ข้ามไปเนื้อหา

โตเกียวเมโทรสายฟูกูโตชิง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โตเกียวเมโทร สายฟูกูโตชิง
สายฟูกูโตชิง ขบวน 17000 ซีรีส์
ข้อมูลทั่วไป
ชื่ออื่นF
ชื่อลำลอง東京メトロ副都心線
เจ้าของโตเกียวเมโทร โตเกียวเมโทร
หมายเลขสาย13
ที่ตั้งโตเกียว
ปลายทาง
จำนวนสถานี16
สีบนแผนที่     สีน้ำตาล (#9C5E31)
การดำเนินงาน
รูปแบบระบบขนส่งมวลชนเร็ว
ระบบโตเกียวซับเวย์
ผู้ดำเนินงานโตเกียวเมโทร
ศูนย์ซ่อมบำรุงวะโก
ขบวนรถ
  • โตเกียวเมโทร 10000 ซีรีส์
  • โตเกียวเมโทร 17000 ซีรีส์
  • เซบุ 6000 ซีรีส์
  • เซบุ 6050 ซีรีส์
  • เซบุ 40000 ซีรีส์
  • เซบุ 40050 ซีรีส์
  • โทบุ 9000 ซีรีส์
  • โทบุ 9050 ซีรีส์
  • โทบุ 50070 ซีรีส์
  • โทกีว 5000 ซีรีส์
  • โทกีว 5050 ซีรีส์
  • โทกีว 5050-4000 ซีรีส์
  • โยโกฮามา มินะโตะมิไร เรลเวย์ Y500 ซีรีส์
  • โซะเตตสึ 20000 ซีรีส์
ผู้โดยสารต่อวัน363,654[1]
ประวัติ
เปิดเมื่อ7 ธันวาคม 1994; 30 ปีก่อน (1994-12-07) (สายยูรากูโจใหม่)
14 มิถุนายน 2008; 16 ปีก่อน (2008-06-14) (สายฟูกูโตชิง)
ข้อมูลทางเทคนิค
ระยะทาง20.2 km (12.6 mi)
จำนวนทางวิ่งทางคู่
รางกว้าง1,067 mm (3 ft 6 in)
รัศมีดัดโค้งต่ำสุด160.4 m (526 ft)
ระบบจ่ายไฟ1,500 V DC (เหนือหัว)
ความเร็ว80 km/h (50 mph)
อาณัติสัญญาณสัญญาณบนห้องขับ, วงจรปิด
ระบบป้องกันของขบวนรถNew CS-ATC, ATO
ความชันสูงสุด4.0%
แผนที่เส้นทาง

โตเกียวเมโทรสายฟุกุโตะชิง หรือ สาย 13 เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ดำเนินการโดยโตเกียวเมโทร เป็นเส้นทางที่เปิดให้บริการล่าสุดในระบบ[2] โดยเส้นทางนี้มีตู้โดยสารสำหรับสุภาพสตรีด้วย[3]

ระบบรถไฟฟ้า

[แก้]

โตเกียวเมโทร

[แก้]
  • โตเกียวเมโทร 7000 ซีรีส์ 8-10 คันต่อขบวน
  • โตเกียวเมโทร 10000 ซีรีส์ 10 คันต่อขบวน

อื่น ๆ

[แก้]
  • Seibu 6000 ซีรีส์ 10 คันต่อขบวน
  • Seibu 6050 ซีรีส์ 10 คันต่อขบวน
  • Tobu 9000 ซีรีส์ 10 คันต่อขบวน
  • Tobu 9050 ซีรีส์ 10 คันต่อขบวน
  • Tobu 50070 ซีรีส์ 10 คันต่อขบวน
  • Tokyu 5050 ซีรีส์ 8 คันต่อขบวน
  • Tokyu 5050-4000 ซีรีส์ 10 คันต่อขบวน (ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 2012)
  • Yokohama Minatomirai Railway Y500 ซีรีส์ 8 คันต่อขบวน

อ้างอิง

[แก้]
  1. Tokyo Metro station ridership in 2017 Train Media (sourced from Tokyo Metro) Retrieved July 23, 2018.
  2. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-10. สืบค้นเมื่อ 2013-12-30.
  3. [1] Accessed 1 August 2013.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]