รายการฤดูกาลของสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด
เนื้อหาในบทความนี้ล้าสมัย โปรดปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด ดูหน้าอภิปรายประกอบ |
ฤดูกาลของสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรจนถึงปัจจุบัน
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1881 ทีมคริกเก็ตสแตนลีย์ได้ตัดสินใจตั้งทีมฟุตบอลขึ้น เพื่อลงเล่นในช่วงที่ฤดูกาลแข่งขันคริกเก็ตปิดตัวลงในฤดูหนาว พวกเขาชนะเกมแรกที่ลงแข่งขันด้วยสกอร์ 5-0 โดยมีคู่แข่งเป็นทีมเอลสวิกเลเธอร์เวิร์คส์ชุดสำรอง หนึ่งปีต่อมา ทีมก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลอีสต์เอนด์
ขณะเดียวกัน ทีมคริกเก็ตอีกทีมหนึ่งในย่านเดียวกันก็ได้เริ่มสนใจที่จะตั้งทีมฟุตบอล จนกระทั่งมีการก่อตั้งสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลเวสต์เอนด์ขึ้น ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1882 โดยในช่วงแรกนั้น พวกเขาใช้สนามคริกเก็ตเดิมเป็นสนามเหย้า ก่อนที่จะย้ายไปลงเตะในเซนต์เจมส์พาร์ก
หลังจากนั้น ได้มีการจัดตั้งฟุตบอลลีกท้องถิ่นขึ้นในปี ค.ศ. 1889 การที่มีลีกอาชีพในบริเวณใกล้เคียงให้ลงเตะ ประกอบกับความสนใจในถ้วยเอฟเอคัพ ทำให้นิวคาสเซิลอีสต์เอนด์เปลี่ยนจากทีมสมัครเล่นมาเป็นทีมอาชีพในปีเดียวกันนั้นเอง แต่ทว่าทางฝั่งนิวคาสเซิลเวสต์เอนด์กลับล้มเหลวที่จะตามรอยทีมเพื่อนบ้านสู่สถานะทีมฟุตบอลอาชีพ จนกระทั่งในช่วงต้นปี ค.ศ. 1892 ผู้บริหารของนิวคาสเซิลเวสต์เอนด์ได้ตัดสินใจที่จะขอเข้าควบกิจการกับนิวคาสเซิล อีสต์ เอนด์ เพื่อมิให้ทีมต้องยุบตัวลงโดยสิ้นเชิง
การควบกิจการเป็นไปด้วยดี ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1892 ชื่อ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ก็ถูกเลือกให้เป็นชื่อใหม่ของทีม
นิวคาสเซิลสามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศมาครองได้ถึงสามสมัยในช่วงทศวรรษ 1900s และยังเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพถึง 5 ครั้งใน 7 ฤดูกาล แต่สามารถเป็นแชมป์ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นในปี 1910 หลังจากเอาชนะบาร์นสลีย์ไปได้ในการเตะนัดรีเพลย์ที่กูดิสันพาร์ก
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง พวกเขาคว้าแชมป์เอฟเอคัพได้อีกสมัยโดยการเอาชนะแอสตันวิลลาในรอบชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ นอกจากนั้น นิวคาสเซิลยังเป็นแชมป์ลีกได้อีกหนึ่งสมัยในปี 1927 อีกด้วย
ในช่วงทศวรรษ 1950s นิวคาสเซิลเป็นแชมป์เอฟเอคัพถึง 3 สมัยในช่วงเวลา 5 ปี โดยเอาชนะแบล็กพูล 2-0 ในปี 1951 ชนะอาร์เซนอล 1-0 ในปี 1952 และชนะแมนเชสเตอร์ซิตี 3-1 ในปี 1955 โดยทีมนิวคาสเซิลในยุคนั้น มีผู้เล่นชื่อดังอยู่หลายคนด้วยกัน เช่น แจคกี มิลเบิร์น, บ็อบบี มิทเชลล์, และสแตน เซมัวร์
หลังจากตกชั้นลงไปเล่นในดิวิชันสองอยู่ชั่วขณะ นิวคาสเซิลที่นำโดยผู้จัดการทีม โจ ฮาร์วีย์ ก็ได้เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดในปี 1965 แต่ทว่าฟอร์มของพวกเขาหลังจากนั้นไม่สม่ำเสมอนัก
ทีมของฮาร์วีย์สามารถทำอันดับผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปครั้งแรกในปี 1968 ก่อนจะคว้าแชมป์ถ้วยอินเตอร์-ซิตีส์ แฟร์ส คัพ (หรือถ้วยยูฟ่าคัพในปัจจุบัน) ไปครองอย่างเหนือความคาดหมายในปีถัดมา โดยสามารถเอาชนะทีมใหญ่ในยุโรปของยุคนั้นไปได้หลายราย ไม่ว่าจะเป็นสปอร์ติง ลิสบอน, เฟเยนูร์ด รอตเตอร์ดัม หรือ รีล ซาราโกซา และปิดท้ายด้วยการคว่ำทีมอุจเพสท์จากฮังการีในรอบชิงชนะเลิศ
นับตั้งแต่ก่อตั้งทีมมา นิวคาสเซิลมักจะมอบเสื้อหมายเลข 9 ให้แก่ผู้เล่นกองหน้าชื่อดังประจำทีม โดยประเพณีนี้ยังคงตกทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับในช่วงเวลานั้น ผู้เล่นที่ได้ใส่เสื้อหมายเลข 9 มีหลายคนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น วิน เดวีส์, ไบรอัน ร็อบสัน, บ็อบบี มอนเคอร์ หรือ แฟรงค์ คลาร์ก
หลังจากประสบความสำเร็จในฟุตบอลสโมสรยุโรป ฮาร์วีย์ก็ได้ดึงตัวผู้เล่นเกมรุกชื่อดังมากมายเข้ามาร่วมทีม นับตั้งแต่ จิมมี สมิธ, โทนี กรีน และเทอร์รี ฮิบบิทท์ ไปจนถึงยอดศูนย์หน้าอย่าง มัลคอล์ม แมคโดแนลด์ เจ้าของฉายา 'ซูเปอร์แมค' ผู้เป็นหนึ่งในตำนานของสโมสร แมคโดแนลด์พานิวคาสเซิลเข้าชิงชนะเลิศถ้วยเอฟเอคัพและลีกคัพกับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ซิตีในปี 1974 และ 1976 ตามลำดับ แต่พลพรรคแม็กพายส์กลับล้มเหลวในรอบชิงทั้งสองครั้ง
ในช่วงต้นทศวรรษ 1980s นิวคาสเซิลอยู่ในช่วงตกต่ำ โดยได้ตกชั้นลงไปเล่นอยู่ในดิวิชัน 2 อยู่เป็นเวลาหลายปี ก่อนที่ผู้จัดการทีมอาร์เธอร์ ค็อกซ์จะสร้างทีมขึ้นมาใหม่โดยมีเควิน คีแกน อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษเป็นแกนหลัก จนกระทั่งได้เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุด
หลังจากนั้น นิวคาสเซิลเล่นอยู่ในดิวิชัน 1 จนกระทั่งพวกเขาตกชั้นอีกครั้งในปี 1989
ในปี 1992 เควิน คีแกนได้กลับคืนสู่นิวคาสเซิลอีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีม เมื่อเขาตอบรับสัญญาระยะสั้น เข้ามาคุมทีมแทนออสซี อาร์ดิเลส ตัวคีแกนเองนั้นกล่าวว่า งานคุมทีมนิวคาสเซิลเป็นงานเดียวเท่านั้น ที่สามารถทำให้เขาหวนคืนสู่วงการฟุตบอลได้ ในขณะนั้น นิวคาสเซิลกำลังดิ้นรนหนีการตกชั้นอยู่ในดิวิชัน 2 ถึงแม้ว่าจะเพิ่งถูกซื้อกิจการโดยเซอร์ จอห์น ฮอลล์ไปไม่นานก็ตาม
ในฤดูกาลนั้น นิวคาสเซิลสามารถหนีรอดพ้นการตกชั้นไปได้ โดยเปิดบ้านเอาชนะปอร์ทสมัธก่อนจะบุกไปเอาชนะเลสเตอร์ซิตีในสองเกมสุดท้ายของฤดูกาล
ในฤดูกาลถัดมา (1992-93) ฟอร์มของนิวคาสเซิลเปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ พวกเขาเล่นฟุตบอลเกมรุกแบบตื่นตาตื่นใจ จนกระทั่งคว้าชัยชนะในเกมลีก 11 นัดแรก ก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแชมป์ดิวิชัน 1 และเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกด้วยชัยชนะเหนือกริมสบี ทาวน์ 2-0
นิวคาสเซิลประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดภายใต้การคุมทีมของคีแกน พวกเขาจบฤดูกาล 1993-94 ที่อันดับ 3 และได้รับการตั้งฉายาโดยสื่อมวลชนอังกฤษว่าเป็น "The Entertainers"
ในปีถัดมา นิวคาสเซิลจบฤดูกาลที่อันดับ 6 หลังจากที่ช็อกแฟนบอลด้วยการขายกองหน้าจอมถล่มประตู แอนดี โคล ให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์บวกกับคีธ กิลเลสพี ปีกขวาดาวรุ่งชาวไอริช
ในปี 1995-96 นิวคาสเซิลเสริมทีมครั้งใหญ่ โดยดึงตัวผู้เล่นชื่อดังเช่นดาวีด ฌีโนลาและเลส เฟอร์ดินานด์มาร่วมทีม พวกเขาเกือบที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ แต่ก็ทำได้เพียงตำแหน่งรองแชมป์ ทั้งที่ในช่วงคริสต์มาส พวกเขาทิ้งห่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถึง 12 คะแนน เกมที่นิวคาสเซิลพ่ายให้กับลิเวอร์พูลไป 3-4 ที่สนามแอนฟิลด์ในฤดูกาลนี้ ได้รับการโหวตให้เป็นเกมยอดเยี่ยมตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว
นิวคาสเซิลเข้าป้ายเป็นอันดับที่ 2 อีกครั้งในปีถัดมา แม้ว่าจะทำการเซ็นสัญญากองหน้าทีมชาติอังกฤษ แอลัน เชียเรอร์ มาร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติโลก 15 ล้านปอนด์ สำหรับฤดูกาล 1996-97 นี้ เป็นที่จดจำของแฟนบอลหลายคน เนื่องจากนิวคาสเซิลได้ถล่มเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปด้วยสกอร์ถึง 5-0 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 1996
คีแกนลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมในเดือนมกราคม ปี 1997 และถูกแทนที่โดยเคนนี ดัลกลิช ซึ่งได้รับเลือกเพื่อมาช่วยแก้ปัญหาเกมรับของทีม ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของปี 1997-98 ดัลกลิชพานิวคาสเซิลเข้าไปเล่นฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และพ่ายต่ออาร์เซนอลในรอบชิงชนะเลิศถ้วยเอฟเอคัพไป 0-2 หลังจากนั้น แฟนบอลก็เริ่มที่จะไม่พอใจกับสไตล์การทำทีมที่เน้นเกมรับของดัลกลิช เมื่อบวกกับผลงานที่ตกต่ำลงของทีม เป็นผลให้ดัลกลิชถูกปลดออกจากตำแหน่งในช่วงต้นฤดูกาล 1998-99
รืด คึลลิตก้าวเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมต่อจากดัลกลิช และพาทีมเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพอีกครั้ง ก่อนจะพ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปในที่สุด แต่คึลลิตได้ทำการซื้อตัวผู้เล่นราคาแพงหลายคนที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในพรีเมียร์ลีก เช่นมาร์เซลิโน กองหลังชาวสเปน และซิลวิโอ มาริช มิดฟิลด์โครเอเชีย นอกจากนี้คึลลิตยังมีปากเสียงกับผู้เล่นคนสำคัญหลายคนในทีม ทั้งหมดนี้ประกอบกับการเริ่มต้นฤดูกาล 1999-2000 ได้อย่างเลวร้าย ทำให้คึลลิตถูกกดดันให้ลาออกไป
นิวคาสเซิลตัดสินใจแต่งตั้งเซอร์ บ็อบบี ร็อบสัน อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษชาวจอร์ดี เข้ามากู้สถานการณ์ของทีม ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในโซนตกชั้น เกมเหย้าเกมแรกของนิวคาสเซิลภายใต้ร็อบสันจบลงด้วยชัยชนะ 8-0 เหนือเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ พร้อมทั้ง 5 ประตูจากกัปตันทีมแอลัน เชียเรอร์ ในช่วงที่ร็อบสันคุมทีม นิวคาสเซิลได้สร้างทีมขึ้นมาใหม่โดยอาศัยนักเตะดาวรุ่งเป็นแกนหลัก ผู้เล่นอย่างคีรอน ดายเออร์, เคร็ก เบลลามี่ และโลรองต์ โรแบร์ ทำให้นิวคาสเซิลกลับมาเป็นทีมระดับหัวแถวของพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ฟุตบอลเกมรุกอันน่าตื่นเต้นของพวกเขาทำให้นิวคาสเซิลทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2001-02 จนได้กลับเข้าไปเล่นในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และได้เข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของถ้วยเอฟเอคัพและลีกคัพ
ในฤดูกาล 2002-03 นิวคาสเซิลได้สร้างประวัติศาสตร์ เป็นทีมแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่แพ้ในรอบแบ่งกลุ่ม 3 เกมแรกแล้วยังสามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้ ก่อนจะตกรอบแบ่งกลุ่มรอบสอง หลังจากถูกจับฉลากแบ่งสายไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับทีมยักษ์ใหญ่อย่างบาร์เซโลนาและอินเตอร์ มิลาน ส่วนผลงานในพรีเมียร์ลีกนั้น นิวคาสเซิลก็ยังคงทำได้ดีอย่างสม่ำเสมอ จนจบฤดูกาลในอันดับที่ 3
ต่อมาในฤดูกาล 2003-04 นิวคาสเซิลตกรอบคัดเลือกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกหลังพ่ายในการดวลจุดโทษให้กับพาร์ทิซาน เบลเกรด จนต้องตกลงไปเล่นในถ้วยยูฟ่าคัพแทน นิวคาสเซิลจบฤดูกาลในอันดับที่ 5 และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศถ้วยยูฟ่าคัพ
นัดสุดท้ายของฤดูกาล 2008-09 นิวคาสเซิลบุกไปแพ้แอสตันวิลลา 1-0 ที่วิลลาพาร์ก ทำให้ทีมต้องตกชั้นสู่เดอะแชมเปียนชิพด้วยอันดับ 18 ของตาราง หลังจากตกชั้นได้ไม่นานแอลัน เชียเรอร์ ก็หมดสัญญาคุมทีม โดยมีคริส ฮิวจ์ตัน ทำหน้าที่รักษาการแทน หลังจากนั้นทีมต้องเสียนักเตะอย่าง ไมเคิล โอเวน, มาร์ค วิดูกา, เดวิด เอ็ดการ์, โอบาเฟมี มาร์ตินส์ และเซบาสเตียน บาสซง
ฤดูกาล
[แก้]ฤดูกาล | ลีก | เอฟเอคัพ | ลีกคัพ | คอมมูนิตีชิลด์ | ยุโรป | ดาวซัลโว | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | แข่ง | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ได้ | เสีย | คะแนน | อันดับ | ชื่อ | ประตู | |||||
1892–93 | North | 10 | 5 | 1 | 4 | 30 | 19 | 11 | 2nd | R1 | แจ็ก เซย์เลย์ | 7 | |||
1893–94 | Div 2 | 28 | 15 | 6 | 7 | 66 | 39 | 36 | 4th | R2 | โจเซฟ วัลเลซ | 17 | |||
1894–95 | Div 2 | 30 | 12 | 3 | 15 | 72 | 84 | 27 | 10th | R2 | วิลลี ทอมสัน | 18 | |||
1895–96 | Div 2 | 30 | 16 | 2 | 12 | 73 | 50 | 34 | 5th | R2 | วิลลี วาร์ดโรป | 20 | |||
1896–97 | Div 2 | 30 | 17 | 1 | 12 | 56 | 52 | 35 | 5th | R1 | Richard Smellie | 15 | |||
1897–98 | Div 2 | 30 | 21 | 3 | 6 | 64 | 32 | 45 | 2nd | R2 | แจ็ก เพ็ดดี | 18 | |||
1898–99 | Div 1 | 34 | 11 | 8 | 15 | 49 | 48 | 30 | 13th | R2 | แจ็ก เพ็ดดี | 20 | |||
1899–1900 | Div 1 | 34 | 13 | 10 | 11 | 53 | 53 | 36 | 5th | R2 | แจ็ก เพ็ดดี | 16 | |||
1900–01 | Div 1 | 34 | 14 | 10 | 10 | 42 | 37 | 38 | 6th | R1 | แจ็ก เพ็ดดี | 16 | |||
1901–02 | Div 1 | 34 | 14 | 9 | 11 | 48 | 34 | 37 | 3rd | QF | ริชาร์ด โรเบิร์ต | 12 | |||
1902–03 | Div 1 | 34 | 14 | 4 | 16 | 41 | 51 | 32 | 14th | R1 | บ็อบ แม็คโคล | 10 | |||
1903–04 | Div 1 | 34 | 18 | 6 | 10 | 58 | 45 | 42 | 4th | R1 | บิลล์ แอปเปิลยาร์ด | 16 | |||
1904–05 | Div 1 | 34 | 23 | 2 | 9 | 72 | 33 | 48 | 1st | RU | จิมมี ฮาร์วีย์ | 18 | |||
1905–06 | Div 1 | 38 | 18 | 7 | 13 | 74 | 48 | 43 | 4th | RU | โรนัล ออร์ | 21 | |||
1906–07 | Div 1 | 38 | 22 | 7 | 9 | 74 | 46 | 51 | 1st | R1 | บิลล์ แอปเปิลยาร์ด | 18 | |||
1907–08 | Div 1 | 38 | 15 | 12 | 11 | 65 | 54 | 42 | 4th | RU | บิลล์ แอปเปิลยาร์ด | 22 | |||
1908–09 | Div 1 | 38 | 24 | 5 | 9 | 65 | 41 | 53 | 1st | SF | อัลแบร์ เชพเพิร์ด | 15 | |||
1909–10 | Div 1 | 38 | 19 | 7 | 12 | 70 | 56 | 45 | 4th | W | W | อัลแบร์ เชพเพิร์ด | 31 | ||
1910–11 | Div 1 | 38 | 15 | 10 | 13 | 61 | 43 | 40 | 8th | RU | อัลแบร์ เชพเพิร์ด | 33 | |||
1911–12 | Div 1 | 30 | 18 | 8 | 12 | 64 | 50 | 44 | 3rd | R1 | บิลลี ฮิปเบิร์ต จิมมี สจวตต์ |
14 | |||
1912–13 | Div 1 | 38 | 13 | 8 | 17 | 47 | 47 | 34 | 14th | QF | จิมมี สจวตต์ | 9 | |||
1913–14 | Div 1 | 38 | 13 | 11 | 14 | 39 | 48 | 37 | 11th | R1 | อัลแบร์ เชพเพิร์ด | 10 | |||
1914–15 | Div 1 | 38 | 11 | 10 | 17 | 46 | 48 | 32 | 15th | QF | บิลลี ฮิปเบิร์ต | 16 | |||
ไม่มีการแข่งขันระหว่างปี 1915 และ 1919 เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 | |||||||||||||||
1919–20 | Div 1 | 42 | 17 | 9 | 16 | 44 | 39 | 43 | 8th | R2 | Andy Smailes | 10 | |||
1920–21 | Div 1 | 42 | 20 | 10 | 12 | 66 | 45 | 50 | 5th | R3 | นีลล์ แฮร์ริส | 19 | |||
1921–22 | Div 1 | 42 | 18 | 10 | 14 | 59 | 45 | 46 | 7th | R2 | นีลล์ แฮร์ริส | 23 | |||
1922–23 | Div 1 | 42 | 18 | 12 | 12 | 45 | 37 | 48 | 4th | R1 | ทอม แม็คโดนัลล์ | 15 | |||
1923–24 | Div 1 | 42 | 17 | 10 | 15 | 60 | 54 | 44 | 9th | W | นีลล์ แฮร์ริส | 23 | |||
1924–25 | Div 1 | 42 | 16 | 16 | 10 | 61 | 42 | 48 | 6th | R2 | นีลล์ แฮร์ริส | 20 | |||
1925–26 | Div 1 | 42 | 16 | 10 | 16 | 84 | 75 | 42 | 10th | R5 | Hughie Gallacher | 25 | |||
1926–27 | Div 1 | 42 | 25 | 6 | 11 | 96 | 58 | 67 | 1st | R5 | Hughie Gallacher | 39 | |||
1927–28 | Div 1 | 42 | 15 | 13 | 14 | 79 | 81 | 43 | 9th | R3 | Hughie Gallacher | 21 | |||
1928–29 | Div 1 | 42 | 19 | 6 | 17 | 70 | 72 | 44 | 10th | R3 | Hughie Gallacher | 24 | |||
1929–30 | Div 1 | 42 | 15 | 7 | 20 | 71 | 92 | 37 | 19th | QF | Hughie Gallacher | 34 | |||
1930–31 | Div 1 | 42 | 15 | 6 | 21 | 78 | 87 | 36 | 17th | R4 | ดันแคน ฮัตชินสัน | 14 | |||
1931–32 | Div 1 | 42 | 18 | 6 | 18 | 80 | 87 | 42 | 11th | W | จิมมี บอยด์ | 23 | |||
1932–33 | Div 1 | 42 | 22 | 5 | 15 | 71 | 63 | 49 | 5th | R3 | RU | แจ็ก อัลเลน | 19 | ||
1933–34 | Div 1 | 42 | 10 | 14 | 18 | 68 | 77 | 34 | 21st | R3 | แซม แวร์เวอร์ | 14 | |||
1934–35 | Div 2 | 42 | 22 | 4 | 16 | 89 | 68 | 48 | 6th | R4 | แจ็ก สมิธ | 16 | |||
1935–36 | Div 2 | 42 | 20 | 6 | 16 | 88 | 79 | 46 | 8th | R5 | แจ็ก สมิธ | 26 | |||
1936–37 | Div 2 | 42 | 22 | 5 | 15 | 80 | 56 | 49 | 4th | R3 | แจ็ก สมิธ | 24 | |||
1937–38 | Div 2 | 42 | 14 | 8 | 20 | 51 | 58 | 36 | 19th | R3 | Bill Imrie John Park |
9 | |||
1938–39 | Div 2 | 42 | 18 | 10 | 14 | 61 | 48 | 46 | 9th | R5 | Billy Cairns | 20 | |||
ไม่มีการแข่งขันระหว่างปี 1939 และ 1946 เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 | |||||||||||||||
1945–46 | R3 | แจ็กกี มิลเบิร์น | 2 | ||||||||||||
1946–47 | Div 2 | 42 | 19 | 10 | 13 | 95 | 62 | 48 | 5th | SF | Charlie Wayman | 34 | |||
1947–48 | Div 2 | 42 | 24 | 8 | 10 | 72 | 41 | 56 | 2nd | R3 | แจ็กกี มิลเบิร์น | 20 | |||
1948–49 | Div 1 | 42 | 20 | 12 | 10 | 70 | 56 | 52 | 4th | R3 | แจ็กกี มิลเบิร์น | 19 | |||
1949–50 | Div 1 | 42 | 19 | 12 | 11 | 77 | 55 | 50 | 5th | R4 | แจ็กกี มิลเบิร์น | 21 | |||
1950–51 | Div 1 | 42 | 18 | 13 | 11 | 62 | 53 | 49 | 4th | W | แจ็กกี มิลเบิร์น | 25 | |||
1951–52 | Div 1 | 42 | 18 | 9 | 15 | 98 | 73 | 45 | 8th | W | RU | George Robledo | 39 | ||
1952–53 | Div 1 | 42 | 14 | 9 | 19 | 59 | 70 | 37 | 16th | R4 | RU | George Robledo | 18 | ||
1953–54 | Div 1 | 42 | 14 | 10 | 18 | 72 | 77 | 38 | 15th | R5 | แจ็กกี มิลเบิร์น | 18 | |||
1954–55 | Div 1 | 42 | 17 | 9 | 16 | 89 | 77 | 43 | 8th | W | บ็อบบี มิตเชล | 23 | |||
1955–56 | Div 1 | 42 | 17 | 7 | 18 | 85 | 70 | 41 | 11th | QF | RU | วิก คีเบิล | 29 | ||
1956–57 | Div 1 | 42 | 14 | 8 | 20 | 67 | 87 | 36 | 17th | R4 | เร็ก ดาวีย์ เลน ไวท์ |
13 | |||
1957–58 | Div 1 | 42 | 12 | 8 | 22 | 73 | 81 | 32 | 19th | R4 | เลน ไวท์ | 25 | |||
1958–59 | Div 1 | 42 | 17 | 7 | 18 | 80 | 80 | 41 | 11th | R3 | เลน ไวท์ | 25 | |||
1959–60 | Div 1 | 42 | 18 | 8 | 16 | 82 | 78 | 44 | 8th | R3 | เลน ไวท์ | 29 | |||
1960–61 | Div 1 | 42 | 11 | 10 | 21 | 86 | 109 | 32 | 21st | QF | R1 | เลน ไวท์ | 29 | ||
1961–62 | Div 2 | 42 | 15 | 9 | 18 | 64 | 58 | 39 | 11th | R3 | R2 | Ivor Allchurch | 11 | ||
1962–63 | Div 2 | 42 | 18 | 11 | 13 | 79 | 59 | 47 | 7th | R4 | R2 | จิมมี เฟล บาร์รี โธมัส |
16 | ||
1963–64 | Div 2 | 42 | 20 | 5 | 17 | 74 | 69 | 45 | 8th | R3 | R3 | บาร์รี โธมัส | 21 | ||
1964–65 | Div 2 | 42 | 24 | 9 | 9 | 81 | 45 | 57 | 1st | R3 | R2 | Ron McGarry | 16 | ||
1965–66 | Div 1 | 42 | 14 | 9 | 19 | 50 | 63 | 37 | 15th | R4 | R2 | Alan Suddick | 15 | ||
1966–67 | Div 1 | 42 | 12 | 9 | 21 | 39 | 81 | 33 | 20th | R4 | R2 | ไบรอัน ร็อบสัน | 11 | ||
1967–68 | Div 1 | 42 | 13 | 15 | 14 | 54 | 67 | 41 | 10th | R3 | R2 | Wyn Davies | 12 | ||
1968–69 | Div 1 | 42 | 15 | 14 | 13 | 61 | 55 | 44 | 9th | R4 | R3 | อินเตอร์ซิตีแฟร์สคัพ - W | ไบรอัน ร็อบสัน | 30 | |
1969–70 | Div 1 | 42 | 17 | 13 | 12 | 57 | 35 | 47 | 7th | R3 | R2 | อินเตอร์ซิตีแฟร์สคัพ - QF | ไบรอัน ร็อบสัน | 25 | |
1970–71 | Div 1 | 42 | 14 | 13 | 15 | 44 | 46 | 41 | 12th | R3 | R2 | อินเตอร์ซิตีแฟร์สคัพ - R2 | ไบรอัน ร็อบสัน | 10 | |
1971–72 | Div 1 | 42 | 15 | 11 | 16 | 49 | 52 | 41 | 11th | R3 | R3 | มัลคอล์ม แม็คโดนัลล์ | 26 | ||
1972–73 | Div 1 | 42 | 16 | 13 | 13 | 60 | 51 | 45 | 9th | R4 | R3 | มัลคอล์ม แม็คโดนัลล์ | 19 | ||
1973–74 | Div 1 | 42 | 13 | 12 | 17 | 49 | 48 | 38 | 15th | RU | R3 | มัลคอล์ม แม็คโดนัลล์ | 25 | ||
1974–75 | Div 1 | 42 | 15 | 9 | 18 | 59 | 72 | 39 | 15th | R4 | QF | มัลคอล์ม แม็คโดนัลล์ | 27 | ||
1975–76 | Div 1 | 42 | 15 | 9 | 18 | 71 | 62 | 39 | 15th | QF | RU | แอลัน โกวลิง | 30 | ||
1976–77 | Div 1 | 42 | 18 | 13 | 11 | 64 | 49 | 49 | 5th | R4 | R4 | มิกกี เบิร์น | 17 | ||
1977–78 | Div 1 | 42 | 6 | 10 | 26 | 42 | 78 | 22 | 21st | R4 | R2 | ยูฟ่าคัพ - R2 | มิกกี เบิร์น | 16 | |
1978–79 | Div 2 | 42 | 17 | 8 | 17 | 51 | 55 | 42 | 8th | R4 | R2 | ปีเตอร์ วิธ | 16 | ||
1979–80 | Div 2 | 42 | 15 | 14 | 13 | 53 | 49 | 44 | 9th | R3 | R2 | แอลัน โชวเดอร์ | 21 | ||
1980–81 | Div 2 | 42 | 14 | 14 | 14 | 30 | 45 | 42 | 11th | R5 | R2 | บ็อบบี ชินตัน | 7 | ||
1981–82 | Div 2 | 42 | 18 | 8 | 16 | 52 | 50 | 62 | 9th | R4 | R2 | Imre Varadi | 20 | ||
1982–83 | Div 2 | 42 | 18 | 13 | 11 | 75 | 53 | 67 | 5th | R3 | R2 | Imre Varadi | 22 | ||
1983–84 | Div 2 | 42 | 24 | 8 | 10 | 85 | 53 | 80 | 3rd | R3 | R2 | เควิน คีแกน | 28 | ||
1984–85 | Div 1 | 42 | 13 | 13 | 16 | 55 | 70 | 52 | 14th | R3 | R3 | ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ | 17 | ||
1985–86 | Div 1 | 42 | 17 | 12 | 13 | 67 | 72 | 63 | 11th | R3 | R3 | ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ | 19 | ||
1986–87 | Div 1 | 42 | 12 | 11 | 19 | 47 | 65 | 47 | 17th | R5 | R2 | Paul Goddard | 13 | ||
1987–88 | Div 1 | 40 | 14 | 14 | 12 | 55 | 53 | 56 | 8th | R5 | R3 | ไมเคิล โอนีลล์ | 13 | ||
1988–89 | Div 1 | 38 | 7 | 10 | 21 | 32 | 63 | 31 | 20th | R3 | R2 | Mirandinha | 11 | ||
1989–90 | Div 2 | 46 | 22 | 14 | 10 | 80 | 55 | 80 | 3rd | R5 | R3 | มิกกี ควินน์ | 34 | ||
1990–91 | Div 2 | 46 | 14 | 17 | 15 | 49 | 56 | 59 | 11th | R4 | R2 | มิกกี ควินน์ | 20 | ||
1991–92 | Div 2 | 46 | 13 | 13 | 20 | 66 | 84 | 52 | 20th | R3 | R3 | เกวิน เพียร์คุกส์ | 19 | ||
1992–93 | Div 1 | 46 | 29 | 9 | 8 | 92 | 38 | 96 | 1st | R5 | R3 | เดวิด เคลลีย์ | 27 | ||
1993–94 | Prem | 42 | 23 | 8 | 11 | 82 | 41 | 77 | 3rd | R4 | R3 | แอนดี โคล | 41 | ||
1994–95 | Prem | 42 | 20 | 12 | 10 | 67 | 47 | 72 | 6th | QF | R4 | ยูฟ่าคัพ - R2 | แอนดี โคล | 15 | |
1995–96 | Prem | 38 | 24 | 6 | 8 | 66 | 37 | 78 | 2nd | R3 | R5 | เลส เฟอร์ดินานด์ | 29 | ||
1996–97 | Prem | 38 | 19 | 11 | 8 | 73 | 40 | 68 | 2nd | R4 | R4 | RU | ยูฟ่าคัพ - QF | แอลัน เชียเรอร์ | 28 |
1997–98 | Prem | 38 | 11 | 11 | 16 | 35 | 44 | 44 | 13th | RU | R5 | ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก - GR1 | แอลัน เชียเรอร์ จอห์น บาร์นส |
7 | |
1998–99 | Prem | 38 | 11 | 13 | 14 | 48 | 54 | 46 | 13th | RU | R4 | ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ - R1 | แอลัน เชียเรอร์ | 21 | |
1999–2000 | Prem | 38 | 14 | 10 | 14 | 63 | 54 | 52 | 11th | SF | R3 | ยูฟ่าคัพ - R3 | แอลัน เชียเรอร์ | 30 | |
2000–01 | Prem | 38 | 14 | 9 | 15 | 44 | 50 | 51 | 11th | R3 | R4 | แอลัน เชียเรอร์ โนลแบร์โต โซลาโน คาร์ล คอร์ต |
7 | ||
2001–02 | Prem | 38 | 21 | 8 | 9 | 67 | 30 | 71 | 4th | QF | R5 | ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ - RU | แอลัน เชียเรอร์ | 27 | |
2002–03 | Prem | 38 | 21 | 6 | 11 | 63 | 48 | 69 | 3rd | R3 | R3 | ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก - GR2 | แอลัน เชียเรอร์ | 25 | |
2003–04 | Prem | 38 | 13 | 17 | 8 | 52 | 40 | 56 | 5th | R4 | R3 | ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก - QR3 | แอลัน เชียเรอร์ | 28 | |
ยูฟ่าคัพ - SF | |||||||||||||||
2004–05 | Prem | 38 | 10 | 14 | 14 | 47 | 57 | 44 | 14th | SF | R4 | ยูฟ่าคัพ - QF | แอลัน เชียเรอร์ | 19 | |
2005–06 | Prem | 38 | 17 | 7 | 14 | 47 | 42 | 58 | 7th | QF | R4 | ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ - SF | แอลัน เชียเรอร์ | 14 | |
2006–07 | Prem | 38 | 11 | 10 | 17 | 38 | 47 | 43 | 13th | R3 | R5 | ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ - W | โอบาเฟมี มาร์ตินส์ | 17 | |
ยูฟ่าคัพ - R2 | |||||||||||||||
2007–08 | Prem | 38 | 11 | 10 | 17 | 46 | 65 | 43 | 12th | R4 | R3 | ไมเคิล โอเวน | 13 | ||
2008–09 | Prem | 38 | 7 | 13 | 18 | 40 | 59 | 34 | 18th | R3 | R3 | ไมเคิล โอเวน | 10 | ||
2009–10 | Cham |
ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | เลื่อนชั้น | ตกชั้น |
|
|
|
- ประตูของดาวซัลโวจะนับเฉพาะเกมที่แข่งขันอย่างเป็นทางการ (ฟุตบอลลีกหรือพรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ, ลีกคัพ และฟุตบอลถ้วยยุโรป) เท่านั้น
- ดาวซัลโวที่เป็น ตัวหนา คือนักเตะที่เป็นดาวซัลโวลีกด้วย
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- League Record and Topscorers 1893-2008 เก็บถาวร 2011-04-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at khscott.org.uk เก็บถาวร 2011-04-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- League Record 1893-2008 เก็บถาวร 2009-02-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at nufc.com
- League Cup Record 1960-2008 เก็บถาวร 2009-02-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at nufc.com
- European Record 1968-2008 เก็บถาวร 2009-02-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at nufc.com