ข้ามไปเนื้อหา

รายชื่อแหล่งมรดกโลกในประเทศคีร์กีซสถาน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกของประเทศคีร์กีซสถานทั้งสิ้น 3 แหล่ง ประกอบด้วยแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม 2 แหล่ง และแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ 1 แหล่ง[1]

สถานที่ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก

[แก้]

แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม

[แก้]
*หมายเหตุ: ระบุชื่อสถานที่ตามที่ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก
สถานที่ ภาพ ที่ตั้ง ประเภท พื้นที่
(เฮกตาร์)
ปีขึ้นทะเบียน
(พ.ศ./ค.ศ.)
คำบรรยาย อ้างอิง
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ซูลัยมัน-โต ออช
40°31′51.7″N 72°46′58.0″E / 40.531028°N 72.782778°E / 40.531028; 72.782778 (Sulaiman-Too Sacred Mountain)
วัฒนธรรม:
(iii), (vi)
112;
พื้นที่กันชน 4,788
2552/2009 1230[2]
เส้นทางสายไหม : โครงข่ายเส้นทางฉนวนฉางอาน-เทียนชาน
(ร่วมกับคาซัคสถานและจีน)
จังหวัดชึย
42°44′47.1″N 75°15′00.4″E / 42.746417°N 75.250111°E / 42.746417; 75.250111 (Silk Roads)
วัฒนธรรม:
(ii), (iii), (iv), (vi)
42,668.16;
พื้นที่กันชน 189,963.1
2557/2014 1442[3]

แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ

[แก้]
*หมายเหตุ: ระบุชื่อสถานที่ตามที่ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก
สถานที่ ภาพ ที่ตั้ง ประเภท พื้นที่
(เฮกตาร์)
ปีขึ้นทะเบียน
(พ.ศ./ค.ศ.)
คำบรรยาย อ้างอิง
เทียนชานตะวันตก
(ร่วมกับคาซัคสถานและอุซเบกิสถาน)
จังหวัดจาลาลาบัต
41°53′13.2″N 71°56′29.7″E / 41.887000°N 71.941583°E / 41.887000; 71.941583 (Western Tien-Shan)
ธรรมชาติ:
(x)
528,177.6;
พื้นที่กันชน 102,915.8
2559/2016 1490[4]

สถานที่ที่ได้ขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น

[แก้]

ประเทศคีร์กีซสถานมีสถานที่ที่ได้ขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) เพื่อพิจารณาเป็นแหล่งมรดกโลกในอนาคตทั้งสิ้น 2 แห่ง ดังนี้[1]

ปี พ.ศ./ค.ศ. ในวงเล็บ หมายถึงปีที่สถานที่นั้น ๆ ได้ขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น
  • Saimaly-Tash Petroglyphs (2001)
  • Silk Roads Sites in Kyrgyzstan (2010)

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 "World Heritage Properties in Kyrgyzstan". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 19 กันยายน 2023.
  2. "Sulaiman-Too Sacred Mountain". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
  3. "Silk Roads: the Routes Network of Chang'an-Tianshan Corridor". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
  4. "Western Tien-Shan". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2016.