พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากินรี
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากินรี | |
---|---|
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 3 | |
ประสูติ | 26 ตุลาคม พ.ศ. 2362 |
สิ้นพระชนม์ | 13 เมษายน พ.ศ. 2437 (74 ปี) |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระราชบิดา | พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระมารดา | เจ้าจอมมารดาฉิม ในรัชกาลที่ 3 |
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากินรี (26 ตุลาคม พ.ศ. 2362 — 13 เมษายน พ.ศ. 2437) พระราชธิดาพระองค์ที่ 30 ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาฉิม
พระประวัติ
[แก้]พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากินรี ประสูติเมื่อวันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2362[1] เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาฉิม ธิดาพระยาสีหราช (เมือง)[2] มีพระขนิษฐาร่วมเจ้าจอมมารดา 1 พระองค์คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าฉวีวรรณ (5 พฤษภาคม พ.ศ. 2365 - 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2429)[3]
พระองค์ประสูติในขณะที่พระราชบิดายังดำรงพระยศเป็นพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ เมื่อแรกประสูติจึงมีพระยศเป็น หม่อมเจ้ากินรี[4] ต่อมาเมื่อพระราชบิดาได้บรมราชาภิเษกเป็นพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงเลื่อนเป็น พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้ากินรี
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากินรี สิ้นพระชนม์เมื่อวันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2437 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สิริพระชันษา 74 ปี พระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2438[1]
พระกรณียกิจ
[แก้]พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากินรีได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณเป็นผู้กำกับการแจกเบี้ยหวัดฝ่ายใน[5]
ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์เจ้ากินรี ทรงได้เข้าเป็นสามัญสมาชิกของหอพระสมุดวชิรญาณในพระบรมมหาราชวังและทรงประทานเงินบำรุงปีละ 20 บาทเป็นประจำทุกปี[6] นอกจากนี้พระองค์เจ้ากินรี ยังเป็นเจ้านายฝ่ายในผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพของพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ ทำให้พระองค์ได้รับพระราชทานเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2435 พร้อมกับพระองค์เจ้าบุตรี
พระจริยวัตร
[แก้]พระองค์เจ้ากินรีทรงรับนายกุหลาบมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม[7] โปรดให้ข้าหลวงและพี่เลี้ยงช่วยกันเลี้ยงดูอยู่ที่ตำหนักจนกระทั่งอายุ 11 ปี ถึงกำหนดโกนจุก ก็ทรงจัดพิธีโกนจุกให้ แล้วพาไปถวายตัวเป็นมหาดเล็ก อยู่ทางฝ่ายหน้า เมื่อถึงเวลาบวชก็ทรงบวชให้ ทรงเมตตาประทานความช่วยเหลือทุกอย่าง แม้เมื่อแต่งงานและมีบุตรคนแรกก็ได้ ประทานพี่เลี้ยงมาเลี้ยงลูก ประทานทองคำทำขวัญ นายกุหลาบได้ถวายธิดาหลายคนเป็นนางข้าหลวงในตำหนักของพระองค์เจ้ากินรี คนในตำหนักเรียกเด็กหญิงเหล่านี้ว่า "หลานเสด็จ"[8]
พระองค์เจ้ากินรี ทรงสนิทสนมกับพระองค์เจ้าแม้นเขียน แม้พระองค์เจ้าแม้นเขียนนั้นทรงศักดิ์เป็นพระปิตุจฉาของพระองค์เจ้ากินรี แต่ด้วยพระชันษาไล่เลี่ยกัน พระองค์เจ้ากินรีสูงพระชันษากว่าพระองค์เจ้าแม้นเขียน 4 ปี พระองค์เจ้าทั้งสองพระองค์จึงทรงสนิทสนมชอบพอกันมาก มักเสด็จไหน ๆ ภายในพระบรมมหาราชวังด้วยกันเสมอ ดังในจดหมายเหตุ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2426 ที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมารทรงบันทึกเมื่อพระชนมายุเพียง 5 พรรษาว่า[9]
เสด็จยายแม้นเขียน เสด็จยายกินรี มาเยี่ยมเรา
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงทรงสนิท และมีพระเมตตาล้อพระองค์เจ้ากินรีเล่นบ่อย ๆ ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมารจึงทรงบันทึกถึงเมื่อเชิญเสด็จมา "กินโต๊ะฝรั่ง" เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ แต่ครั้งยังทรงดำรงพระอิสริยยศ พระอัครราชเทวีว่า[10]
เจ้านายแก่ ๆ ดูคร่ำครึเต็มที เสวยมีดซ่อมไม่เป็น ทูลกระหม่อมบน ทรงสอนเสด็จยายกินรีเอง หัวร่อกันใหญ่
พระเกียรติยศ
[แก้]ธรรมเนียมพระยศของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากินรี | |
---|---|
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
การทูล | ใต้ฝ่าพระบาท |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ |
พระอิสริยยศ
[แก้]- หม่อมเจ้ากินรี (26 ตุลาคม พ.ศ. 2362 — 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367)
- พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้ากินรี (21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 — 2 เมษายน พ.ศ. 2394)
- พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากินรี (2 เมษายน พ.ศ. 2394 — 13 เมษายน พ.ศ. 2437)
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากินรี (15 กรกฎาคม พ.ศ. 2454; หลังสิ้นพระชนม์)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- พ.ศ. 2435 – เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.) (ฝ่ายใน)[11]
- พ.ศ. 2436 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) (ฝ่ายใน)[12]
พงศาวลี
[แก้]พงศาวลีของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากินรี | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 กรมศิลปากร. สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ (2554). ราชสกุลวงศ์ (PDF). กรุงเทพฯ: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. p. 44. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-02-02. สืบค้นเมื่อ 2017-07-17.
- ↑ ส.พลายน้อย. พระบรมราชินีและเจ้าจอมมารดา. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : ฐานบุ๊คส์. 2554, หน้า 280
- ↑ กรมศิลปากร. สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ (2554). ราชสกุลวงศ์ (PDF). กรุงเทพฯ: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. p. 45. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-02-02. สืบค้นเมื่อ 2017-07-17.
- ↑ ศุภวัฒย์ เกษมศรี, พลตรี หม่อมราชวงศ์, และรัชนี ทรัพย์วิจิตร. พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าในพระราชวงศ์จักรี. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2549. 360 หน้า. หน้า 70. ISBN 974-221-818-8
- ↑ ประชุมพงศาวดารภาคที่ 33 บุรพภาคพระธรรมเทศนาเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จฯพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, พ.ศ. 2469. 97 หน้า. หน้า 26.
- ↑ วชิรญาณวิเศษ เล่ม ๖ แผ่น ๙ วันพฤหัศบดีที่ ๖ เดือนพฤศจิกายน รัตนโกสินทร์ศก ๑๐๙ ราคาแผ่นละ ๓๒ อัฐ [ลิงก์เสีย]
- ↑ ""ก.ศ.ร.กุหลาบ" ไม่ใช่ไพร่ แต่เป็นนักวิชาการนอกีต". สยามานุสติ. 7 กุมภาพันธ์ 2560. สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ก.ศ.ร กุหลาบ". วิชาการ. 13 เมษายน 2548. สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ จดหมายเหตุรายวัน ในสมเด็จพระบรมราชปิตุลาธิบดี เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ เก็บถาวร 2017-07-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน สืบค้นเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
- ↑ "เวียงวัง ตอนที่ 226 : ก.ศ.ร.กุหลาบ ปราชญ์ในสมัยรัชกาลที่ 5". เด็กดี. 16 เมษายน 2553. สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 9 (ตอน 52): หน้า 457. 26 มีนาคม 2435.
- ↑ "ประวัติพระเจ้าราชวงษ์เธอพระองค์เจ้ากินรี" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 11 (ตอน 7): หน้า 52. 12 พฤษภาคม 2437.