดทำงานปกติ สามารถเห็นได้ทั่วไปตามจุดสำคัญ
  2. ชุดเวสสีน้ำเงิน ใช้สำหรับฝึกและเตรียมพร้อมก่อนปฏิบัติงาน
  3. ชุดเวสพร้อมอุปกรณ์ โดยจะมีอุปกรณ์ครบมือ ตั้งแต่หมวกกันกระสุน, เสื้อกันกระสุน, อาวุธอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น
  4. ชุดปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย โดยชุดนี้จะเหมือนแบบที่ 3 เว้นแต่สีชุดที่เป็นสีดำ จะใส่ชุดนี้เมื่อต้องทำงานกับหน่วยงานอื่น (การสนธิกำลัง)

อาวุธประจำกาย

[แก้]

ในหน่วยงานราชการมีการเปลี่ยนแปลงแทนที่ยุทธภัณฑ์อยู่เสมอ สำหรับปืนสั้น เคยมีการใช้ Browning ปัจจุบันมีการใช้ Glock 19 และ HK P7M8 ส่วนอาวุธประจำกายคือ MP5 สำหรับบางคนจะใช้ปืนเล็กยาว หรือปืนลูกซองแทน ในการปราบจลาจลอาจมีการใช้โล่ และกระบอง หรือใช้กระสุนซ้อมมาแทนที่

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "ตำรวจส่ง "ชุดหนุมานกองปราบปราม" และ "อรินทราช 26" ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ไล่ล่าคนร้ายกราดยิงศูนย์เด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู". ฐานเศรษฐกิจ. 2022-10-06. สืบค้นเมื่อ 2022-10-06.