ข้ามไปเนื้อหา

สุพจน์ ไข่มุกด์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สุพจน์ ไข่มุกด์
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไทย
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด1 กันยายน พ.ศ. 2488 (79 ปี)

สุพจน์ ไข่มุกด์ (เกิด 1 กันยายน พ.ศ. 2488) รองประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญคนที่หนึ่ง[1] อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการในคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ยกร่าง พ.ศ. 2558) และอดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2550

ประวัติการศึกษา

  • รัฐศาสตรบัณฑิต สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการทูต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ประกาศนียบัตรชั้นสูง สาขาการทูต, Institut International d' Administration Publique (IIAP) ประเทศฝรั่งเศส
  • ปริญญาเอกด้านรัฐศาสตร์และกฎหมายระหว่างประเทศ, Universite des Sciences Sociales de Toulouse ประเทศฝรั่งเศส

ประวัติการทำงาน

  • เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ สาธารณรัฐโปแลนด์ (เข้ารับตำแหน่ง วันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๔๖)
  • เอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน (เข้ารับตำแหน่ง วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓)
  • ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๑ - ๑ กันยายน ๒๕๕๘)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

ข้อวิจารณ์

ในการประชุม สสร. ครั้งที่ 22/2550 วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2550 ณ อาคารรัฐสภา ได้มีการอภิปรายเรื่อง การร่างรัฐธรรมนูญให้รับรอง "ความหลากหลายทางเพศ" ใช้เวลากว่าสองชั่วโมง โดย สุพจน์ ไข่มุกด์ สมาชิก สสร. กล่าวว่า "...ด้วยความเห็นใจนะครับ แต่ว่าความเห็นใจนั้น คงจะมาเปลี่ยนแปลงหลักการคงไม่ได้นะครับ...ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เกิดมา ชายก็คือชาย หญิงก็คือหญิง...ผมถือว่า เป็นหลักการสากล...วรรคที่สองของมาตรา 30 บอกว่า ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน อันนี้มันก็ล็อกในตัวมันเองนะครับว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้...ระบุไว้มีสองเพศเท่านั้นเอง คือ ชาย และหญิง เพราะฉะนั้นความหลากหลายทางเพศที่ใส่เข้ามา ถ้าหมายถึงเพศที่สามแล้ว มันก็คงจะติดนี่อยู่...[ส่วน] ทางด้านกฎหมาย คือว่า ปัญหาถ้าว่ามีเพศเพิ่มขึ้นจากชายและหญิงเป็นเพศที่สาม กฎหมายต่าง ๆ คงจะอลวนกันหมดเลย เพราะว่าจะต้องมีการแก้กฎหมาย...มันจะเกิดความโกลาหลแค่ไหน ในเรื่องของกฎหมายแพ่ง กฎหมายครอบครัวต่าง ๆ..."[6]

ในการไต่สวนความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2557 สุพจน์กล่าวตอนหนึ่งว่า "รถไฟความเร็วสูงยังไม่จำเป็นสำหรับไทย และเป็นไปได้ควรให้ถนนลูกรังหมดไปจากประเทศก่อน"[7]

อ้างอิง

  1. นายสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ คนที่หนึ่ง ได้มาพบปะและกล่าวให้โอวาทกับยุวชนประชาธิปไตย
  2. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2007-01-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๕, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๗
  3. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๑๖ ตอนที่ ๒๐ ข หน้า ๑๓, ๒ ธันวาคม ๒๕๔๒
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๖๐ เก็บถาวร 2017-10-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๘ ข หน้า ๖, ๒๘ กันยายน ๒๕๖๐
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๑๑๗ ตอนที่ ๔ ข หน้า ๓๐๙, ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓
  6. รายงานการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 22/2550 วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2550, 2550 : 193.
  7. "ศาล รธน. ค้านกู้เงิน 2 ล้านล้าน รอถนนลูกรังหมดก่อน". Voice TV. 2014-01-08. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2014-01-08.