ฮอนด้า ซีอาร์-วี
บทความนี้อาจขยายความได้โดยการแปลบทความที่ตรงกันในภาษาอังกฤษ คลิกที่ [ขยาย] เพื่อศึกษาแนวทางการแปล
|
บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่หน้าอภิปราย
|
ฮอนด้า ซีอาร์-วี | |
---|---|
ภาพรวม | |
บริษัทผู้ผลิต | ฮอนด้า |
เริ่มผลิตเมื่อ | 2538–ปัจจุบัน |
รุ่นปี | 2540–ปัจจุบัน |
ตัวถังและช่วงล่าง | |
ประเภท | รถยนต์นั่งเอนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดเล็ก (Compact SUV) |
รูปแบบตัวถัง | 5 ประตู เอสยูวี |
โครงสร้าง | ขับเคลื่อนล้อหน้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ |
ฮอนด้า ซีอาร์-วี (อังกฤษ: Honda CR-V) เป็นรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดเล็ก หรือ Compact SUV (SUV ย่อมาจาก Sport Utility Vehicle) ที่ผลิตโดยค่ายรถยนต์ ฮอนด้า มอเตอร์ เริ่มการผลิตครั้งแรกใน พ.ศ. 2539 มีชื่อเสียงในฐานะรถเก๋งท้ายกุดขนาดใหญ่ (ไม่มีกระโปรงหลัง) และพร้อมความหรูหราในตัว โดยที่ CR-V เป็นอักษรย่อ ที่ย่อมาจาก "Comfortable Runabout-Vehicle" (ยกเว้นในสหราชอาณาจักร การประชาสัมพันธ์ของฮอนด้าที่นั่นใช้คำว่า "Compact Recreational-Vehicle")
ซีอาร์-วี รุ่นแรก เปิดตัวในรุ่นปี พ.ศ. 2539 โดยรุ่นแรกนี้ ก่อนการปรับโฉมเล็กน้อย (ไมเนอร์เชนจ์) จะใช้เครื่องยนต์ B20B ขนาด 2,000 ซีซี 126 แรงม้า มีระบบเกียร์ 2 ชนิดให้เลือก คือ เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มีระบบขับเคลื่อน 2 แบบ คือ ขับเคลื่อนล้อหน้า (Front Wheel Drive) และ ขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลังรุ่นนี้จะมีเสียงติ๊ง-หน่อง
หลังการปรับโฉมเล็กน้อย (ไมเนอร์เชนจ์) ใน พ.ศ. 2542 ซีอาร์-วี ใช้เครื่องยนต์ B20Z ขนาด 2,000 ซีซี 146 แรงม้า โดยที่ฮอนด้าไม่ปรับขึ้นราคาขาย
จากการทดสอบ ซีอาร์-วี รุ่นแรกนี้ มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 9.1 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 1 ลิตร เมื่อวิ่งในเมือง และ 10.6 กิโลเมตรต่อลิตร ในการวิ่งต่างจังหวัด
ในประเทศไทย ทางฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เคยนำเข้าซีอาร์-วี มาจำหน่ายในช่วง พ.ศ. 2539-2545 โดยเมื่อไมเนอร์เชนจ์ในปี พ.ศ. 2542 ทางฮอนด้าได้นำมาประกอบในประเทศไทย จนถึงปี พ.ศ. 2545 จึงเลิกผลิตโฉมนี้
ซีอาร์-วี รุ่นที่ 2 ออกแบบโดยมี ฮอนด้า ซีวิค รุ่นที่ 7 เป็นต้นแบบ และได้นำเครื่องยนต์หัวฉีด VTEC มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ ทุกรุ่นทุกคลาส ทำให้สามารถมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ประหยัดกว่าเดิม ส่วนเครื่องยนต์ ในประเทศไทยจะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซี และได้เพิ่มเครื่องยนต์ 2,400 ซีซี ในรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ แต่ในบางประเทศ จะมีเครื่องยนต์ขนาด 2,200 ซีซีด้วย
ซีอาร์-วี รุ่นที่ 2 ได้รับการคัดเลือกจากนิตยสาร Car and Driver ให้เป็นรถ SUV ขนาดเล็กยอดเยี่ยมแห่งปี (Best Small SUV) ประจำปี ค.ศ. 2002 และ 2003
ซีอาร์-วี รุ่นที่ 3 ในประเทศไทย มีเครื่องยนต์ 2 ขนาด คือ 2,000 ซีซี (150 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที) และ 2,400 ซีซี (170 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที) i-VTEC เป็นเครื่องประเภทใกล้เคียงกับ ฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่นที่ 8 แต่ในยุโรปและในเอเชียบางประเทศ มีเครื่องยนต์ดีเซล 2,200 ซีซีขายอยู่ด้วย ระบบขับเคลื่อนมีทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ ระบบเกียร์เป็นแบบอัตโนมัติ 5 สปีด
จากการทดสอบพบว่า ฮอนด้า ซีอาร์-วี มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 8.3 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อวิ่งในเมือง และ 11.1 กิโลเมตรต่อลิตรในการวิ่งต่างจังหวัด
ฮอนด้า ซีอาร์-วี มียอดจำหน่าย 9,540 คัน ในปี 2553
ฮอนด้า ซีอาร์-วี มียอดจำหน่าย 6,019 คัน ในปี 2554
ซีอาร์-วี รุ่นที่ 4 ในประเทศไทย เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2555 มีเครื่องยนต์ 2 ขนาด คือ 2.0 (155 แรงม้า) และ 2.4 ลิตร (170 แรงม้า) มีระบบเกียร์ 3 ระบบ คือ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT โดยในประเทศไทยจะมีแค่เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดจำหน่ายเท่านั้น ในทั้งสองเครื่องยนต์ในช่วงแรก แต่ในช่วงการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรได้เปลี่ยนไปใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT แต่ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรยังคงเดิม
เดิมทีแล้ว ฮอนด้าประเทศไทยจะมีแผนเปิดตัวซีอาร์-วีรุ่นนี้ในปี พ.ศ. 2554 แต่เนื่องจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยปี พ.ศ. 2554 ทำให้โรงงานฮอนด้าไม่สามารถประกอบรถยนต์ได้ จึงถูกเลื่อนออกไปเป็นปี พ.ศ. 2555 เช่นเดียวกับ ฮอนด้า ซีวิค รุ่น FB ซึ่งถูกเลื่อนไปเป็นปี พ.ศ. 2555 เช่นกัน
และในวันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 ณ รอยัลพารากอน ฮอลล์ 3 ชั้น 5 สยามพารากอน ฮอนด้า ซีอาร์-วี ก็ได้เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้สโลแกน "Life will never be the same" แปลเป็นได้ว่า "ชีวิตที่จะไม่เหมือนเดิม"
มีการแบ่งการผลิตซีอาร์-วี ออกเป็น 4 รุ่นมาตรฐาน ได้แก่ 2.0 S (2WD) : เป็นรุ่นล่างสุด ไม่มีไฟตัดหมอก ไม่มีมือจับประตูโครเมียม ไม่มี Navigator ไฟหน้าโปรเจกเตอร์ ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ราคา 1,168,000 บาท 2.0 E (4WD) : มีอุปกรณ์มาตรฐานเหมือนกับรุ่น 2.0 S แต่จะแตกต่างกันที่ไฟตัดหมอก ล้ออัลลอย 17 นิ้ว คนละลาย Bluetooth กล้องส่องภาพด้านหลัง ราคา 1,278,000 บาท 2.4 EL 2WD: มีอุปกรณ์มาตฐานเพิ่มมาจากรุ่น 2.0 E คือ ล้ออัลลอย 18 นิ้ว พร้อม Navigator มือจับประตูโครเมียม ไฟหน้าโปรเจกเตอร์แบบ HID ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ ราคา 1,448,000 บาท 2.4 EL 4WD: เป็นรุ่นสูงสุด มีอุปกรณ์มาตรฐานเหมือนกับรุ่น 2.4 EL 2WD แต่จะแตกต่างกันที่ระบบขับเคลื่อน ราคา 1,528,000 บาท แต่ในรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ 2.4 EL 4WD ได้เพิ่มกล้อง Honda Lanewatch® เป็อุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะรุ่น หมายเหตุ: เฉพาะสี White Orchid Pearl เพิ่มเงินอีก 12,000 บาท เฉพาะสี Crystal Black Pearl เพิ่มเงินอีก 8,000 บาท
รุ่นที่ 5 (RW1–8, RT5–6, RY1–2) | |
---|---|
ภาพรวม | |
เริ่มผลิตเมื่อ | พฤศจิกายน 2559–ปัจจุบัน 2559–สิงหาคม 2565 (ญี่ปุ่น) |
รุ่นปี | 2560–2565 |
แหล่งผลิต |
|
ตัวถังและช่วงล่าง | |
แพลตฟอร์ม | CCA |
รุ่นที่คล้ายกัน | อะคูร่า ซีดีเอกซ์ ฮอนด้า ซีวิค (รุ่นที่ 10) |
ระบบส่งกำลัง | |
เครื่องยนต์ | |
มอเตอร์ไฟฟ้า | AC Synchronous Permanent-Magnet Electric Motor |
ระบบเกียร์ | CVT with Sport Mode Electronic Continuously Variable Transmission with Sport Mode and Deceleration Selectors (E-CVT; Hybrid) ZF 9HP48 Shift by wire อัตโนมัติ 9 จังหวะ |
ระบบขับเคลื่อนรถไฮบริด | Honda Sport Hybrid i-MMD (CR-V Hybrid) Honda Sport Hybrid e+ (CR-V PHEV) |
มิติ | |
ระยะฐานล้อ | 104.7 in (2,659 mm)[1] |
ความยาว | 180.6 in (4,587 mm) |
ความกว้าง | 73.0 in (1,854 mm) |
ความสูง | 66.1 in (1,679 mm) (FWD) 66.5 in (1,689 mm) (AWD) |
น้ำหนัก | 3,307–3,397 lb (1,500–1,541 kg) (FWD) 3,421–3,512 lb (1,552–1,593 kg) (AWD) |
ฮอนด้า ซีอาร์-วี รุ่นที่ 5 ได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2559 และเริ่มวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยฮอนด้า ซีอาร์-วี รุ่นที่ 5 ได้ใช้แพลทฟอร์มเดียวกันกับ ฮอนด้า ซีวิค รุ่นที่ 10 ทั้งนี้ ฮอนด้า ซีอาร์-วี รุ่นที่ 5 ที่เปิดตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับรางวัล Best Compact SUV 2017 หลังจากการเปิดตัวเพียง 2 เดือน
ภายหลังการเปิดตัวของฮอนด้า ซีอาร์-วี รุ่นที่ 5 เพียง 1 เดือนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในประเทศไทยก็เริ่มมีการทดสอบขับฮอนด้า ซีอาร์-วี ในประเทศไทยอย่างรวดเร็วที่จังหวัดสระบุรี เช่นเดียวกับฮอนด้า ซีวิค และจะเปิดตัวภายหลังการเปิดตัวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ประมาณ 3-4 เดือน[2]
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ได้เผยโฉมรุ่นที่ 5 ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2560 ซึ่งเปิดตัวเป็นประเทศที่ 3 ในโลกรองจากประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศแคนาดา โดยในรอบสื่อมวลชน การเปิดตัวรถเป็นไปอย่างอลังการ จำลองเสมือนให้ไปอยู่บนดาวดวงไหนสักแห่ง เพราะฮอนด้าต้องการบอกว่า รถคันนี้พาคุณไปได้ทุกที่เท่าที่คุณจะจินตนาการ และใช้คำโฆษณาว่า พร้อมนำคุณไปได้ไกลอย่างที่คุณจินตนาการ
ฮอนด้า ซีอาร์-วี รุ่นที่ 5 ในประเทศไทยได้ใช้เครื่องยนต์ i-DTEC ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยเครื่องยนต์นี้นำเข้ามาจากอังกฤษที่โรงงาน Honda UK Manufacturing เมือง Swindon และด้วยสาเหตุที่โรงานดังกล่าวได้หยุดผลิตเครื่องยนต์ดีเซลตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2021* ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่ ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ของ ZF และได้มีการควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยสวิตช์ หรือ ‘Shift by Wire’ มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ 18.9 กิโลเมตร/ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอัตราที่ต่ำเพียง 141 กรัม/กิโลเมตร[3] และเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 224 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E85 ซึ่งเหมือนกับรุ่นที่แล้ว แต่เครื่องยนต์ 2.4 ลิตรจะเปลี่ยนเป็นรุ่นเริ่มต้นแทนที่เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรที่ไม่ได้ทำตลาดในซีอาร์-วี อีกต่อไปแล้วในประเทศไทย แต่ยังคงมีการผลิตเพื่อส่งออกไปจำหน่ายในประเทศบางประเทศ เช่น อินโดนีเซีย
ในปลายเดีอน พ.ย.2561 ได้มีการเพิ่มรุ่น 5 ที่นั่งระบบเปิด-ปิดประตูท้ายแบบแฮนด์ฟรี และหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ถูกเพิ่มเข้ามาให้ทุกรุ่น
ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ได้มีการปรับปรุงใหม่ เพิ่ม สีตัวถังภายนอกใหม่ น้ำเงินเทา Cosmic Blue, หลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า, อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger, ระบบ Honda SENSING, กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ และ ระบบบันทึกความจำตำแหน่งเบาะนั่งคนขับ Memory Seat อีกทั้งยังยกเลิกทำตลาด รุ่น 1.6 DT-E ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า
ก่อนปรับปรุง
[แก้]-
2017 Honda CR-V AWD (RW2; pre-facelift, สหรัฐ)
-
2017 Honda CR-V 2.0 (RW3; pre-facelift, อินโดนีเซีย)
-
2018 Honda CR-V +Sport 2WD (RW1; pre-facelift, อินโดนีเซีย)
-
ภายใน สำหรับรุ่นไฮบริด
หลังปรับปรุง
[แก้]-
2020 Honda CR-V EX-L (RW1; facelift, สหรัฐ)
-
2020 Honda CR-V EX-L AWD (RW2; facelift, สหรัฐ)
-
2021 Honda CR-V 1.5 Turbo Prestige (RW1; facelift, อินโดนีเซีย)
ยุติการผลิตในประเทศญี่ปุ่น
[แก้]ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา Honda ได้ตัดรุ่นรถยนต์ที่ออกจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น รวมกันถึง 10 รุ่น โดย 4 รุ่นล่าสุดที่ทางการเปิดเผย ประกอบด้วย Shuttle, CR-V, Insight และ Accord พร้อมทั้งระบุว่า Shuttle, CR-V และ Insight จะยุติการผลิตในเดือนสิงหาคม 2022 ส่วน Accord จะมีอายุยาวกว่าเล็กน้อย โดยจะถึงฆาตในเดือนกันยายนปีเดียวกัน Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) มียอดขายที่สม่ำเสมอในหลายประเทศ แต่ดูเหมือนว่าอนาคตของรถเอสยูวีรุ่นนี้ในตลาดญี่ปุ่นอาจไม่สดใสเท่าใดนัก
CR-V มียอดขายในตลาดแดนอาทิตย์อุทัยอยู่ที่เพียง 370 คันต่อเดือนเท่านั้น ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นอืน ๆ ของ Honda เหตุผลง่าย ๆ ก็คือผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นหันไปหารถอเนกประสงค์ร่วมค่ายอย่าง HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี) ใหม่แทนนั่นเอง นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว HR-V เจนเนอเรชั่นใหม่ได้เสียงตอบรับอย่างท่วมท้นจากคอรถยนต์ในญี่ปุ่น ด้วยยอดขายเฉลี่ยเกินกว่า 4,300 คัน สูงทะลุเป้าหมายที่วางไว้
Honda ประกาศแผนสิ้นสุดการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ 4 รุ่นในประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ Shuttle, Insight, CR-V และ Accord ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา Honda เลิกขายรถยนต์ไปแล้วมากถึง 6 รุ่น ครอบคลุมหลายเซกเมนท์ ไม่ว่าจะเป็น Clarity, Legend, Odyssey, S660, Acty และ NSX การเลิกจำหน่ายรถยนต์อีก 4 รุ่นเพิ่มเติมทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์หดหายไปทั้งหมดถึง 10 รุ่นเลยทีเดียว การประกาศเลิกผลิตและขายรถยนต์ 4 รุ่นข้างต้นมีขึ้นระหว่างการประชุมผู้จัดจำหน่ายเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดย Shuttle, Insight และ CR-V จะปิดฉากในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ ขณะที่รถซีดาน Accord จะขายไปจนถึงปลายเดือนกันยายนนี้เท่านั้น นั่นทำให้ Honda จะไม่มีรถยนต์ซีดานขายในแดนอาทิตย์อุทัยแม้แต่รุ่นเดียว
เว็บไซต์ BestCarWeb ระบุว่า สาเหตุที่เลิกจัดจำหน่าย Shuttle ที่พัฒนาบนพื้นฐานของ Fit (Jazz) เจนเนอเรชั่นที่แล้วเป็นเพราะอายุของตัวรถที่ค่อนข้างมาก และยังไม่มีตัวตายตัวแทน ขณะที่ Insight นั้นได้เสียงตอบรับไม่ค่อยดีนักจากลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น
Honda ระบุว่าลูกค้าที่ต้องการรถยนต์แบบ Insight สามารถพิจารณา Civic e:HEV (มีเฉพาะตัวถังแฮทช์แบ็กในญี่ปุ่น) ทดแทนได้เพราะมีบุคลิกที่ใกล้เคียงกัน ขณะที่การจำหน่ายของ Accord จะสิ้นสุดลงเพราะกำลังจะเข้าสู่การเปลี่ยนโฉมโมเดลเชนจ์ โดยจะกลับมาทำตลาดบ้านเกิดอีกครั้งเมื่อเจนเนอเรชั่นใหม่เปิดตัว ฟังเหตุผล ที่น่าสนใจก็คือเหตุผลที่เลิกขาย CR-V เนื่องจากมีราคาที่สูงเกินไปและไม่เหมาะกับตลาดญี่ปุ่น เห็นได้จากยอดขายที่ลดน้อยถอยลงอย่างต่อเนื่อง ประจวบเหมาะกับการที่ Honda กำลังนำเสนอ ZR-V รถเอสยูวีรุ่นใหม่ภายในปลายปีนี้จึงคาดว่าจะมาแทนกันได้แม้จะมีขนาดตัวถังเล็กกว่าก็ตาม โดยเตรียมทำตลาดเคียงข้างรถเอสยูวีรุ่นน้องอย่าง HR-V
เว็บไซต์ BestCarWeb ยังสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Honda ก่อนจะได้รับคำตอบว่าการยกเลิกขายรถยนต์ทั้ง 4 รุ่นมาจากการประเมินสภาพตลาดในสถานการณ์ปัจจุบัน ขณะเดียวกัน Honda ยังต้องจัดระเบียบการผลิตใหม่ทั้งหมดเนื่องจากการปิดโรงงาน Sayama และการมุ่งเน้นระบบขับเคลื่อนไฟฟ้ามากขึ้น
MY2022 ยกเลิกรุ่น Diesel ! ในประเทศไทย
[แก้]ตามกระแสโลกเรื่องพลังงานสะอาด และ ดีเซลของ Honda ดันไม่ค่อยดีเหมือนเจ้าอื่น เครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้ใน CR-V ไทยผลิตที่โรงงาน HONDA UK ซึ่งประกาศปิดโรงงานในปีนี้แล้วรวมทั้งสายการผลิตเครื่องยนต์ด้วย สำหรับรุ่น MMC ในไทยคงใช้เครื่องที่ UK จะผลิตเป็นสต็อคไว้ ส่วน CR-V ดีเซลรุ่นส่งออกฟิลิปปินส์ผลิตเครื่องยนต์ในอินเดียแต่มีมาตรฐานไอเสียที่ต่ำกว่าเครื่อง UK แต่ที่สำคัญที่สุดคือ HONDA ยุติการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลทั่วโลกไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น รุ่น 1.6 DT EL 9AT AWD : 1,759,000 บาท จึงถูกยกเลิกทำตลาดในประเทศไทย
ล่าสุด Honda Automobile ประเทศไทย ตัดสินใจยุติการจำหน่าย Honda CR-V Diesel โดยเว็บไซต์ Honda.co.th ถอดราคาจำหน่ายรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลออกไปโดยราคาครั้งสุดท้ายอยู่ที่ 1,759,000 บาทซึ่งเป็นราคารุ่นปรับโฉม DT-EL 4WD ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 i-VTEC ยังจำหน่ายต่อไปจนกว่าหมดสต็อกก่อนที่เจเนอเรชันที่ 6 จะทำตลาดในไทยปลายปีนี้หรือต้นปีหน้านั่นเอง (ราคาจำหน่ายรุ่นก่อนปรับโฉมครั้งแรกอยู่ที่ 1,699,000 บาทรุ่น DT-EL 4WD และ 1,549,000 กับ 1,599,000 บาท รุ่น DT-E 2WD) ถือเป็นเรื่องประหลาดใจอีกหนึ่งเรื่องของวงการรถยนต์ไทยที่ยุติกลางอากาศก่อนจะอำลาโมเดลนี้ในไม่ช้า นอกจาก Honda Jazz กับ Honda Civic Hatchback ที่ได้อำลาไปก่อนหน้านั้น ล่าสุดค่ายรถเพื่อนที่แสนดี Nissan ล่าสุดได้ถอดข้อมูลและราคา Nissan Note ออกจากเว็บไซต์ Nissan.co.th เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รุ่น 5 ที่นั่ง
- 2.4 S CVT : 1,359,000 บาท
- 2.4 ES CVT AWD : 1,529,000 บาท
รุ่น 7 ที่นั่ง
- 2.4 E CVT : 1,419,000 บาท
- 2.4 EL CVT AWD : 1,579,000 บาท
รุ่นที่ 6 (RS; พ.ศ. 2565 - ปัจจุบัน)
[แก้]รุ่นที่ 6 (RS) | |
---|---|
ภาพรวม | |
เริ่มผลิตเมื่อ | กันยายน พ.ศ. 2565–ปัจจุบัน |
รุ่นปี | 2023–ปัจจุบัน |
แหล่งผลิต |
|
ผู้ออกแบบ | Mitsuhiro Abe[4] |
ตัวถังและช่วงล่าง | |
แพลตฟอร์ม | Honda Architecture (HA)[5] |
รุ่นที่คล้ายกัน | |
ระบบส่งกำลัง | |
เครื่องยนต์ | |
ระบบเกียร์ |
|
มิติ | |
ระยะฐานล้อ | 2,701 mm (106.3 in) |
ความยาว | 4,694–4,703 mm (184.8–185.2 in) |
ความกว้าง | 1,866 mm (73.5 in) |
ความสูง | 1,682 mm (66.2 in) |
เมื่อคืนนี้ 22 มิถุนายน 2022 Honda USA มีการปล่อยภาพ Official Teaser อีกครั้ง คราวนี้เป็นภายในห้องโดยสารของ All New Honda CR-V 6th Generation แบบเต็มๆ เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 12 กรกฎาคม นี้ ! ที่สหรัฐอเมริกาเป็นที่แรกของโลก
ภายในห้องโดยสาร แดชบอร์ดครึ่งบนถอดแบบงานดีไซน์มาจาก Honda Civic FE กันเลยทีเดียว แต่ก็มีจุดต่างกัน ไม่ได้เหมือนกัน 100% เช่น บริเวณช่องแอร์กลาง และ ฐานจอที่เน้นความโค้งมนมากกว่า ส่วนครึ่งล่างตั้งแต่ช่วงฐานเกียร์เป็นต้นไป จะแตกต่างกัน เพราะ CR-V จะยังต้องคงความอเนกประสงค์เอาไว้อยู่ เช่นช่องเก็บของที่เลื่อน เปิด-ปิดได้
สำหรับดีไซน์ภายนอก เมื่อ 24 พฤษภาคม Honda USA ก็มีการปล่อยภาพ Official Teaser อย่างเป็นทางการออกมาแล้วเช่นกัน ” All NEW Honda CR-V 6th Generation ” ยืนยันแน่นอน มีขุมพลัง e:HEV (Hybrid i-MMD) จากป้าย Emblem ท้ายรถ
ส่วนในประเทศไทย ” All New Honda CR-V Gen 6 ” คาดว่าน่าจะทันมาโชว์ตัวอย่างเป็นทางการช่วงงาน Motor Expo วันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2565 นี้ เพราะ ปัจจุบันมีการนำรถพรางตัว มาวิ่งทดสอบในไทยแล้ว
เป็นระยะเวลาเกือบ 6 ปี ที่ Honda เผยโฉม CR-V Gen 5 ออกมา ตอนนี้ก็ใกล้เวลาของ All New Honda CR-V Gen6 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากมีรถพรางตัววิ่งทดสอบตั้งแต่เดือน มีนาคม 2021 ในยุโรป
ช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2022 ที่ผ่านมา มีภาพจดสิทธิบัตรงานออกแบบ คาดว่าเป็น All New CR-V Gen 6 ออกมาแล้ว แม้งานออกแบบจะดูคล้ายรุ่นเดิม แต่เห็นได้ชัดว่ามีการขยายขนาดตัวถังให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เปลี่ยนเส้นสายกระจกหน้าต่าง โดยเฉพาะบริเวณหลังเสา C-Pillar เป็นต้นไป คาดว่ากำหนดการเปิดตัวจะเกิดขึ้นภายในช่วงครึ่งปีหลัง ของปี 2022 นี้
รวมไปถึง มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า e:PHEV (Plug-in Hybrid) ในยุโรป ช่วงเดือน มีนาคม 2022 ที่ผ่านมา
ล่าสุด มีข่าวคราวว่า Honda ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว All New Honda CR-V Gen 6 อย่างเป็นทางการในไทย ช่วงเดือน มีนาคม 2023 นี้ ! พร้อม 2 ขุมพลัง e:HEV (2.0 Hybrid i-MMD) และ เบนซิน 1.5 เทอร์โบ L15BG หลังจากที่เปิดตัวแล้วในอเมริกา เมื่อเดือน กรกฎาคม 2022 ที่ผ่านมา
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2023 Honda Automobile (Thailand) ได้เผยแพร่ภาพ Official ของ All NEW Honda CR-V (เจเนอเรชั่นที่ 6) เวอร์ชั่นไทย ก่อนเตรียมเปิดตัวในวันที่ 20 มีนาคม 2023 และนำไปโชว์ตัวที่งาน Bangkok Internationa Motor Show 2023 ที่จะจัดขึ้น ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม 2566 – 2 เมษายน 2566 และโชว์รูม Honda ทั่วประเทศ
เครื่องยนต์ 1.5L VTEC TURBO L15BG FFV ขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time (TM) AWD with E-DPS)
- CR-V 1.5 Turbo E 2WD 5 ที่นั่ง : 1,419,000 บาท
- CR-V 1.5 Turbo ES 4WD 5 ที่นั่ง : 1,599,000 บาท
- CR-V 1.5 Turbo EL 4WD 7 ที่นั่ง : 1,649,000 บาท
เครื่องยนต์ไฮบริด e:HEV (2.0 Hybrid i-MMD)
- CR-V e:HEV ES 4WD 5 ที่นั่ง : 1,589,000 บาท
- CR-V e:HEV RS 4WD 5 ที่นั่ง : 1,729,000 บาท
อ้างอิง
[แก้]- ↑ http://news.honda.com/newsandviews/article.aspx?id=9272-en
- ↑ "Spyshot : The New Honda CR-V (Gen5) วิ่งทดสอบในไทยแล้ว". headlightmag.com.
- ↑ "ฮอนด้า เตรียมส่งขุมพลัง i-DTEC ดีเซลเทอร์โบ นวัตกรรมการขับเคลื่อนอัจฉริยะ พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดจาก ZF ใน ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่". honda.co.th.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "A00202200178". Pangkalan Data Kekayaan Intelektual. Indonesia: Direktorat Jenderal Kekayaan Intelektual Kementerian Hukum & HAM R.I. 2022-06-07. สืบค้นเมื่อ 2022-06-10.
- ↑ "Honda presented the sixth generation of the CR-V SUV in the US". Czechia Posts English (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-07-14.