เคเคพาร์ก
เคเคพาร์ก | |
---|---|
โรงงานต้มตุ๋นและศูนย์กลางการค้ามนุษย์ | |
![]() เคเคพาร์กมองไปจากฝั่งไทย | |
พิกัดภูมิศาสตร์ | 16°38′51.2″N 98°31′14.6″E / 16.647556°N 98.520722°E |
ที่ตั้ง | เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า |
เคเคพาร์ก (จีน: KK園區, อังกฤษ: KK Park) เป็นชื่อเรียกโดยรวมของโรงงานต้มตุ๋นที่ตั้งอยู่ในเมียวดี ประเทศพม่า โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเมยบนชายแดนพม่า–ไทย ถือเป็นศูนย์กลางหลักของการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตและการค้ามนุษย์ในภูมิภาคสามเหลี่ยมทองคำ[1]
ประวัติ
[แก้]โรงงานต้มตุ๋นดังกล่าวสร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2562 ถึง 2564 และมีการก่อสร้างเพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2566[2] สื่อต่าง ๆ รวบรวมและรายงานโรงงานต้มตุ๋นดังกล่าวจำนวนหลายสิบแห่ง[3]
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565 คณะทหารพม่าได้ทำการกวาดล้างบริษัทหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตหลายร้อยแห่งในเมียวดี ทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องย้ายไปยังย่างกุ้ง[4] ต่อมา ฐานที่มั่นของกองกำลังรักษาชายแดนของคณะทหารถูกโจมตีโดยกลุ่มก่อการร้ายจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) และกลุ่มในเครือ KNU เป็นองค์กรติดอาวุธของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ควบคุมพื้นที่บางส่วนในรัฐกะเหรี่ยง ปฏิบัติการหลอกลวงที่เคเคพาร์กหลายแห่งถูกระงับระหว่างการโจมตี
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2566 เจ้าหน้าที่ของไทยประกาศว่าได้หยุดจ่ายไฟฟ้าให้กับเคเคพาร์กและชเวโกะโก เนื่องจากคณะทหารพม่าไม่ต่อสัญญาจ่ายไฟฟ้า[5] เมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2566 ในปฏิบัติการร่วมระหว่างจีนและพม่าเพื่อปราบปรามการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต สถานีตำรวจใกล้กับเคเคพาร์กถูกโดรนโจมตีจนมีผู้เสียชีวิต 5 ราย (รวมทั้งหัวหน้าตำรวจ) และบาดเจ็บอย่างน้อย 10 ราย[6]
กิจกรรม
[แก้]โครงการเคเคพาร์กได้รับการกล่าวขานว่าก่อตั้งโดย KNU และบริษัทจีนที่เป็นพันธมิตรกับผู้นำกลุ่มซันเหอ Wan Kuok-koi ร่วมกัน[7] KNU อยู่ภายใต้แรงกดดันจากการมีส่วนเกี่ยวข้องในเคเคพาร์กและกิจกรรมผิดกฎหมายอื่น ๆ และต้องเผชิญกับการเรียกร้องให้สมาชิกอาวุโสบางคนลาออก[3] อดีตพนักงานระบุว่ามีทหารของกองกำลังพิทักษ์ชายแดนพม่าอยู่ในบริเวณดังกล่าว[7]
คนงานจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกบังคับให้ทำการหลอกลวงทางออนไลน์ รวมถึงการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล การทรมาน และการจำคุกอย่างผิดกฎหมาย[1][2][8][9][10][11][12] การสืบสวนในปี พ.ศ. 2567 โดย ด็อยท์เชอเว็ลเลอ ซึ่งเป็นสถานีวิทยุกระจายเสียงของรัฐเยอรมัน พบว่าคนงานที่เคเคพาร์กต้องใช้เวลาทำงาน 17 ชั่วโมงต่อวัน และมักถูกสอดส่อง ทรมาน และขู่ฆ่าเมื่อพยายามหลบหนีจากบริเวณดังกล่าว[7][13] หนังสือเดินทางและโทรศัพท์มือถือของคนงานถูกยึดเพื่อป้องกันการสื่อสารที่ไม่ได้รับการตรวจสอบกับโลกภายนอก บริเวณดังกล่าวประกอบด้วยซูเปอร์มาร์เก็ต โรงพยาบาล ร้านอาหาร และโรงแรม เพื่อสร้างชุมชนปิด นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีการเก็บเกี่ยวอวัยวะอย่างผิดกฎหมายเกิดขึ้นภายในเคเคพาร์ก[3] เหยื่อของเคเคพาร์กสามารถออกจากพื้นที่ได้โดยจ่ายค่าธรรมเนียม "การยกเลิกสัญญา" ซึ่งคำนวณจากค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นและจำนวนเงินที่เหยื่อได้รับจากบริษัทหลอกลวง เหยื่อมักต้องยืมเงินจากสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมนี้[3]
ตัวแทนของสถาบันสันติภาพแห่งสหรัฐอเมริกา (USIP) กล่าวว่ามีคนงานที่ทำงานหลอกลวงอย่างน้อย 20,000 คนในเคเคพาร์กละสวนอุตสาหกรรมที่คล้ายกันในชเวโกะโก นับจนถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2566[2]
KNU ได้ประกาศว่าจะดำเนินการสอบสวนสมาชิก 5 รายที่ถูกกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับเคเคพาร์ก และจะให้ความร่วมมือกับจีนและไทยเพื่อกำจัดอาชญากรรมในพื้นที่ชายแดน[14][3] พื้นที่ที่สร้างเคเคพาร์กนั้นเป็นพื้นที่เป้าหมายสำหรับโครงการข้อริเริ่มเข็มขัดและเส้นทางของรัฐบาลจีน แม้ว่าในเวลาต่อมา รัฐบาลจีนได้แยกตัวออกจากกลุ่มดังกล่าวเนื่องจากกิจกรรมการหลอกลวงที่กลายเป็นกิจกรรมหลัก[7]
ปฏิกิริยา
[แก้]ชุมชนนานาชาติ
[แก้]สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) และจีนได้มุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับกลุ่มอาชญากรที่ดำเนินธุรกิจกาสิโนผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ และกิจกรรมฉ้อโกง โดยเพิ่มมาตรการป้องกัน การระบุและปกป้องเหยื่อ และปรับปรุงการสืบสวนคดีอาญาและการประสานงานทางกฎหมาย[15]
อินเดีย: ในปี พ.ศ. 2566 สถานทูตอินเดียในย่างกุ้งได้ขอความช่วยเหลือจากกระทรวงการต่างประเทศพม่าในการช่วยเหลือและส่งตัวพลเมืองอินเดียที่ถูกค้ามนุษย์ไปในเคเคพาร์กกลับมา[3] กระทรวงการต่างประเทศอินเดียได้ติดตามและระบุตัวตนของตัวแทนจัดหางานปลอมในอินเดีย[16]
ไทย: รัฐบาลไทยได้ยกเลิกการจ่ายไฟฟ้าไปยังเคเคพาร์ก และพื้นที่ชเวโกะโก เพื่อระงับกิจกรรมทางอาชญากรรมในภูมิภาคนี้[5]
สหรัฐอเมริกา: รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุไว้ในรายงานการค้ามนุษย์ปี พ.ศ. 2567 ว่ารัฐบาลพม่าไม่ได้จัดการอย่างจริงจังกับการขยายขอบเขตของการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่องสำหรับบริษัทหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต รัฐบาลสหรัฐฯ วิจารณ์รัฐบาลทหารว่าไม่พยายามอย่างเต็มที่ในการระบุตัวเหยื่อ ปกป้อง และป้องกัน รัฐบาลสหรัฐฯ ยังสังเกตด้วยว่าแม้ว่ารัฐบาลทหารจะปรับปรุงกฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์และลงโทษผู้ค้ามนุษย์อย่างเข้มงวด แต่ความพยายามในการบังคับใช้กฎหมายและดำเนินคดีกลับลดลงในพื้นที่ที่บริหารจัดการโดยองค์กรติดอาวุธชาติพันธุ์ต่าง ๆ[17]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "Karen National Union Under Pressure Over Crime Hub". Irrawaddy. February 28, 2023. สืบค้นเมื่อ 28 August 2023.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 McCready, Alastair (22 July 2023). "Inside the Chinese-run crime hubs of Myanmar that are conning the world: 'we can kill you here'". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 28 August 2023.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 3.5 McCready, Alastair; Mendelson, Allegra (2023-07-22). "Survivors of Myanmar's Scam Mills Talk 'Torture,' Death, Organ Harvesting—and the Battle To Escape". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 2024-11-19.
- ↑ "獨家/緬甸人蛇轉據點 「新KK園區」2.0影片曝地點". 三立新闻网. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-08-26. สืบค้นเมื่อ 2023-08-25.
- ↑ 5.0 5.1 "中资缅甸KK园区遭泰国断电". RFI - Radio France Internationale (ภาษาจีนตัวย่อ). 2023-06-07. สืบค้นเมื่อ 2024-11-19.
- ↑ "缅甸诈骗园区警局遭袭 无人机多次投弹5人惨死 | 国际". Malaysia Oriental Daily (ภาษาจีนตัวย่อ). 2023-09-05. สืบค้นเมื่อ 2024-11-19.
- ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 "How Chinese mafia run a scam factory in Myanmar – DW – 01/30/2024". dw.com (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 1, 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-02-12.
- ↑ Huang, Xiaoshan (9 May 2023). "Plea for help from telephone scam victims falls on deaf ears among Chinese officials". Radio Free Asia. สืบค้นเมื่อ 28 August 2023.
- ↑ "Malaysian job scam victim tells of 'prison', beatings in Myanmar". The Straits Times. 18 May 2022. สืบค้นเมื่อ 2024-11-19.
- ↑ "6 Filipinos rescued from human trafficking syndicates in Myanmar". CNN Philippines. 16 May 2023. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 20, 2023. สืบค้นเมื่อ 28 August 2023.
- ↑ Lam, Eunice (29 Aug 2022). "HK victim tells of misery in Myanmar hellholes". The Standard. สืบค้นเมื่อ 28 August 2023.
- ↑ Wong, Tesse (21 September 2022). "Cambodia scams: Lured and trapped into slavery in South East Asia" (ภาษาEnglish). BBC. สืบค้นเมื่อ 28 August 2023.
{{cite web}}
: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์) - ↑ "Surrounded by Fighting, a Myanmar Crime Hub Is Oddly Unscathed". The Irrawaddy (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 14, 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-03-16.
- ↑ McCready, Alastair; Mendelson, Allegra (July 22, 2023). "Exclusive: Inside the Chinese-Run Crime Hubs of Myanmar that Are Conning the World: 'We Can Kill You Here'". Pulitzer Center. สืบค้นเมื่อ 2024-11-19.
- ↑ "联合国携手东盟中国 打击"卖猪仔" | 国际". Malaysia Oriental Daily (ภาษาจีนตัวย่อ). 2023-09-27. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-01-12. สืบค้นเมื่อ 2024-11-19.
- ↑ Meenakshi, Anjana (2024-08-31). Shaji, Sukanya (บ.ก.). "Indian nationals trapped in Myanmar's cyber scam parks await rescue". The News Minute (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2024-11-28.
- ↑ "2024 Trafficking in Persons Report: Burma". United States Department of State (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2024-11-22.