ผู้ใช้:ยุทธนาสาระขันธ์/ทดลองเขียน15
รถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร[แก้]
รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย[แก้]
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.ในงาน ‘10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10’ ของพรรคเพื่อไทย จะดำเนินการให้รถไฟฟ้าทุกเส้นทาง คิดค่าบริการตลอดเส้นทาง ‘20 บาท’ ภายในปี 2568 ผ่านร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม [1]
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง[แก้]
- อัตราค่าโดยสาร
- บุคคลทั่วไป เริ่มต้น 15 บาท สูงสุด 45 บาท
- ผู้สูงอายุ เริ่มต้น 8 บาท สูงสุด 23 บาท
รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน[แก้]
เป็นรถไฟฟ้าที่วิ่งเชื่อมระหว่างสามสนามบิน คือ ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา มีอายุสัมปทาน 50 ปี โดยมีการเซ็นสัญญาเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ล่าสุดอาจมีการย้ายตำแหน่งของบางสถานีทำให้ต้องจัดทำรายงาน EIA ฉบับใหม่ อาจมีผลกระทบต่องานก่อสร้าง โดยจะเป้าที่ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้กับผู้รับสัมปทานในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 โดยเฟสแรก “สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา” จะสร้างเสร็จใน 5 ปี เปิดบริการในปี พ.ศ. 2569 ส่วนเฟสที่สองช่วงพญาไท-ดอนเมือง จะพร้อมเปิดบริการในปี พ.ศ. 2571[2]
สถิติผู้ใช้บริการ[แก้]
ดร.พิเชฐ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 มีผู้โดยสารที่ใช้บริการระบบรางสูงสุด จำนวน 1,900,790 คน-เที่ยว มากกว่าครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 จำนวน 126 คน-เที่ยว (27 พ.ย.66 จำนวน 1,900,664 คน-เที่ยว)[3]
1.รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 86,013 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
1.1 ขบวนรถโดยสารเชิงพาณิชย์ จำนวน 31,797 คน-เที่ยว 1.2 ขบวนรถโดยสารเชิงสังคม จำนวน 54,216 คน-เที่ยว
2. รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (รวมรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง) จำนวน 1,814,777 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link จำนวน 79,935 คน-เที่ยว (นิวไฮ) สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ covid-19
2.2 รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง จำนวน 34,515 คน-เที่ยว (รวมรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี จำนวน 116 คน-เที่ยว)
2.3 รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) จำนวน 512,450 คน-เที่ยว
2.4 รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) จำนวน 81,373 คน-เที่ยว
2.5 รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิทและสายสีลม จำนวน 954,047 คน-เที่ยว
2.6 รถไฟฟ้า สายสีทอง จำนวน 7,840 คน-เที่ยว
2.7 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง จำนวน 49,579 คน-เที่ยว
2.8 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู จำนวน 95,038 คน-เที่ยว
รถไฟฟ้าสายสีม่วง[แก้]
สายสีม่วงส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ระยะทางรวม 23.6 กม. (12.6 กม. สําหรับโครงสร้างใต้ดิน และ 11 กม. สําหรับโครงสร้างยกระดับ) กับ 17 สถานี (10 สถานีใต้ดินและ 7 สถานียกระดับ) จะเปิดให้บริการในปี 2028 เมื่อแล้วเสร็จจะมีระยะทางรวม 46.6 กม. และอุโมงค์ใต้แม่น้ําเจ้าพระยา เชื่อมสถานีสามยอดไปยังสถานีสะพานอนุสรณ์ ต้องลึกลง 41 เมตรในระดับที่ลึกที่สุด อุโมงค์นี้จะเป็นอุโมงค์รถไฟฟ้า MRT ที่ลึกที่สุดในประเทศไทย และเป็นอุโมงค์รถไฟฟ้า MRT แห่งที่ 2 ที่ข้ามใต้แม่น้ำเจ้าพระยา[4] (อุโมงค์แรกเป็นของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน)
รถไฟฟ้าสายสีชมพู[แก้]
รายชื่อสถานี[แก้]
รหัส | ชื่อสถานี | จุดเปลี่ยนเส้นทาง | ที่ตั้ง | วันที่เปิดให้บริการ | |||
---|---|---|---|---|---|---|---|
แขวง/ตำบล | เขต/อำเภอ | จังหวัด | |||||
เส้นทางสายหลัก | |||||||
PK01 | ศูนย์ราชการนนทบุรี | แม่แบบ:BTS Lines สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี แม่แบบ:BTS Lines สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี |
บางกระสอ | เมืองนนทบุรี | นนทบุรี | พ.ศ. 2564 | |
PK02 | แคราย | ||||||
PK03 | สนามบินน้ำ | ท่าทราย | |||||
PK04 | สามัคคี | ||||||
PK05 | วัดชลประทาน | บางตลาด | ปากเกร็ด | ||||
PK06 | แยกปากเกร็ด | ปากเกร็ด | |||||
PK07 | เลี่ยงเมืองปากเกร็ด | ||||||
PK08 | แจ้งวัฒนะ 28 | คลองเกลือ | |||||
PK09 | เมืองทองธานี | ||||||
PK10 | ศรีรัช | เส้นทางสายแยก (อิมแพคลิงก์) | |||||
PK11 | แจ้งวัฒนะ 14 | ทุ่งสองห้อง | หลักสี่ | กรุงเทพมหานคร | |||
PK12 | ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ | ||||||
PK13 | ทีโอที | ||||||
PK14 | หลักสี่ | แม่แบบ:BTS Lines สถานีหลักสี่ | ตลาดบางเขน | ||||
PK15 | ราชภัฏพระนคร | อนุสาวรีย์ | บางเขน | ||||
PK16 | วัดพระศรีมหาธาตุ | แม่แบบ:BTS Lines สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ | |||||
PK17 | รามอินทรา 3 | ||||||
PK18 | ลาดปลาเค้า | ||||||
PK19 | รามอินทรา 10 | ||||||
PK20 | มัยลาภ | ท่าแร้ง | |||||
PK21 | วัชรพล | แม่แบบ:BTS Lines สถานีวัชรพล | |||||
PK22 | รามอินทรา 40 | รามอินทรา | คันนายาว | ||||
PK23 | คู้บอน | ||||||
PK24 | รามอินทรา 83 | ||||||
PK25 | ปัญญาอินทรา | คันนายาว | |||||
PK26 | นพรัตน์ | ||||||
PK27 | บางชัน | มีนบุรี | มีนบุรี | ||||
PK28 | เศรษฐบุตรบำเพ็ญ | ||||||
PK29 | ตลาดมีนบุรี | ||||||
PK30 | มีนบุรี | แม่แบบ:BTS Lines สถานีมีนบุรี อาคารจอดแล้วจร, ศูนย์ซ่อมบำรุง | |||||
เส้นทางสายแยก (อิมแพคลิงก์) | |||||||
PK10 | ศรีรัช | เส้นทางสายหลัก | คลองเกลือ | ปากเกร็ด | นนทบุรี | ยังไม่มีข้อสรุป | |
PKS01 | อิมแพคชาเลนเจอร์ | บ้านใหม่ | |||||
PKS02 | ทะเลสาบเมืองทองธานี | ||||||
รถไฟฟ้าบีทีเอส[แก้]
อัตราค่าโดยสาร[แก้]
ในการให้บริการ รถไฟฟ้าบีทีเอส จะแบ่งช่วงราคาอัตราค่าโดยสารเป็น 5 โซน ดังต่อไปนี้
- โซน 1 เป็นเส้นทางจากสถานีหมอชิต ถึงสถานีอ่อนนุช ในสายสุขุมวิท และเส้นทางสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ถึงสถานีวงเวียนใหญ่ ในสายสีลม อัตราค่าโดยสารจะเริ่มต้นที่ 16 บาท ไปจนถึง 44 บาท โดยคิดค่าโดยสารตามจำนวนสถานี (โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป จะมีการปรับอัตราค่าโดยสารในโซน 1 โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 17 บาท จนถึง 47 บาท)[5]
- โซน 2 เป็นเส้นทางส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทส่วนใต้ มีระยะทางตั้งแต่สถานีบางจาก ถึงสถานีแบริ่ง คิดค่าโดยสารแบบเหมาตลอดสาย 15 บาท
- โซน 3 เป็นเส้นทางส่วนต่อขยายสายสีลมส่วนที่ 2 มีระยะทางตั้งแต่สถานีโพธิ์นิมิตร ถึงสถานีบางหว้า คิดค่าโดยสารแบบเหมาตลอดสาย 15 บาท
- โซน 4 เป็นเส้นทางส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทส่วนใต้ มีระยะทางตั้งแต่สถานีสำโรง ถึงสถานีเคหะฯ ปัจจุบันยังไม่มีการเก็บค่าโดยสาร
- โซน 5 เป็นเส้นทางส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทส่วนเหนือ มีระยะทางตั้งแต่สถานีห้าแยกลาดพร้าว ถึงสถานีคูคต ปัจจุบันยังไม่มีการเก็บค่าโดยสาร
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร กรุงเทพธนาคม และบีทีเอส มีนโยบายลดภาระค่าโดยสารร่วมกันโดยการลดค่าแรกเข้าระหว่างโซน เช่นเดินทางจากสถานีคูคต ไปสถานีเคหะฯ จะได้รับส่วนลดค่าแรกเข้าระหว่างโซน 30 บาท ซึ่งเมื่อรวมค่าโดยสารทั้งสามโซนแล้ว สายสุขุมวิท จะมีอัตราค่าโดยสารสูงสุด 104 บาทตลอดสาย ในส่วนสายสีลม จะลดค่าแรกเข้าระหว่างโซน 15 บาท ซึ่งเมื่อรวมค่าโดยสารทั้งสองโซนแล้ว จะมีอัตราค่าโดยสารสูงสุด 53 บาท
ในปัจจุบัน บีทีเอสมีนโยบายลดค่าโดยสาร 50% จากอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บเมื่อใช้บัตรแรบบิทประเภทผู้สูงอายุ และกรุงเทพมหานครมีนโยบายลดค่าโดยสารในสถานีส่วนต่อขยายสำหรับทั้งบัตรนักเรียน นักศึกษา และบัตรผู้สูงอายุ จาก 15 บาทตลอดสาย เหลือ 7-10 บาท
โครงการรถไฟฟ้าในอนาคต[แก้]
กรุงเทพมหานคร[แก้]
- สายสีเทา แบ่งออกเป็น 3 ช่วง โดยมีการปรับเปลี่ยนจำนวนสถานีของช่วงที่ 2 และ 3 ใหม่ ดังนี้
ช่วงที่ 1 สายสีเทาส่วนเหนือ (วัชรพล-ทองหล่อ) จำนวน 15 สถานี
ช่วงที่ 2 สายสีเทาส่วนใต้ ช่วงที่ 1 (พระโขนง - พระราม 3) จำนวน 7 สถานี
ช่วงที่ 3 สายสีเทาส่วนใต้ ช่วงที่ 2 (พระราม 3 - ท่าพระ) จำนวน 17 สถานี
- สายสีเงิน ช่วงบางนา–ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงสีของสายจากสีฟ้าอ่อนไปเป็นสีเงิน โดยมีจำนวน 14 สถานี รูปแบบจะเป็นรถไฟฟ้าแบบรางเบา (LRT)
- สายสีฟ้า ช่วงประชาสงเคราะห์ - ช่องนนทรี จำนวน 9 สถานี (มักจะเกิดความสับสนเรื่องชื่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีฟ้าอ่อน)
โดยทั้ง 2 โครงการ รูปแบบจะเป็นรถไฟฟ้าแบบโมโนเรล
ในเดือนมีนาคม 2566 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เปิดเผยว่ามีแนวคิดที่จะมอบโครงการสีเทา ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ, สายสีเงิน ช่วงบางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงบางหว้า-ตลิ่งชัน ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้ดำเนินการแทน[6]
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร มีมติเห็นชอบโอนภารกิจโครงการรถไฟฟ้าที่จะต้องลงทุนก่อสร้างใหม่ในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร กลับคืนไปให้กระทรวงคมนาคม จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการสายสีเทา สายสีเงิน และสายสีฟ้า[7]
ปทุมธานี[แก้]
- สายเลียบคลองรังสิต ช่วงรังสิต-คลอง 8 เป็นรถไฟฟ้ายกระดับบนถนนสาย 305 (รังสิต-นครนายก) เชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง (สถานีรังสิต) โดยเป็นรถไฟฟ้าล้อยาง (APM) แบบเดียวกับสายสีทอง โครงการนี้ทางเทศบาลนครรังสิต จ.ปทุมธานี ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) จะทำหน้าที่ผลิตรถไฟฟ้า ซึ่งโครงการนี้สามารถเดินทางไปยังสวนสัตว์ปทุมธานีในอนาคตได้ แต่ทั้งนี้ต้องมีการประชุมร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยว่าจะพัฒนาเส้นทางดังกล่าวเป็นทางด่วนหรือรถไฟฟ้าแทนต่อไป[8]
เชียงใหม่[แก้]
8 ม.ค. 2567 แผนการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งมวลชนในจังหวัดเชียงใหม่[9] ในส่วนของรถไฟฟ้า มีดังนี้
โดยมีระบบหลัก (Trunk Route, Light Rail Transit: LRT) ประกอบด้วย
- สายสีแดง ระยะทาง 12.54 กิโลเมตร จำนวน 12 สถานี
- สายสีน้ำเงินระยะทาง 10.47 กิโลเมตร จำนวน 13 สถานี
- สายสีเขียว ระยะทาง 11.92 กิโลเมตร จำนวน 10 สถานี
และระบบ Feeder (รถประจำทาง) ประกอบด้วย ระบบรอง จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทาง 89 กิโลเมตร ระบบเสริม จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทาง 85 กิโลเมตร
- โครงการรถไฟฟ้า สายสีแดง (โรงพยาบาลนครพิงค์ - แยกแม่เหียะสมานสามัคคี)
ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบการดำเนินโครงการที่เหมาะสม และพิจารณาผลการศึกษาเปรียบเทียบร่วมกันของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างศึกษาทบทวนโครงการฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 67 เช่นเดียวกับแทรมภูเก็ต แต่ต้องใช้เวลานานกว่าเพราะเส้นทางผ่านเขตเมืองเก่า ต้องสำรวจทางโบราณคดี และทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ด้วย
- โครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ - เชียงใหม่
ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างไทย – ญี่ปุ่น ประกอบด้วย ระยะที่1 กรุงเทพมหานคร – พิษณุโลก ระยะทาง 380 กิโลเมตร ปัจจุบันฝ่ายญี่ปุ่นศึกษาความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจและการเงินของโครงการแล้วเสร็จ และผลการศึกษา R-Map บรรจุเส้นทางอยู่ในแผนงานระยะกลาง (พ.ศ.2571 - 2575) สำหรับระยะที่ 2 พิษณุโลก - เชียงใหม่ ระยะทาง 288 กิโลเมตร ปัจจุบันผลการศึกษา R-Map บรรจุเส้นทางอยู่ในแผนงานระยะยาว (พ.ศ.2576-2585)
ภูเก็ต[แก้]
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้รายงานโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต(แทรมภูเก็ต) ว่า อยู่ระหว่างศึกษาทบทวนรายละเอียดความเหมาะสมโครงการฯ ระยะ(เฟส)ที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง และปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ปัจจุบัน โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ที่มีช่องจราจรแคบ รวมถึงแนวเส้นทางที่เป็นจุดตัดระหว่างการจราจรบนทางหลวง กับขนส่งมวลชนทางราง ตลอดจนทบทวนรูปแบบการลงทุน ระบบรถไฟฟ้าที่จะนำมาใช้ และค่าโดยสารเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ก่อนเริ่มโครงการในอีก 2 ปีข้างหน้าตามนโยบายที่มอบไว้เมื่อเดือน ก.ย.66หรือเริ่มโครงการภายในเดือน ก.ย.68
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ต้องเร่งก่อสร้างถนนของกรมทางหลวง(ทล.) ให้แล้วเสร็จ เพื่อใช้เป็นทางเลี่ยงช่วงก่อสร้างแทรมภูเก็ต เบื้องต้นยังเป็นแนวเส้นทางเดิม เริ่มจากท่าอากาศยานภูเก็ต สิ้นสุดบริเวณห้าแยกฉลอง ระยะทางประมาณ 42 กม.จุดตัดผ่านแยกต่างๆ ระหว่างถนน และทางวิ่งแทรม บนถนน ทล.402 ได้ปรับรูปแบบให้เป็นอุโมงค์ทางลอด(คลองแห้ง) โดยแทรมจะวิ่งลอดใต้ถนน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และส่งผลกระทบต่อการจราจรน้อยที่สุด
นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า อุโมงค์ทางลอดทล. 402 รอบนอกตัวเมืองภูเก็ต ออกแบบรวม 5 จุด ได้แก่ 1.บริเวณก่อนถึงโรงเรียนเมืองถลาง ความยาว 1.10 กม., 2.บริเวณแยกมุดดอกขาว ความยาว 1.30 กม., 3.บริเวณผ่านเขตอำเภอถลาง ความยาว 3.25 กม., 4.บริเวณหน้าเทศบาลศรีสุนทรความยาว 1.10 กม. และ 5.บริเวณแยกเกาะแก้ว - แยกบางคู ความยาว 2.60 กม.
ขอนแก่น[แก้]
รถไฟฟ้าในจังหวัดขอนแก่น มี 2 โครงการ คือ
1.LRT ขอนแก่น ระยะทาง 22.6 กิโลเมตร
- ประวัติโครงการ
บริษัท ขอนแก่น ทรานซิท ซิสเต็ม จำกัด (KKTS) เป็นบริษัทที่จดทะเบียนขึ้นด้วยการร่วมกันของเทศบาล 5 เทศบาลในจังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินงานโครงการขอนแก่น Smart City ได้ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติงานโครงการรถไฟฟ้ารางเบา งานโครงการ KK-1,KK-2 (ระยะที่ 1) ก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนระบบรางเบาสายเหนือ-ใต้ มีผู้ผ่านโครงการๆละ 1 ราย[10]
โดยก่อนหน้านี้เมื่อประมาณปี 2560 ทาง KKTS ได้ประกาศจัดซื้อ จัดจ้างเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้ารางเบา 3 โครงการ ได้แก่
- KK-1 งานเหมาออกแบบ ก่อสร้าง งานโยธา ผลิต ติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารรางเบา ประเภท Tram
- KK-2 งานจ้างเหมาปฏิบัติ บำรุงรักษา บริหารจัดการพื้นที่สถานี
- KK-3 งานจ้างที่ปรึกษาอิสระ ควบคุมและรับรอง
โดยขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ผู้เข้าเสนอจะต้องนำเสนอการพิจารณาทั้งหมด 4 ซอง โดยทาง KKTS จะพิจารณาและประกาศทีละซอง ซึ่งแต่ละซองประกอบไปด้วย
- ซองที่ 1 เอกสารแสดงคุณสมบัติ
- ซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิค
- ซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา
- ซองที่ 4 ข้อเสนอด้านการเงิน (ยกเว้น KK-3)
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ทาง KKTS ประกาศผู้ผ่านโครงการที่ 3 (KK-3) ได้ผลสรุปผู้ได้รับเลือกเป็นกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา WCE และในวันที่ 20 ธันวาคม 2562 ทาง KKTS ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติในโครงการที่ 1 (KK-1) และโครงการที่ 2 (KK-2) ซึ่งเป็นการพิจารณาซองที่ 1 จากทั้งหมด 4 ซอง
โดยผู้ผ่านสำหรับงาน KK-1 (งานเหมาออกแบบ ก่อสร้าง งานโยธา ผลิต ติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารรางเบา ประเภท Tram) ระยะเวลาสัญญา 3 ปี ได้แก่ กิจการร่วมค้า CKKM ซึ่งกิจการร่วมค้านี้ประกอบไปด้วย 4 บริษัท ได้แก่
- บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 49
- บริษัท ช ทวี (1993) จำกัด ร้อยละ 45
- บริษัท เคเทค บิลดิง คอนแทรคเตอร์ส จำกัด ร้อยละ 6
- บริษัท MCC OVERSEAS LIMITED -ยังไม่ลงทุน- (มีบริษัท China Metallurgical Group Corporation เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด โดยเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจของจีน เป็นบริษัทจัดซื้อจัดจ้าง งานวิศวกรรม งานก่อสร้าง)[11]
และงาน KK-2 (งานจ้างเหมาปฏิบัติ บำรุงรักษา บริหารจัดการพื้นที่สถานี) ระยะเวลาสัญญา 30 ปี ได้แก่ นิติบุคคลร่วมทำงาน KLRTT ซึ่งประกอบไปด้วย 2 กลุ่มนิติบุคคล ได้แก่
- บริษัท เคแอลอาร์ที จำกัด ร้อยละ 60 (CHO ร่วมลงทุนในบริษัท ร้อยละ 49)
- บริษัท เทพนคร ขอนแก่นเดินรถ จำกัด ร้อยละ 40 (บริษัท เคเคทีที โฮลดิ้ง จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ร้อยละ 96) [12]
สำหรับการประกาศครั้งนี้เป็นเพียงการประกาศ ซองที่ 1 ด้านคุณสมบัติ ยังเหลือการพิจารณาและประกาศในอีก 3 ซองที่เหลือซึ่งต้องติดตามกันต่อไป
- ความคืบหน้า
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 KKTS ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนในจังหวัดขอนแก่น ในการพิจารณาเพิ่มสถานีและเส้นทางจากเดิม 16 สถานี ระยะทาง 22.6 กม. เป็นทั้งหมด 20 สถานี ระยะทาง 26 กม. โดยให้รถไฟฟ้ารางเบาวิ่งเข้าไปในพื้นที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น อำนวยความสะดวกแก่นักศึกษาและประชาชนมากยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 พล.ต.ชาติชาย ประดิษฐ์พงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ขอนแก่น ทรานซิท ซิสเต็ม จำกัด (KKTS) เปิดเผยว่าได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง บริษัท ขอนแก่น ทรานซิท ซิสเต็ม จำกัด (KKTS) กับกิจการร่วมค้า CKKM-CRRC Consortium ซึ่งมีบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำและบริษัท CRRC Nanjing Puzhen จากประเทศจีน โดยในระยะเวลา 1 ปีกิจการร่วมค้า CKKM จะต้องเจรจากับสถาบันการเงินต่างๆเพื่อจัดหาเงินกู้ให้กับโครงการ ในขณะที่ KKTS ต้องประสานกับส่วนราชการ เช่น กรมการข้าว กระทรวงเกษตรฯ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เพื่อส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างภายใน 1 ปี หากสำเร็จก็จะสามารถลงนามสัญญาก่อสร้างได้ในปี 2565 และก่อสร้างอีก 3 ปี แล้วเสร็จในปลายปี 2568 และเปิดบริการในต้นปี 2569[13]
- LRT สายหลักในเส้นทางสำราญ - ท่าพระ ระยะทาง 22.8 กิโลเมตร เริ่มต้นงานก่อสร้างในช่วงปี 2568 ใช้เวลาก่อสร้างราว 3 ปีแล้วเสร็จ เปิดให้บริการในปี 2571 มูลค่าการลงทุน 26,963 ล้านบาท (ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนต่อรองดอกเบี้ยกับสถาบันทางการเงิน รวมทั้งสำรวจพื้นที่เพื่อพัฒนาโครงการ)[14]
รายชื่อสถานีรถไฟรางเบา (16 สถานี)
- ท่าพระ
- กุดกว้าง
- บขส 3
- ประตูน้ำ
- แยกเจริญศรี
- บิ๊กซี
- เซ็นเตอร์พ้อยส์
- แยกประตูเมือง
- แยกสามเหลี่ยม
- ไทยสมุทร
- โตโยต้า
- รพ.ศรีนครินทร์
- มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- โลตัสเอ็กตร้า
- หนองกุง
- บ้านสำราญ
2. โครงการรถไฟฟ้ารางเบารอบบึงแก่นนคร (“แทรมน้อย”)
ระยะทางประมาณ 4.4 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 650 ล้านบาท ก่อสร้างในต้นปี 2568 ใช้เวลาก่อสร้างราว 2 ปี จะเปิดให้บริการในปี 2570
บัตรแรบบิท[แก้]
โครงการที่สามารถใช้บัตรแรบบิทได้ มีดังต่อไปนี้
- รถไฟฟ้าบีทีเอส
- รถไฟฟ้าสายสีทอง
- รถไฟฟ้าสายสีเหลือง
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู
- รถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที
- ภูเก็ต สมาร์ทบัส
- RTC ซิตี้บัส เชียงใหม่[15]
- RTC ซิตี้บัส นนทบุรี
- รถโดยสารไมโครบัส สาย Y70E (ศาลายา-หมอชิต)
- รถโดยสารประจำทางของบริษัท สมาร์ทบัส จำนวน 6 เส้นทาง คือ
- สาย 51 (ปากเกร็ด-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)
- สาย 52 (ปากเกร็ด-MRT บางซื่อ)
- สาย 104 (ปากเกร็ด-หมอชิต)
- สาย 147 (เคหะธนบุรี วนซ้ายและวนขวา)
- สาย 150 (ปากเกร็ด-แฮปปี้แลนด์)
- สาย 167 (เคหะธนบุรี-สวนลุมพินี)
- เรือด่วนปรับอากาศธงแดง
- เรือข้ามฟาก (ท่าพระจันทร์, ท่ามหาราช)
- เรือโดยสารคลองภาษีเจริญ
รถไฟฟ้าอื่นๆ[แก้]
- Siemens Mobility แสดง Product รถไฟฟ้าของบริษัท ซีเมนส์
- สถานีย่อย:รถไฟฟ้า
แก้ไขรายละเอียดย่อย[แก้]
ในหมวดหมู่:สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เริ่มจากสถานีบางจากเป็นสถานีต้นแบบ ดังนี้
- ใช้ข้อความว่า เป็นสถานีรถไฟฟ้าแบบยกระดับ
- สิ่งอำนวยความสะดวก
ลิฟต์ สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ จากทางเท้าทั้ง 2 ฝั่งไปยังชั้นจำหน่ายบัตรโดยสาร และจากชั้นขายบัตรโดยสารไปยังชั้นชานชาลาทั้ง 2 ฝั่ง
- ตรงหมวดหมู่ด้านล่าง ใช้ชื่อสถานีนั้นๆแทน หมวดหมู่:สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส|บางจาก จะทำให้แยกเรียงตามตัวหนังสือแทน
อ้างอิง[แก้]
- ↑ ‘พรรคเพื่อไทย’ ประกาศ รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ภายในปี 2568
- ↑ รถไฟไทย-จีน VS ไฮสปีด CP สายไหนจะสร้างเสร็จก่อนกัน
- ↑ ผู้โดยสารระบบรางพุ่งเฉียด 2 ล้านคน ทุบสถิติสูงสุด รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ นิวไฮ 7.9 หมื่นคน (วันที่ 9 ธันวาคม 2566)
- ↑ อุโมงค์รถไฟฟ้าลึกสุดในไทย สีม่วงใต้สร้างตำนานบทใหม่
- ↑ "ด่วน ปรับขึ้นราคาค่าโดยสารบีทีเอสเป็น 17-47 บาท". bangkokbiznews. 2022-11-30.
- ↑ ชัชชาติ โยนรถไฟฟ้า 3 สาย ให้ รฟม. รอรัฐบาลหน้าตัดสินใจ
- ↑ กทม.ยกเลิกโครงการสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย "เงิน-เทา-ฟ้า"
- ↑ โครงการศึกษาระบบขนส่งมวลชนจังหวัดปทุมธานี
- ↑ "สุรพงษ์"เร่งพัฒนาขนส่งมวลชน"เชียงใหม่"แก้รถติด ขยายถนนวงแหวน -ผุดรถไฟฟ้ารางเบา-ใช้พื้นที่บวท. เช็กอิน"รับเดินทางเพิ่ม
- ↑ https://m.facebook.com/story/graphql_permalink/?graphql_id=UzpfSTEwMDAwMTg2NTg1ODQ4MDpWSzo2NDI0MDA5OTY1ODI2MzY%3D
- ↑ https://www.kkts.co.th/home/1123 ประกาศ1
- ↑ https://www.kkts.co.th/home/1129 ประกาศ2
- ↑ ลุยต่อ! “แทรมขอนแก่น” เร่งหาเงินกู้-เคลียร์ที่ดินสร้างปี 65 เปิดบริการต้นปี 69
- ↑ [1]
- ↑ RTC รุกเดิน “รถบัสไฮโดรเจน” นำร่องเชียงใหม่-ขอนแก่น-สงขลา-ภูเก็ต