การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 10
วันที่ | 24–28 สิงหาคม ค.ศ. 1973 (4 วัน) |
---|---|
ที่ตั้ง | มหาศาลาประชาชน ปักกิ่ง ประเทศจีน |
ผู้เข้าร่วม | ผู้แทน 1,249 คน |
ผล | การเลือกคณะกรรมาธิการกลางชุดที่ 10 |
การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 10 | |||||||
อักษรจีนตัวเต็ม | 中國共產黨第十次全國代表大會 | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวย่อ | 中国共产党第十次全国代表大会 | ||||||
| |||||||
Abbreviated name | |||||||
ภาษาจีน | 十大 | ||||||
|
การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 10 (จีน: 中国共产党第十次全国代表大会) จัดขึ้น ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 24 ถึง 28 สิงหาคม ค.ศ. 1973 ผู้แทนจำนวน 1,249 คนเข้าร่วมประชุมในนามสมาชิกพรรคประมาณ 28 ล้านคน การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นต่อจากการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 9 และก่อนประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 11[1]
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นหลังการล่มสลายของหลิน เปียว และในช่วงที่การปฏิวัติทางวัฒนธรรมยังคงดำเนินต่อไป และมีการเลือกคณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 10
รายละเอียดการประชุม
[แก้]วันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 1973 ก่อนการประชุม กรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีมติให้ระงับสมาชิกภาพในพรรคของหลิน เปียว, เย่ ฉฺวิน, หฺวาง หย่งเชิ่ง, อู๋ ฝ่าเซี่ยน, หลี่ จั้วเผิง และชิว ฮุ่ยจั้ว ไว้ชั่วคราว
การประชุมเปิดในวันที่ 24 สิงหาคม โดยมีเหมา เจ๋อตง เป็นประธานสมัยเปิดประชุม โจว เอินไหล กล่าวรายงานทางการเมือง และหวัง หงเหวิน รายงานเกี่ยวกับการแก้ไขธรรมนูญ เหมาและโจวเสนอให้มีการฟื้นฟูทางการเมืองแก่สมาชิกพรรคเก่า 13 คน เช่น ถาน เจิ้นหลิน และหลี จิ่งเฉวียน[ต้องการอ้างอิง]
การประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 10 ได้รับรองธรรมนูญพรรคคอมมิวนิสต์จีนฉบับแก้ไข ซึ่งได้รับการรับรองโดยการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 9 มาแล้ว แม้จะมีการกำหนดให้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบ้าง แต่บทบัญญัติในหมวดนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากนัก เช่น อุดมการณ์ชี้นำและหลักการพื้นฐานของพรรค ในร่างที่แก้ไขแล้ว มีเพียงการอภิปรายและหลักการที่เสนอหรือเกี่ยวข้องกับหลิน เปียวเท่านั้นที่ถูกลบออกไป
การประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 10 ได้เลือกตั้งสมาชิกคณะกรรมาธิการกลาง 195 คน และสมาชิกสำรอง 124 คน โดยแก๊งออฟโฟร์เข้ามามีบทบาทสำคัญในคณะกรรมาธิการกลางและมีการฟื้นฟูอำนาจให้แก่บุคคลทางการเมืองที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม ซึ่งรวมถึงหลี่ จั้วเผิง, เติ้งเสี่ยวผิง, หวัง เจี้ยเสียง และบุคคลสำคัญอื่น ๆ[2]
ความสำคัญของการประชุม
[แก้]โครงสร้างอำนาจใหม่
[แก้]การล่มสลายของหลิน เปียวและพวกพ้องใน ค.ศ. 1971 ทำให้เกิดตำแหน่งว่างจำนวนมากในพรรคและรัฐบาล จากกรมการเมืองที่มีสมาชิก 21 คน เหลือเพียง 10 คน และจากคณะกรรมาธิการสามัญที่มีสมาชิก 5 คน เหลือเพียง 3 คน คือ เหมา เจ๋อตง, โจว เอินไหล และคัง เชิง ที่ยังคงอยู่ในตำแหน่ง[3] ดังนั้น การประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 10 จึงได้ถูกจัดขึ้นเพื่อเลือกสมาชิกใหม่เข้ามาแทนที่ตำแหน่งที่ว่างและเพื่อประณามการกระทำของหลิน เปียว ในฐานะผู้ฉวยโอกาสฝ่ายขวาที่ "ชูธงแดงเพื่อปราบธงแดง"[3]
ระหว่างการประชุม แก๊งออฟโฟร์สามารถรักษาตำแหน่งได้โดยได้รับการสนับสนุนจากเหมา เจียง ชิง และเหยา เหวินยฺเหวียน ได้รับเลือกเข้าสู่กรมการเมือง จาง ชุนเฉียว เข้าสู่คณะกรรมาธิการสามัญฯ และหวังหงเหวิน ดำรงตำแหน่งรองประธานพรรคคนที่ 2[3]
ความต่อเนื่องของการปฏิวัติทางวัฒนธรรม
[แก้]หวัง หงเหวิน ได้ประกาศการทำลาย "สองสำนักงานใหญ่ของชนชั้นกลาง หนึ่งในนั้นนำโดยหลิว เช่าฉี และอีกหนึ่งโดยหลิน เปียว" ในคำปราศรัยเปิดตัวของเขาในระหว่างการประชุม[4] หวังเน้นย้ำจิตวิญญาณปฏิวัติที่กล้าที่จะสวนกระแสและความสำคัญของการฝึกอบรมผู้นำรุ่นเยาว์ เมื่ออนาคตของประเทศอยู่ในกำมือของคนหนุ่มสาว การต่อสู้และการปฏิวัติอย่างต่อเนื่องจะเป็นเครื่องหมายสำคัญในชีวิตการเมืองของจีน[3]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "党史百科--党史频道--人民网". dangshi.people.com.cn. สืบค้นเมื่อ 2016-11-04.
- ↑ "中国共产党第十次全国代表大会新闻公报". Archives of the CCP's National Congress. Communist Party of China. สืบค้นเมื่อ 4 November 2016.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 Hsu, Immanuel (2000). The Rise of Modern China (Sixth ed.). New York: Oxford University Press. pp. 715–717. ISBN 978-0-19-512504-7.
- ↑ Michael, Schoenhals (2015). China's Cultural Revolution, 1966-69: Not a Dinner Party. New York: Routledge. p. 297. ISBN 978-1-56324-736-1.