ข้ามไปเนื้อหา

ยูฟ่าซูเปอร์คัพ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์คัพ)
ยูฟ่าซูเปอร์คัพ
ผู้จัดยูฟ่า
ก่อตั้งค.ศ. 1972; 53 ปีที่แล้ว (1972)
(แข่งขันอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ ค.ศ. 1973)
ภูมิภาคยุโรป
จำนวนทีม2
ทีมชนะเลิศปัจจุบันประเทศสเปน เรอัลมาดริด (สมัยที่ 6)
ทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดประเทศสเปน เรอัลมาดริด (6 สมัย)
เว็บไซต์uefa.com/uefasupercup
ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2025

ยูฟ่าซูเปอร์คัพ (อังกฤษ: UEFA Super Cup) เป็นการแข่งขันฟุตบอลซูเปอร์คัพประจำปีจัดโดย ยูฟ่า โดยแข่งขันระหว่างผู้ชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และยูฟ่ายูโรปาลีก ชื่ออย่างเป็นทางการของการแข่งขันเดิมคือ ซูเปอร์คอมเพทิชัน[1] ต่อมาก็มีชื่อว่า ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ และเปลี่ยนชื่อเป็น ยูฟ่าซูเปอร์คัพ ในปี 1995 ตามนโยบายการสร้างแบรนด์ใหม่ของยูฟ่า

ตั้งแต่ ค.ศ. 1972 ถึง 1999 ยูฟ่าซูเปอร์คัพแข่งขันระหว่างผู้ชนะเลิศ ยูโรเปียนคัพ/ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และผู้ชนะเลิศ ยูโรเปียน/ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ หลังยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพถูกยกเลิก ยูฟ่าซูเปอร์คัพก็แข่งขันระหว่างผู้ชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และผู้ชนะเลิศ ยูฟ่าคัพ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ยูฟ่ายูโรปาลีก ใน ค.ศ. 2009

แชมป์ปัจจุบันคือ เรอัลมาดริด ผู้ชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก โดยชนะอาตาลันตา ผู้ชนะเลิศยูโรปาลีก ด้วยผลประตู 2–0 ใน ค.ศ. 2024 เรอัลมาดริดยังเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในรายการนี้ โดยชนะเลิศหกครั้ง

ประวัติ

[แก้]

ยูฟ่าซูเปอร์คัพ หรือยูโรเปียนซูเปอร์คัพ เริ่มทำการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1972 ผู้ริเริ่มคือ แอนตั้น วิทแคมป์ นักข่าวและผู้อำนวยการด้านกีฬาของหนังสือพิมพ์เดอ เทเลกราฟ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ความคิดนี้เริ่มขึ้นเมื่อดัตช์โททัลฟุตบอลกำลังเป็นที่นิยมมากในยุโรป และกำลังอยู่ในยุคทองของสโมสรจากเนเธอร์แลนด์ โดยวิทแคมป์เสนอให้นำเอาทีมชนะเลิศยูโรเปียนคัพ มาพบกับทีมชนะเลิศยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ [2]

เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างพร้อม การแข่งขันรายการใหม่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี ความคิดที่จะเห็นการแข่งขันรายการนี้ เป็นการแข่งขันแบบเป็นทางการของวิทแคมป์ ได้ถูกปฏิเสธโดยประธานของยูฟ่า

แต่ถึงกระนั้น ถ้วยใบนี้ก็ยังยืนยันที่จะเดินหน้าจัดการแข่งขันต่อไป โดยเป็นการแข่งขันแบบเหย้า-เยือน สนับสนุนการเงินโดยหนังสือพิมพ์เดอ เทเลกราฟนั่นเอง ซึ่งอายักซ์ เอาชนะเรนเจอร์ส คว้าแชมป์สมัยแรกมาครองได้สำเร็จ หลังจากนั้น การแข่งขันรายการนี้จึงได้รับการรับรองจากยูฟ่า

แม้ว่าระบบการแข่งขันแบบเหย้า-เยือนจะยังคงดำเนินต่อไป แต่ในบางปี ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ ก็ต้องทำการแข่งขันแบบนัดเดียว ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับตารางเวลาในการแข่งขันและเหตุผลทางด้านการเมือง และในปี ค.ศ. 1974, 1981 และ 1985 ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ ไม่มีการแข่งขัน

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 เป็นต้นมา ยูโรเปียนซูเปอร์คัพได้ทำการแข่งขันแบบนัดเดียวรู้ผล ที่สนามสต๊าด หลุยส์ เดอซ์ ในโมนาโก

เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 1998-99 ยูฟ่าได้ยกเลิกการแข่งขันรายการยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ และตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 1999-2000 ยูโรเปียนซูเปอร์คัพจะเป็นการแข่งขันกันระหว่างทีมชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (หรือยูโรเปียนคัพเดิม) กับทีมชนะเลิศยูฟ่ายูโรปาลีก (หรือยูฟ่าคัพเดิม)

รางวัล

[แก้]

ถ้วยรางวัล

[แก้]
ถ้วยรางวัลยูฟ่าซูเปอร์คัพตั้งแต่ ค.ศ. 2006

ยูฟ่าจะเก็บรักษาถ้วยรางวัลยูฟ่าซูเปอร์คัพไว้ตลอดเวลา สโมสรผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลจำลองขนาดเท่าของจริง และจะได้รับเหรียญทองจำนวน 40 เหรียญ และรองชนะเลิศจะได้รับเหรียญเงินจำนวน 40 เหรียญ[3]

ถ้วยรางวัลซูเปอร์คัพมีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งในประวัติศาสตร์ ถ้วยรางวัลแรกถูกมอบให้กับอายักซ์ในปี 1973 ต่อมาในปี 1977 ถ้วยรางวัลเดิมได้ถูกแทนที่ด้วยแผ่นโลหะที่มีตราสัญลักษณ์ยูฟ่าสีทอง ต่อมาในปี 1987 ถ้วยรางวัลถัดมาคือถ้วยรางวัลสโมสรยุโรปที่เล็กและเบาที่สุด โดยมีน้ำหนัก 5 กิโลกรัม และมีความสูง 42.5 เซนติเมตร ขณะที่ถ้วยรางวัลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกมีน้ำหนัก 8 กิโลกรัม และถ้วยรางวัลยูฟ่ายูโรปาลีก มีน้ำหนัก 15 กิโลกรัม ถ้วยรางวัลได้รับการออกแบบและผลิตที่เวิร์กช็อปเบอร์โตนีในมิลาน ถ้วยรางวัลใหม่ซึ่งใหญ่กว่าถ้วยรางวัลก่อนหน้านี้ เปิดตัวเมื่อปี 2006 โดยมีน้ำหนัก 12.2 กิโลกรัม และมีความสูง 58 เซนติเมตร[4]

ก่อน ค.ศ. 2008 สโมสรที่ชนะเลิศยูฟ่าซูเปอร์คัพสามครั้งติดต่อกันหรือชนะเลิศห้าครั้ง จะได้รับถ้วยรางวัลแบบดั้งเดิมและเครื่องหมายแสดงความยอมรับพิเศษ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ถ้วยรางวัลแบบดั้งเดิมจะเก็บรักษาไว้โดยยูฟ่าเท่านั้น มิลาน, บาร์เซโลนา และเรอัลมาดริด เป็นสโมสรที่ได้รับเกียรตินี้ โดยชนะเลิศสโมสรละห้าสมัย แต่มีเพียงมิลานเท่านั้นที่ได้รับถ้วยรางวัลอย่างเป็นทางการถาวรในปี 2007 บาร์เซโลนา และเรอัลมาดริด ชนะเลิศสมัยที่ห้าของพวกเขาในปี 2015 และ 2022 ตามลำดับ เมื่อนโยบายดังกล่าวไม่ได้บังคับใช้อีกต่อไป

เงินรางวัล

[แก้]

ณ ปี 2020 จำนวนเงินรางวัลคงที่ที่จ่ายให้กับสโมสรมีดังนี้:

  • รองชนะเลิศ: €3,800,000
  • ชนะเลิศ: €5,000,000

การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ

[แก้]

รอบชิงชนะเลิศ (นัดเดียว)

[แก้]
ฤดูกาล ทีมชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ผลประตู ทีมชนะเลิศยูฟ่ายูโรปาลีก สนาม
2024 ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 2 – 0 ประเทศอิตาลี อาตาลันตา สนามกีฬาแห่งชาติ,
วอร์ซอ ประเทศโปแลนด์
2023 ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี 1 – 1
(ชนะดวลจุดโทษ 5–4)
ประเทศสเปน เซบิยา สนามกีฬาคาไรสคาคิส,
ไพรีอัส ประเทศกรีซ
2022 ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 2 – 0 ประเทศเยอรมนี ไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟวร์ท สนามกีฬาโอลิมปิกเฮลซิงกิ,
เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
2021 ประเทศอังกฤษ เชลซี 1 – 1
(ชนะดวลจุดโทษ 6–5)
ประเทศสเปน บิยาร์เรอัล วินด์เซอร์พาร์ก,
เบลฟาสต์ ไอร์แลนด์เหนือ
2020 ประเทศเยอรมนี ไบเอิร์นมิวนิก 2 – 1
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
ประเทศสเปน เซบิยา ปุชกาชออเรนอ,
บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
2019 ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล 2 – 2
(ชนะดวลจุดโทษ 5–4)
ประเทศอังกฤษ เชลซี โวดาโฟน พาร์ค,
อิสตันบูล ประเทศตุรกี
2018 ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 2 – 4
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
ประเทศสเปน อัตเลติโกเดมาดริด อ. เลอ ค็อค อาเรนา,
ทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย
2017 ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 2 – 1 ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ฟิลิป ทู อาเรนา,
สโกเปีย ประเทศมาซิโดเนียเหนือ
2016 ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 3 – 2
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
ประเทศสเปน เซบิยา แลร์คันดัลสตาดีโอน,
ทรอนด์เฮม ประเทศนอร์เวย์
2015 ประเทศสเปน บาร์เซโลนา 5 – 4
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
ประเทศสเปน เซบิยา บอริส ไพแชดซ์ ดีนาโม อาเรนา,
ทบิลีซี ประเทศจอร์เจีย
2014 ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 2 – 0 ประเทศสเปน เซบิยา คาร์ดิฟฟ์ซิตีสเตเดียม,
คาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์
2013 ประเทศเยอรมนี ไบเอิร์นมิวนิก 2 – 2
(ชนะดวลจุดโทษ 5–4)
ประเทศอังกฤษ เชลซี ซิโนโบสเตเดียม,
ปราก ประเทศเช็กเกีย
2012 ประเทศอังกฤษ เชลซี 1 – 4 ประเทศสเปน อัตเลติโกเดมาดริด สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
2011 ประเทศสเปน บาร์เซโลนา 2 – 0 ประเทศโปรตุเกส โปร์ตู สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
2010 ประเทศอิตาลี อินเตอร์มิลาน 0 – 2 ประเทศสเปน อัตเลติโกเดมาดริด สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
2009 ประเทศสเปน บาร์เซโลนา 1 – 0
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
ประเทศยูเครน ชัคตาร์โดเนตสค์ สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
2008 ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 1 – 2 ประเทศรัสเซีย เซนิตเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
2007 ประเทศอิตาลี มิลาน 3 – 1 ประเทศสเปน เซบิยา สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
2006 ประเทศสเปน บาร์เซโลนา 0 – 3 ประเทศสเปน เซบิยา สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
2005 ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล 3 – 1
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
ประเทศรัสเซีย ซีเอสเคเอ มอสโก สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
2004 ประเทศโปรตุเกส โปร์ตู 1 – 2 ประเทศสเปน บาเลนเซีย สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
2003 ประเทศอิตาลี มิลาน 1 – 0 ประเทศโปรตุเกส โปร์ตู สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
2002 ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 3 – 1 ประเทศเนเธอร์แลนด์ ไฟเยอโนร์ด สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
2001 ประเทศเยอรมนี ไบเอิร์นมิวนิก 2 – 3 ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
2000 ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 1 – 2
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
ประเทศตุรกี กาลาทาซาไร สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
ฤดูกาล ชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ผลคะแนน ชนะเลิศยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ สนาม
1999 ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 0 – 1 ประเทศอิตาลี ลาซิโอ สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
1998 ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 0 – 1 ประเทศอังกฤษ เชลซี สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก

รอบชิงชนะเลิศ (สองนัดเหย้า-เยือน)

[แก้]
ฤดูกาล ทีมเหย้า ผลคะแนน ทีมเยือน สนาม
1997 ประเทศสเปน บาร์เซโลนา (C2) 2 – 0 ประเทศเยอรมนี ดอร์ทมุนท์ (C1) กัมนอว์,
บาร์เซโลนา ประเทศสเปน
ประเทศเยอรมนี ดอร์ทมุนท์ 1 – 1 ประเทศสเปน บาร์เซโลนา ซิกนัล อีดูน่า ปาร์ค,
ดอร์ทมุนท์ ประเทศเยอรมนี
รวมผลสองนัด บาร์เซโลนา คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-1
1996 ประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง (C2) 1 – 6 ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส (C1) ปาร์กเดแพร็งส์,
ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส 3 – 1 ประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง สตาดิโอ้ ลา ฟาวอริต้า,
ปาแลร์โม่ ประเทศอิตาลี
รวมผลสองนัด ยูเวนตุส คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 9-2
1995 ประเทศสเปน เรอัลซาราโกซา (C2) 1 – 1 ประเทศเนเธอร์แลนด์ อายักซ์ (C1) ลา โรมาเรด้า,
ซาราโกซา ประเทศสเปน
ประเทศเนเธอร์แลนด์ อายักซ์ 4 – 0 ประเทศสเปน เรอัลซาราโกซา สนามกีฬาโอลิมปิก (อัมสเตอร์ดัม),
อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
รวมผลสองนัด อายักซ์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 5-1
1994 ประเทศอังกฤษ อาร์เซนอล (C2) 0 – 0 ประเทศอิตาลี มิลาน (C1) ไฮก์บิวรี่,
ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ประเทศอิตาลี มิลาน 2 – 0 ประเทศอังกฤษ อาร์เซนอล ซานซีโร,
มิลาน ประเทศอิตาลี
รวมผลสองนัด มิลาน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-0
1993 ประเทศอิตาลี ปาร์มา (C2) 0 – 1 ประเทศอิตาลี มิลาน (C1) เอ็นนิโอ้ ตาร์ดินี่,
ปาร์มา ประเทศอิตาลี
ประเทศอิตาลี มิลาน 0 – 2
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
ประเทศอิตาลี ปาร์มา ซานซีโร,
มิลาน ประเทศอิตาลี
รวมผลสองนัด ปาร์มา คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-1
หมายเหตุ: ทีมชนะเลิศ มาร์แซย์ โดนตัดสิทธิ์ จากกรณีล้มบอลภายในประเทศ มิลาน รองชนะเลิศ จึงได้สิทธิ์แข่งแทน
1992 ประเทศเยอรมนี แวร์เดอร์เบรเมิน (C2) 1 – 1 ประเทศสเปน บาร์เซโลนา (C1) เวเซอร์ สตาดิโอน,
เบรเมน ประเทศเยอรมนี
ประเทศสเปน บาร์เซโลนา 2 – 1 ประเทศเยอรมนี แวร์เดอร์เบรเมิน กัมนอว์,
บาร์เซโลนา ประเทศสเปน
รวมผลสองนัด บาร์เซโลนา คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-2
1991 ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (C2) 1 – 0 สหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย เรดสตาร์ เบลเกรด (C1) โอลด์แทรฟฟอร์ด,
แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
หมายเหตุ: แข่งขันกันนัดเดียว เพราะไม่สามารถแข่งขันนัดที่สองได้ เนื่องจากปัญหาทางด้านการเมืองในยูโกสลาเวีย แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คว้าแชมป์
1990 ประเทศอิตาลี ซามพ์โดเรีย (C2) 1 – 1 ประเทศอิตาลี มิลาน (C1) ลุยจิ แฟร์ราริส,
เจนัว ประเทศอิตาลี
ประเทศอิตาลี มิลาน 2 – 0 ประเทศอิตาลี ซามพ์โดเรีย ซานซีโร,
มิลาน ประเทศอิตาลี
รวมผลสองนัด มิลาน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-1
1989 ประเทศสเปน บาร์เซโลนา (C2) 1 – 1 ประเทศอิตาลี มิลาน (C1) กัมนอว์,
บาร์เซโลนา ประเทศสเปน
ประเทศอิตาลี มิลาน 1 – 0 ประเทศสเปน บาร์เซโลนา ซานซีโร,
มิลาน ประเทศอิตาลี
รวมผลสองนัด มิลาน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-1
1988 ประเทศเบลเยียม เมเชเลน (C2) 3 – 0 ประเทศเนเธอร์แลนด์ ไอน์โฮเฟ่น (C1) อาคเตอร์ เดอ คาเซอร์เน่,
เมเชเลน ประเทศเบลเยียม
ประเทศเนเธอร์แลนด์ ไอน์โฮเฟ่น 1 – 0 ประเทศเบลเยียม เมเชเลน ฟิลิปส์ สตาดิโอน,
ไอนด์โฮเฟิน ประเทศเนเธอร์แลนด์
รวมผลสองนัด เมเชเลน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-1
1987 ประเทศเนเธอร์แลนด์ อายักซ์ (C2) 0 – 1 ประเทศโปรตุเกส โปร์ตู (C1) เดอ เมียร์ สเตเดี้ยม,
อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ประเทศโปรตุเกส โปร์ตู 1 – 0 ประเทศเนเธอร์แลนด์ อายักซ์ เอสตาดิโอ้ ดาส อันตาส,
โปร์ตู ประเทศโปรตุเกส
รวมผลสองนัด โปร์ตู คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-0
1986 ประเทศโรมาเนีย สเตอัวบูคูเรสตี (C1) 1 – 0 ประเทศยูเครน ดีนาโมคียิว (C2) สต๊าด หลุยส์ เดอซ์,
โมนาโก ประเทศโมนาโก
หมายเหตุ: แข่งขันกันนัดเดียว เพราะไม่สามารถแข่งขันนัดที่สองได้ เนื่องจากปัญหาทางด้านการเมืองในสหภาพโซเวียต สเตอัวบูคูเรสตี คว้าแชมป์
1985 ไม่มีการแข่งขัน
ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส (C1) กับ ประเทศอังกฤษ เอฟเวอร์ตัน (C2)
หมายเหตุ: เนื่องจากโศกนาฏกรรมอัฒจรรย์ถล่ม ในนัดชิงยูโรเปียนคัพระหว่าง ยูเวนตุส กับ ลิเวอร์พูล ที่เฮย์เซล สเตเดี้ยม
1984 ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส (C2) 2 – 0 ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล (C1) โอลิมปิค สเตเดี้ยม,
ตูริน ประเทศอิตาลี
หมายเหตุ: แข่งขันกันนัดเดียว เพราะลิเวอร์พูลไม่สามารถหาวันแข่งขันในนัดที่สองได้ ยูเวนตุส คว้าแชมป์
1983 ประเทศเยอรมนีตะวันตก ฮัมบวร์ค (C1) 0 – 0 ประเทศสกอตแลนด์ อเบอร์ดีน (C2) โฟล์คสปาร์ค สตาดิโอน,
ฮัมบวร์ค ประเทศเยอรมนี
ประเทศสกอตแลนด์ อเบอร์ดีน 2 – 0 ประเทศเยอรมนีตะวันตก ฮัมบวร์ค ปิตโตดรี้ สเตเดี้ยม,
อเบอร์ดีน ประเทศสกอตแลนด์
รวมผลสองนัด อเบอร์ดีน คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-0
1982 ประเทศสเปน บาร์เซโลนา (C2) 1 – 0 ประเทศอังกฤษ แอสตันวิลลา (C1) กัมนอว์,
บาร์เซโลนา ประเทศสเปน
ประเทศอังกฤษ แอสตันวิลลา 3 – 0
(หลังต่อเวลาพิเศษ)
ประเทศสเปน บาร์เซโลนา วิลลา ปาร์ค,
เบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ
รวมผลสองนัด แอสตันวิลลา คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-1
1981 ไม่มีการแข่งขัน
ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล (C1) กับ ประเทศจอร์เจีย ดินาโม ทบิลิซี่ (C2)
หมายเหตุ: เนื่องจากลิเวอร์พูล ไม่สามารถหาวันแข่งขันกับดินาโม ทบิลิซี่ได้
1980 ประเทศอังกฤษ ฟอเรสต์ (C1) 2 – 1 ประเทศสเปน บาเลนเซีย (C2) ซิตี้ กราวน์,
น็อตติงแฮม ประเทศอังกฤษ
ประเทศสเปน บาเลนเซีย 1 – 0 ประเทศอังกฤษ ฟอเรสต์ หลุยส์ คาซาโนบ้า สเตเดี้ยม,
บาเลนเซีย ประเทศสเปน
รวมผลสองนัด บาเลนเซีย คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-2 (กฎประตูทีมเยือน)
1979 ประเทศอังกฤษ ฟอเรสต์ (C1) 1 – 0 ประเทศสเปน บาร์เซโลนา (C2) ซิตี้ กราวน์,
น็อตติงแฮม ประเทศอังกฤษ
ประเทศสเปน บาร์เซโลนา 1 – 1 ประเทศอังกฤษ ฟอเรสต์ กัมนอว์,
บาร์เซโลนา ประเทศสเปน
รวมผลสองนัด ฟอเรสต์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 2-1
1978 ประเทศเบลเยียม อันเดอร์เลชท์ (C2) 3 – 1 ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล (C1) ปาร์ค อัสไทรด์,
บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล 2 – 1 ประเทศเบลเยียม อันเดอร์เลชท์ แอนฟิลด์,
ลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ
รวมผลสองนัด อันเดอร์เลชท์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 4-3
1977 ประเทศเยอรมนีตะวันตก ฮัมบวร์ค (C2) 1 – 1 ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล (C1) โฟล์คสปาร์ค สตาดิโอน,
ฮัมบวร์ค ประเทศเยอรมนี
ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล 6 – 0 ประเทศเยอรมนีตะวันตก ฮัมบวร์ค แอนฟิลด์,
ลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ
รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 7-1
1976 ประเทศเยอรมนีตะวันตก ไบเอิร์นมิวนิก (C1) 2 – 1 ประเทศเบลเยียม อันเดอร์เลชท์ (C2) โอลิมเปีย สตาดิโอน,
มิวนิก ประเทศเยอรมนี
ประเทศเบลเยียม อันเดอร์เลชท์ 4 – 1 ประเทศเยอรมนีตะวันตก ไบเอิร์นมิวนิก ปาร์ค อัสไทรด์,
บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
รวมผลสองนัด อันเดอร์เลชท์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 5-3
1975 ประเทศเยอรมนีตะวันตก ไบเอิร์นมิวนิก (C1) 0 – 1 ประเทศยูเครน ดีนาโมคียิว (C2) โอลิมปิค สเตเดียม มิวนิก,
มิวนิก ประเทศเยอรมนี
ประเทศยูเครน ดีนาโมคียิว 2 – 0 ประเทศเยอรมนีตะวันตก ไบเอิร์นมิวนิก รีพับลิกัน สเตเดี้ยม,
เคียฟ ประเทศยูเครน
รวมผลสองนัด ดีนาโมคียิว คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 3-0
1974 ไม่มีการแข่งขัน
ประเทศเยอรมนี ไบเอิร์นมิวนิก (C1) กับ ประเทศเยอรมนี มักเดบวร์ก (C2)
หมายเหตุ: เนื่องจากเหตุผลทางด้านการเมือง ระหว่างเยอรมันตะวันตก กับเยอรมันตะวันออก
1973 ประเทศอิตาลี มิลาน (C2) 1 – 0 ประเทศเนเธอร์แลนด์ อายักซ์ (C1) ซานซีโร,
มิลาน ประเทศอิตาลี
ประเทศเนเธอร์แลนด์ อายักซ์ 6 – 0 ประเทศอิตาลี มิลาน สนามกีฬาโอลิมปิก (อัมสเตอร์ดัม),
อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
รวมผลสองนัด อายักซ์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 6-1
1972 ประเทศสกอตแลนด์ เรนเจอร์ส (C2) 1 – 3 ประเทศเนเธอร์แลนด์ อายักซ์ (C1) ไอบร็อกซ์ ปาร์ค,
กลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
ประเทศเนเธอร์แลนด์ อายักซ์ 3 – 2 ประเทศสกอตแลนด์ เรนเจอร์ส เดอ เมียร์ สเตเดี้ยม,
อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
รวมผลสองนัด อายักซ์ คว้าแชมป์ด้วยประตูรวม 6-3

บันทึกและสถิติ

[แก้]

ผลงานแบ่งตามสโมสร

[แก้]
สโมสร ชนะเลิศ รองชนะเลิศ ปีที่ชนะเลิศ[A] ปีที่ได้รองชนะเลิศ
ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 6 3 2002, 2014, 2016, 2017, 2022, 2024 1998, 2000, 2018
ประเทศสเปน บาร์เซโลนา 5 4 1992, 1997, 2009, 2011, 2015 1979, 1982, 1989, 2006
ประเทศอิตาลี มิลาน 5 2 1989, 1990, 1994, 2003, 2007 1973, 1993
ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล 4 2 1977, 2001, 2005, 2019 1978, 1984
ประเทศสเปน อัตเลติโกเดมาดริด 3 0 2010, 2012, 2018
ประเทศอังกฤษ เชลซี 2 3 1998, 2021 2012, 2013, 2019
ประเทศเยอรมนี ไบเอิร์นมิวนิก 2 3 2013, 2020 1975, 1976, 2001
ประเทศเนเธอร์แลนด์ อายักซ์[B] 2 1 1973, 1995 1987
ประเทศเบลเยียม อันเดอร์เลคต์ 2 0 1976, 1978
ประเทศสเปน บาเลนเซีย 2 0 1980, 2004
ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส 2 0 1984, 1996
ประเทศสเปน เซบิยา 1 6 2006 2007, 2014, 2015, 2016, 2020, 2023
ประเทศโปรตุเกส โปร์ตู 1 3 1987 2003, 2004, 2011
ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 1 3 1991 1999, 2008, 2017
สหภาพโซเวียต ดือนามอกือยิว 1 1 1975 1986
ประเทศอังกฤษ นอตทิงแฮมฟอเรสต์ 1 1 1979 1980
ประเทศอังกฤษ แอสตันวิลลา 1 0 1982
ประเทศสกอตแลนด์ แอเบอร์ดีน 1 0 1983
ประเทศโรมาเนีย สเตอัวบูคูเรสตี 1 0 1986
ประเทศเบลเยียม คาเว เมเคอเลน 1 0 1988
ประเทศอิตาลี ปาร์มา 1 0 1993
ประเทศอิตาลี ลัตซีโย 1 0 1999
ประเทศตุรกี กาลาทาซาไร 1 0 2000
ประเทศรัสเซีย เซนิตเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก 1 0 2008
ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี 1 0 2023
ประเทศเยอรมนี ฮัมบัวร์เกอร์ เอ็สเฟา 0 2 1977, 1983
ประเทศเนเธอร์แลนด์ เปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟิน 0 1 1988
ประเทศอิตาลี ซัมป์โดเรีย 0 1 1990
สหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย เรดสตาร์เบลเกรด 0 1 1991
ประเทศเยอรมนี แวร์เดอร์เบรเมิน 0 1 1992
ประเทศอังกฤษ อาร์เซนอล 0 1 1994
ประเทศสเปน ซาราโกซา 0 1 1995
ประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง 0 1 1996
ประเทศเยอรมนี โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ 0 1 1997
ประเทศเนเธอร์แลนด์ ไฟเยอโนร์ด 0 1 2002
ประเทศรัสเซีย ซีเอสเคเอ มอสโก 0 1 2005
ประเทศยูเครน ชัคตาร์ดอแนตสก์ 0 1 2009
ประเทศอิตาลี อินเตอร์มิลาน 0 1 2010
ประเทศสเปน บิยาร์เรอัล 0 1 2021
ประเทศเยอรมนี ไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟวร์ท 0 1 2022
ประเทศอิตาลี อาตาลันตา 0 1 2024

ผลงานแบ่งตามชาติ

[แก้]
ผลงานแบ่งตามชาติ
ชาติ ชนะเลิศ รองชนะเลิศ รวม
 สเปน 17 15 32
 อังกฤษ 10 10 20
 อิตาลี 9 5 14
 เบลเยียม 3 0 3
 เยอรมนี[C] 2 8 10
 เนเธอร์แลนด์[B] 2 3 5
 โปรตุเกส 1 3 4
 รัสเซีย 1 1 2
 สหภาพโซเวียต[D] 1 1 2
 โรมาเนีย 1 0 1
 สกอตแลนด์[B] 1 0 1
 ตุรกี 1 0 1
 ฝรั่งเศส 0 1 1
 ยูเครน 0 1 1
 ยูโกสลาเวีย 0 1 1
รวม 49 49 98
หมายเหตุ

อ้างอิง

[แก้]
  1. "UEFA Super Cup: The competition that found its place". UEFA.com. Union of European Football Associations. 9 August 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 May 2022. สืบค้นเมื่อ 10 May 2022.
  2. "Dynamo bring happy memories". BBC Sport. 2001-10-16. สืบค้นเมื่อ 2008-03-11.
  3. "Regulations of the UEFA Super Cup 2015-18 Cycle" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. March 2015. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 March 2016. สืบค้นเมื่อ 12 August 2015.
  4. "The trophy". UEFA.com. Union of European Football Associations. สืบค้นเมื่อ 2 August 2009.
  5. 5.0 5.1 "Club competition winners do battle". UEFA.com. Union of European Football Associations. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 July 2010. สืบค้นเมื่อ 3 May 2018.
  6. Woods, Tom (14 November 2015). "Everton FC: The forgotten game of the 1985/86 UEFA Super Cup". Liverpool Echo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 June 2018. สืบค้นเมื่อ 4 May 2018.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]