ข้ามไปเนื้อหา

การนอนไม่หลับ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก นอนไม่หลับ)
การนอนไม่หลับ
Insomnia
บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก
ICD-10F51.0, G47.0
ICD-9307.42, 307.41, 327.0, 780.51, 780.52
DiseasesDB26877
MedlinePlus000805
eMedicinemed/2698
MeSHD007319

การนอนไม่หลับ (อังกฤษ: insomnia) เป็นความผิดปกติของการนอนหลับซึ่งไม่สามารถนอนหลับหรือนอนหลับได้ไม่นานเท่าที่ต้องการ[1][2] แม้บางครั้งคำนี้ใช้อธิบายความผิดปกติที่แสดงโดยหลักฐานการนอนหลับที่ถูกรบกวนทางผลตรวจการนอนหลับ แต่การนอนไม่หลับมักนิยามโดยการที่ผู้ป่วยตอบคำถามใดคำถามหนึ่งนี้ว่าใช่ ได้แก่ "คุณประสบความลำบากในการนอนหลับหรือไม่" หรือ "คุณมีความลำบากในการนอนหลับหรือนอนหลับต่อไปหรือไม่"[2]

ดังนั้นจึงมักถือว่าการนอนไม่หลับเป็นทั้งอาการและอาการแสดง[2][3]ของโรคที่ทำให้ประสบความลำบากในการนอนให้หลับหรือการคงการนอนหลับและคุณภาพของการนอนหลับเอาไว้ ซึ่งอาจเป็นโรคที่เกี่ยวกับการนอนโดยเฉพาะ (sleep disorder) หรือโรคจิตเวช หรือโรคอื่น ๆ ทางการแพทย์ก็ได้ ผู้ที่นอนไม่หลับมักจะมีความผิดปกติในการทำกิจวัตร (functional impairment) ยามตื่น การนอนไม่หลับสามารถเกิดได้ในทุกวัย แต่พบมากในผู้สูงอายุ[4] การนอนไม่หลับสามารถเกิดได้ระยะสั้น (อาจนาน 3 สัปดาห์) หรือระยะยาว (เกิด 3–4 สัปดาห์) ซึ่งสามารถนำไปสู่ปัญหาด้านความจำ ภาวะซึมเศร้า ความหงุดหงิดและเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์[5]

การนอนไม่หลับสามารถแบ่งเป็นการนอนไม่หลับปฐมภูมิและทุติยภูมิ หรือ ทั้งสองอย่างพร้อมกัน[6][7][8] การนอนไม่หลับปฐมภูมิเป็นความผิดปกติของการนอนหลับที่ไม่มีสาเหตุทางการแพทย์ จิตเวชหรือสิ่งแวดล้อม[9] ซึ่งอธิบายว่ามีอาการหลับยากยาวนาน (prolonged sleep onset latency) การรบกวนการคงการนอนหลับ (sleep maintenance) หรือประสบการนอนหลับไม่สดชื่น (non-refreshing sleep)[10]

สาเหตุ

[แก้]

การศึกษาเกี่ยวกับการนอนหลับโดยใช้พอลิโซมโนกราฟีแสดงให้เห็นว่า คนที่มีปัญหาการนอนหลับมีระดับคอร์ติซอลและฮอร์โมนแอดรีโนคอร์ติโคโทรปิกในเลือดสูงขึ้นในเวลากลางคืน[11] พวกเขายังมีระดับการเผาผลาญที่สูงขึ้นซึ่งไม่พบในคนที่ไม่ได้เป็นโรคนอนไม่หลับแต่การนอนถูกขัดจังหวะโดยเจตนาในระหว่างการศึกษา การศึกษาเรื่องการเผาผลาญของสมองโดยใช้โพซิตรอนอีมิสชั่นโทโมกราฟี (PET) แสดงให้เห็นว่าคนที่มีโรคนอนไม่หลับมีระดับการเผาผลาญที่สูงขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน[12] ยังคงเป็นคำถามเปิดอยู่ว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นสาเหตุหรือผลของการนอนไม่หลับมาเป็นเวลานาน

เกิดจากการสัมผัสสาร

[แก้]

บางคนมีปัญหาการนอนหลับหรือความกังวลใจหากบริโภคสารคาเฟอีน[13][14] แม้แต่ปริมาณ 100 มิลลิกรัมต่อวัน เช่น หนึ่งถ้วยกาแฟขนาด 170 กรัม หรือสองถึงสามเสิร์ฟของเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่มีคาเฟอีนขนาด 340 กรัม อาจทำให้เกิดปัญหาการนอนหลับและผลข้างเคียงอื่น ๆ ผู้ที่บริโภคคาเฟอีนเป็นบางครั้งจะมีการยอมรับคาเฟอีนต่ำที่สุดในเรื่องการนอนหลับ

พันธุกรรม

[แก้]

การประเมินความเป็นพันธุกรรมของโรคนอนไม่หลับแปรผันจาก 38% ในผู้ชายถึง 59% ในผู้หญิง การ[15][16]ศึกษาแบบพอลจีนโนม (GWAS) ค้นพบ 3 ล็อกัสและ 7 ยีนที่มีอิทธิพลต่อความเสี่ยงในการเกิดโรคนอนไม่หลับ และแสดงว่าโรคนอนไม่หลับเป็นโรคที่มีหลายยีนโดยธรรมชาติ[17] โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสัมพันธ์บวกที่แข็งแรงถูกสังเกตสำหรับยีน MEIS1 ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง การศึกษานี้แสดงว่ารูปแบบพันธุกรรมของโรคนอนไม่หลับมีความคล้ายคลึงกับความผิดปกติทางจิต และลักษณะการเผาผลาญเป็นอย่างมาก มีสมมุติฐานว่าอีพิเจเนติกส์อาจมีผลต่อการนอนไม่หลับผ่านกระบวนการควบคุมที่ควบคุมทั้งการนอนหลับและการตอบสนองของสมองต่อความเครียด รวมถึงมีผลต่อความยืดหยุ่นของสมอง

อ้างอิง

[แก้]
  1. Punnoose Ann, Golub Robert, E Alison.(2012)"Insomnia" [1], "JAMA". Retrieved on 27 June 2012.
  2. 2.0 2.1 2.2 Roth, Thomas (15 August 2007). "Insomnia: Definition, Prevalence, Etilogy, and Consequences". J Clin Sleep Med. 3 (5 Suppl): S7–S10. PMC 1978319. PMID 17824495.
  3. Hirshkowitz, Max (2004). "10, Neuropsychiatric Aspects of Sleep and Sleep Disorders (pp. 315–340)". ใน Stuart C. Yudofsky and Robert E. Hales (บ.ก.). Essentials of neuropsychiatry and clinical neurosciences (4 ed.). Arlington, Virginia, USA: American Psychiatric Publishing. ISBN 978-1-58562-005-0. สืบค้นเมื่อ 2009-12-06. ...insomnia is a symptom. It is neither a disease nor a specific condition. (p. 322)
  4. American College of Physicians (2008).Annals of Internal Medicine, 148, 1, p. ITC1-1
  5. Zahn, Dorothy, "Insomnia: CPJRPC", The Canadian Pharmaceutical Journal, Oct 2003
  6. "Dyssomnias" (PDF). WHO. pp. 7–11. สืบค้นเมื่อ 2009-01-25.
  7. Buysse, Daniel J. (2008). "Chronic Insomnia". Am J Psychiatry. 165 (6): 678–86. doi:10.1176/appi.ajp.2008.08010129. PMC 2859710. PMID 18519533. For this reason, the NIH conference [of 2005] commended the term "comorbid insomnia" as a preferable alternative to the term "secondary insomnia."
  8. Erman, Milton K. (2007). "Insomnia: Comorbidities and Consequences". Primary Psychiatry. 14 (6): 31–35. Two general categories of insomnia exist, primary insomnia and comorbid insomnia.
  9. World Health Organization (2007). "Quantifying burden of disease from environmental noise" (PDF). p. 20. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2010-11-23. สืบค้นเมื่อ 2010-09-22. In his e-mail dated 10.8.2005, Colin Mathers gives the following statement referring to this question: ‘Primary insomnia is sleeplessness that is not attributable to a medical, psychiatric or environmental cause. …’
  10. Riemann, Dieter (2002). "Consequences of Chronic (Primary) Insomnia: Effects on Performance, Psychiatric and Medical Morbidity - An Overview". Somnologie - Schlafforschung und Schlafmedizin. 6 (3): 101–108. doi:10.1046/j.1439-054X.2002.02184.x. {{cite journal}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |coauthors= ถูกละเว้น แนะนำ (|author=) (help)
  11. "Interactions between sleep, stress, and metabolism: From physiological to pathological conditions". pmc.ncbi.nlm.nih.gov. สืบค้นเมื่อ 2025-02-25.
  12. "Positron emission tomography in evaluation of dementia - Regional brain metabolism and long-term outcome". www.peeref.com. สืบค้นเมื่อ 2025-02-25.
  13. "Caffeine and Sleep: The Impact on The Quality of Your Sleep". sleep.me. สืบค้นเมื่อ 2025-02-25.
  14. "How Long Does Caffeine Keep You Awake?". sleepiverse.com. สืบค้นเมื่อ 2025-02-25.
  15. "A Longitudinal Twin Study of Insomnia Symptoms in Adults". pmc.ncbi.nlm.nih.gov. สืบค้นเมื่อ 2025-02-25.
  16. "Different Types Of Insomnia". www.mattressnextday.co.uk. สืบค้นเมื่อ 2025-02-25.
  17. "Genome-wide association studies – what do they really tell us?". www.europeanscientist.com. สืบค้นเมื่อ 2025-02-25.