ข้ามไปเนื้อหา

พระเจ้าโคจง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก จักรพรรดิโคจง)
จักรพรรดิควังมู
จักรพรรดิแห่งเกาหลี
ครองราชย์13 ตุลาคม ค.ศ. 1897 – 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1907
รัชสมัย9 ปี 279 วัน
ก่อนหน้าสถาปนาพระบรมราชอิสริยยศ
ถัดไปจักรพรรดิซุนจง
พระมหากษัตริย์แห่งโชซ็อน
ครองราชย์13 ธันวาคม ค.ศ. 1864 – 13 ตุลาคม ค.ศ. 1897
รัชสมัย33 ปี 304 วัน
ก่อนหน้าพระเจ้าช็อลจง
ถัดไปตัวพระองค์เองในฐานะจักรพรรดิแห่งเกาหลี
ผู้สำเร็จราชการ
พระราชสมภพ8 กันยายน ค.ศ. 1852(1852-09-08)
พระราชวังอันฮย็อนกุง กรุงฮันซอง อาณาจักรโชซ็อน
สวรรคต21 มกราคม ค.ศ. 1919(1919-01-21) (66 ปี)
พระราชวังต๊อกซูกุง นครเคโจ จักรวรรดิญี่ปุ่น
จักรพรรดินีสมเด็จพระจักรพรรดินีมย็องซ็อง
พระราชชายาพระชายาซุนฮอนฮวังควีบี
พระราชบุตรจักรพรรดิซุนจง
เจ้าชายอึย
มกุฎราชกุมารอึยมิน
เจ้าหญิงท็อกฮเย
พระนามเต็ม
จักรพรรดิควังมูแห่งเกาหลี
พระเจ้าโคจงแห่งโชซ็อน
พระนามเต็ม
รัชศก
เคกุก (개국, 開國; 1894 – 1895)
คอนยาง (건양, 建陽; 1896 – 1897)
ควางมู (광무, 光武; 1897 – 1907)
ราชวงศ์โชซ็อน
ราชสกุลลี
พระราชบิดาเจ้าชายแทวอนฮึงซอน
พระราชมารดาเจ้าหญิงมิน ตระกูลมิน แห่ง ยอฮึง
พระเจ้าโคจง
ฮันกึล
고종 광무제 (short )
ฮันจา
高宗光武帝 (short )
อาร์อาร์Gojong Gwangmuje (short Gojong)
เอ็มอาร์Kojong Kwangmuje (short Kojong)
ชื่อเกิด
ฮันกึล
이명복
ฮันจา
李命福
อาร์อาร์I Myeong-bok
เอ็มอาร์Yi Myŏng-bok

พระเจ้าโคจงแห่งโชซ็อน (เกาหลี: 고종 광무제 , ฮันจา:高宗光武帝) (8 กันยายน พ.ศ. 239521 มกราคม พ.ศ. 2462) ต่อมาคือ จักรพรรดิควังมูแห่งเกาหลี เป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรโชซ็อน ลำดับที่ 26 และสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิเกาหลีพระองค์แรก

การขึ้นครองราชย์

[แก้]

สมเด็จพระเจ้าโกจง เป็นพระโอรสพระองค์ที่สองในเจ้าชายแทวอนฮึงซอน กับเจ้าหญิงโยฮุง มีพระนามเดิมว่า อี มยองบก (李命福 이명복 Yi Myeong-bok)

ปี พ.ศ. 2407 เมื่อพระเจ้าชอลจง พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 25 แห่งราชอาณาจักรโชซ็อนสรรคตโดยที่ยังมิได้แต่งตั้งรัชทายาทสืบราชบัลลังก์ เนื่องจากพระองค์ไม่มีพระราชโอรสสายพระโลหิตของพระองค์เอง ดังนั้น สิทธิในการสืบราชบัลลังก์จึงต้องตกเป็นของเชื้อพระวงศ์ลำดับถัดไป ซึ่งในช่วงเวลานั้นอำนาจในราชสำนักทั้งหมดตกอยู่ในสาย ตระกูลคิมแห่งเมืองอันดง เสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งตระกูลคิมนี้เป็นสายตระกูลเดิมของพระมเหสีโชริน (พระมเหสีของพระเจ้าชอลจง) เมื่อสิ้นรัชสมัย ขุนนางฝ่ายอื่น ๆ โดยเฉพาะตระกูลโจ (ตระกูลของพระเจ้ายองโจ พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 20 แห่งราชอาณาจักรโชซ็อน) จึงได้พยายามลิดรอนอำนาจของฝ่ายตระกูลคิมลง โดยได้ร่วมมือกับเชื้อพระวงศ์ในราชตระกูลลีพระองค์หนึ่งคือ องค์ชาย ลี แฮอุง จนสามารถแย่งชิงตราพระมหากษัตริย์มาไว้ในครอบครองได้ จึงถือสิทธิในการสรรหาผู้สืบราชบัลลังก์กษัตริย์เอง โดยฝ่ายตระกูลโจและองค์ชาย ลี แฮอุง ได้เลือกโอรสขององค์ชายลี แฮอุงขึ้นครองราชย์ โดยองค์ชายนี้มีพระนามว่า ลี เมียงบอก ซึ่งในขณะนั้นมีพระชนมายุเพียง 12 พรรษา โดยมีองค์ชาย ลีแฮอุง เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เมื่อองค์ชาย ลี เมียงบอค ชึ้นสืบราชบัลลังก์เองได้แล้วจึงได้ทรงพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าโกจง ส่วนองค์ชาย ลีแฮอุง ผู้เป็นพระบิดาเมื่อขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ก็จึงดำรงพระยศเป็นองค์ชายแดวอน

สถานการณ์ในราชสำนักตอนต้นรัชกาล

[แก้]

ประวัติศาสตร์ของเกาหลีในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าโกจงนี้เอง เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของประเทศเกาหลี หลังจากที่ตระกูลโจขึ้นมามีอำนาจแทน ก็ได้ร่วมมือกับองค์ชายแดวอน ปฏิรูปกฎและระเบียบต่าง ๆ ภายในราชสำนักเสียใหม่และสิ่งที่แน่นอนก็คือการล้มล้างกลุ่มอำนาจเก่าของตระกูลคิมแห่งเมืองอันดงที่เคยมีอย่างมากล้นในสมัยพระเจ้าชอลจงออกไปทั้งหมดด้วย การคอรัปชั่นเบียดบังเงินหลวงที่ฝังรากลึกในราชสำนักมาอย่างยาวนาน จึงเป็นข้ออ้างสำคัญในการกำจัดกลุ่มอำนาจเก่าครั้งนี้ ซึ่งก็เป็นข้ออ้างที่ตรงใจประชาชนอย่างมาก ที่ประชาชนไม่พอใจต่อการกดขี่ข่มเหงของขุนนางซึ่งสะสมมายาวนาน และเป็นนิมิตหมายอันดีที่กลุ่มอำนาจใหม่จะซักฟอกระบบที่ไม่เป็นธรรมนี้เสีย

อย่างไรก็ตาม เมื่อกลุ่มอำนาจใหม่นี้ขึ้นมามีอำนาจโดยสมบูรณ์กลับไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เลย ในความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน กลุ่มอำนาจใหม่นี้กลับอาศัยช่องทางเบียดบังทรัพย์สินหนักขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่พระเจ้าโกจงยังทรงพระเยาว์ และสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือการตั้งงบประมาณจำนวนมหาศาลสำหรับการปฏิรูประบบกองทัพและความมั่นคงของประเทศ ทั้ง ๆ ที่ไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างใดอย่างเป็นรูปเป็นธรรม โดยข้ออ้างที่กลุ่มอำนาจใหม่ต้องการปฏิรูประบบกองทัพและยุทโธปกรณ์ให้เป็นไปตามยุคสมัยมากขึ้น จึงได้จัดการกับวิธีเก็บภาษีใหม่ และนำพระราชทรัพย์จากพระคลังมาใช้จ่าย แต่กลับเป็นการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยเพื่อให้เหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ได้อยู่อย่างหรูหราสุขสบายเท่านั้น ซึ่งจากจุดนี้เองที่เริ่มนำพาประเทศเกาหลีเข้าสู่กับดักของศัตรูที่กำลังคิดจู่โจม

สถานการณ์ในราชสำนักตอนกลางรัชกาล

[แก้]

เมื่อพระเจ้าโกจงทรงเจริญพระชนมพรรษาจนสามารถบริหารราชการแผ่นดินด้วยพระองค์เองได้แล้ว องค์ชายแดวอน จึงต้องลงจากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการ ในช่วงนี้พระมเหสีมิน จึงเข้ามาบริหารบ้านเมืองแทนซึ่งพระนางทรงงานได้ดี จนเหล่าขุนนางเริ่มไม่ไว้วางใจ พระนางทรงต่อต้านการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในราชสำนักเพื่อให้ราชนิกุลและราชวงศ์อยู่อย่างสุขสบายจนเป็นต้นเหตุแห่งการทุจริตให้ขุนนางยักยอกเงินหลวง ซึ่งเป็นสิ่งที่ขุนนางได้ปฏิบัติมายาวนานทุกยุคทุกสมัยจนเป็นเชื้อร้าย ในขณะที่ราษฎรภายนอกอยู่อย่างอดอยาก ซึ่งพระราชวังเองก็กลายเป็นตัวอย่างให้กับคนภายนอกตามอย่างในการเบียดบังและฉ้อโกงเงินทองกันอย่างเป็นเอิกเกริก และทำให้เกิด ข้อพิพาทระหว่างมเหสีมินและองค์ชายแดวอน ขึ้นและเป็นสงครามการเมืองที่ยาวนานมากในประวัติศาสตร์เกาหลี

สถานการณ์ในราชสำนักตอนปลายรัชกาล

[แก้]

ภายหลังจากพระมเหสีมินจายองสิ้นพระชนม์ด้วยการบุกลอบปลงพระชนม์โดยทหารจักรวรรดิญี่ปุ่นในพระตำหนักของพระนางภายในพระราชวังเคียงบก พระเจ้าโกจง ทรงเศร้าโศกโทมนัสอย่างยิ่ง พระองค์ทรงลี้ภัยเข้าไปอยู่ในสถานทูตรัสเซียประจำ​จักรวรรดิ​เกาหลี​ และทรงเก็บตัวอยู่แต่ในห้องโดยไม่พบปะใคร ซึ่งจากนั้นเป็นต้นมาพระองค์ก็อยู่ความอารักขาของจักรวรรดิรัสเซีย ที่พยายามเข้ามามีบทบาทเพื่อคานอำนาจจักรวรรดิญี่ปุ่นที่นับวันจะยิ่งเข้มแข็งมากขึ้น

เมื่อจักรวรรดิญี่ปุ่นได้รับชัยชนะในสงครามกับจักรวรรดิชิง (ราชวงศ์ชิงของจีน) ซึ่งได้ยึดดินแดนส่วนคาบสมุทรเหลียวตงหรือทางตอนเหนือของราชอาณาจักรโชซ็อน ทำให้จักรวรรดิรัสเซียเริ่มหวาดระแวงในอำนาจของจักรวรรดิญี่ปุ่นด้วยเกรงว่าจะมายึดโชซ็อนไปโดยง่ายและทำให้การขยายอิทธิพลของรัสเซียยากเย็นมากขึ้น รัสเซียจึงต้องการช่วยเหลือโชซ็อนโดยการรับรองความปลอดภัยของพระเจ้าโกจงและช่วยให้พระองค์กลับสู่โชซ็อนโดยปลอดภัยเมื่อปี ค.ศ. 1897 และยังช่วยวางแผนให้พระองค์ยกสถานะของราชอาณาจักรโชซ็อน เป็นจักรวรรดิเกาหลี โดยมีพระองค์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์แรก ซึ่งพระองค์ทรงเรียกพระองค์เองว่า สมเด็จพระจักรพรรดิควางมูแห่งจักรวรรดิเกาหลี รวมทั้งสถาปนาพระอิสริยยศให้พระมเหสีผู้ล่วงลับ (พระมเหสีมินจายอง) เป็น สมเด็จพระจักรพรรดินีเมียงซองแห่งจักรวรรดิเกาหลี อีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อการจัดระเบียบของประเทศใหม่และเป็นเกมการเมืองที่รัสเซียทำขึ้นเพื่อเป็นกำแพงต้านอำนาจญี่ปุ่น ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับญี่ปุ่นอย่างมาก

จักรพรรดิโคจงทรงฉลองพระองค์ด้วยเครื่องแบบทหารเยอรมัน(1904)

จนในที่สุดจักรวรรดิญี่ปุ่นก็แสดงความกระหายอำนาจที่จะยึดจักรวรรดิเกาหลีอย่างชัดเจนในปี ค.ศ. 1904 โดยการประกาศสงครามกับจักรวรรดิรัสเซีย หลังสงครามครั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายชนะและได้ขับไล่รัสเซียไปจากจักรวรรดิเกาหลี และจักรวรรดิเกาหลีจึงต้องยอมมาเป็นประเทศในอารักขาจักรวรรดิญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1905 ด้วยเหตุนี้ สมเด็จพระจักรพรรดิควางมูจึงไม่สามารถทำอะไรได้เลย พระองค์ทรงถูกบีบคั้นในทุกด้าน จนในที่สุด องค์ชายแดวอน จึงสมรู้ร่วมคิดกับญี่ปุ่นขึ้นมามีอำนาจแทนเพื่อรวบอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ การบีบคั้นต่อพระองค์รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนพระองค์อาศัยเวทีประชุมสันติภาพโลกที่จัดขึ้นที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นการประจานถึงสิ่งต่าง ๆ ที่จักรวรรดิญี่ปุ่นได้ทำไว้กับจักรวรรดิเกาหลีให้ชาวโลกได้รู้ และเมื่อข่าวแพร่ออกไป จักรวรรดิญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องขายหน้ามาก จึงได้บีบบังคับให้สมเด็จพระจักรพรรดิควางมูสละราชบัลลังก์ แล้วให้โอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทนเป็น สมเด็จพระจักรพรรดิซุนจง แต่พระองค์ก็เป็นเพียงสมเด็จพระจักรพรรดิในนามเท่านั้น ไม่มีพระราชอำนาจใด ๆ เพราะอำนาจต่าง ๆ ตกอยู่ในมือของผู้สำเร็จราชการชาวญี่ปุ่นและองค์ชายแทวอนคนทรยศไปจนหมดสิ้น การที่จักรวรรดิญี่ปุ่นให้ขึ้นครองราชย์ก็เพื่อเป็นหุ่นเชิดรอเวลาที่จะกลืนเกาหลีได้โดยสมบูรณ์เท่านั้นซึ่งก็เป็นเช่นนั้น

ในอีก 2 ปีต่อมาในปี ค.ศ. 1910 สมเด็จพระจักรพรรดิซุนจงแห่งจักรวรรดิเกาหลี (พระเจ้าซุนจง) ได้ต้องถูกถอดออกจากตำแหน่งสมเด็จพระจักรพรรดิโดยดำรงพระอิสริยยศเพียงกษัตริย์เท่านั้น และจักรวรรดิญี่ปุ่นก็ได้ล้มล้างสถาบันจักรพรรดิของเกาหลีลงในปีเดียวกัน โดยผนวกเข้าเป็นมณฑลหนึ่งของญี่ปุ่นและควบคุมเชื้อสายราชวงศ์ลีทั้งหมดไปไว้ที่ญี่ปุ่น เพื่อเป็นตัวประกันไม่ให้สามารถคืนสู่อำนาจได้อีก เกาหลีจึงปิดฉากยุคสมัยจักรวรรดิรวมทั้งยุคสมัยแห่งราชวงศ์อันยาวนานกว่า 2,000 ปี

พระบรมวงศานุวงศ์

[แก้]

(โอรสขององค์ชายนัมยองซึ่งเป็นโอรสบุญธรรมขององค์ชายอึนชินซึ่งเป็นโอรสของเจ้าชายรัชทายาทซาโดซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้าย็องโจ)

  • พระราชมารดา: องค์หญิงยอฮึง ตระกูลมิน แห่งยอฮึง (여흥부대부인 민씨)
พระมเหสี
พระชายา
  • พระชายาซุนฮอนฮวังควีบี ตระกูลอ็อม (순헌황귀비 엄씨, 5 January 1854 – 20 July 1911)
พระสนม
  • พระสนมควีอิน ตระกูลลี แห่งยองโพ (영보당귀인 이씨, 1847–1928)
  • พระสนมควีอิน ตระกูลจาง (귀인 장씨)
  • พระสนมควีอิน ตระกูลลี แห่งควางฮวาง (광화당귀인 이씨, 1887–1970) พระนามเดิมว่า ลี วานฮึง (이완흥)
  • พระสนมควีอิน ตระกูลจอง แห่งโพฮย็อน (보현당귀인 정씨)
  • พระสนมควีอิน ตระกูลยาง แห่ง,บกนยอง (복녕당귀인 양씨, 1882–1929)
  • พระสนมควีอิน ตระกูลลี แห่งแนอัน (내안당귀인 이씨)
  • ซึงอีนซังกุง ตระกูลคิม แห่งซัมชุก (삼축당상궁 김씨, 1890–1972) นามเดิมว่า คิม อ๊กกี (김옥기)
  • ซึงอึนซังกุง ตระกูลคิม แห่งจองฮวา (정화당상궁 김씨, 1871-?)
  • ซึงอึนซังกุง ตระกูลยอม (상궁 염씨)
  • ซึงอึนซังกุง ตระกูลซอ (상궁 서씨)
  • ซึงอึนซังกุง ตระกูลคิม (상궁 김씨) นามเดิมว่า คิม ชองยอน (김충연)
พระโอรส
  • เจ้าชาย (ไม่ทราบนาม) เป็นพระโอรสองค์แรกที่ประสูติจาก จักรพรรดินีมย็องซ็อง ตระกูลมิน
  • เจ้าชายลีช็อก เป็นพระโอรสองค์ที่สองที่ประสูติจาก จักรพรรดินีมย็องซ็อง ตระกูลมิน
  • เจ้าชาย (ไม่ทราบนาม) เป็นพระโอรสองค์ที่สามที่ประสูติจาก จักรพรรดินีมย็องซ็อง ตระกูลมิน
  • เจ้าชาย (ไม่ทราบนาม) เป็นพระโอรสองค์ที่สี่ที่ประสูติจาก จักรพรรดินีมย็องซ็อง ตระกูลมิน
  • เจ้าชายอุยมิน เป็นพระโอรสองค์แรกที่ประสูติจาก พระชายาซุนฮอนฮวังควีบี ตระกูลออม
  • เจ้าชายวานฮวา เป็นพระโอรสองค์แรกที่ประสูติจาก พระสนมควีอิน 1 ตระกูลลี
  • เจ้าชายอึยฮวา เป็นพระโอรสองค์แรกที่ประสูติจาก พระสนมควีอิน ตระกูลยาง
  • เจ้าชายลียอก เป็นพระโอรสองค์แรกที่ประสูติจาก พระสนมควีอิน 2 ตระกูลลี
  • เจ้าชายลีวู เป็นพระโอรสองค์แรกที่ประสูติจาก พระสนมควีอิน ตระกูลจอง
พระธิดา
  • เจ้าหญิง (ไม่ทราบนาม) เป็นพระธิดาองค์แรกที่ประสูติจาก จักรพรรดินีมย็องซ็อง ตระกูลมิน
  • เจ้าหญิง (ไม่ทราบนาม) เป็นพระธิดาองค์แรกที่ประสูติจาก พระสนมควีอิน 1 ตระกูลลี
  • เจ้าหญิงท็อกฮเย เป็นพระธิดาองค์แรกที่ประสูติจาก พระสนมควีอิน ตระกูลยาง
  • เจ้าหญิง (ไม่ทราบนาม) เป็นพระธิดาองค์แรกที่ประสูติจาก พระสนมควีอิน 3 ตระกูลลี
  • เจ้าหญิงลีมุนยอง เป็นพระธิดาองค์แรกที่ประสูติจาก ยอมซังกุง ตระกูลยอม

พงศาวลี

[แก้]
ก่อนหน้า พระเจ้าโคจง ถัดไป
พระเจ้าชอลจง กษัตริย์แห่งโชซ็อน
(พ.ศ. 2406 - พ.ศ. 2440)
พระเจ้าซุนจง
สถาปนาพระยศใหม่ จักรพรรดิแห่งเกาหลี
(พ.ศ. 2440 - พ.ศ. 2450)
จักรพรรดิยุงฮี
(พระเจ้าซุนจง)