ยูเอช-1เอ็น ทวินฮิวอี้
ยูเอช-1เอ็น ทวินฮิวอี้ | |
---|---|
ข้อมูลทั่วไป | |
บทบาท | เฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์ |
ชาติกำเนิด | สหรัฐ |
บริษัทผู้ผลิต | เบลล์ เฮลิคอปเตอร์ |
ผู้ใช้งานหลัก | กองนาวิกโยธินสหรัฐ กองกำลังแคนาดา กองทัพเรือสหรัฐ กองทัพอากาศสหรัฐ |
ประวัติ | |
เริ่มใช้งาน | ตุลาคม พ.ศ. 2513 |
เที่ยวบินแรก | เมษายน พ.ศ. 2509 |
พัฒนาจาก | ยูเอช-1 ไอโรควอยส์ |
สายการผลิต | เบลล์ 212 ยูเอช-1วาย วีนอม |
ยูเอช-1เอ็น ทวินฮิวอี้ (อังกฤษ: UH-1N Twin Huey) เป็นเฮลิคอปเตอร์ทางทหารขนาดกลางซึ่งได้ทำการบินครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนพ.ศ. 2512[1] ยูเอช-1 เอ็นมีที่นั่งสิบห้าที่นั่ง นักบินหนึ่งที่และที่เหลือเป็นที่นั่งของผู้โดยสาร ในแบบสำหรับการขนส่งยูเอช-1เอ็นจะมีพื้นที่บรรทุกภาย 6.23 ลูกบาศก์เมตร มันสามารถบรรทุกของภายนอกได้ 2,268 กิโลกรัม รุ่นต้นแบบนั้นมีชื่อว่าซียูเอ็น-1เอ็น (เปลี่ยนเป็นซีเอช-135 ในเวลาต่อมา) มันถูกสั่งซื้อครั้งแรกโดยแคนาดา
การพัฒนา
[แก้]มันมีพื้นฐานมาจากโครงสร้างของเบลล์ 205 เบลล์ 212 นั้นเดิมทีถูกสร้างให้กับกองกำลังของแคนาดาภายใต้ชื่อซียูเอช-1เอ็น ทวินฮิวอี้ ต่อมาแคนาดาได้ใช้ระบบชื่อใหม่และมันก็ถูกตั้งชื่อใหม่ว่าซีเอช-135 ทวินฮิวอี้[2] ทางแคนาดาได้อนุมัติการพัฒนาเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2511[1] และได้ทำการซื้อ 50 ลำพร้อมการส่งที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมพ.ศ. 2514[3]
ทางกองทัพสหรัฐฯ ไม่สนใจที่จะซื้อทวินฮิวอี้ การซื้อเครื่องบินของสหรัฐฯ ถูกโต้แย้งโดยประธานคณะกรรมการด้านอาวุธในตอนนั้นที่ชื่อเมนดัล ริเวอร์ส ริเวอร์สคิดเช่นนั้นเพราะเครื่องยนต์ของเครื่องบินนั้นถูกผลิตในแคนาดา รัฐบาลแคนาดาไม่ได้สนับสนุนการมีส่วมเกี่ยวของของสหรัฐฯ ในเวียดนามและได้โต้แย้งนโยบายของสหรัฐฯ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ริเวอร์สยังได้คำนึงถึงการจัดซื้อเครื่องยนต์ที่อาจให้ผลทางลบต่อการค้าขายกับแคนาดา สภาคองเกรสทำการอนุมัติการซื้อเมื่อสหรัฐฯ เป็นผู้สร้างเครื่องยนต์เองเท่านั้น เมื่อสำเร็จผลกองทัพสหรัฐฯ ก็สั่งซื้อเบลล์ 212 จำนวน 294 ลำภายใต้ชื่อยูเอช-1เอ็น พร้อมการส่งในปีพ.ศ. 2513[3]
ไม่เหมือนกับของแคนาดา ในสหรัฐฯ ยูเอช-1เอ็นได้รับชื่ออย่างเป็นทางการว่า"ไอโรควอยส์"จากยูเอช-1 ถึงแม้ว่าบุคคลในสหรัฐฯ มักจะเรียกมันว่า"ฮิวอี้"หรือ"ทวินฮิวอี้"ก็ตาม[4]
เบลล์ 412 เป็นการพัฒนาเพิ่มเติมของเบลล์ 212 ความแตกต่างตือการใช้ระบบสี่ใบพัด[3]
การออกแบบ
[แก้]ใบพัดหลักของยูเอช-1เอ็นได้รับกำลังจากพีที6ที-3/ที400 เทอร์โบทวินแพ็คที่สร้างมาจากเครื่องยนต์เทอร์โบชาฟท์แพรทท์แอนด์วิทนีย์ของแคนาดา พวกมันสามารถให้แรงมากถึง 1,800 แรงม้า หากเครื่องหนึ่งเสียอีกเครื่องยังคงให้แรงได้ 900 แรงม้าเป็นเวลา 30 นาทีหรือ 765 แรงม้า มันทำให้ยูเอช-1เอ็นยังรักษาระดับความเร็วได้พร้อมน้ำหนักเต็มที่[3]
กองนาวิกโยธินสหรัฐฯ ได้ดัดแปลงยูเอช-1เอ็นจำนวนมาด้วยระบบเพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมหรือเอสซีเอเอส (Stability Control Augmentation System) ซึ่งสร้างกลไกควบคุมหัวใบพัดเพื่อเพิ่มความเสถียรในขณะบิน การดัดแปลงนี้ได้นำเอาส่วนไจโรสโคปของใบพัดออก และแทนที่ด้วยระบบคอมพิวเตอร์แทน
ประวัติการใช้งาน
[แก้]ทางทหาร
[แก้]นาวิกโยธินสหรัฐฯ ได้ใช้ยูเอช-1เอ็นในการบุกอิรักเมื่อปีพ.ศ. 2546 ยูเอช-1เอ็นได้ทำหน้าที่สอดแนมและให้การสื่อสารกับทหารราบ พวกมันยังถูกใช้เพื่อทำการสนับสนุนทางอากาศระยะใกล้ในการต่อสู้ที่ดุเดือดของยุทธการนาซิริยาห์[5]
แบบต่างๆ
[แก้]แบบของสหรัฐฯ
[แก้]- ยูเอช-1เอ็น ไอโรควอยส์
- รุ่นในการผลิตเบื้องต้น ถูกใช้โดยกองทัพอากาศ กองทัพเรือ และกองนาวิกโยธินสหรัฐฯ ตลอดหลายปีนาวิกโยธินได้ทำการพัฒนาหลายครั้งที่รวมทั้งระบบอิเลคทรอนิกอากาศ การป้องกัน และป้อมอินฟราเรด
- วีเอช-1เอ็น
- รุ่นสำหรับบุคคลสำคัญ[1]
- เอชเอช-1เอ็น
- เอสเออาร์[1]
- ยูเอช-1วาย วีนอม
- ยูเอช-1เอ็นที่เข้ามาแทนที่ มันถูกพัฒนาโดยนาวิกโยธินสหรัฐฯ ถูกออกแบบพร้อมกับการเปลี่ยนเอเอช-1ดับบลิวให้กลายเป็นเอเอช-1ซี ไวเปอร์
แบบต่างประเทศ
[แก้]- เอกุสตา-เบลล์ เอบี 212
- รุ่นขนส่งสำหรับพลเมืองและกองทัพ ถูกสร้างภายใต้ใบอนุญาตโดยเอกุสตาของอิตาลี
- เอกุสตา-เบลล์l เอบี 121อีดับบลิว
- รุ่นสงครามอิลเคทรอนิกสำหรับตุรกี
- เอกุสตา-เบลล์ เอบี 212เอเอสดับบลิว
- รุ่นสำหรับต่อต้านเรือดำน้ำ ต่อต้านเรือรบผิวน้ำ ถูกสร้างภายใต้ใบอนุญาตโดยเอกุสตาของอิตาลี ใช้งานโดยกองทัพเรืออิตาลี กองทัพเรือกรีซ กองทัพเรืออิหร่าน อิตาลี เปรู สเปน ตุรกี และเวเนซุเอลา[3]
- เอบี-212เอเอสดับบลิวเป็นเบลล์ 212 ที่มีส่วนคล้ายโดมอยู่เหนือห้องนักบิน การผลิตในช่วงแรกจะโค้งกว่าแบบหลังที่กลมแบบ รอกทางด้านซ้ายถูกใช้เพื่อหย่อยเครื่องโซนาร์ การเปลี่ยนแปลงอื่นรวมทั้งน้ำหนักมากสุด 5,080 กิโลกรัม ระบบต่อต้านอิเลคทรอนิก ขาหยั่งสำหรับจอดบนเรือ และสารกันการกัดกร่อน อาวุธของมันคือตอร์ปิโดมาร์ค 44 หรือมาร์ค 46 สองลูก หรือ ระเบิดน้ำลึกและขีปนาวุธอากาศสู่พื้นนำวิถีด้วยลวดเอเอส 12[6][7]
- ซีเอช-135 ทวินฮิวอี้
- ยูเอช-1เอ็นของแคนาดา[1][3]
- แคนาดาได้ซื้อซีเอช-135 จำนวน 50 ลำพร้อมการส่งเริ่มในปีพ.ศ. 2514 เครื่องบินถูกปลดประจำการจากกองกำลังแคนาดาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2539 และต้ดออกจากกองกำลังในเดือนธันวาคมพ.ศ. 2542 ซีเอช-135 จำนวน 41 ลำที่เหลือถูกส่งให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคมพ.ศ. 2542 และย้ายเข้ากองทัพและกองตำรวจโคลัมเบีย มีซีเอช-135 อย่างน้อยหนึ่งลำที่ถูกทำลายในการต่อสู้ เครื่องดังกล่าวถูกย้ายให้กับโคลัมเบียก่อนที่มันจะถูกทำลายระหว่างทางโดยกบฏฟาร์คเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 ซีเอช-135 สองลำอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของแคนาดา หนึ่งลำในพิพิธภัณฑ์การบินและอีกหนึ่งลำในพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ[8]
- ซียูเอช-1เอ็น ทวินฮิวอี้
- แบบดั้งเดิมของแคนาดา[1][3]
ประเทศผู้ใช้งาน
[แก้]
- แองโกลา
- อาร์เจนตินา
- ออสเตรีย
- บังกลาเทศ
- บาห์เรน
- โบลิเวีย
- บรูไน
- แคนาดา
- โคลอมเบีย
- โครเอเชีย
- เอกวาดอร์
- เยอรมนี
- กรีซ
- กัวเตมาลา
- กายอานา
- อิหร่าน
- อิรัก
- อิสราเอล
- อิตาลี
- ญี่ปุ่น
- เลบานอน
- ลิเบีย
- มอลตา
- โมร็อกโก
- ปานามา
- เปรู
- ฟิลิปปินส์
- ซาอุดีอาระเบีย
- เซอร์เบีย
- สิงคโปร์
- โซมาเลีย
- เกาหลีใต้
- สเปน
- ศรีลังกา
- ซูดาน
- ไทย
- ตูนิเซีย
- ตุรกี
- ยูกันดา
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- สหราชอาณาจักร
- สหรัฐ
- อุรุกวัย
- เยเมน
- บริษัทผู้ผลิต เบลล์ เฮลิคอปเตอร์
- บทบาท เฮลิคอปเตอร์หลายจุดประสงค์
- ลูกเรือ 4 นาย (นักบิน นักบินผู้ช่วย หัวหน้าลูกเรือ และพลปืน)
- ความจุ ทหาร 6-8 นาย
- ความยาว 12.69 เมตร
- เส้นผ่าศูนย์กลางใบพัด 14.6 เมตร
- ความสูง 4.4 เมตร
- น้ำหนักเปล่า 2,721.5 กิโลกรัม
- น้ำหนักพร้อมบรรทุก 4,762.7 กิโลกรัม
- น้ำหนักสูงสุดตอนนำเครื่องขึ้น 4,762.7 กิโลกรัม
- ขุมกำลัง เครื่องยนต์เทอร์โบชาฟท์แพรทท์แอนด์วิทนีย์ ที400-ซีพี-400 ของแคนาดา สองเครื่องยนต์ ให้แรงขับเครื่องละ 900 แรงม้า
- ความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- พิสัย 460 กิโลเมตร
- เพดานบินทำการ 17,300 ฟุต
- อัตราการไต่ระดับ 1,755 ฟุตต่อนาที
- อาวุธ
- จรวดขนาด 2.75 นิ้ว
- ปืนกลจีเอยู-16 .50 คาลิเบอร์
- ปืนกลจีเอยู-17 ขนาด 7.62 ม.ม.หรือปืนกลน้ำหนักเบาเอ็ม240 ขนาด 7.62 ม.ม.
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 มัทซา, เวย์น: ยูเอช-1เอ็นเข้าปฏิบัติการ, หน้า 31-33, Squadron/Signal Publications, แคร์รอลตัน, เท็กซัส, พ.ศ. 2526, ISBN 0-89747-179-2
- ↑ กระทรวงกลาโหมต่างประเทศ (19 พฤษภาคม พ.ศ. 2547). "ซีเอช-135 ทวินฮิวอี้". สืบค้นเมื่อ 2007-10-01.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 3.5 3.6 เดรนเดล, ลู: ฮิวอี้, หน้า 14-17, Squadron/Signal Publications, แคร์รอลตัน, เท็กซัส, พ.ศ. 2526, ISBN 0-89747-145-8
- ↑ Drendel, Lou: ฮิวอี้, หน้า 9, Squadron/Signal Publications, แคร์รอลตัน, เท็กซัส, พ.ศ. 2526, ISBN 0-89747-145-8
- ↑ Stout, Jay A. ความตายจากเบื้องบน นาวิกโยธินสหรัฐฯ ทำการรบเหนือแบกแดด, หนังสือบาลันไทน์, พ.ศ. 2548, ISBN 978-0-89141-871-9
- ↑ กรีน, วิลเลียม: ออบเซิร์บเวอร์ส แอร์คราฟท์, หน้า 229, สำนักพิมพ์เฟเดอริก วอร์น, พ.ศ. 2523, ISBN 0-7232-1604-5
- ↑ วู้ด, เดเรก: Jane's World Aircraft Recognition Handbook, หน้า 490, บริษัทพิมพ์เจน, พ.ศ. 2528, ISBN 0-7106-0343-6
- ↑ วอล์คเกอร์, อาร์ดับบลิวอาร์ (พ.ศ. 2549). "Canadian Military Aircraft Serial Numbers Canadian Armed Forces CH-135 Twin Huey detailed list". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-31. สืบค้นเมื่อ 2008-12-02.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|year=
(help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|month=
ถูกละเว้น (help) - ↑ ยูเอช-1เอ็นของนาวิกโยธินสหรัฐฯ เก็บถาวร 2010-09-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, กองนาวิกโยธินสหรัฐฯ, Retrieved 4 September 2008.
- ↑ ฟรอว์ลีย์, เจอราร์ด: สมุดรายชื่ออากาศยานทางทหารนานาชาติ, หน้า 33, Aerospace Publications Pty Ltd, พ.ศ. 2545, ISBN 1-875671-55-2