มัทธิว 3
มัทธิว 3 | |
---|---|
← มัทธิว 2 มัทธิว 4 → | |
![]() มัทธิว 3:10-12 บนพาไพรัส 101 (ค.ศ. 250) | |
หนังสือ | พระวรสารนักบุญมัทธิว |
หมวดหมู่ | พระวรสาร |
ภาคในคัมภีร์ไบเบิลคริสต์ | พันธสัญญาใหม่ |
ลำดับในภาคของคัมภีร์ไบเบิลคริสต์ | 1 |
มัทธิว 3 (อังกฤษ: Matthew 2) เป็นบทที่ 3 ของพระวรสารนักบุญมัทธิวในพันธสัญญาใหม่ เป็นบทแรกที่เกี่ยวข้องกับพันธกิจของพระเยซูซึ่งเป็นกลุ่มเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสามทศวรรษหลังจากการประสูติของพระเยซูที่เล่าไว้ใน 2 บทก่อนหน้า จุดเน้นของบทนี้คือการเทศนาของยอห์นผู้ให้บัพติศมาและพระเยซูทรงรับบัพติศมา[1]
บทนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มัทธิว 1:1 ที่มีการเชื่อมโยงกับพระวรสารนักบุญมาระโกอย่างชัดเจน นักวิชาการหลายคนมั่นใจว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ของบทนี้เป็นการดัดแปลงจากมาระโก 1 บทนี้ยังคู่ขนานกับลูกา 3 ซึ่งเชื่อว่าอิงจากมาระโก 1 เช่นกัน มีข้อความหลายส่วนที่ลูกาและมัทธิวมีเหมือนกันแต่ไม่พบในมาระโก โดยทั่วไปลงความเห็นว่ามีที่มาจากแหล่งสมมติ 'คิว'
ต้นฉบับ
[แก้]ข้อความต้นฉบับเขียนด้วยภาษากรีกคอยนี บทนี้แบ่งออกเป็น 17 วรรค
พยานต้นฉบับ
[แก้]ต้นฉบับบางส่วนในยุคต้นที่มีเนื้อหาของบทนี้ได้แก่:[a]
- พาไพรัสอ็อกซีริงคัส 405 (Papyrus Oxyrhynchus 405; ~ ค.ศ. 200; วรรคที่หลงเหลือ 16–17)[2]
- พาไพรัส 101 (Papyrus 101; คริสต์ศตวรรษที่ 3; วรรคที่หลงเหลือ 10–12; 16–17)[3][4]
- ฉบับวาติกัน (Codex Vaticanus; ~ ค.ศ. 325–350; สมบูรณ์)
- ฉบับซีนาย (Codex Sinaiticus; ~ ค.ศ. 330–360; สมบูรณ์)
- ฉบับวอชิงตัน (Codex Washingtonianus; ~ ค.ศ. 400)
- ฉบับแบซี (Codex Bezae; ~ ค.ศ. 400; สมบูรณ์)
- Codex Ephraemi Rescriptus (~ ค.ศ. 450; สมบูรณ์)
ภาพรวม
[แก้]
ในคัมภีร์ไบเบิลเยรูซาเล็ม (ค.ศ. 1966) บทนี้เป็นเป็นการเปิดฉาก "ส่วนเรื่องเล่า" ของพระวรสารซึ่งประกาศถึงอาณาจักรสวรรค์[5] อาณาจักรสวรรค์เป็นหนึ่งในแนวเรื่องหลักของพระวรสารนักบุญมัทธิว[6] บทนี้เริ่มต้นด้วยภาพของยอห์นผู้ให้บัพติศมา[7] นำเสนอถึงการเทศนา การแต่งกาย และการรับประทานอาหารของยอห์น ในฐานะที่ยอห์นเป็นนักเทศน์ในถิ่นทุรกันดารที่เผยพระวจนะเกี่ยวกับ "พระพิโรธที่กำลังมาถึง" จากนั้นบทนี้จึงเปลี่ยนไปเป็นคำประณาม โดยยอห์นกล่าวประณามพวกฟาริสีและสะดูสีแล้วเตือนให้กลับใจ ซึ่งรวมถึงวลีอันมีชื่อเสียงที่ว่า "พวกชาติงูร้าย" ในมัทธิว 3:7[8] จากนั้นพระเยซูเสด็จมาจากกาลิลีเพื่อทรงรับบัพติศมา ณ สถานที่ที่ห่างจากนาซาเร็ธประมาณ 70–80 ไมล์ บริเวณแม่น้ำจอร์แดนในตำแหน่งเดียวกับที่วงศ์วานอิสราเอลภายใต้การนำของโยชูวาเคยข้ามไปยังแผ่นดินแห่งพระสัญญา[9] บทนี้ปิดท้ายด้วยการรับบัพติศมาของพระเยซู, พระสุรเสียงของพระบิดา และการปรากฏของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในรูปของนกพิราบ[10]
ต้นฉบับเต็ม
[แก้]ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน บทนี้มีความว่า
1 ในเวลานั้นยอห์นผู้ให้บัพติศมา มาประกาศในถิ่นทุรกันดารแคว้นยูเดียว่า
2 "จงกลับใจใหม่ เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์มาใกล้แล้ว"
3 ยอห์นผู้นี้แหละที่อิสยาห์ผู้เผยพระวจนะกล่าวถึงว่า "มีเสียงของผู้หนึ่งป่าวร้องในถิ่นทุรกันดารว่า จงเตรียมมรรคาแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำหนทางของพระองค์ให้ตรงไป"
4 เสื้อผ้าของยอห์นผู้นี้ ทำด้วยขนอูฐและท่านใช้หนังสัตว์คาดเอว อาหารของท่านคือตั๊กแตนและน้ำผึ้งป่า
5 ขณะนั้นชาวเมืองเยรูซาเล็ม และคนทั่วแคว้นยูเดีย และคนทั่วลุ่มแม่น้ำจอร์แดนก็ออกไปหายอห์น
6 สารภาพบาปของพวกเขา และรับบัพติศมาจากท่านในแม่น้ำจอร์แดน
7 เมื่อยอห์นเห็นพวกฟาริสี และพวกสะดูสีมากันเป็นจำนวนมาก เพื่อจะรับบัพติศมา ท่านจึงกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า "พวกชาติงูร้าย ใครเตือนพวกท่านให้หนีจากพระพิโรธที่จะมานั้น
8 เพราะฉะนั้นจงเกิดผลให้สมกับการกลับใจ
9 อย่าทึกทักว่าตัวเองมีอับราฮัมเป็นบรรพบุรุษ เพราะข้าพเจ้าบอกพวกท่านว่า พระเจ้าทรงสามารถให้บุตรแก่อับราฮัมจากก้อนหินเหล่านี้ได้
10 บัดนี้ขวานวางไว้ที่โคนต้นไม้แล้ว และทุกต้นที่ไม่เกิดผลดีจะต้องถูกตัดแล้วโยนทิ้งในกองไฟ
11 ข้าพเจ้าให้ท่านรับบัพติศมาด้วยน้ำ แสดงว่ากลับใจใหม่ก็จริง แต่พระองค์ผู้จะมาภายหลังข้าพเจ้า ทรงยิ่งใหญ่กว่าข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะถือฉลองพระบาทของพระองค์ พระองค์จะทรงให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ
12 พระองค์ทรงถือพลั่วอยู่ในพระหัตถ์แล้ว และจะทรงชำระลานข้าวของพระองค์ให้ทั่ว พระองค์จะทรงรวบรวมเมล็ดข้าวของพระองค์ไว้ในยุ้งฉาง แต่พระองค์จะทรงเผาแกลบด้วยไฟที่ไม่มีวันดับ"
13 แล้วพระเยซูเสด็จจากแคว้นกาลิลี มาหายอห์นที่แม่น้ำจอร์แดนเพื่อทรงรับบัพติศมาจากท่าน
14 แต่ยอห์นทูลห้ามพระองค์ว่า "ข้าพระองค์ต้องการจะรับบัพติศมาจากพระองค์ ควรหรือที่พระองค์จะเสด็จมาหาข้าพระองค์?"
15 แต่พระเยซูตรัสตอบยอห์นว่า "บัดนี้ จงยอมเถิด เพราะสมควรที่พวกเราจะทำความชอบธรรมให้ครบถ้วนทุกประการ" แล้วยอห์นก็ยอม
16 เมื่อพระองค์ทรงรับบัพติศมาแล้วก็เสด็จขึ้นจากน้ำ และในทันใดนั้นฟ้าก็แหวกออก และพระองค์ทรงเห็นพระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาดุจนกพิราบสถิตบนพระองค์
17 และนี่แน่ะ มีพระสุรเสียงตรัสจากฟ้าสวรรค์ว่า "ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก"

ดูเพิ่ม
[แก้]- พระเยซูทรงรับบัพติศมา
- อับราฮัม
- อิสยาห์
- ยอห์นผู้ให้บัพติศมา
- ส่วนในคัมภีร์ไบเบิลที่เกี่ยวข้อง: เลวีนิติ 14, สดุดี 2, อิสยาห์ 40, อิสยาห์ 51, เอเสเคียล 33, มาระโก 1, ลูกา 3, ยอห์น 1, ยอห์น 8, กิจการ 1, กิจการ 13, ฮีบรู 1, ฮีบรู 5
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ ฉบับอเล็กซานเดรีย (Codex Alexandrinus) ที่หลงเหลืออยู่ไม่มีบทนี้ เนื่องจากข้อความขาดไป
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Coogan 2007, p. 11 New Testament.
- ↑ Egypt Exploration Fund (1903). Grenfell, Bernard P.; Hunt, Arthur S. (บ.ก.). The Oxyrhynchus Papyri. Vol. 3. Oxford. p. 10.
405 consists of seven fragments written in a small neat uncial hand, which is not later than the first half of the third century, and might be as old as the later part of the second.
- ↑ Thomas, J. David. The Oxyrhynchus Papyri LXIV (London: 1997), pp. 2–4.
- ↑ "Liste Handschriften". Münster: Institute for New Testament Textual Research. สืบค้นเมื่อ 27 August 2011.
- ↑ Jerusalem Bible (1966), Heading at Matthew 3:1
- ↑ Clarke, Howard W. The Gospel of Matthew and its Readers: A Historical Introduction to the First Gospel, Bloomington: Indiana University Press, 2003
- ↑ Allison 2007, p. 850.
- ↑ France 2007, p. 110.
- ↑ Phillips 2005, p. 38.
- ↑ Keener 1999, p. 132.
บรรณานุกรม
[แก้]- Albright, W.F. and C.S. Mann. "Matthew." The Anchor Bible Series. New York: Doubleday & Company, 1971.
- Allison, Dale C. Jr. (2007). "57. Matthew". ใน Barton, John; Muddiman, John (บ.ก.). The Oxford Bible Commentary (first (paperback) ed.). Oxford University Press. ISBN 978-0199277186.
- Clarke, Howard W., The Gospel of Matthew and its Readers: A Historical Introduction to the First Gospel. Bloomington: Indiana University Press, 2003.
- Coogan, Michael David (2007). Coogan, Michael David; Brettler, Marc Zvi; Newsom, Carol Ann; Perkins, Pheme (บ.ก.). The New Oxford Annotated Bible with the Apocryphal/Deuterocanonical Books: New Revised Standard Version, Issue 48 (Augmented 3rd ed.). Oxford University Press. ISBN 9780195288810.
- France, R.T. The Gospel According to Matthew: an Introduction and Commentary. Leicester: Inter-Varsity, 1985.
- France, R.T. (2007). Bruce, Frederick Fyvie (บ.ก.). The Gospel of Matthew. New international commentary on the New Testament. Wm. B. Eerdmans Publishing. ISBN 9780802825018.
- Gundry, Robert H. Matthew a Commentary on his Literary and Theological Art. Grand Rapids: William B. Eerdmans Publishing Company, 1982.
- Guthrie, Donald. The New Bible Commentary, Grand Rapids: Eerdmans, 1970.
- Hill, David. The Gospel of Matthew. Grand Rapids: Eerdmans, 1981
- Keener, Craig S. (1999). A commentary on the Gospel of Matthew. Wm. B. Eerdmans Publishing. ISBN 978-0-8028-3821-6.
- Phillips, John (2005). Exploring the Gospel of Matthew: An Expository Commentary. The John Phillips Commentary Series. Vol. 1 (reprint ed.). Kregel Academic. ISBN 9780825433924.
- Schweizer, Eduard. The Good News According to Matthew. Atlanta: John Knox Press, 1975
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ พระวรสารนักบุญมัทธิว - บทที่ 3
- Matthew 3 King James Bible - Wikisource
- English Translation with Parallel Latin Vulgate เก็บถาวร 2020-09-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Online Bible at GospelHall.org (ESV, KJV, Darby, American Standard Version, Bible in Basic English)
- Multiple bible versions at Bible Gateway (NKJV, NIV, NRSV etc.)
- มัทธิว 3 ที่ยูเวอร์ชัน
ก่อนหน้า มัทธิว 2 |
บทของคัมภีร์ไบเบิล พระวรสารนักบุญมัทธิว |
ถัดไป มัทธิว 4 |