ข้ามไปเนื้อหา

ดิเอราส์ทัวร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก The Eras Tour)
ดิเอราส์ทัวร์
คอนเสิร์ตทัวร์โดยเทย์เลอร์ สวิฟต์
ใบปิดประชาสัมพันธ์
สถานที่ที่จัดทัวร์
  • ยุโรป
  • ออสเตรเลีย
  • อเมริกาเหนือ
  • อเมริกาใต้
  • เอเชีย
อัลบั้มอัลบั้มต่าง ๆ
วันเริ่มต้นการแสดง17 มีนาคม ค.ศ. 2023 (2023-03-17)
วันสิ้นสุดการแสดง8 ธันวาคม ค.ศ. 2024 (2024-12-08)
จำนวนรอบแสดง152
วงเปิด
บ็อกซ์ออฟฟิศ1.039 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[1] (60 รอบ)
เว็บไซต์tstheerastour.taylorswift.com
ลำดับคอนเสิร์ตของเทย์เลอร์ สวิฟต์

ดิเอราส์ทัวร์ (อังกฤษ: The Eras Tour) เป็นคอนเสิร์ตทัวร์ที่ 6 ของนักร้องนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน เทย์เลอร์ สวิฟต์ เธออธิบายว่าเป็นการเดินทางผ่าน "ยุคดนตรี" ทั้งหมดของเธอ[2] ดิเอราส์ทัวร์เป็นการแสดงดนตรีจากผลงานสตูดิโออัลบั้มทั้งหมดของสวิฟต์ รวมไปถึงผลงานล่าสุด มิดไนส์ (2022) และอัลบั้มที่ยังไม่เคยได้ออกทัวร์เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 : เลิฟเวอร์ (2019) โฟล์กลอร์ (2020) และเอฟเวอร์มอร์ (2020) นับว่าเป็นการแสดงที่สนามกีฬาเป็นครั้งที่สองถัดจากเรพิวเทชันสเตเดียมทัวร์ ในปี 2018

โดยจะเริ่มจัดครั้งแรกในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2023 ในเกล็นเดล รัฐแอริโซนา และสิ้นสุดในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2024 ในแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ใช้เวลาในการแสดงรวมทั้งหมดกว่าสามชั่วโมง จากรายการเพลงทั้งหมด 44 เพลง ซึ่งแบ่งออกเป็น 10 การแสดงที่แตกต่างกันโดยอิงจากแนวคิดและรูปแบบจากผลงานสตูดิโออัลบั้มของสวิฟต์ โดยการแสดงได้รับเสียงชื่นชมอย่างเป็นเอกฉันท์ในการวางแนวคิด การผลิต ความสวยงาม และความเป็นนักดนตรี เสียงร้อง เสน่ห์ ความแข็งแกร่ง และความเก่งกาจของสวิฟต์ในฐานะผู้ให้ความบันเทิง

ปรากฏการณ์ความต้องการตั๋วอย่างไม่เคยเป็นที่ไหนมาก่อนของดิเอราส์ทัวร์ พบว่ามีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 3.5 ล้านคน บนโปรแกรมการขายตั๋วล่วงหน้าของทิกเก็ตมาสเตอร์ในสหรัฐ แม้ว่าเว็บไซต์ของแพลตฟอร์มจะล่มทันทีหลังจากเปิดขายล่วงหน้าในวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2022 แต่ตั๋วทัวร์คอนเสิร์ตขายได้มากกว่า 2.4 ล้านใบในวันนั้น ทำลายสถิติบัตรคอนเสิร์ตที่ศิลปินขายมากที่สุดในวันเดียว อย่างไรก็ตามทิกเก็ตมาสเตอร์ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาการจำหน่ายและการผูกขาดภายในธุรกิจการแสดงคอนเสิร์ต จนนำไปสู่การพิจารณาทางการเมือง นักข่าวได้อธิบายถึงปรากฏการณ์นี้ว่าเป็นกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงผลวัฒนธรรมประชานิยม สื่อสังคมและเศรษฐกิจของสวิฟต์

สวิฟต์ได้ประกาศและออกผลงานต่าง ๆ ในระหว่างการทัวร์ ได้แก่ อัลบั้มที่บันทึกเสียงใหม่ สปีกนาว (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) และ 1989 (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) รวมไปถึงมิวสิกวิดีโอสำหรับ "คาร์มา" และ "ไอแคนซียู" อัลบั้ม มิดไนส์ เวอร์ชันขยาย และสตูดิโอที่สิบเอ็ดอัลบั้ม เดอะทอร์เชอด์โพอิตส์ดีพาร์ตเมนต์ (2024) และการประกาศให้เพลง "ครูเอลซัมเมอร์" เป็นซิงเกิล ภาพยนตร์คอนเสิร์ตเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกในวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 2023 ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์และกลายเป็นภาพยนตร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์

เบื้องหลัง

[แก้]
เทย์เลอร์ สวิฟต์ขณะทำการแสดงในเรพิวเทชันสเตเดียมทัวร์ (2018) คอนเสิร์ตทัวร์ในอเมริกาเหนือที่ทำรายได้สูงสุด

เทย์เลอร์ สวิฟต์เริ่มทัวร์เรพิวเทชันสเตเดียมทัวร์ ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตทัวร์ครั้งที่ 5 ของเธอในปี 2018 เพื่อสนับสนุนสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 6 เรพิวเทชัน (2017) โดยทำลายสถิติการทัวร์ในอเมริกาที่ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์[3] การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปี 2020 ส่งผลให้สวิฟต์ต้องยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 6 ของเธอในชื่อเลิฟเวอร์เฟสต์ เพื่อสนับสนุนสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 7 เลิฟเวอร์ (2019)[4][5] ในช่วงเวลานั้นเธอได้ออกสตูดิโออัลบั้มสามชุด ได้แก่ โฟล์กลอร์ (2020), เอฟเวอร์มอร์ (2020) และ มิดไนส์ (2022); และสองอัลบั้มที่บันทึกเสียงใหม่ ได้แก่ เฟียร์เลส (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) และ เรด (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) ในปี 2021[6]

การจำหน่ายบัตร

[แก้]

การจำหน่ายบัตรเข้าชมของคอนเสิร์ตดิเอราส์ทัวร์ได้รับการจัดการโดยตัวแทนจำหน่ายบัตรต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น ทิกเก็ตมาสเตอร์ในหลายวันรอบการแสดง ซึ่งเกิดความต้องการที่สร้างสถิติใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน บัตรเข้าชมทุกสถานที่จำหน่ายหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง[7][8] ฝ่ายการขายเผชิญกับข้อผิดพลาดทางเทคนิคในหลายประเทศ มีการรายงานว่ามีการซื้อบัตรเข้าชมจำนวนมากโดยนักเก็งกำไรและบอตในสถานที่หลายแห่ง ส่งผลให้บัตรเข้าชมถูกแสดงบนแพลตฟอร์มการจำหน่ายต่อด้วยราคาที่สูงเกินไป[9][10] สตับฮับได้ตั้งข้อสังเกตว่ายอดการจำหน่ายบัตรของดิเอราส์ทัวร์ "กำลังถูกติดตามว่าเป็นศิลปินที่ขายดีที่สุดที่ [พวกเขา] เคยเห็น"[11]

การผลิต

[แก้]

ดิเอราส์ทัวร์ผลิตโดยเทย์เลอร์สวิฟต์ทัวริง ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตทัวร์ภายในของสวิฟต์เอง[12] หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า ทัวร์นี้เป็นหนึ่งในผลงานที่มีราคาแพงที่สุดและ "มีความทะเยอทะยานทางเทคนิคมากที่สุด" ของศตวรรษที่ 21[13] นิตยสารการออกแบบภายใน อาคิเทคเชอร์แรลไดเกสต์ ยกย่องการออกแบบฉากของทัวร์สวิฟต์ว่า "มีความทะเยอทะยานที่สุด" และยกย่องด้านการสร้างโลก[14]

ภาพยนตร์

[แก้]

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2023 สวิฟต์ได้เปิดตัวภาพยนตร์คอนเสิร์ตที่ผลิตเองเรื่อง เทย์เลอร์ สวิฟต์: ดิเอราส์ทัวร์ กำกับโดยแซม เวนช์ ออกฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก[15] สวิฟต์ได้ร่วมมือกับโรงภาพยนตร์โดยตรงในการเคลื่อนไหวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อจัดจำหน่ายและจัดแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ แทนที่จะเป็นสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์รายใหญ่ กลายเป็นภาพยนตร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล[16][17]

รางวัล

[แก้]
รางวัลและการเสนอชื่อเข้าชิงของดิเอราส์ทัวร์
ปี รางวัล สาขา ผล อ้างอิง
2023 เอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ การแสดงแห่งฤดูร้อน ชนะ [18]
บันทึกสถิติโลกกินเนสส์ ทัวร์ดนตรีที่ทำรายได้มากที่สุด ชนะ [19]
ทัวร์ดนตรีที่ทำรายได้มากที่สุดโดยศิลปินหญิง ชนะ [20]
ทัวร์ดนตรีที่ทำรายได้มากที่สุดในรอบปีเดียว ชนะ [21]
ทัวร์ดนตรีที่ทำรายได้มากที่สุดโดยศิลปินหญิง (2023) ชนะ [22]
ทัวร์ดนตรีที่ทำรายได้มากที่สุดโดยศิลปินเดี่ยว ชนะ [23]
ทัวร์ดนตรีที่ทำรายได้มากที่สุดต่อคอนเสิร์ตโดยศิลปินหญิง ชนะ [24]
2024 พีเพิลส์ชอยซ์อะวอดส์ คอนเสิร์ตทัวร์แห่งปี ชนะ [25]
โพลสตาร์ อะวอดส์ สาขาทัวร์แห่งปี ชนะ [26][27]
ป็อปทัวร์แห่งปี เสนอชื่อเข้าชิง
ความร่วมมือกับแบรนด์/แคมเปญถ่ายทอดสดแห่งปี[a] ชนะ
ผู้สนับสนุน/แขกรับเชิญพิเศษแห่งปี[b] เสนอชื่อเข้าชิง
ไอฮาร์ตเรดิโอมิวสิกอะวอดส์ สไตล์ทัวร์ที่โปรดปราน ชนะ
ทัวร์แห่งปี ชนะ

รายการเพลง

[แก้]

มีนาคม 2023 ถึงมีนาคม 2024

[แก้]

รายการต่อไปนี้มาจากคอนเสิร์ตในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2023 ในเกลนเดล รัฐแอริโซนา ; ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อแสดงถึงการแสดงทั้งหมดของทัวร์[30]

การเปลี่ยนแปลง

[แก้]
  • เพลง "The 1" แทนที่เพลง "Invisible String" โดยเริ่มจากการแสดงในเมืองอาร์ลิงตัน[31] ยกเว้นในการแสดงที่แนชวิลล์ในครั้งที่สอง ซึ่งสวิฟต์แสดงเพลง "Invisible String" เพื่อเป็นเกียรติแก่ม้านั่งที่สวนเซ็นเทนเนียลพาร์กซึ่งทำขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเธอ[32]
  • มีการเพิ่มเพลง "Nothing New" ก่อนเพลง "All Too Well (10 Minute Version)" ในรายการที่เปิดโดยฟีบี บริดเจอรส์ ซึ่งแสดงเพลงร่วมกับสวิฟต์[33][34]
  • มีการเพิ่มเพลง "Long Live" หลังจากแสดงเพลง "Enchanted" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงในอัลบั้ม สปีกนาว หลังจากการเปิดตัวอัลบั้ม สปีกนาว (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) โดยเริ่มจากการแสดงในแคนซัสซิตี[35][31]
  • เพลง "No Body, No Crime" แทนที่เพลง "'Tis the Damn Season" ในการแสดงที่เปิดโดยไฮม์ ซึ่งแสดงเพลงนี้ร่วมกับสวิฟต์[36]

พฤษภาคม 2024 เป็นต้นไป

[แก้]

รายการต่อไปนี้มาจากการแสดงครั้งแรกของทัวร์หลังจากการปรับเปลี่ยนในรายการแสดง (วันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 ในนองแตร์) เพื่อรองรับสตูดิโออัลบั้มที่เพิ่งออกใหม่ของสวิฟต์ เดอะทอร์เชอด์โพอิตส์ดีพาร์ตเมนต์[37][38][39]

การเปลี่ยนแปลง

[แก้]
  • ในรอบการแสดงที่ 8 ของคอนเสิร์ตที่ลอนดอน วันอังคารที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 2024 สวิฟต์แสดงเพลง "Florida!!!" ร่วมกับ ฟลอเรนซ์ เวลช์ จาก ฟลอเรนซ์แอนด์เดอะแมชชีน หลังแสดงเพลง "So High School" จบ[40]

เพลงเซอร์ไพรส์

[แก้]

สวิฟต์ทำการแสดงสองเพลงจากรายชื่อผลงานของเธอในแต่ละการแสดงเป็น "เพลงเซอร์ไพรส์" ซึ่งอยู่ในองก์ที่เก้า โดยเพลงแรกเล่นด้วยกีตาร์อะคูสติก และเพลงที่สองเล่นโดยเปียโน[41][42][43]

2023

[แก้]
  • 17 มีนาคม – เกลนเดล: "Mirrorball" และ "Tim McGraw"
  • 18 มีนาคม – เกลนเดล: "This Is Me Trying" and "State of Grace"
  • 24 มีนาคม – ลาสเวกัส: "Our Song" และ "Snow on the Beach"
  • 25 มีนาคม – ลาสเวกัส: "Cowboy like Me" (ร่วมกับมาร์คัส มัมฟอร์ด) และ "White Horse"
  • 31 มีนาคม – อาร์ลิงตัน: "Sad Beautiful Tragic" และ "Ours"
  • 1 เมษายน – อาร์ลิงตัน: "Death by a Thousand Cuts" และ "Clean"
  • 2 เมษายน – อาร์ลิงตัน: "Jump then Fall" และ "The Lucky One"
  • 13 เมษายน – แทมปา: "Speak Now" และ "Treacherous"
  • 14 เมษายน – แทมปา: "The Great War" (ร่วมกับแอรอน เดสเนอร์) และ "You're on Your Own, Kid"
  • 15 เมษายน – แทมปา: "Mad Woman" (ร่วมกับเดสเนอร์) และ "Mean"
  • 21 เมษายน – ฮิวสตัน: "Wonderland" และ "You're Not Sorry"
  • 22 เมษายน – ฮิวสตัน: "A Place in This World" และ "Today Was a Fairytale"
  • 23 เมษายน – ฮิวสตัน: "Begin Again" และ "Cold as You"
  • 28 เมษายน – แอตแลนตา: "The Other Side of the Door" และ "Coney Island"
  • 29 เมษายน – แอตแลนตา: "High Infidelity" และ "Gorgeous"
  • 30 เมษายน – แอตแลนตา: "I Bet You Think About Me" และ "How You Get the Girl"
  • 5 พฤษภาคม – แนชวิลล์: "Sparks Fly" และ "Teardrops on My Guitar"
  • 6 พฤษภาคม – แนชวิลล์: "Out of the Woods" และ "Fifteen"
  • 7 พฤษภาคม – แนชวิลล์: "Would've, Could've, Should've" (ร่วมกับเดสเนอร์) และ "Mine"
  • 12 พฤษภาคม – ฟิลาเดลเฟีย: "Gold Rush" และ "Come Back... Be Here"
  • 13 พฤษภาคม – ฟิลาเดลเฟีย: "Forever & Always" และ "This Love"
  • 14 พฤษภาคม – ฟิลาเดลเฟีย: "Hey Stephen" และ "The Best Day"
  • 19 พฤษภาคม – ฟอกซ์โบโร: "Should've Said No" และ "Better Man"
  • 20 พฤษภาคม – ฟอกซ์โบโร: "Question...?" และ "Invisible"
  • 21 พฤษภาคม – ฟอกซ์โบโร: "I Think He Knows" และ "Red"
  • 26 พฤษภาคม – อีสต์รัทเธอร์ฟอร์ด: "Getaway Car" (ร่วมกับแจ็ก แอนโตนอฟฟ์) และ "Maroon"
  • 27 พฤษภาคม – อีสต์รัทเธอร์ฟอร์ด: "Holy Ground" และ "False God"
  • 28 พฤษภาคม – อีสต์รัทเธอร์ฟอร์ด: "Welcome to New York" และ "Clean"
  • 2 มิถุนายน – ชิคาโก: "I Wish You Would" และ "The Lakes"
  • 3 มิถุนายน – ชิคาโก: "You All Over Me" (ร่วมกับมาเรน มอร์ริส) และ "I Don't Wanna Live Forever"
  • 4 มิถุนายน – ชิคาโก: "Hits Different" และ "The Moment I Knew"
  • 9 มิถุนายน – ดีทรอยต์: "Haunted" และ "I Almost Do"
  • 10 มิถุนายน – ดีทรอยต์: "All You Had to Do Was Stay" และ "Breathe"
  • 16 มิถุนายน – พิตต์สเบิร์ก: "Mr. Perfectly Fine" และ "The Last Time"
  • 17 มิถุนายน – พิตต์สเบิร์ก: "Seven" (ร่วมกับเดสเนอร์) และ "The Story of Us"
  • 23 มิถุนายน – มินนีแอโพลิส: "Paper Rings" และ "If This Was a Movie"
  • 24 มิถุนายน – มินนีแอโพลิส: "Dear John" และ "Daylight"
  • 30 มิถุนายน – ซินซินแนติ: "I'm Only Me When I'm with You" และ "Evermore"
  • 1 กรกฎาคม – ซินซินแนติ: "Ivy" (ร่วมกับเดสเนอร์) และ "Call It What You Want"
  • 7 กรกฎาคม – แคนซัสซิตี: "Never Grow Up" และ "When Emma Falls in Love"
  • 8 กรกฎาคม – แคนซัสซิตี: "Last Kiss" และ "Dorothea"
  • 14 กรกฎาคม – เดนเวอร์: "Picture to Burn" และ "Timeless"
  • 15 กรกฎาคม – เดนเวอร์: "Starlight" และ "Back to December"
  • 22 กรกฎาคม – ซีแอตเทิล: "This Is Why We Can't Have Nice Things" และ "Everything Has Changed"
  • 23 กรกฎาคม – ซีแอตเทิล: "Message in a Bottle" และ "Tied Together with a Smile"
  • 28 กรกฎาคม – ซานตาคลารา: "Right Where You Left Me" (ร่วมกับเดสเนอร์) และ "Castles Crumbling"
  • 29 กรกฎาคม – ซานตาคลารา: "Stay Stay Stay" และ "All of the Girls You Loved Before"
  • 3 สิงหาคม – ลอสแอนเจลิส: "I Can See You" และ "Maroon"
  • 4 สิงหาคม – ลอสแอนเจลิส: "Our Song" และ "You Are in Love"
  • 5 สิงหาคม – ลอสแอนเจลิส: "Death by a Thousand Cuts" และ "You're on Your Own, Kid"
  • 7 สิงหาคม – ลอสแอนเจลิส: "Dress" และ "Exile"
  • 8 สิงหาคม – ลอสแอนเจลิส: "I Know Places" และ "King of My Heart"
  • 9 สิงหาคม – ลอสแอนเจลิส: "New Romantics" และ "New Year's Day"
  • 24 สิงหาคม – เม็กซิโกซิตี: "I Forgot That You Existed" และ "Sweet Nothing"
  • 25 สิงหาคม – เม็กซิโกซิตี: "Tell Me Why" และ "Snow on the Beach"
  • 26 สิงหาคม – เม็กซิโกซิตี: "Cornelia Street" และ "You're on Your Own, Kid"
  • 27 สิงหาคม – เม็กซิโกซิตี: "Afterglow" และ "Maroon"
  • 9 พฤศจิกายน – บัวโนสไอเรส: "The Very First Night" และ "Labyrinth"
  • 11 พฤศจิกายน – บัวโนสไอเรส: "Is It Over Now?" / "Out of the Woods" และ "End Game"
  • 12 พฤศจิกายน – บัวโนสไอเรส: "Better than Revenge" และ "Slut!"
  • 17 พฤศจิกายน – รีโอเดจาเนโร: "Stay Beautiful" และ "Suburban Legends"
  • 19 พฤศจิกายน – รีโอเดจาเนโร: "Dancing with Our Hands Tied" และ "Bigger Than the Whole Sky"
  • 20 พฤศจิกายน – รีโอเดจาเนโร: "Me!" และ "So It Goes…"
  • 24 พฤศจิกายน – เซาเปาลู: "Now That We Don't Talk" และ "Innocent"
  • 25 พฤศจิกายน – เซาเปาลู: "Safe & Sound" และ "Untouchable"
  • 26 พฤศจิกายน – เซาเปาลู: "Say Don't Go" และ "It's Time to Go"

2024

[แก้]
  • 7 กุมภาพันธ์ – โตเกียว: "Dear Reader" และ "Holy Ground"
  • 8 กุมภาพันธ์ – โตเกียว: "Eyes Open" และ "Electric Touch"
  • 9 กุมภาพันธ์ – โตเกียว: "Superman" และ "The Outside"
  • 10 กุมภาพันธ์ – โตเกียว: "Come In with the Rain" และ "You're on Your Own, Kid"
  • 16 กุมภาพันธ์ – เมลเบิร์น: "Red" และ "You're Losing Me"
  • 17 กุมภาพันธ์ – เมลเบิร์น: "Getaway Car" / "August" / "The Other Side of the Door" และ "This Is Me Trying"
  • 18 กุมภาพันธ์ – เมลเบิร์น: "Come Back... Be Here" / "Daylight" และ "Teardrops on My Guitar"
  • 23 กุมภาพันธ์ – ซิดนีย์: "How You Get The Girl" และ "White Horse" / "Coney Island" (ร่วมกับ ซาบรินา คาร์เพนเทอร์)
  • 24 กุมภาพันธ์ – ซิดนีย์: "Should've Said No" / "You're Not Sorry" และ "New Year's Day" / "Peace"
  • 25 กุมภาพันธ์ – ซิดนีย์: "Is It Over Now?" / "I Wish You Would" and "Haunted" / "Exile"
  • 26 กุมภาพันธ์ – ซิดนีย์: "Would've, Could've, Should've" / "Ivy" and "Forever & Always" / "Maroon"
  • 2 มีนาคม – สิงคโปร์: "Mine" / "Starlight" และ "I Don't Wanna Live Forever" / "Dress"
  • 3 มีนาคม – สิงคโปร์: "Long Story Short" / "The Story of Us" and "Clean" / "Evermore"
  • 4 มีนาคม – สิงคโปร์: "Foolish One" / "Tell Me Why" และ "This Love" / "Call It What You Want"
  • 7 มีนาคม – สิงคโปร์: "Death By A Thousand Cuts" / "Babe" และ "Fifteen" / "You're on Your Own, Kid"
  • 8 มีนาคม – สิงคโปร์: "Sparks Fly" / "Gold Rush" และ "False God" / "Slut!"
  • 9 มีนาคม – สิงคโปร์: "Tim McGraw" / "Cowboy Like Me" และ "Mirrorball" / "Epiphany"
  • 9 พฤษภาคม – ปารีส: "Paris" และ "Loml"
  • 10 พฤษภาคม – ปารีส: "Is It Over Now?" / "Out of the Woods" และ "My Boy Only Breaks His Favorite Toys"
  • 11 พฤษภาคม – ปารีส: "Hey Stephen" และ "Maroon"
  • 12 พฤษภาคม – ปารีส: "The Alchemy" / "Treacherous" and "Begin Again" / "Paris"
  • 17 พฤษภาคม – สต็อกโฮล์ม: "I Think He Knows" / "Gorgeous" and "Peter"
  • 18 พฤษภาคม – สต็อกโฮล์ม: "Guilty as Sin?" and "Say Don't Go" / "Welcome to New York" / "Clean"
  • 19 พฤษภาคม – สต็อกโฮล์ม: "Message in a Bottle" / "How You Get the Girl" / "New Romantics" and "How Did It End?"
  • 24 พฤษภาคม – ลิสบอน: "Come Back... Be Here" / "The Way I Loved You" / "The Other Side of the Door" and "Fresh Out the Slammer" / "High Infidelity"
  • 25 พฤษภาคม – ลิสบอน: "The Tortured Poets Department" / "Now That We Don't Talk" and "You're on Your Own, Kid" / "Long Live"
  • 29 พฤษภาคม – มาดริด: "Sparks Fly" / "I Can Fix Him (No Really I Can)" and "I Look in People's Windows" / "Snow on the Beach"
  • 30 พฤษภาคม – มาดริด: "Our Song" / "Jump then Fall" and "King of My Heart"
  • 2 มิถุนายน – ลียง: "The Prophecy" / "Long Story Short" and "Fifteen" / "You're on Your Own, Kid"
  • 3 มิถุนายน – ลียง: "Glitch" / "Everything Has Changed" and "Chloe or Sam or Sophia or Marcus"
  • 7 มิถุนายน – เอดินบะระ: "Would've, Could've, Should've" / "I Know Places" and "'Tis the Damn Season" / "Daylight"
  • 8 มิถุนายน – เอดินบะระ: "The Bolter" / "Getaway Car" and "All of the Girls You Loved Before" / "Crazier"
  • 9 มิถุนายน – เอดินบะระ: "It's Nice to Have a Friend" / "Dorothea" and "Haunted" / "Exile"
  • 13 มิถุนายน – ลิเวอร์พูล: "I Can See You" / "Mine" and "Cornelia Street" / "Maroon"
  • 14 มิถุนายน – ลิเวอร์พูล: "This Is What You Came For" / "Gold Rush" and "The Great War" / "You're Losing Me"
  • 15 มิถุนายน – ลิเวอร์พูล: "Carolina" / "No Body, No Crime" and "The Manuscript" / "Red"
  • 18 มิถุนายน – คาร์ดิฟฟ์: "I Forgot That You Existed" / "This Is Why We Can't Have Nice Things" and "I Hate It Here" / "The Lakes"
  • 21 มิถุนายน – ลอนดอน: "Hits Different" / "Death by a Thousand Cuts" and "The Black Dog" / "Come Back... Be Here" / "Maroon"

การแสดง

[แก้]
รายชื่อการแสดงคอนเสิร์ต ค.ศ. 2023[44][45][46][47][48]
วันที่ เมือง ประเทศ สถานที่จัดงาน การแสดงเปิด การเข้าร่วม รายได้
17 มีนาคม เกล็นเดล สหรัฐ สนามกีฬาสเตดฟาร์ม พาร์อะมอร์
เกย์ล
18 มีนาคม
24 มีนาคม พาราดีซ[c] สนามกีฬาอัลลิเจียนต์ บีบาดูบี
เกย์ล
25 มีนาคม
31 มีนาคม อาร์ลิงตัน สนามกีฬาเอทีแอนด์ที มูนา
เกล
1 เมษายน บีบาดูบี
กราซี อับรามส์
2 เมษายน
13 เมษายน แทมปา สนามกีฬาเรย์มอนด์ เจมส์ บีบาดูบี
เกย์ล
14 เมษายน บีบาดูบี
กราซี อับรามส์
15 เมษายน
21 เมษายน ฮิวสตัน สนามกีฬาเอ็นอาร์จี
22 เมษายน
23 เมษายน
28 เมษายน แอตแลนตา สนามกีฬาเมอร์เซเดส-เบนซ์
29 เมษายน
30 เมษายน มูนา
เกย์ล
5 พฤษภาคม แนชวิลล์ สนามกีฬานิสสัน ฟีบี บริดเจอรส์
กราซี อับรามส์
6 พฤษภาคม ฟีบี บริดเจอรส์
เกย์ล
7 พฤษภาคม [d]
12 พฤษภาคม ฟิลาเดลเฟีย ลินคอล์นไฟแนนเชียลฟิลด์ ฟีบี บริดเจอรส์
เกย์ล
13 พฤษภาคม
14 พฤษภาคม ฟีบี บริดเจอรส์
กราซี อับรามส์
19 พฤษภาคม ฟอกซ์โบโร สนามกีฬายิลเลต ฟีบี บริดเจอรส์
เกย์ล
20 พฤษภาคม
21 พฤษภาคม ฟีบี บริดเจอรส์
กราซี อับรามส์
26 พฤษภาคม อีสต์รัทเธอร์ฟอร์ด สนามกีฬาเมตไลฟ์ ฟีบี บริดเจอรส์
เกย์ล
27 พฤษภาคม ฟีบี บริดเจอรส์
กราซี อับรามส์
28 พฤษภาคม ฟีบี บริดเจอรส์
โอเวนน์
2 มิถุนายน ชิคาโก โซลเจอร์ฟีลด์ เกิร์ลอินเรด
โอเวนน์
3 มิถุนายน
4 มิถุนายน มูนา
กราซี อับรามส์
9 มิถุนายน ดีทรอยต์ ฟอร์ดฟิลด์ เกิร์ลอินเรด
กราซี อับรามส์
10 มิถุนายน เกิร์ลอินเรด
โอเวนน์
16 มิถุนายน พิตต์สเบิร์ก สนามกีฬาเอครีเซอร์ เกิร์ลอินเรด
กราซี อับรามส์
17 มิถุนายน เกิร์ลอินเรด
โอเวนน์
23 มิถุนายน มินนีแอโพลิส สนามกีฬายูเอสแบงก์ เกิร์ลอินเรด
กราซี อับรามส์
24 มิถุนายน เกิร์ลอินเรด
โอเวนน์
30 มิถุนายน ซินซินแนติ สนามกีฬาเพย์คอร์ มูนา
กราซี อับรามส์
1 กรกฎาคม
7 กรกฎาคม แคนซัสซิตี สนามกีฬาแอร์โรว์เฮด
8 กรกฎาคม
14 กรกฎาคม เดนเวอร์ เอ็มเพาเวอร์ฟิลด์แอตไมล์ไฮ
15 กรกฎาคม
22 กรกฎาคม ซีแอตเทิล ลูเมนฟิลด์ ไฮม์
กราซี อับรามส์
23 กรกฎาคม
28 กรกฎาคม ซานตาคลารา สนามกีฬาลีวายส์
29 กรกฎาคม
3 สิงหาคม อิงเกิลวูด[e] สนามกีฬาโซไฟ
4 สิงหาคม ไฮม์
โอเวนน์
5 สิงหาคม ไฮม์
เกย์ล
8 สิงหาคม ไฮม์
กราซี อับรามส์
9 สิงหาคม ไฮม์
เกย์ล
24 สิงหาคม เม็กซิโกซิตี เม็กซิโก โฟโรซอล ซาบรินา คาร์เพนเทอร์
25 สิงหาคม
26 สิงหาคม
27 สิงหาคม
9 พฤศจิกายน บัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา สนามกีฬาอันโตนิโอ เบสปูซิโอ ลิเบร์ติ
10 พฤศจิกายน
11 พฤศจิกายน
17 พฤศจิกายน รีโอเดจาเนโร บราซิล สนามกีฬาโอลิมปิกนิลตง ซังตุส
18 พฤศจิกายน
19 พฤศจิกายน
24 พฤศจิกายน เซาเปาลู อลิอันซ์พาร์ก
25 พฤศจิกายน
26 พฤศจิกายน
รายชื่อการแสดงคอนเสิร์ต ค.ศ. 2024[50][47][51]
วันที่ เมือง ประเทศ สถานที่จัดงาน การแสดงเปิด การเข้าร่วม รายได้
7 กุมภาพันธ์ โตเกียว ญี่ปุ่น โตเกียวโดม
8 กุมภาพันธ์
9 กุมภาพันธ์
10 กุมภาพันธ์
16 กุมภาพันธ์ เมลเบิร์น ออสเตรเลีย สนามคริกเก็ตเมลเบิร์น ซาบรินา คาร์เพนเทอร์
17 กุมภาพันธ์
18 กุมภาพันธ์
23 กุมภาพันธ์ ซิดนีย์ สนามกีฬาแอกคอร์
24 กุมภาพันธ์
25 กุมภาพันธ์
26 กุมภาพันธ์
2 มีนาคม สิงคโปร์ สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์
3 มีนาคม
4 มีนาคม
7 มีนาคม
8 มีนาคม
9 มีนาคม
9 พฤษภาคม นองแตร์[f] ฝรั่งเศส ปารีสลาเดฟองซ์อารีนา
10 พฤษภาคม
11 พฤษภาคม
12 พฤษภาคม
17 พฤษภาคม สต็อกโฮล์ม สวีเดน เฟรนดส์อารีนา
18 พฤษภาคม
19 พฤษภาคม
24 พฤษภาคม ลิสบอน โปรตุเกส อิชตาดียูดาลุช
25 พฤษภาคม
30 พฤษภาคม มาดริด สเปน สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว
2 มิถุนายน เดซีน-ชาร์ปิเยอ[g] ฝรั่งเศส สนามกีฬากรุปามา
3 มิถุนายน
7 มิถุนายน เอดินบะระ สกอตแลนด์ สนามกีฬาเมอร์เรย์ฟิลด์
8 มิถุนายน
9 มิถุนายน
13 มิถุนายน ลิเวอร์พูล อังกฤษ แอนฟีลด์
14 มิถุนายน
15 มิถุนายน
18 มิถุนายน คาร์ดิฟฟ์ เวลส์ สนามกีฬาพรินซิพาลิตี
21 มิถุนายน ลอนดอน อังกฤษ สนามกีฬาเวมบลีย์
22 มิถุนายน
23 มิถุนายน
28 มิถุนายน ดับลิน ไอร์แลนด์ อวีวาสเตเดียม
29 มิถุนายน
30 มิถุนายน
4 กรกฎาคม อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ โยฮัน ไกรฟฟ์อาเรนา
5 กรกฎาคม
6 กรกฎาคม
9 กรกฎาคม ซือริช สวิตเซอร์แลนด์ เลตซิกกรุนด์
10 กรกฎาคม
13 กรกฎาคม มิลาน อิตาลี ซานซีโร
14 กรกฎาคม
17 กรกฎาคม เก็ลเซินเคียร์เชิน เยอรมนี เวลตินส์-อารีนา
18 กรกฎาคม
19 กรกฎาคม
23 กรกฎาคม ฮัมบวร์ค ฟ็อลคส์พาร์คชตาดีอ็อน
24 กรกฎาคม
27 กรกฎาคม มิวนิก โอลึมพีอาชตาดีอ็อน
28 กรกฎาคม
1 สิงหาคม วอร์ซอ โปแลนด์ สนามกีฬาแห่งชาติวอร์ซอ
2 สิงหาคม
3 สิงหาคม
8 สิงหาคม เวียนนา ออสเตรีย สนามกีฬาแอ็นสท์ ฮัพเพิล
9 สิงหาคม
10 สิงหาคม
15 สิงหาคม ลอนดอน อังกฤษ สนามกีฬาเวมบลีย์
16 สิงหาคม
17 สิงหาคม
19 สิงหาคม
20 สิงหาคม
18 ตุลาคม ไมแอมีการ์เดนส์[h] สหรัฐ สนามกีฬาฮาร์ดร็อก กราซี อับรามส์
19 ตุลาคม
20 ตุลาคม
25 ตุลาคม นิวออร์ลีนส์ ซีซารส์ซุเปอร์โดม
26 ตุลาคม
27 ตุลาคม
1 พฤศจิกายน อินเดียแนโพลิส สนามกีฬาลูคัสออยล์
2 พฤศจิกายน
3 พฤศจิกายน
14 พฤศจิกายน โทรอนโต แคนาดา รอเจอส์เซนเตอร์
15 พฤศจิกายน
16 พฤศจิกายน
21 พฤศจิกายน
22 พฤศจิกายน
23 พฤศจิกายน
6 ธันวาคม แวนคูเวอร์ บีซีเพลซ
7 ธันวาคม
8 ธันวาคม
รวม $1,039,263,762 (60 การแสดง)[52]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. ร่วมกับเอเอ็มซีเธียเตอรส์สำหรับภาพยนตร์ เทย์เลอร์ สวิฟต์: ดิเอราส์ทัวร์[26]
  2. รางวัลให้กับฟีบี บริดเจอรส์ แทนสวิฟต์[26]
  3. ประชาสัมพันธ์เป็นลาสเวกัส
  4. การแสดงเปิดตามกำหนดคือ ฟีบี บริดเจอรส์ และกราซี อับรามส์; อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความล่าช้าที่เกิดจากสภาพอากาศแปรปรวน ทั้งสองชุดจึงถูกยกเลิก[49]
  5. ประชาสัมพันธ์เป็นลอสแอนเจลิส
  6. ประชาสัมพันธ์เป็นปารีส
  7. ประชาสัมพันธ์เป็นลียง
  8. ประชาสัมพันธ์เป็นไมแอมี

อ้างอิง

[แก้]
  1. Dellatto, Marisa (October 15, 2023). "The Top-Earning Summer Concert Tours Of 2023". Forbes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 15, 2023. สืบค้นเมื่อ October 15, 2023.
  2. Bernabe, Angeline Jane; McCarthy, Kelly (November 1, 2022). "Taylor Swift announces 'Eras' tour: 'It's a journey through all of my musical eras of my career'". KTRK-TV. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2022. สืบค้นเมื่อ June 5, 2023.
  3. Frankenberg, Eric (November 30, 2018). "Taylor Swift's Reputation Stadium Tour Breaks Record for Highest-Grossing U.S. Tour". Billboard. ISSN 0006-2510. OCLC 1532948. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 11, 2023. สืบค้นเมื่อ December 8, 2022.
  4. Willman, Chris (February 27, 2021). "Taylor Swift Makes It Official: 'Lover Fest' Shows Won't Be Rescheduled". Variety. ISSN 0042-2738. OCLC 810134503. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 1, 2023. สืบค้นเมื่อ April 3, 2023.
  5. Atkinson, Katie (February 26, 2021). "Taylor Swift Officially Cancels Lover Fest Concerts". Billboard. ISSN 0006-2510. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 4, 2023. สืบค้นเมื่อ April 23, 2023.
  6. Willman, Chris (November 1, 2022). "Taylor Swift Announces 2023 'Eras Tour' of U.S. Stadiums". Variety. ISSN 0042-2738. OCLC 810134503. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 4, 2022. สืบค้นเมื่อ November 1, 2022.
  7. "Taylor-Swift-Tickets in 30 Minuten weg – jetzt werden sie weiterverkauft" [Taylor Swift tickets gone in 30 minutes - now resale]. 20 Minuten (ภาษาเยอรมัน). July 13, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 13, 2023. สืบค้นเมื่อ July 13, 2023.
  8. Ong, Shynn; Wee, Gladys (July 8, 2023). "Taylor Swift's Singapore concert tickets sell out in 8 hours; fans hit by sale glitches call for better systems". Today. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 8, 2023. สืบค้นเมื่อ July 8, 2023.
  9. Roeloffs, Mary Whitfill. "Eras Tour Headaches Take U.K.: Taylor Swift Fans Complain About Website Malfunctions, Scalpers As Tickets Released". Forbes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 12, 2023. สืบค้นเมื่อ July 13, 2023.
  10. "Taylor Swift: What Asian fans did for her concert tickets". BBC News. July 7, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 8, 2023. สืบค้นเมื่อ July 8, 2023.
  11. Rodriguez, Gloria (July 21, 2023). "Hotels are pretty much booked up for upcoming Taylor Swift concerts in Santa Clara". KGO-TV. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 22, 2023. สืบค้นเมื่อ July 22, 2023.
  12. Lipshutz, Jason (November 1, 2022). "Taylor Swift Announces U.S. Dates for 2023 Eras Tour". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2022. สืบค้นเมื่อ August 4, 2023.
  13. Shah, Neil (June 26, 2023). "Will Taylor Swift's 'Eras Tour' Become the First $1 Billion Dollar Tour?". The Wall Street Journal. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 26, 2023. สืบค้นเมื่อ June 26, 2023.
  14. McLaughlin, Katherine (March 24, 2023). "The Eras Tour: The Intricate World-Building Behind Taylor Swift's Most Ambitious Sets Ever". Architectural Digest. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 24, 2023. สืบค้นเมื่อ March 25, 2023.
  15. Snapes, Laura (September 26, 2023). "Taylor Swift: Eras tour concert film to get global release in October". The Guardian. ISSN 0261-3077. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 26, 2023. สืบค้นเมื่อ September 26, 2023.
  16. "Taylor Swift tour film tops $100m in advance ticket sales". BBC News. October 6, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 6, 2023. สืบค้นเมื่อ October 7, 2023.
  17. Moreau, Jordan; Lang, Brent (October 13, 2023). "Box Office: 'Taylor Swift: Eras Tour' Kicks Off With $2.8 Million in Previews". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 13, 2023. สืบค้นเมื่อ October 14, 2023.
  18. Stenzel, Wesley (September 13, 2023). "2023 VMAs winners: See the full list". Entertainment Weekly. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 13, 2023. สืบค้นเมื่อ September 13, 2023.
  19. "Highest-grossing music tour". Guinness World Records. November 12, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2023. สืบค้นเมื่อ December 12, 2023.
  20. "Highest-grossing music tour by a female artist". Guinness World Records. November 12, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2023. สืบค้นเมื่อ December 12, 2023.
  21. "Highest-grossing music tour". Guinness World Records. November 12, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2023. สืบค้นเมื่อ December 12, 2023.
  22. "Highest-grossing music tour by a female artist (current year)". Guinness World Records. November 12, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2023. สืบค้นเมื่อ December 12, 2023.
  23. "Highest-grossing music tour by a solo artist". Guinness World Records. November 12, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2023. สืบค้นเมื่อ December 12, 2023.
  24. "Highest-grossing music tour per concert by a female artist". Guinness World Records. November 12, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2023.
  25. "2024 People's Choice Awards: Complete List of Nominees". E!. January 11, 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 11, 2024. สืบค้นเมื่อ 11 January 2024.
  26. 26.0 26.1 26.2 "Nominations Announced for 35th Annual Pollstar Awards, Voting Open Now". Pollstar. November 10, 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2023. สืบค้นเมื่อ November 10, 2023.
  27. Areliz, Oscar (February 7, 2024). "Taylor Swift, P!NK Win 2024 Pollstar Awards; Lars Ulrich, Dave Chappelle Surprise Crowd". Pollstar. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 8, 2024. สืบค้นเมื่อ February 8, 2024.
  28. Fields, Taylor (January 18, 2024). "2024 iHeartRadio Music Awards Nominees Revealed". iHeartRadio. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 18, 2024. สืบค้นเมื่อ January 18, 2024.
  29. Fields, Taylor (January 18, 2024). "2024 iHeartRadio Music Awards Nominees Revealed". iHeartRadio. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 18, 2024. สืบค้นเมื่อ January 18, 2024.
  30. Shafer, Ellise (2023-03-18). "Taylor Swift Eras Tour: The Full Setlist From Opening Night (Updating Live)". Variety (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2023-03-18.
  31. 31.0 31.1 Gularte, Alejandra (July 8, 2023). "You Missed These Easter Eggs on Taylor Swift's Eras Tour". Vulture. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 18, 2023. สืบค้นเมื่อ July 18, 2023.
  32. Leimkuehler, Matthew (May 7, 2023). "Taylor Swift in Nashville: What surprise songs did she sing on night two of 'Eras'?". The Tennessean. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 9, 2023. สืบค้นเมื่อ May 7, 2023.
  33. Armstrong, Megan (May 6, 2023). "Taylor Swift And Phoebe Bridgers Performed 'Nothing New' In Nashville". Uproxx. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 6, 2023. สืบค้นเมื่อ May 7, 2023.
  34. Kickham, Dylan (May 7, 2023). "Taylor's Eras Tour Set List Gets An Extra Song When Phoebe Bridgers Is The Opener". Elite Daily. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 7, 2023. สืบค้นเมื่อ May 7, 2023.
  35. Zellers, Ashley (July 8, 2023). "Taylor Swift played 4 surprise songs in first KC Eras concert. What will she pick tonight?". The Kansas City Star. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 8, 2023. สืบค้นเมื่อ July 8, 2023.
  36. Iasimone, Ashley (July 29, 2023). "Haim Joins Taylor Swift on Stage Dressed Up as 'Bejeweled' Stepsisters for 'No Body, No Crime'". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 31, 2023. สืบค้นเมื่อ July 31, 2023.
  37. Bayer, Lili (May 9, 2024). "Taylor Swift Eras tour adds Tortured Poets Department and combines Folklore and Evermore eras – live in Paris". The Guardian. สืบค้นเมื่อ May 9, 2024.
  38. Bohannon, Molly. "Taylor Swift Added These The Tortured Poets Department Songs To Her Eras Tour". Forbes. สืบค้นเมื่อ May 9, 2024.
  39. Shafer, Ellise (May 9, 2024). "Taylor Swift Plays The Tortured Poets Department Songs Live for the First Time at Paris Eras Tour Show". Variety. สืบค้นเมื่อ May 10, 2024.
  40. West, Bryan (August 20, 2024). "Florence Welch joins Taylor Swift on stage in Wembley". USA Today. สืบค้นเมื่อ August 20, 2024.
  41. Iasimone, Ashley (August 28, 2023). "All the Surprise Songs Taylor Swift Has Performed on The Eras Tour (So Far)". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 1, 2023. สืบค้นเมื่อ September 8, 2023.
  42. Shafer, Ellise (November 27, 2023). "Taylor Swift's Eras Tour: Every Surprise Song She's Played So Far". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 28, 2023. สืบค้นเมื่อ December 29, 2023.
  43. Ellis, Maddie (March 1, 2024). "Every surprise song Taylor Swift has performed on the 'Eras Tour' so far". Today.com. สืบค้นเมื่อ May 11, 2024.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  44. Sisario, Ben (2023-08-05). "How Taylor Swift's Eras Tour Conquered the World". The New York Times (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 5, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-08-05.
  45. Willman, Chris (November 11, 2022). "Taylor Swift Adds 17 More Stadium Shows to 'Eras Tour,' Which Will Include a Five-Night Stand in L.A., Making It Her Biggest U.S. Tour to Date". Variety. ISSN 0042-2738. OCLC 810134503. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 8, 2022. สืบค้นเมื่อ November 11, 2022.
  46. Richards, Will (November 4, 2022). "Taylor Swift adds extra dates to US 'The Eras Tour'". NME. ISSN 0028-6362. OCLC 60624023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 5, 2022. สืบค้นเมื่อ November 5, 2022.
  47. 47.0 47.1 "Events International – Taylor Swift". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 6, 2023. สืบค้นเมื่อ July 9, 2023.
  48. Willman, Chris (June 27, 2023). "Taylor Swift Adds a Sixth Night to Her Run at SoFi Stadium in August". Variety. สืบค้นเมื่อ June 27, 2023.
  49. Iasimone, Ashley (May 7, 2023). "Taylor Swift's Sunday Night Show in Nashville Goes On Following Two-Hour Storm Delay". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 8, 2023. สืบค้นเมื่อ May 7, 2023.
  50. Dailey, Hannah (June 20, 2023). "Taylor Swift Announces International Eras Tour Dates in Europe, Asia & Australia". Billboard. สืบค้นเมื่อ June 20, 2023.
  51. Kreps, Daniel (August 3, 2023). "Taylor Swift's Eras Tour Returning to North America for Additional Shows in 2024". Rolling Stone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 3, 2023. สืบค้นเมื่อ August 3, 2023.
  52. "Taylor Swift Sets All-Time Touring Record With $1 Billion Gross". Pollstar. December 16, 2023. สืบค้นเมื่อ April 17, 2024.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]